โอสวัลดู โลเร็งซู ฟิลยู
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | โอสวัลดู โลเร็งซู ฟิลยู | ||
วันเกิด | 11 เมษายน ค.ศ. 1987 | ||
สถานที่เกิด | โฟร์ตาเลซา บราซิล | ||
ส่วนสูง | 1.68 m (5 ft 6 in) | ||
ตำแหน่ง | กองหน้า | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2006–2008 | Fortaleza | 38 | (11) |
2007 | → River (ยืมตัว) | ||
2008–2012 | Al-Ahli Dubai | 21 | (9) |
2009–2010 | → บรากา (ยืมตัว) | 4 | (0) |
2011 | → เซอารา (ยืมตัว) | 36 | (5) |
2012–2014 | เซาเปาลู | 28 | (8) |
2015 | อัลอะฮ์ลี ญิดดะฮ์ | 10 | (1) |
2015–17 | ฟลูมีเน็งซี | 31 | (1) |
2017 | Sport Recife | 28 | (3) |
2018 | โฟร์ตาเลซา | 14 | (2) |
2018 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | 16 | (2) |
ทีมชาติ‡ | |||
2013– | บราซิล | 2 | (0) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2016 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 6 เมษายน 2013 |
โอสวัลดู โลเร็งซู ฟิลยู (โปรตุเกส: Osvaldo Lourenço Filho; เกิด 11 เมษายน ค.ศ. 1987) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล และเป็นอดีตนักฟุตบอลตำแหน่งกองหน้าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขามีความสามารถในด้านการเลี้ยงลูกฟุตบอลและการใช้ความเร็ว[1][2]
สโมสรอาชีพ
[แก้]ในวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2012 โอสวัลดูเซ็นสัญญากับสโมสรเซาเปาลู ก่อนที่จะย้ายไปอัล-อะห์ลีดูไบด้วยค่าตัว 4.6 ล้านเรอัลบราซิล[3] ต่อมาเขาได้ย้ายไปเล่นให้กับฟลูมีเน็งซี เขาเป็นผู้เล่นที่มีความสำคัญ และได้รับข้อเสนอจากคาชิมะแอนต์เลอส์ แต่ทางฟลูมีเน็งซีได้ปฏิเสธข้อเสนอนั้นไป[4]
ในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2015 โอสวัลดูเซ็นสัญญาสามปีกับอัลอะฮ์ลี ญิดดะฮ์[5]
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
[แก้]ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2018 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวโอสวัลดู ฟิลยู จากสโมสรโฟร์ตาเลซา โดยเขาจะได้สวมเสื้อหมายเลข 17[6] ต่อมาในวันที่ 9 มิถุนายน โอสวัลดูลงเล่นนัดแรกให้กับบุรีรัมย์ในนัดที่บุกไปชนะบางกอกกล๊าสที่ลีโอสเตเดียม 2–1 โดยเขามีส่วนร่วมในการต่อบอลช่วยให้จีโอกูทำประตูได้สำเร็จ[7] ต่อมาวันที่ 12 กันยายน โอสวัลดูทำประตูแรกในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสุโขทัย 4–1[8] ต่อมาในวันที่ 16 กันยายน เขาประตูที่ 2 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปชนะเอสซีจี เมืองทองที่เอสซีจีสเตเดียม 3–0[9] และในวันที่ 27 ตุลาคม การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ โอสวัลดูทำหนี่งประตูในนัดที่บุรีรัมย์พ่ายแพ้เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัย 3–2[10]
ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2561 เจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้าง เอฟเอคัพ 2561 ที่สนามกีฬากองทัพบกในกรุงเทพมหานคร โอสวัลดูมีชื่อเป็นตัวสำรองในนัดนั้น สุดท้าย บุรีรัมย์ แซงเอาชนะ สิงห์ เชียงราย 3–1 ช่วยให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ สมัยแรก ได้สำเร็จ[11] หลังจากนัดนั้น โอสวัลดูก็ได้แยกทางกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย
ทีมชาติบราซิล
[แก้]วันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2013 โอสวัลดูถูกเรียกตัวติดทีมชาติในนัดกระชับมิตรพบกับอิตาลีและรัสเซีย[12] ต่อมาวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 2013 เขาลงเล่นทีมชาติครั้งแรกในนัดที่บราซิลเอาชนะโบลิเวีย 4–0 โดยเป็นตัวสำรองแทนที่เนย์มาร์[13]
เกียรติประวัติ
[แก้]- โฟร์ตาเลซา
- Ceará State League: 2007, 2008
- ชะบับอัลอะฮ์ลี
- UAE Football League: 2008–09
- เซอารา
- Ceará State League: 2011
- เซาเปาลู
- Copa Sudamericana: 2012
- อัลอะฮ์ลี
- Saudi Crown Prince Cup: 2014–15
- ฟลูมีเน็งซี
- Primeira Liga: 2016
- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Brazil - Osvaldo Lourenço Filho - Profile with news, career statistics and history". Soccerway.
- ↑ "Osvaldo Lourenço Filho". Goal.com.
- ↑ http://www.omelhordofutebol.com/2012/02/as-contratacoes-mais-caras-do-futebol.html[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Reviravolta de Osvaldo faz São Paulo recusar oferta de clube japonês". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-26. สืบค้นเมื่อ 2018-10-11.
- ↑ "Após três temporadas no São Paulo, Osvaldo acerta com o Al-Ahli [After three seasons at São Paulo, Osvaldo joins Al-Ahli]". Lancenet (ภาษาโปรตุเกส). สืบค้นเมื่อ 18 January 2015.
- ↑ "บุรีรัมย์เสริมแหลกเปิดตัว โอสวัลดู". Goal.com. สืบค้นเมื่อ October 11, 2018.
- ↑ "บีจี 1-2 บุรีรัมย์ : ออสวัลโด้ ช่วยปราสาทฯ คว้าชัยเปิดหัวเลกสอง". FourFourTwo. สืบค้นเมื่อ October 11, 2018.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "บุรีรัมย์ 4-1 สุโขทัย : ค้างคาวนำเร็วก่อนโดนปราสาทฯยิง4ลูกรวด". FourFourTwo. สืบค้นเมื่อ October 11, 2018.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "เมืองทอง 0-3 บุรีรัมย์ : ปราสาทยำกิเลนฯคาบ้าน". FourFourTwo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-16. สืบค้นเมื่อ October 11, 2018.
- ↑ "เชียงราย 3-2 บุรีรัมย์ : บิลล์ แฮตทริกพากว่างแซงปราสาทซิวแชมป์เอฟเอ คัพ". FourFourTwo. สืบค้นเมื่อ February 7, 2019.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "บุรีรัมย์พลิกแซงเชียงราย 3-1 คว้าแชมป์ ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ". สืบค้นเมื่อ September 4, 2019.
- ↑ Sem Lucas, Felipão convoca são-paulino Osvaldo à seleção[ลิงก์เสีย]
- ↑ Ficha técnica: Bolívia 0 x 4 Brazil