โปรุส ศึกรบสองราชันย์
โปรุส ศึกรบสองราชันย์ | |
---|---|
![]() ภาพละครฉบับภาษาไทย ในขณะที่ใช้ชื่อว่า ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์ | |
ประเภท | ประวัติศาสตร์, ละครโทรทัศน์ |
สร้างโดย | สิทธัตถะ กุมาร เทวรี |
เขียนโดย | สิทธัตถะ กุมาร เทวรี |
กำกับโดย | สิทธัตถะ กุมาร เทวรี |
แสดงนำ | ลักช์ ลาลวานี, โรหิต ปุโรหิต รตี ปันเดย์ อทิตยา เรทิจ สุหนี ธันกี |
ผู้ประพันธ์เพลง | ซันกี หันติปุระ สิทธัตถะ หันติปุระ สุริยราช กามาล เลนิน นันทิ ราชู สิงห์ |
ประเทศแหล่งกำเนิด | ![]() |
ภาษาต้นฉบับ | ฮินดี |
จำนวนฤดูกาล | 1 |
จำนวนตอน | 260 |
การผลิต | |
ผู้อำนวยการสร้าง | สิทธัตถะ กุมาร เทวรี ราหุล กุมาร เทวรี กายาตรี กิลล์ เทวรี |
สถานที่ถ่ายทำ | อัมเบอร์กาออน , ประเทศไทย |
ผู้กำกับภาพ | กบิล ลัล |
ผู้ลำดับภาพ | ชนก เจาหาน อนิล ไวษยะ |
กล้อง | Multi-camera |
ความยาวตอน | 60 นาที |
บริษัทผู้ผลิต | One Life Studios (under Swastik Productions) |
งบประมาณ | ₹500 crore (77,525,000 USD) |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | Sony Entertainment Television |
ออกอากาศ | 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 (อินเดีย) 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 (ไทย) |
ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์ หรือชื่อใหม่ว่า โปรุส ศึกสองราชันย์ (อังกฤษ: Porus VS Alexander หรือ Porus, ละครเรื่องนี้มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการก่อนออกอากาศว่า โปรุส มหาสงครามถล่มชมพูทวีป หรือ โปรุส ศึกรบสองราชันย์) ละครโทรทัศน์ฟอร์มยักษ์แห่งปี ค.ศ. 2017 จากประเทศอินเดียที่ใช้ทุนสร้างมหาศาลกล่าวถึงพระราชประวัติของพระเจ้าปอโรสและพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่สงครามครั้งสุดท้ายในพระชนม์ชีพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ที่ยกทัพไปสู้กับพระเจ้าปอโรสแห่งเปารวะ นำแสดงโดย ลักช์ ลาลวานี, โรหิต ปุโรหิต, รตี ปันเดย์, อทิตยา เรทิจ, สุหนี ธันกี ออกอากาศในประเทศไทยทางช่องเวิร์คพอยท์เป็นครั้งแรก ทุกวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เวลา 21:45 - 22:30 น. และวันศุกร์ เวลา 22:00 - 22:30 น. เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
เนื้อเรื่องย่อ
[แก้]เรื่องของปอโรส - อาณาจักรอินเดีย
[แก้]![]() | เรื่องย่อในบทความนี้ยาวเกินไปหรือมีรายละเอียดปลีกย่อยเกินไป โปรดปรับปรุงโดยเอาเนื้อความที่ไม่จำเป็นออกและเรียบเรียงให้กระชับขึ้น |
ยุคสมัย 200 ปี หลังการถือกำเนิดของศาสนาพุทธ ในอาณาจักรอินเดีย มีความเกลียดชังกันเองระหว่างสองเมือง นั่นคือ เมืองตักศิลา และเปารวะ พระเจ้าอัมพิราชาแห่งเมืองตักศิลา แสดงความเหยียดหยามเจ้าชายอมาตยา พระเชษฐาของพระเจ้าบามานีระหว่างการมาเยือน ในงานประจำปีอันแสนดุเดือด กษัตริย์ที่เป็นผู้ชนะ จะเป็นผู้ตัดสินการประมูลสินค้า และกษัตริย์ผู้ชนะก็คือพระเจ้าบามานี ขณะที่ดาไรอัส เสนอราคาประมูลที่สูงมาก เพื่อควบคุมการค้าในอาณาจักรเปารวะ และใช้ช่องโหว่นี้ ยุยงให้ทั้งสองเมืองก่อสงคราม เจ้าหญิงอนุสยาผู้อ่อนโยน หวังจะรวมอินเดียเข้าด้วยกัน จึงยอมอภิเษกกับพระเจ้าบามานีแห่งเปารวะ แต่การอภิเษก กลับกลายป็นเครื่องมือการชำระความแค้นของพระเจ้าบามานี แม้พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 แห่งเปอร์เซีย จะใช้รอยร้าวนี้ดึงเจ้าหญิงอนุสยาเป็นพวก แต่เรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเจ้าหญิงอนุสยา ยืนยันที่จะอยู่ในเมืองเปารวะ ถึงแม้จะอยู่อย่างเชลย ต่อมาพระเจ้าบามานีสำนึกผิด จึงมารับเจ้าหญิงอนุสยาขึ้นมาเป็นราชินีดังเดิม ในขณะที่พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 แห่งเปอร์เซียยังแฝงตัวเป็นพ่อค้าเพื่อโน้มน้าวใจเจ้าชายอมาตยา ให้มาเป็นพวกของตน พระเจ้าบามานีตัดสินใจไล่พระเจ้าดาไรอัสออกจากเมืองเปารวะ เพราะเชื่อคำบอกของเจ้าหญิงอนุสยา พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 แห่งเปอร์เซียจึงโกรธแค้นเจ้าหญิงอนุสยาที่เปิดโปงแผนการร้ายของตน หนำซ้ำยังโดนพระเจ้าบามานีขับไล่ให้ออกจากเมืองเปารวะอย่างเด็ดขาด ในเวลานั้น ราชินีอนุสยาได้ตั้งครรภ์พระโอรส 9 เดือนต่อมา พระเจ้าบามานี พาราชินีอนุสยามาที่เมืองตักศิลา ตามความต้องการของเจ้าหญิงอนุสยา ที่จะรวมอินเดียให้เป็นหนึ่งเดียว ชาวเมืองตักศิลา ต้อนรับการกลับมาของราชินีอนุสยาอย่างสมพระเกียรติ แต่ราชินีอนุสยาค้นพบความจริงว่า พระเจ้าอัมพิราชา ร่วมมือกับพระเจ้าดาไรอัสที่ 3 แห่งเปอร์เซียคิดแผนการร้าย และการต้อนรับของกษัตริย์อัมพิราชานั้น เป็นแค่แผนการล้างแค้นเมืองเปารวะ พระเจ้าอัมพิราชา ต้องการฆ่าสายเลือดเปารวะ รวมทั้งโอรสในครรภ์ของเจ้าหญิงอนุสยาด้วย ราชินีอนุสยา จำใจทำตามความต้องการของพระเจ้าอัมพิราชา เพื่อปกป้องชีวิตพระโอรส และพระสวามีของพระนางเอง ราชินีอนุสยาไม่รู้เลยว่า นี่คือแผนการลอบปลงพระชนม์ของพระเจ้าอัมพิราชา ราชินีอนุสยายอมตัดขาดความเป็นพี่น้องกับพระเจ้าอัมพิราชา ฝ่ายอมาตยาก็พยายามจะสังหารอนุสยาให้ได้ แต่ริปุดามันมาช่วยนางไว้ได้ทัน ราชินีอนุสยา หนีการตามล่าของเจ้าชายอมาตยา จนให้กำเนิดพระโอรสนามว่า ปอโรส และแล้วอมาตยา กับเจ้าหญิงอนุสยา ก็ได้เผชิญหน้ากันอีกครั้งหนึ่ง อนุสยาพลาดทำปอโรสตกลงหน้าผาที่แม่น้ำเฌลัมไป อมาตยาสังหารอนุสยาด้วยการถ่วงหิน อนุสยาตกลงไปในน้ำ ปอโรสได้รับการช่วยเหลือโดยริปุดามัน สิงห์ ผู้จงรักภักดีต่อราชวงศ์เปารวะ ริปุดามันพาปอโรสหนีออกจากเมือง และพวกเขาได้พำนักอยู่ในสำนักดาซิว เมืองที่ปกครองด้วยโจร พระเจ้าบามานีนำการปกครองแบบต่างชาติเข้ามาสู่เมืองเปารวะ อมาตยาขอให้พระเจ้าบามานีอภิเษกกับกดิกา น้องสาวซามาร์ ปอโรสถูกเลี้ยงอยู่ในกลุ่มดาซิว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาสูญสิ้นความรักในแผ่นดินมาตุภูมิเลยแม้แต่น้อย ปอโรสช่วยชาวเปารวะจากการถูกจับไปเป็นทาส แต่ราชินีมหานันดานี แห่งดาซิวกลับลงโทษเขา ราชินีแห่งดาซิวสั่งสัจจา (ริปุดามัน) ให้ฆ่าทาสที่ปอโรสช่วยมา เขารับคำสั่งพร้อมทำตาม แต่ปอโรสทำให้เขาตระหนักถึงความจริง ราชินีดาซิวสั่งให้ปอโรสคุมทาสกลับบ้าน แต่สัจจาเสนอให้ฮาติเดินทางไปแทน ทำให้พิธาไม่พอใจปอโรสเป็นอย่างมาก เจ้าหญิงลาชิได้แนะนำอะไรบางอย่างกับปอโรส ปอโรสจึงเดินทางเข้าสู่เปารวะในฐานะศิลปินพเนจรจากต่างถิ่น แต่ว่าเจ้าชายการ์นิก (โอรสของพระเจ้าบามานีอีกพระองค์หนึ่ง) กับ ฟารัส ได้วางกับดักไว้คอยท่า อย่างไรเสีย ปอโรสก็ต้องเสี่ยงเพื่อช่วยทุกคนเอาไว้ ปอโรสถูกตามล่าโดยเจ้าชายการ์นิก และที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่รู้เลยว่า หญิงเสียสติที่เขาช่วยเหลือนั้น คือแม่ที่แท้จริงของเขา ขณะที่ฟารัสกับปอโรสกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดนั้น เจ้าชายการ์นิกก็ได้เข้ามาถึงพอดี เจ้าชายสุมา และดาซิวได้หลบหนีไป พวกเขาได้ทิ้งสัญลักษณ์ไว้ให้ปอโรส ปอโรสและทุกคนหลบหนี และยังถูกพระเจ้าบามานีตามล่าตัว ปอโรสเตรียมวางแผนเพื่อหาทางหนีไปจากเมืองเปารวะ และรับคำท้าของพระเจ้าบามานี และได้มาพบที่ท่าเรือ พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 แห่งเปอร์เซียได้เดินทางสู่อินเดียอีกครั้ง ในฐานะกษัตริย์แห่งเปอร์เซีย พระเจ้าดาไรอัส และเจ้าหญิงบาร์ซิน พระธิดาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเปารวะ ฝ่ายอนุสยาได้ออกตามหาปอโรส ขณะที่พระเจ้าดาไรอัสก็กำลังทำลายความสุขของพระเจ้าบามานี ปอโรสพยายามหาทางออกไปจากเมืองเปารวะด้วยการปลอมตัว เมื่อได้พบเจ้าชายการ์นิก เขาจึงได้พบหนทางที่จะพบกับพระเจ้าบามานี ทหารเปอร์เซียจับตัวอนุสญาไปขังเอาไว้ ขณะเดียวกัน ปอโรสก็หาทางหนีออกไปจากเมืองเปารวะ ปอโรส ช่วยเลือพวกทาสได้สำเร็จ และตัดสินใจกลับเปารวะอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลืออนุสยาให้ได้ ในขณะนั้น อนุสยา ก็ได้พบกับอมาตยา ในการต่อสู้ครั้งนั้น ปอโรสและลาชิ เอาชนะอมาตยาได้ ปอโรสก่อกวนพิธีต้อนรับพระเจ้าดาไรอัส ปอโรสหลบหนีออกมาจากเปารวะต่อหน้าต่อตาทุกคน แต่ว่าสุมากลับติดอยู่ที่นั่น ปอโรส ลาชิ และอนุสยา กำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่อาณาจักรดาซิว ปอโรสและลาชิพาอนุสยาไปซ่อนในที่ที่ปลอดภัยแห่งหนึ่งใกล้ๆ ดาซิว คอยดูแลส่งน้ำส่งอาหารอยู่เสมอ ทำให้ฮาติเริ่มสงสัยมากขึ้น ฝ่ายพระเจ้าบามานียอมรับการท้าทายของพระเจ้าดาไรอัส ต่อมา ฮาติรู้ว่าปอโรสพาอนุสยามาจากเมืองเปารวะ จึงหาทางเปิดโปงปอโรสต่อหน้าทุกคน ปอโรสสงสัยในท่าทีของอนุสยากับริปุดามัน จึงตัดสินใจถามบิดา แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ฮาติได้ยินที่ริปุดามันกับพิธาคุยกัน จึงรู้ว่าปอโรสเป็นเจ้าชายแห่งเปารวะ ทางด้านเปารวะ สุมาถูกอมาตยาทรมานปางตาย เพื่อให้เปิดโปงเรื่องของปอโรส ด้วยความกลัวตาย สุมาจึงต่อรองกับอมาตยาว่าจะเรียกปอโรสมาที่เปารวะ ปอโรสได้รับสาสน์จากสุมา จึงตัดสินใจไปเปารวะอีกครั้ง ปอโรสได้พาอนุสยาไปหาที่ซ่อนตัวในเมืองเปารวะ และมุ่งหน้าไปสู่สนามประลอง การแข่งขันระหว่างเปอร์เซียกับเปารวะเป็นไปอย่างดุเดือด แต่ดูเหมือนเกมการแข่งขันจะเป็นไปตามแผนของดาไรอัส เมื่อฟารัสเอาชนะนักสู้ของเปารวะได้ ทำให้เจ้าชายการ์นิกต้องก้าวเขาสู่สนามประลอง ถึงแม้ว่าการ์นิกจะสามารถเอาชนะฟารัสได้ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้นักสู้ของเปอร์เซียอีกคนที่แข็งแกร่งกว่า ปอโรสไม่อาจทนคำดูถูกของชาวเปอร์เซียได้ ทำให้ปอโรสเข้าร่วมต่อสู้ด้วย เขาสยบนักสู้เปอร์เซียคนแล้วคนเล่า และจากนั้น ดาไรอัสจึงส่งนักสู้ที่ดีที่สุดมาสู้กับปอโรส แต่นั่นก็ไม่ทำให้เปอร์เซียได้รับชัยชนะ การแข่งขันสิ้นสุดลง ปอโรสคือผู้ปกป้องเกียรติแห่งมาตุภูมิ และเมืองเปารวะไว้ได้ พระเจ้าบามานีสั่งให้ปอโรสถอดหน้ากาก จึงทำให้ทุกคนได้รู้ว่า ผู้รักษาเกียรติให้เปารวะคือ ปอโรส แห่งดาซิว พระเจ้าบามานีทรงพิโรธมาก แต่นั่นก็ทำให้พระเจ้าบามานีได้ประทับบนบัลลังก์อีกครั้ง อมาตยาใช้โอกาสนี้ พาปอโรสไปพบสุมา และยื่นข้อเสนอ แลกตัวสุมากับอนุสยา ในขณะที่ทหารกำลังพาตัวอนุสยาไปขัง พระเจ้าดาไรอัสก็ส่งคนมาชิงตัวอนุสยาไปก่อน เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองกับอมาตยา อมาตยากลัวความลับเมื่อ 20 ปีที่แล้วถูกเปิดโปง จึงยอมร่วมมือกับพระเจ้าดาไรอัส ปอโรสบุกเข้าเฝ้าพระเจ้าบามานี และเปิดโปงแผนการของอมาตยา อมาตยาบิดเบือนเรื่องราว จนทำให้พระเจ้าบามานีเชื่อ พระเจ้าบามานีจึงสั่งให้การ์นิกพาตัวปอโรสออกไปจากเมืองเปารวะ ด้วยความแค้น เจ้าชายการ์นิกจึงแทงปอโรสข้างหลัง แต่ปอโรสก็รอดไปได้ ปอโรสกำลังออกตามหาอนุสยา และได้สู้กับเจ้าหญิงบาร์ซิน แห่งเปอร์เซีย ขณะเดียวกัน ลาชิก็ออกตามหาปอโรสจนทั่วเปารวะ ฝ่ายพระเจ้าบามานีก็ตัดสินใจพบกับอนุสยา สตรีที่ใครๆคิดว่าเป็นบ้า เพื่อไขข้อข้องใจ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง พระเจ้าดาไรอัสกำลังวางแผนชั่วกับเจ้าหญิงบาร์ซิน โดยปิดบังตัวอนุสยา และให้พระเจ้าบามานีพบสตรีอื่นแทน ฝ่ายปอโรสกำลังตามหาตัวอนุสยา ขณะที่อนุสยาเริ่มจดจำอดีตได้เรื่อยๆ และด้วยแผนการของพระเจ้าดาไรอัส ทำให้ปอโรสคิดว่าอนุสยาตายแล้ว ปอโรสแค้นมากจึงมุ่งหน้าไปยังงานพิธีมหาศิวราตรี เพื่อเปิดโปงธาตุแท้และปลงพระชนม์พระเจ้าบามานี และไล่ลาชิ ริปุดามันเดินทางมาถึงเมืองเปารวะ และได้พบลาชิที่ท่าเรือ ทำให้รู้ว่าปอโรสกำลังมีปัญหาและสับสน ในขณะเดียวกัน อนุสยาเริ่มฟื้นคืนสติ และพยายามหนีออกมาจากคุก ปอโรสพูดยั่วยุจนพระเจ้าบามานียอมรับคำท้าทาย ฝ่ายริปุดามันและลาชิตัดสินใจตามหาอนุสยาอีกครั้ง ทำให้อนุสยารู้ความจริงเกี่ยวกับปอโรส ริปุดามันสั่งให้อนุสยารีบไปขัดขวางการต่อสู้ของสองพ่อลูกก่อนจะไม่ทันการ อนุสยาหยุดการต่อสู้ของปอโรสกับพระเจ้าบามานี อมาตยาถูกเปิดโปงต่อหน้าพระเจ้าบามานี พระเจ้าบามานีกริ้วอมาตยาที่สุด หลังจากการตายของริปุดามัน ทำให้ปอโรสตัดสินใจที่จะไปจากเมืองเปารวะ ฝ่ายอนุสยาเปิดเผยความจริงของพระเจ้าดาไรอัสต่อหน้าพระเจ้าบามานี และเตือนปอโรสถึงหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบของเขา ขณะเดียวกันพิธาถือว่าปอโรสมีความผิดที่ทำให้ริปุดามันตาย ปอโรสได้ทำพิธีศพให้ริปุดามัน ด้วยความช่วยเหลือของฮาติ ฟารัสจึงเดินทางไปถึงเมืองดาซิว และวางเพลิงเผาที่นั่น ปอโรสจับตัวฟารัสได้ และนำตัวฟารัสเข้าเฝ้าพระเจ้าบามานี ต่อมาเมื่อปอโรสได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ปอโรสจึงวางแผนเล่นงาน และท้าทายพระเจ้าดาไรอัส ฝ่ายดาซิวก็วางแผนโจมตีเมืองเปารวะ และตั้งตัวเป็นศัตรูกับปอโรส ปอโรสได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าชายแห่งเปารวะ และวางแผนแก้แค้น และท้าทายพระเจ้าดาไรอัส ทำได้พระเจ้าดาไรอัสพ่ายแพ้อีกครั้ง ฝ่ายดาซิวได้วางแผนโจมตีเปารวะ และเป็นศัตรูกับเจ้าชายปอโรสด้วยความเข้าใจผิด ขณะเดียวกัน ลาชิก็กำลังสงสัยฮาติ ฝ่ายเจ้าชายปอโรสและราชินีอนุสยาวางแผนที่จะเอาชนะพระเจ้าดาไรอัส โดยปอโรสได้รับขอมูลสำคัญจากเจ้าหญิงบาร์ซิน ฝ่ายพระเจ้าดาไรอัสช่วยฮาติวางแผนเพื่อโจมตีพระเจ้าบามานี เจ้าชายปอโรสถูกลอบทำร้าย แต่ไม่สำเร็จ และยังมาถึงสถานที่ลับของพวกเปอร์เซีย ทำให้ค้นพบความลับของพระเจ้าดาไรอัส และล่วงรู้ถึงแผนชั่วของชาวเปอร์เซีย ขณะที่เจ้าชายการ์นิกกราบทูลเรื่องการอภิเษกกับเจ้าหญิงบาร์ซิน ทำให้พระเจ้าบามานีกับราชินีอนุสยาโต้เถียงกัน เจ้าชายปอโรสรู้ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับฮาติ ฝ่ายพระเจ้าบามานีประกาศเรื่องการอภิเษกระหว่างเจ้าชายการ์นิกกับเจ้าหญิงบาร์ซิน ในขณะที่ราชินีอนุสยาสงสัยฮาติ เจ้าชายปอโรสรีบเดินทางกลับเมืองเปารวะเพื่อหยุดยั้งฮาติ และได้เผชิญหน้ากัน และได้ยอมรับผิดแทนฮาติเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพิธา พระเจ้าบามานีจึงสั่งลงโทษเจ้าชายปอโรส ทำให้เจ้าชายปอโรสถูกทรมานอย่างแสนสาหัส และสั่งประหารปอโรส ปอโรสจึงประนามการประหารชีวิตของเขา และหลบหนีไปได้ ทำให้พระเจ้าบามานีสั่งทหารเดินหน้าเต็มที่เพื่อจับตัวปอโรส ปอโรสเดินทางไปถึงเมืองตักสิลา และร่วมมือกับพระเจ้าอัมพิราชายกทัพบุกเข้าสู่เปารวะ และเปิดโปงแผนชั่วร้ายของพระเจ้าดาไรอัส แต่ผลสุดท้ายกลับทำให้พระเจ้าอัมพิราชา กับพระเจ้าบามานี รบกันเองอย่างดุเดือด พระเจ้าดาไรอัสจึงรอฉวยโอกาสจากการรบของสองแผ่นดิน ปอโรสจึงพยายามหยุดสงคราม และประสบความสำเร็จ ทำให้อินเดียพร้อมใจกันขับไล่พระเจ้าดาไรอัส พระเจ้าดาไรอัสจึงเดินทางออกจากเมืองเปารวะด้วยความแค้น จึงตัดสินใจวางยุทธศาสตร์เพื่อกำจัดปอโรส หลังจากนั้น พระเจ้าบามานีเตรียมพิธีราชาภิเษกของปอโรส ฝ่ายเจ้าชายการ์นิกก็พยายามหาทางขัดขวางปอโรส ปอโรสเข้าพิธีมหาราชาภิเษก ทำให้รู้เรื่องราวของ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ปอโรสจึงเกลี้ยกล่อมพระเจ้าบามานี เพื่อเดินทางไปยังเปอร์เซีย ขณะแล่นเรือไปเปอร์เซีย ลาชิกับปอโรสพบกับหมู่บ้านวิชกัญญา วิสุทธี หัวหน้ากลุ่มวิชกัญญาจึงลอบสังหารปอโรส แต่ไม่สำเร็จ จึงหันมาช่วยปอโรส ฝ่ายอมาตยาก็ยังวางแผนสังหารปอโรสอยู่
เรื่องของอเล็กซานเดอร์ - อาณาจักรกรีก
[แก้]เมืองมาซิโดเนีย ปกครองโดยพระเจ้าฟิลิปส์ที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย ผู้กระหายสงคราม การไล่ล่าอาณานิคม ราชินีโอลิมเปียส ราชินีผู้ได้มาจากการชนะสงคราม พระนางเกลียดชังฟิลิปส์ และไม่ต้องการให้สายเลือดชั่วของฟิลิปส์มาอยู่ในตัวลูกของพระนาง ต่อมาราชินีโอลิมเปียสได้ตั้งครรภ์พระโอรส พร้อมกับราชินีอนุสยาแห่งเปารวะ 9 เดือนต่อมา ราชินีโอลิมเปียสก็ให้กำเนิดพระโอรสพร้อมกับเจ้าหญิงอนุสยาแห่งเปารวะ พระนามว่า เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ต่อมา เมื่อเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ทรงเจริญวัย พระองค์เอาชนะศัตรูได้อย่างง่ายดาย และกำลังสร้างอาณาจักรของพระองค์เองขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ พระองค์กำลังเติบโตมาเป็นเจ้าชายที่กระหายสงคราม และความเป็นกษัตริย์ เป้าหมายใหญ่ของพระองค์คือ การครอบครองแผ่นดินอินเดีย แต่พระองค์ไม่ใช่พระโอรสพระองค์เดียวของพระเจ้าฟิลิปส์ ดังนั้น การเป็นกษัตริย์จึงต้องพิสูจน์ด้วยสงคราม ขณะที่ทำสงคราม พระเจ้าฟิลิปส์ได้เข้าไปช่วยอาริเดอุสที่กำลังพลาดท่า จนพระองค์เองต้องธนูไฟปางตาย เจ้าชายอเล็กซานเดอร์แก้ไขสถานการณ์กลับมาเอาชนะสงคราม และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พระองค์เหมาะสมที่จะเป็นกษัตริย์ หลังจากพระเจ้าฟิลิปส์ฟื้น ก็ยกย่องเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ที่บัญชาการทัพได้ดี จนเอาชนะสงครามได้ ทำให้ฟิลินน่าเจ็บใจ และวางแผนบางอย่างเพื่อลอบสังหารเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ แต่ไม่สำเร็จ พระนางโอลิมเปียส จึงทำคุณไสยมนต์ดำใส่อาริเดอุสกลับ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์สงสัยว่าจะเป็นฝีมือของพระนางโอลิมเปียส และนั่นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระนางโอลิมเปียสกับเจ้าชายอเล็กซานเดอร์เริ่มแย่ลง พระนางโอลิมเปียสทำให้เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ตระหนักถึงความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าฟิลิปส์ ต่อมาพระเจ้าฟิลิปส์ ได้ประกาศแต่งตั้งราชินีองค์ใหม่ ทำให้เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ได้ตระหนักถึงความจริงที่พระนางโอลิมเปียสพยายามบอกมาเสมอ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์จึงเข้าเผชิญหน้ากับพระเจ้าฟิลิปส์ ทำให้เจ้าชายอเล็กซานเดอร์กับพระเจ้าฟิลิปส์ไม่ลงรอยกัน ส่งผลให้เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ต้องหนีออกจากมาซิโดเนีย ทำให้ราชินีโอลิมเปียสกับเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ก็ไปพบกับคนๆหนึ่งผู้ที่ชี้หนทางให้กับอเล็กซานเดอร์ อเล็กซานเดอร์ผ่านการทดสอบทุกอย่างด้วยดีจนสำเร็จ และเดินทางกลับสู่มาซิโดเนียอีกครั้ง เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ได้ตอกย้ำความเสียใจของพระเจ้าฟิลิปส์ และได้เริ่มแผนยุทธศาสตร์บางอย่าง โดยได้รับคำแนะนำจากพระนางโอลิมเปียส ฝ่ายพระเจ้าฟิลิปส์ได้วางแผนบางอย่างเพื่อปกป้องเมืองมาซิโดเนีย แต่พระองค์กลับถูกปลงพระชนม์ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ปราบดาภิเษกพระองค์เองเป็นกษัตริย์องค์ใหม่แห่งมาซิโดเนีย พระเจ้าอเล็กซานเดอร์กำลังวางแผนให้มีชัยเหนืออินเดีย โดยใช้เมืองธีบส์เป็นการออกรบครั้งแรก ด้วยความโหดร้าย และน่ากลัว ขณะที่พระนางโอลิมเปียสกำลังเป็นกังวลกับลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อรู้เรื่องกษัตริย์อินเดียผู้หาญกล้า ทำให้พระเจ้าอเล็กซานเดอร์กับพระนางโอลิมเปียสเริ่มมีความเห็นไม่ตรงกัน พระเจ้าอเล็กซานเดอร์สังหารออราเคิล และออกเดินทางมุ่งหน้าสู่กรุงทรอย และสู้รบจนได้ชัยชนะ หลังจากนั้น พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ตัดสินใจบุกเปอร์เซีย และทำลายกองทัพเปอร์เซียจนย่อยยับ ฝ่ายพระเจ้าอเล็กซานเดอร์เดินทางไปพูดคุยกับราชินีอาดา และประกาศสงครามกับพระเจ้าดาไรอัสที่ 3 แห่งเปอร์เซีย
เรื่องของดาไรอัส - อาณาจักรเปอร์เซีย
[แก้]พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 แห่งเปอร์เซีย หลังจากเดินทางออกจากอาณาจักรอินเดีย และกลับถึงอาณาจักรเปอร์เซีย แล้ว พระองค์มีคำสั่งให้จัดทัพตอบโต้พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ และประกาศท้ารบกับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ในขณะนั้น พระเจ้าดาไรอัสเตรียมการเดินทางไปยังเมืองอิสซัส ฝ่ายพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ก็เดินทัพมุ่งหน้าไปอิสซัส และเผชิญหน้ากับพระเจ้าดาไรอัส และสังหารยอดขุนพลของพระเจ้าดาไรอัสไปมากหมาย ทำให้พระเจ้าดาไรอัสหนีไปจากสนามรบ ทำให้พระนางสเตทอีราที่ 1 ราชินีแห่งเปอร์เซีย หวาดกลัวพระเจ้าปอโรสยิ่งนัก ในขณะเดียวกัน เจ้าชายปอโรส ก็เดินทางมาถึงเปอร์เซียพอดี ทำให้เจ้าชายปอโรสกับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์เผชิญหน้ากัน และปอโรสพยายามบอกเจ้าหญิงบาร์ซินว่าตนเองมาถึงแล้ว
นักแสดงนำ
[แก้]เมืองเปารวะ อาณาจักรอินเดีย
[แก้]- ลักช์ ลาลวานี รับบท ปุรุชัตตัม/ปุรุ/ปอโรส, พระราชาแห่งอาณาจักรเปาวระ พระโอรสของพระเจ้าบามานี กับราชินีอนุสยา เจ้าชายแห่งเปารวะ[1][2][3]
- รตี ปันเดย์ รับบท พระนางอนุสญา, พระราชมารดาของพระเจ้าปอโรส, พระขนิษฐาพระเจ้าอัมพิราชา[4][5]
- อทิตยา ราดิช รับบท พระเจ้าบามานี, พระราชบิดาของพระเจ้าปอโรส และเจ้าชายการ์นิก[6][7][8]
- อามัน ทาลิวาล รับบท เจ้าชายอมาตยา ศิวทัตต์
- หริซิเกต ปันเดย์ รับบท เสนาบดี ริพุดามัน สิงห์, แม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรเปารวะ[9][10]
- อัซเลชา ลาวัต รับบท พิธา, ภรรยาของริพุดามัน สิงห์
- อักษรา สิงห์/ สันคีตา กายานัต รับบท พระราชินีกติกะ, พระมเหสีองค์ที่สองของพระเจ้าบามานี
- สาวี ทากัวร์ รับบท เจ้าชายการ์นิก, ราชโอรสของพระเจ้าบามานีกับพระราชินีกติกะ
- ปรานาฟ ซาเฮย์ รับบท ซามาร์ ซิงห์
- โมหิต อบอล รับบท ฮาติ ลูกชายของริปุดามันกับพิธา
เมืองมาซิโดเนีย อาณาจักรกรีก
[แก้]- โรหิต ปุโรหิต รับบท พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช พระโอรสของพระเจ้าฟิลิปส์ที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย กับพระนางโอลิมเปียส กษัตริย์แห่งมาซิโดเนีย
- เสมกชา รับบท พระนางโอลิมเปียส, พระราชินีแห่ง มาเซโดเนีย, พระราชมารดาของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช[11][12][13]
- ซันนี่ กันชานี รับบท พระเจ้าฟิลิปส์ที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย, กษัตริย์แห่ง อาณาจักรมาเซโดเนีย, พระราชบิดาของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช[14]
- อกัช ซิงห์ ราชภัฎ รับบท เฮฟีสเทียน, เพื่อนสนิทของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
- ซเรฟาห์ รับบท ราชนีฟิลินน่า, พระมเหสีองค์ที่สองของพระเจ้าฟิลิปส์
- อำมาตย์ พินทุ รับบท เจ้าชายอาริเดอุส, ราชโอรสของพระราชาฟิลิปส์, น้องชายต่างมารดาของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์
- อาเมอร์ มาลิก รับบท เคลตัส เดอะ แบล็ค หนึ่งในยอดขุนพลของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์
- อะรุนา อิรานี รับบท ออราเคิล นักพรตผู้สอนให้ปอโรสเข็มแข็ง และโหดร้าย และยังเป็นผู้ทำนายว่าจุดจบของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์อยู่ที่อินเดีย[15],
- รูบี้ ราการ์ รับบท ลูกศิษย์ของออราเคิลที่นำข่าวการตายของอาจารย์ตนไปบอกกับปอโรส
- ราวิส ทากัวร์ เปาซาเนียส ผู้ลอบสังหารพระเจ้าฟิลิปส์ที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย
- วิทวัน ชาร์มา รับบท พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ (วัยเด็ก)[16]
- การิชมา ราวัต รับบท พระนางคลีโอพัตราแห่งมาซิโดเนีย ราชินีองค์สุดท้ายของพระเจ้าฟิลิปส์ที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย
- ริซวัน กัลซยาน รับบท พระเจ้าอเล็กซานเดอร์แห่งเอพิรุส, พระราชาแห่ง เอพิรุส, พระปิตุลาของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์แห่งมาซิโดเนีย, พระสวามีของ เจ้าหญิงคลีโอพัตรา แห่งมาซิโดเนีย.
อาณาจักรเปอร์เซีย
[แก้]- ปราณีต ภัทท์ รับบท พระเจ้าดาไรอัสที่ 3,[17][18] พระราชาแห่ง เปอร์เซีย
- ริยา ทิปสี รับบท เจ้าหญิงบาร์ซิน, พระราชธิดาของ พระเจ้าดาไรอัสที่ 3,[19][20] พระมเหสีองค์ที่สองของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
- จัณฑาล ทิละวา รับบท โมเสส ทหารเอกของพระเจ้าดาไรอัส
- วิชาล พัตนี รับบท ฟารัส ลูกชายของโมเสส
- ซูซานเน เบอร์เนอตต์ รับบท ราชินีอาดาแห่งคาริอา
- ริยังกา จันทา รับบท พระนางสเตทอีราที่ 1 ราชินีแห่งเปอร์เซีย, ราชินีแห่งเปอร์เซีย พระมเหสีของพระเจ้าดาไรอัสที่ 3 พระราชมารดาชอง เจ้าหญิงบาร์ซิน และ ไดรเพทิส
- สาลินี ชาร์มา รับบท ไดรเพทิส, เจ้าหญิงแห่งเปอร์เซีย พระธิดาองค์เล็กของพระเจ้าดาไรอัสที่ 3
เมืองตักสิลา อาณาจักรอินเดีย
[แก้]- กัวพีท สิงห์ รับบท พระเจ้าอัมพิราชา, พระราชาแห่งเมืองตักศิลา[21]
- วาซุนดารา เคาล์ รับบท ราชินีอัลกา พระมเหสีของพระเจ้าอัมพิราชา
- โซเฮบ ซิดดิกุย รับบท เจ้าชายอัมพิกุมาร พระโอรสของพระเจ้าอัมพิราชา กับราชินีอัลกา เจ้าชายแห่งตักศิลา
- เชตาน พันดิท รับบท จาณักยะ, คุรุแห่งเมืองตักสิลา
เมืองดาซิว อาณาจักรอินเดีย
[แก้]- ชิรัก จานี รับบท พระเจ้าอายานัค กษัตริย์แห่งดาซิว พระบิดาของเจ้าชายสุมา และเจ้าหญิงลาชิ
- ชรัดดา มูเซล รับบท ราชินีมหานันดานี ราชินีแห่งดาซิว พระมารดาของเจ้าชายสุมา และเจ้าหญิงลาชิ
- ริช เวอร์มา รับบท เจ้าชายสุมา พระเชษฐาของเจ้าหญิงลาชิ
- สุหนี ธันกี รับบท พระนางลาชี พระมเหสีพระเจ้าปอโรส[22][23]
นักแสดงสมทบ
[แก้]- นัลลินี เนกี รับบท วิสุทธี, หัวหน้ากลุ่ม วิชกันยา สุดท้ายก็ถูกพระเจ้าอเล็กซานเดอร์สังหาร
- ไจวาล พาธัค รับบท มาเลย์
- พูจา ชาร์มา พากย์เสียงเป็น แม่น้ำเฌลัม
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "I am as patriotic and opinionated as Porus: Laksh".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "'Porus' will break the norms: Actor Laksh Lalwani - Times of India".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Porus nothing less than a film, might just be ahead of Baahubali 2: Laksh Lalwani".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Rati Pandey: My body language changed with 'Porus' role - Times of India".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Miley Jab Hum Tum actress Rati Pandey talks about playing Queen Anusuya in magnum opus Porus".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Aditya Redij steps into Rohit Roy's shoes to play Porus' father". Bombay Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-25. สืบค้นเมื่อ 2018-02-05.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ Singh, Mohnish. "Aditya Redij extremely delighted on playing King Bamani in Porus - Eastern Eye". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-06. สืบค้นเมื่อ 2018-02-05.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Learning scuba diving a perk of 'Porus': Aditya Redij - Times of India".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Hrishikesh Pandey: Getting a good role is difficult at my age - Times of India".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ Singh, Mohnish. "Hrishikesh Pandey injured on the sets of Porus - Eastern Eye". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-06. สืบค้นเมื่อ 2018-02-05.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Through Porus the audience will get to know about world history: Sameksha - Times of India".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Sameksha Singh's physical transformation for Porus is amazing".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ Singh, Mohnish. "Sameksha: Queen Olympia is a beautiful character to play - Eastern Eye". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-06. สืบค้นเมื่อ 2018-02-05.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "How Sunny Ghanshani bagged the role of Philip in Porus - Times of India".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ https://m.mid-day.com/articles/aruna-irani-loved-porus-even-before-she-took-up-the-role/19150188
- ↑ "Shaheer Sheikh-Erica Fernandes' reel son set to spread smiles in Porus - Times of India". สืบค้นเมื่อ 6 December 2017.
- ↑ "History is best told through series: Praneet Bhat - The Statesman".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Witness history like never before with Sony TV's new show Porus. Watch promo".
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ Shraddha, Rishikesh and Riya roped in for Sony TV’s Porus
- ↑ Riya Deepsi Twitter
- ↑ Singh, Mohnish (30 November 2017). "Gurpreet Singh had a special birthday this year! - Eastern Eye". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-06. สืบค้นเมื่อ 6 December 2017.
- ↑ "Meet Suhani Dhanki the 'final' FEMALE LEAD of Sony TV's 'Porus'". ABP News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-08. สืบค้นเมื่อ 2018-02-05.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help) - ↑ Singh, Mohnish. "Suhani Dhanki Interview: My acting choices have been quite diverse - Eastern Eye". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-06. สืบค้นเมื่อ 2018-02-05.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|access05-02-2018 20:00:40=
ถูกละเว้น (help)