47 หมีใหญ่
![]() | ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ข้อมูลสังเกตการณ์ ต้นยุคอ้างอิง J2000.0 วิษุวัต J2000.0 | |
---|---|
กลุ่มดาว | กลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) |
ไรต์แอสเซนชัน | 10h 59m 27.97s[1] |
เดคลิเนชัน | +40° 25′ 48.9″[1] |
ความส่องสว่างปรากฏ (V) | +5.03 |
คุณสมบัติ | |
ชนิดสเปกตรัม | G1V |
ดัชนีสี U-B | 0.13 |
ดัชนีสี B-V | 0.61 |
มาตรดาราศาสตร์ | |
ความเร็วแนวเล็ง (Rv) | +12.6 km/s |
การเคลื่อนที่เฉพาะ (μ) | RA: –317.01 ± 0.22[1] mas/yr Dec.: 54.64 ± 0.20[1] mas/yr |
พารัลแลกซ์ (π) | 71.11 ± 0.25[1] mas |
ระยะทาง | 45.9 ± 0.2 ly (14.06 ± 0.05 pc) |
ความส่องสว่างสัมบูรณ์ (MV) | 4.41[2] |
รายละเอียด | |
มวล | 1.08[3] M☉ |
รัศมี | 1.172 ± 0.111 [4] R☉ |
แรงโน้มถ่วงที่พื้นผิว (log g) | 4.377[3] |
กำลังส่องสว่าง | 1.48[note 1] L☉ |
อุณหภูมิ | 5887 ± 3.8 [5] K |
ค่าความเป็นโลหะ | 110% solar[3] |
ความเร็วในการหมุนตัว (v sin i) | 2.80[3] km/s |
อายุ | 6.03 × 109[6] ปี |
ชื่ออื่น | |
ฐานข้อมูลอ้างอิงอื่น | |
SIMBAD | The star |
planet b | |
planet c | |
planet d | |
Exoplanet Archive | data |
ARICNS | data |
สารานุกรม ดาวเคราะห์นอกระบบ | data |
47 หมีใหญ่ (47 Ursae Majoris ย่อเป็น 47 UMa) หรือชื่อว่าชาละวัน เป็นดาวแคระเหลืองอยู่ห่างจากโลกประมาณ 46 ปีแสงในกลุ่มดาวหมีใหญ่ ในปี พ.ศ. 2554 เชื่อว่าดาวเคราะห์นอกระบบสามดวงชื่อ (47 หมีใหญ่ บี, ซีและดี ซึ่งสองดวงแรกได้ชื่อว่าตะเภาทองและตะเภาแก้ว) โคจรรอบดาวฤกษ์นี้
47 หมีใหญ่ตั้งอยู่ค่อนข้างใกล้กับระบบสุริยะ จากข้อมูลของการวัดวิชาการวัดตำแหน่งดาวโดยดาวเทียมวัดตำแหน่งดาวฮิปพาร์คอส ดาวนี้มีพารัลแลกซ์ 71.11 มิลลิพิลิปดา สอดคล้องกับระยะทาง 45.913 ปีแสง ดาวนี้มีความส่องสว่างปรากฏ +5.03 ซึ่งมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและมีความส่องสว่างสัมบูรณ์ +4.29 หมายความว่า ความสว่างมากกว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 60% ดาวนี้เป็นแฝดดวงอาทิตย์ (solar analog) ด้วยชนิดสเปกตรัม G1V มีมวลพอ ๆ กับดวงอาทิตย์แต่ร้อนกว่าประมาณ 5,882 K[3] และเป็นโลหะมากกว่าเล็กน้อย คือ ประมาณ 110% ของความอุดม (abundance) เหล็กของดวงอาทิตย์
เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ 47 หมีใหญ่อยู่บนลำดับหลัก โดยเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็นฮีเลียมโดยปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน โดยอาศัยกัมมันตภาพโครโมสเฟียร์ ดาวฤกษ์นี้อาจมีอายุประมาณ 6,000 ล้านปี แม้แบบจำลองวิวัฒนาการแนะว่าอายุอาจสูงถึงประมาณ 8,700 ล้านปี[6] การศึกษาอื่นประมาณอายุดาวนี้ไว้ระหว่าง 4,400 ถึง 7,000 ล้านปี[7]
ชื่อ
[แก้]47 Ursae Majoris เป็นชื่อในระบบแฟลมสตีด (Flamsteed designation) และในการค้นพบดาวเคราะห์ในระบบของดาว 47 Ursae Majoris จึงถูกกำหนดชื่อต่อเนื่องเป็น 47 Ursae Majoris b, c และ d
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557 สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (IAU) ได้ประกาศกระบวนการกำหนดชื่อที่เหมาะสมแก่ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและดาวฤกษ์แม่[8] กระบวนการดำเนินโดยการเสนอชื่อสาธารณะและการเลือกโดยการลงคะแนน[9] ซึ่งในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลได้ประกาศชื่อสามัญให้กับดาว 47 Ursae majoris ใหม่ว่า "ดาวชาละวัน" (Chalawan) อันเป็นชื่อสามัญของดาวฤกษ์เป็นภาษาไทยครั้งแรก[10] ส่วนดาวเคราะห์ในระบบของดาว 47 หมีใหญ่ อีก 2 ดวง คือดาว 47 Ursae majoris b (ดาว 47 หมีใหญ่ บี) และดาว 47 Ursae majoris c (ดาว 47 หมีใหญ่ ซี) ได้ชื่อสามัญว่า "ดาวตะเภาทอง" (Taphao Thong) และ "ดาวตะเภาแก้ว" (Taphao Kaew) ตามลำดับ โดยชื่อทั้ง 3 เสนอโดยสมาคมดาราศาสตร์ไทย[11] (ชาละวัน นอกจากเป็นชื่อในนิทานพื้นบ้านแล้ว 'Chalawan' ยังเป็นชื่อที่กำหนดให้กับสกุล ในอันดับจระเข้ที่สูญพันธุ์ไปแล้วซึ่งมีสายพันธุ์เดียวคือ Chalawan thailandicus[12])
ในปี พ.ศ. 2559 สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลได้จัดทำคณะทำงานเกี่ยวกับชื่อดาว (WGSN)[13] เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อและกำหนดมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับชื่อดาว ในแถลงการณ์ฉบับแรกในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559[14] คณะทำงานฯ ได้ระบุชื่อดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและดาวฤกษ์แม่ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก คณะกรรมการบริหารการตั้งชื่อสาธารณะของดาวเคราะห์และบริวารดาวเคราะห์ รวมถึงชื่อของดาวฤกษ์ที่ได้รับในระหว่างกระบวนการรณรงค์กำหนดชื่อในปี พ.ศ. 2558 (2015 NameExoWorlds) ปัจจุบันดาวดวงนี้อยู่ในบัญชีรายชื่อดาวของสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล[15]
ระบบดาวเคราะห์
[แก้]ในปีพ.ศ. 2539 ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ 47 หมีใหญ่ บี ถูกประกาศการค้นพบโดยโคจรรอบดาวฤกษ์ 47 หมีใหญ่ โดย Geoffrey Marcy และ R. Paul Butler การค้นพบนี้เกิดขึ้นจากการสังเกตการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนด็อพเพลอร์ของสเปกตรัมของดาว ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของความเร็วเชิงรัศมีของดาว เช่นเดียวกับเมื่อมีแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ดึงไปรอบ ๆ[16] ดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่ค้นพบดวงแรก ที่มีคาบการโคจรระยะยาวต่างจากดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะส่วนใหญ่ มีวงโคจรที่มีความเยื้องศูนย์ต่ำ ดาวเคราะห์มีมวลอย่างน้อย 2.53 เท่าของมวลดาวพฤหัสบดีและใช้เวลา 1,078 วันหรือ 2.95 ปีเพื่อโคจรรอบดาวฤกษ์ดวงแม่ หากนำมาเปรียบเทียบกับระบบสุริยะ ดาวเคราะห์ดวงนี้จะมีวงโคจรอยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี[17]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/7c/47UMaOrbits.svg/260px-47UMaOrbits.svg.png)
ในปีพ.ศ. 2544 การตรวจวัดทางดาราศาสตร์เบื้องต้นโดยเครื่องมือวัดของดาวเทียม Hipparcos ชี้ให้เห็นว่าวงโคจรของ 47 หมีใหญ่ บี นั้นมีมุมเอียง 63.1° กับระนาบของท้องฟ้าซึ่งหมายความว่ามวลที่แท้จริงของดาวเคราะห์นั้นอยู่ที่ 2.9 เท่าของดาวพฤหัสบดี[18] อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ที่ตามมาชี้ให้เห็นว่าการวัดโดย Hipparcos นั้นไม่แม่นยำพอที่จะระบุวงโคจรของดาวบริวารของดาวฤกษ์ได้อย่างแม่นยำ และยังไม่ทราบความเอียงของวงโคจรและมวลที่แท้จริง[19]
มีการประกาศการค้นพบดาวเคราะห์ดวงที่สอง (47 หมีใหญ่ ซี) ในปี พ.ศ. 2545 โดย Debra Fischer, Geoffrey Marcy และ R. Paul Butler การค้นพบนี้ทำขึ้นโดยใช้วิธีวัดความเร็วเชิงรัศมีเช่นเดียวกัน จากข้อมูลของ Fischer และคณะ ดาวเคราะห์ดวงนี้ใช้เวลาประมาณ 2,391 วันหรือ 6.55 ปีในคาบการโคจร ระยะเวลาของค่านี้คล้ายกับ อัตราส่วนคาบการโคจรของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ในระบบสุริยะ โดยมีอัตราส่วนวงโคจร (ใกล้กับ 5: 2) และอัตราส่วนมวลใกล้เคียงกัน[20] การตรวจวัดครั้งต่อมาไม่สามารถยืนยันการมีอยู่ของดาวเคราะห์ดวงที่สองได้ และมีการบันทึกไว้ว่าชุดข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบการมีอยู่ของดาว มีค่าตัวแปรของดาวเคราะห์ที่ "เกือบจะไม่สามารถกำหนดค่าได้" [21] การวิเคราะห์ชุดข้อมูลที่ยาวกว่าซึ่งครอบคลุมมากกว่า 6,900 วันแสดงให้เห็นว่า ดาวเคราะห์ดวงที่สองในระบบมีความน่าจะเป็นต่ำที่จะมีระยะเวลาโคจรใกล้เคียง 2,500 วัน และแบบจำลองที่เหมาะสมที่สุดให้ระยะเวลาการโคจร 7,586 วัน ระยะทาง 7.73 หน่วยดาราศาสตร์จากดาวฤกษ์แม่ อย่างไรก็ตามตัวแปรของดาวเคราะห์ดวงที่สองยังคงมีความไม่แน่นอนสูง[22] ในทางตรงกันข้ามจากบัญชีรายชื่อของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่อยู่ใกล้เคียงนั้นให้ระยะเวลาโคจร 2,190 วันซึ่งจะทำให้ช่วงเวลาการโคจรของดาวเคราะห์สองดวงใกล้เคียงกับอัตราส่วน 2: 1 ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลนี้ได้รับการนำเสนอโดยสารานุกรมดาวเคราะห์นอกระบบ (Extrasolar Planets Encyclopaedia)[23] แต่แม้ว่าการอ้างอิงสำหรับตัวแปรเหล่านี้จะไม่แน่นอน: ต้นฉบับรายงานของ Fischer และคณะ ยังถูกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ทั้ง ๆ ที่รายงานให้ค่าตัวแปรที่แตกต่างกัน[20][24]
ในปี พ.ศ. 2553 การค้นพบดาวเคราะห์ดวงที่สาม (47 หมีใหญ่ ดี) กระทำโดยใช้แบบจำลอง Bayesian Kepler Periodogram ซึ่งการใช้แบบจำลองของระบบดาวเคราะห์นี้ได้มีการพิจารณาแล้วว่ามีแนวโน้มที่จะมีดาวเคราะห์สามดวงมากกว่า 100,000 เท่าของการมีดาวเคราะห์สองดวง การค้นพบนี้ได้รับการประกาศโดย Debra Fischer และ P.C Gregory ดาวเคราะห์มวล 1.64 เท่าของดาวพฤหัสบดีนี้มีคาบการโคจร 14,002 วันหรือ 38.33 ปีและกึ่งแกนเอกของวงโคจรมีระยะ 11.6 หน่วยดาราศาสตร์ มีค่าความเยื้องศูนย์กลางระดับปานกลางที่ 0.16 [17] ดาวดวงนี้เป็นดาวเคราะห์ที่มีระยะคาบการโคจรยาวที่สุดที่ค้นพบโดยวิธีการวัดความเร็วเชิงรัศมี แม้ว่าจะมีดาวเคราะห์ที่มีระยะคาบการโคจรยาวถูกค้นพบก่อนหน้านี้ แต่เป็นด้วยวิธีการถ่ายภาพโดยตรงและการวัดจังหวะพัลซาร์
การจำลองชี้ให้เห็นว่าส่วนด้านในของเขตอาศัยได้ของระบบ 47 หมีใหญ่ สามารถเป็นที่อยู่ของดาวเคราะห์ที่อยู่อาศัยได้ในวงโคจรที่มั่นคง แม้ว่าบริเวณรอบนอกของเขตอาศัยได้ จะถูกรบกวนโดยอิทธิพลแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ 47 หมีใหญ่ บี[25] อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของดาวเคราะห์ยักษ์ภายในระยะทาง 2.5 หน่วยดาราศาสตร์จากดาวฤกษ์ อาจส่งผลกระทบต่อการก่อตัวดาวเคราะห์ในระบบชั้นใน และลดปริมาณน้ำที่ส่งไปยังดาวเคราะห์ชั้นในในช่วงการก่อตัว[26] นี่อาจหมายถึงดาวเคราะห์ที่อยู่อาศัยได้ที่โคจรอยู่ในเขตอาศัยได้ของ 47 หมีใหญ่ มีขนาดเล็กและแห้ง
มีข้อความจากโครงการ METI สองข้อความส่งถึง 47 หมีใหญ่ โดยทั้งคู่ถูกส่งจากเรดาร์ Evpatoria Planetary Radar (EPR) ที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยูเรเชียในไครเมีย – ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 70 เมตร (230 ฟุต) ข้อความแรกชื่อ "Teen Age Message" ถูกส่งเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2544 และจะไปถึง 47 หมีใหญ่ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2590 ข้อความที่สองชื่อ "Cosmic Call 2" ถูกส่งเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 และจะไปถึง 47 หมีใหญ่ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2592 [27] เนื่องจากดาวเคราะห์ในระบบ 47 หมีใหญ่ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 100 ดาวเป้าหมายสำหรับอดีตภารกิจขององค์การนาซา ในการค้นหาดาวที่สามารถอยู่อาศัยได้
ดาวเคราะห์ (ตามลำดับจากดาว) |
มวล | กึ่งแกนเอก (AU) |
คาบการโคจร (วัน) |
ความเยื้องศูนย์กลาง | ความเอียงของวงโคจร | รัศมี |
---|---|---|---|---|---|---|
บี (ตะเภาทอง) | >2.53+0.07 −0.06 MJ |
2.10 ± 0.02 | 1078 ± 2 | 0.032 ± 0.014 | — | — |
ซี (ตะเภาแก้ว) | >0.540+0.066 −0.073 MJ |
3.6 ± 0.1 | 2391+100 −70 |
0.098+0.047 −0.096 |
— | — |
47 หมีใหญ่ ดี | >1.64+0.29 −0.48 MJ |
11.6+2.1 −2.9 |
14002+4018 −5095 |
0.16+0.09 −0.16 |
— | — |
ดูเพิ่ม
[แก้]- 47 Ursae Majoris in fiction – (อังกฤษ)
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ จาก L=4πR2 σT4eff, เมื่อ L คือค่าการส่องสว่าง, R คือรัศมี, Teff คือผลจากอุณหภูมิพื้นผิว และ σ คือค่าคงที่ สเตฟาน–โบลทซ์มานน์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 F. van Leeuwen (2007). "HIP 53721". Hipparcos, the New Reduction. สืบค้นเมื่อ 2009-12-08.
- ↑ Elgarøy, Øystein; Engvold, Oddbjørn; และคณะ (March 1999), "The Wilson-Bappu effect of the MgII K line - dependence on stellar temperature, activity and metallicity", Astronomy and Astrophysics, 343: 222–228, Bibcode:1999A&A...343..222E
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 "Stars Table". Catalog of Nearby Exoplanets. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 October 2008. สืบค้นเมื่อ 2008-10-04.
- ↑ G. T. van Belle; K. von Braun (2009). "Directly Determined Linear Radii and Effective Temperatures of Exoplanet Host Stars". Astrophysical Journal. 694 (2): 1085–1098. arXiv:0901.1206. Bibcode:2009ApJ...694.1085V. doi:10.1088/0004-637X/694/2/1085.
- ↑ V. V. Kovtyukh; Soubiran, C.; และคณะ (2003). "High precision effective temperatures for 181 F-K dwarfs from line-depth ratios". Astronomy and Astrophysics. 411 (3): 559–564. arXiv:astro-ph/0308429. Bibcode:2003A&A...411..559K. doi:10.1051/0004-6361:20031378.
- ↑ 6.0 6.1 C. Saffe; Gómez, M.; และคณะ (2005). "On the Ages of Exoplanet Host Stars". Astronomy and Astrophysics. 443 (2): 609–626. arXiv:astro-ph/0510092. Bibcode:2005A&A...443..609S. doi:10.1051/0004-6361:20053452.
- ↑ E. E. Mamajek; L. A. Hillenbrand (2008). "Improved Age Estimation for Solar-Type Dwarfs Using Activity-Rotation Diagnostics". Astrophysical Journal. 687 (2): 1264–1293. arXiv:0807.1686. Bibcode:2008ApJ...687.1264M. doi:10.1086/591785.
- ↑ "NameExoWorlds: An IAU Worldwide Contest to Name Exoplanets and their Host Stars". IAU.org. 9 July 2014.
- ↑ "NameExoWorlds The Process". IAU.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-08-15. สืบค้นเมื่อ 2019-11-20.
- ↑ "The approved names of 14 stars and 31 exoplanets". The International Astronomical Union (IAU). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-01. สืบค้นเมื่อ 2016-03-06.
- ↑ "ชนะแล้ว "ชาละวัน" ชื่อดาวไทยสากลชื่อแรกบนฟากฟ้า". ข่าวดาราศาสตร์. รายงานโดย: วิมุติ วสะหลาย. สมาคมดาราศาสตร์ไทย. 15 ธันวาคม 2558.
{{cite web}}
: CS1 maint: others (ลิงก์) - ↑ Martin, J. E.; Lauprasert, K.; และคณะ (2013). Angielczyk, Kenneth (บ.ก.). "A large pholidosaurid in the Phu Kradung Formation of north-eastern Thailand". Palaeontology. 57: 757–769. doi:10.1111/pala.12086.
- ↑ "IAU Working Group on Star Names (WGSN)". สืบค้นเมื่อ 22 May 2016.
- ↑ "Bulletin of the IAU Working Group on Star Names, No. 1" (PDF). สืบค้นเมื่อ 28 July 2016.
- ↑ "IAU Catalog of Star Names". สืบค้นเมื่อ 28 July 2016.
- ↑ R. P. Butler; Marcy, Geoffrey W. (1996). "A Planet Orbiting 47 Ursae Majoris". Astrophysical Journal Letters. 464 (2): L153–L156. Bibcode:1996ApJ...464L.153B. doi:10.1086/310102.
- ↑ 17.0 17.1 17.2 P. C. Gregory; D. A. Fischer (2010). "A Bayesian periodogram finds evidence for three planets in 47 Ursae Majoris". Monthly Notices of the Royal Astronomical Society. 403 (2): 731–747. arXiv:1003.5549. Bibcode:2010MNRAS.403..731G. doi:10.1111/j.1365-2966.2009.16233.x.
- ↑ I. Han; D. C. Black; และคณะ (2001). "Preliminary Astrometric Masses for Proposed Extrasolar Planetary Companions". Astrophysical Journal Letters. 548 (1): L57–L60. Bibcode:2001ApJ...548L..57H. doi:10.1086/318927.
- ↑ D. Pourbaix; F. Arenou (2001). "Screening the Hipparcos-based astrometric orbits of sub-stellar objects". Astronomy and Astrophysics. 372 (3): 935–944. arXiv:astro-ph/0104412. Bibcode:2001A&A...372..935P. doi:10.1051/0004-6361:20010597.
- ↑ 20.0 20.1 D. A. Fischer; Marcy, Geoffrey W.; และคณะ (2002). "A Second Planet Orbiting 47 Ursae Majoris". Astrophysical Journal. 564 (2): 1028–1034. Bibcode:2002ApJ...564.1028F. CiteSeerX 10.1.1.8.9343. doi:10.1086/324336.
- ↑ D. Naef; Mayor, M.; และคณะ (2004). "The ELODIE survey for northern extra-solar planets. III. Three planetary candidates detected with ELODIE". Astronomy and Astrophysics. 414: 351–359. arXiv:astro-ph/0310261. Bibcode:2004A&A...414..351N. doi:10.1051/0004-6361:20034091.
- ↑ R. A. Wittenmyer; M. Endl; และคณะ (2007). "Long-Period Objects in the Extrasolar Planetary Systems 47 Ursae Majoris and 14 Herculis". Astrophysical Journal. 654 (1): 625–632. arXiv:astro-ph/0609117. Bibcode:2007ApJ...654..625W. doi:10.1086/509110.
- ↑ "Extrasolar Planets Encyclopaedia: 47 Ursae Majoris". Jean Schneider, Paris Observatory, CNRS. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-10-13.
- ↑ "Planets Table". Catalog of Nearby Exoplanets. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 September 2008. สืบค้นเมื่อ 2008-10-04.
- ↑ B. Jones; Underwood, David R.; และคณะ (2005). "Prospects for Habitable "Earths" in Known Exoplanetary Systems". Astrophysical Journal. 622 (2): 1091–1101. arXiv:astro-ph/0503178. Bibcode:2005ApJ...622.1091J. doi:10.1086/428108.
- ↑ S. Raymond (2006). "The Search for other Earths: limits on the giant planet orbits that allow habitable terrestrial planets to form". Astrophysical Journal Letters. 643 (2): L131–134. arXiv:astro-ph/0605136. Bibcode:2006ApJ...643L.131R. doi:10.1086/505596.
- ↑ А. Л. Зайцев (7 June 2004). "Передача и поиски разумных сигналов во Вселенной" (PDF). Пленарный доклад на Всероссийской астрономической конференции ВАК-2004 "Горизонты Вселенной", Москва, МГУ (ภาษารัสเซีย). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-30. สืบค้นเมื่อ 2019-11-20.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- "กว่าจะมาเป็นดาวชาละวัน"หนังสือที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่ชื่อ "ชาละวัน" ได้ขึ้นไปประดับฟ้าสากล เผยเบื้องหน้าเบื้องหลัง และรายละเอียดเกี่ยวกับดาวชาละวัน โดย สมาคมดาราศาสตร์ไทย
- "47 Ursae Majoris". SolStation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-11. สืบค้นเมื่อ 2008-06-26.
- "47 Ursae Majoris". Exoplanet Data Explorer. สืบค้นเมื่อ 2013-10-05.