ข้ามไปเนื้อหา

แปดผู้อาวุโส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

แปดเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ผู้ทรงเกียรติ (จีน: 八大元老; พินอิน: Bā dà yuánlǎo) เรียกอย่างย่อว่า แปดผู้อาวุโส (จีน: 八老; พินอิน: Bā lǎo) เป็นกลุ่มสมาชิกอาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีอำนาจมากที่สุดในสองทศวรรษสุดท้ายของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ในภาษาอังกฤษอาจเรียกคนเหล่านี้ว่า The Eight Immortals[1] แปลว่า คนอมตะแปด ซี่งหมายถึง ป๊าเซียน เป็นการอ้างอิงถึงเทพเจ้าเต๋าที่เรียกอีกอย่างว่า โป๊ยเซียน

เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้ซึ่งก้าวขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของจีนในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1978 จากการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมธิการกลางชุดที่ 11 ถือเป็นผู้ทรงอำนาจที่สุดในกลุ่ม แต่การใช้อำนาจของเขาไม่เคยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และเขาต้องปรึกษาและประนีประนอมกับผู้อาวุโสอีก 7 คน โดยผู้ที่โดดเด่นที่สุดได้แก่ เฉิน ยฺหวินและหลี่ เซียนเนี่ยน (ถือเป็นผู้มีอำนาจอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ และทั้งคู่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มสายแข็งฝ่ายซ้ายและฝ่ายต่อต้านการปฏิรูปและเศรษฐกิจแบบเน้นตลาด)[2] พันธมิตรของเติ้งในหมู่ผู้อาวุโส ได้แก่ หยาง ช่างคุนและเผิง เจิน ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 ผู้อาวุโสทุกคน รวมถึงเติ้งเอง ต่างร่วมกันต่อต้านการปฏิรูปการเมืองเพิ่มเติม ในขณะที่มีมุมมองที่ต่างกันในเรื่องเศรษฐกิจและการต่างประเทศ

ตามที่จ้าว จื่อหยาง เลขาธิการฝ่ายปฏิรูปได้กล่าวไว้ว่า ในบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมด หลี่ เซียนเนี่ยนเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุด กระตือรือร้นมากที่สุด และประสบความสำเร็จมากที่สุดในการต่อต้านและขัดขวางการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปในประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจ[3] การตัดสินใจที่สำคัญมักเกิดขึ้นที่บ้านของเติ้ง แปดผู้อาวุโสสามารถกำจัดผู้นำพรรคได้สามคน ระหว่างปี ค.ศ. 1978 ถึง 1981 ฮฺว่า กั๋วเฟิงค่อย ๆ ถูกปลดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานพรรค หู เย่าปังถูกปลดใน ค.ศ. 1987 และจ้าว จื่อหยาง ถูกปลดใน ค.ศ. 1989[4] เติ้ง แกนหลักของแปดผู้อาวุโสทั้ง เกษียณอายุหลังการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 5 ของคณะกรรมการกลางชุดที่ 13 (พฤศจิกายน ค.ศ. 1989) ซึ่งเขาลาออกจากตำแหน่งทางการสุดท้ายของเขา (ประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง) และผู้อาวุโสที่เหลือก็เกษียณอายุอย่างเป็นทางการหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคครั้งที่ 14 ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1992 ซึ่งคณะกรรมการที่ปรึกษาส่วนกลางถูกยุบ พวกเขายังคงมีอิทธิพลเด็ดขาดอยู่เบื้องหลังจนกระทั่งเติ้งเสียชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997[5]

สมาชิก

[แก้]

ไม่เคยมีการระบุสมาชิกอย่างเป็นทางการ โดยมีเติ้ง เสี่ยวผิงเป็นผู้กุมอำนาจหลัก แปดผู้อาวุโสที่ได้รับการยอมรับให้รวมอยู่ด้วย ได้แก่:[5]

ชื่อ ภาพ ตำแหน่งที่ดำรงอยู่ สถานที่เกิด
(บรรพบุรุษ)
อ้างอิง
เติ้ง เสี่ยวผิง
(1904–1997)
ผู้นำสูงสุด (1978–1989)
กรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมือง (1977–1987)
ประธานสภาที่ปรึกษาการเมือง (1978–1983)
ประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง (1981–1989)
ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาส่วนกลาง (1982–1987)
กว่างอาน มณฑลเสฉวน
(จี๋ฉุ่น มณฑลเจียงซี)
[6][5][7]
เฉิน ยฺหวิน
(1905–1995)
กรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมือง (1978–1987)
เลขาธิการคณะกรรมการสอบวินัยส่วนกลาง คนที่ 1 (1979–1987)
ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาส่วนกลาง (1987–1992)
ชิงผู่ เซี่ยงไฮ้ [5][7]
หลี่ เซียนเนี่ยน
(1909–1992)
กรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมือง (1977–1987)
ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน (1983–1988)
ประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน (1988–1992)
หงอาน มณฑลหูเป่ย์ [5][7]
เผิง เจิน
(1902–1997)
ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ (1983–1988) โหวหม่า มณฑลชานซี [5][7]
หยาง ช่างคุน
(1907–1998)
ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน (1988–1993)
รองประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลาง (1982–1992)
ถงหนาน ฉงชิ่ง [5][7]
ปั๋ว อีปัว
(1908–2007)
รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาส่วนกลาง (1982–1992) ติ้งเซียง มณฑลชานซี [5][7]
หวัง เจิ้น
(1908–1993)
รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน (1988–1993)
รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาส่วนกลาง (1985–1992)
หลิวหยาง มณฑลหูหนาน [5][7]
ซ่ง เหรินฉฺยง
(1909–2005)
รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาส่วนกลาง (1985–1992) หลิวหยาง มณฑลหูหนาน [8][5][7]
เติ้ง อิ่งเชา
(1904–1992)
Portrait of Deng Yingchao รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน (1983–1988) หนานหนิง มณฑลกว่างซี
(กวางชาน มณฑลเหอหนาน)
[6][5][9]
สี จ้งซฺวิน
(1913–2002)
กรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน (1982–1987)
รองประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ(1988–1993)
ฟู่ผิง มณฑลฉ่านซี
(เติ้งโจว มณฑลเหอหนาน)
[5][10]
ว่าน หลี่
(1916–2015)
รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน (1980–1988)
ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ (1988–1993)
กรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน (1982–1992)
ตงผิง มณฑลชานตง [5]
เส้นเวลาอายุขัยของสมาชิก
Wan LiXi ZhongxunSong RenqiongDeng YingchaoBo YiboYang ShangkunChen YunWang ZhenPeng ZhenLi XiannianDeng Xiaoping

บุตรหลาน

[แก้]

บุตรหลานของแปดผู้อาวุโสซึ่งได้รับประโยชน์อย่างมากจากระบบอุปถัมภ์และระบบพวกพ้องรวมตัวกันเป็นกลุ่มที่ปัจจุบันรู้จักกันในนาม "เจ้าชายน้อย" หรือ "พรรคมกุฎราชกุมาร" สมาชิกที่เติบโตมาจากตำแหน่งต่าง ๆ ของพรรค สามารถล้มล้างฝ่ายค้านในเขตอำนาจของตนได้อย่างง่ายดาย แม้พวกเขาจะได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งบริหารส่วนท้องถิ่นก็ตาม มักพบว่าพวกเขามีอำนาจสูงกว่าเจ้าหน้าที่พรรคอื่นและมีเกียรติยศมากกว่าด้วยสายเลือดของพวกเขา[4] บลูมเบิร์ก ได้รายงานเกี่ยวกับความมั่งคั่งอันมหาศาลที่สะสมโดยลูกหลานเหล่านี้ผ่านบทบาทของพวกเขาในบริษัทมหาชนและเอกชนต่าง ๆ[11]

หมายเหตุ

[แก้]
การเป็นสมาชิกตามผู้เขียนต่าง ๆ
ลำดับ แอลเอไทมส์ 1992[8] แคซิก 2004[6] เอสซีเอ็มพี 2008[5] บลูมเบิร์ก 2012[7] อังเดรซี 2015[9] เบนดินี 2016[10]
1 เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้ง เสี่ยวผิง
2 หยาง ช่างคุน หยาง ช่างคุน หยาง ช่างคุน หยาง ช่างคุน หยาง ช่างคุน
3 เฉิน ยฺหวิน เฉิน ยฺหวิน เฉิน ยฺหวิน เฉิน ยฺหวิน เฉิน ยฺหวิน
4 หลี่ เซียนเนี่ยน หลี่ เซียนเนี่ยน หลี่ เซียนเนี่ยน หลี่ เซียนเนี่ยน หลี่ เซียนเนี่ยน
5 เผิง เจิน เผิง เจิน เผิง เจิน เผิง เจิน เผิง เจิน
6 หวัง เจิ้น หวัง เจิ้น หวัง เจิ้น หวัง เจิ้น หวัง เจิ้น
7 ปั๋ว อีปัว ปั๋ว อีปัว ปั๋ว อีปัว ปั๋ว อีปัว ปั๋ว อีปัว
8 ซ่ง เหรินฉฺยง ซ่ง เหรินฉฺยง ซ่ง เหรินฉฺยง
8 เติ้ง อิ่งเชา เติ้ง อิ่งเชา เติ้ง อิ่งเชา
อื่น ๆ สี จ้งซฺวิน สี จ้งซฺวิน
ว่าน หลี่

อ้างอิง

[แก้]
  1. Joseph, William A. (2010). Politics in China: An Introduction. Oxford: Oxford University Press. p. 112. ISBN 978-0-19-533530-9.
  2. Zhao, Ziyang (2009-05-19). Ignatius, Adi; Pu, Bao; Chiang, Renee (บ.ก.). Prisoner of the State: The Secret Journal of Premier Zhao Ziyang (ภาษาอังกฤษ). Simon and Schuster. ISBN 978-1-4391-5407-6.
  3. MacFarquhar, Roderick. "Foreword" in Zhao Ziyang (2009). Prisoner of the State: The Secret Journal of Zhao Ziyang. New York, NY: Simon and Schuster. ISBN 1-4391-4938-0
  4. 4.0 4.1 Xiang, Lanxin (April 20, 2012). "Bo Xilai probe shows up China's outdated system of government". South China Morning Post
  5. 5.00 5.01 5.02 5.03 5.04 5.05 5.06 5.07 5.08 5.09 5.10 5.11 5.12 5.13 Wu, Vivian (1 December 2008). "The 'eight immortals' who jockeyed for control of a nation". South China Morning Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2018. สืบค้นเมื่อ 2021-09-18.
  6. 6.0 6.1 6.2 Tkacik, John (September 2004). Scobell, Andrew; Wortzel, Larry (บ.ก.). "CIVIL-MILITARY CHANGE IN CHINA: ELITES, INSTITUTES, AND IDEAS AFTER THE 16TH PARTY CONGRESS. Chapter 5: Premier Wen and Vice President Zeng: The "Two Centers" of China's "Fourth Generation"" (PDF). Strategic Studies Institute, U.S. Army War College. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ August 22, 2020. สืบค้นเมื่อ 18 September 2021.
  7. 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 7.6 7.7 7.8 "Mapping China's Red Nobility". Bloomberg.com. Graphics: Chloe Whiteaker, Fan Wenxin, Michael Wei, Danny Dougherty and Phil Kuntz. Reporting: Michael Forsythe, Shai Oster, Dune Lawrence, Natasha Khan and Henry Sanderson. สืบค้นเมื่อ 2021-09-18.{{cite news}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  8. 8.0 8.1 Holley, David (1992-01-12). "'Eight Elders' Wield Power Behind the Scenes in China". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2020. สืบค้นเมื่อ 2021-09-18.
  9. 9.0 9.1 Andrésy, Agnès (2015-11-20). Xi Jinping: Red China, The Next Generation (ภาษาอังกฤษ). UPA. p. 142. ISBN 978-0-7618-6601-5.
  10. 10.0 10.1 Bendini, Roberto (June 2016). "The Cultural Revolution in China: its 50th anniversary was ignored but its legacy lives on today" (PDF). europarl.europa.eu. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ September 11, 2016. สืบค้นเมื่อ 18 September 2021.
  11. "Heirs of Mao's Comrades Rise as New Capitalist Nobility". Bloomberg. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 27, 2012. สืบค้นเมื่อ December 28, 2012.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]