อีเอฟแอลแชมเปียนชิป
![]() | |
ก่อตั้ง |
|
---|---|
ประเทศ | อังกฤษ |
สโมสรอื่นจาก | เวลส์ |
จำนวนทีม | 24 |
ระดับในพีระมิด | 2 |
เลื่อนชั้นสู่ | พรีเมียร์ลีก |
ตกชั้นสู่ | อีเอฟแอลลีกวัน |
ถ้วยระดับประเทศ | |
ถ้วยระดับลีก | |
ถ้วยระดับนานาชาติ |
|
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | เลสเตอร์ซิตี สมัยที่ 2 และดิวิชัน 2 สมัยที่ 8 (2023–24) |
ชนะเลิศมากที่สุด |
|
หุ้นส่วนโทรทัศน์ | รายชื่อผู้ถ่ายทอดสด บีจีสปอร์ตส์ (ไทย) |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ทางการ |
ปัจจุบัน: อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2024–25 |
อิงกลิชฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป (อังกฤษ: English Football League Championship) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แชมเปียนชิป และเรียกว่า สกายเบ็ตแชมเปียนชิป ด้วยเหตุผลด้านผู้สนับสนุน[1] เป็นการแข่งขันลีกฟุตบอลอาชีพในอังกฤษและเวลส์ โดยแข่งขันกันระหว่าง 24 สโมสร เป็นดิวิชันสูงสุดของอิงกลิชฟุตบอลลีก (อีเอฟแอล) และระดับที่สองของระบบลีกฟุตบอลอังกฤษ รองจากพรีเมียร์ลีก
การแข่งขันจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1892 ในชื่อ ฟุตบอลลีกดิวิชัน 2 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 ใน ค.ศ. 1992 หลังการก่อตั้งพรีเมียร์ลีก การแข่งขันเปลี่ยนชื่อเป็น ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ใน ค.ศ. 2004 และเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อปัจจุบันใน ค.ศ. 2016 สโมสรที่ชนะเลิศในดิวิชันนี้จะได้รับถ้วยรางวัลอีเอฟแอลแชมเปียนชิปในแต่ละฤดูกาล ซึ่งเป็นถ้วยรางวัลเดิมที่มอบให้กับผู้ชนะในลีกสูงสุดของอังกฤษก่อนที่จะมีการเปิดตัวพรีเมียร์ลีก สโมสรในเวลส์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของดิวิชันนี้ได้ เช่นเดียวกับดิวิชันอื่น ๆ ของฟุตบอลอาชีพในอังกฤษ ทำให้เป็นลีกข้ามพรมแดน
สโมสรที่จบสองอันดับแรกในแต่ละฤดูกาลของแชมเปียนชิปจะได้รับการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกโดยอัตโนมัติ สโมสรที่จบอันดับที่ 3 ถึง 6 จะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ โดยผู้ชนะจะได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก สโมสรที่จบสามอันดับสุดท้ายในแชมเปียนชิปจะตกชั้นไปสู่ลีกวัน
แชมเปียนชิปเป็นลีกฟุตบอลที่ไม่ใช่ลีกสูงสุดที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และร่ำรวยที่สุดอันดับที่เก้าของยุโรป[2] และเป็นดิวิชันที่มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับที่สิบสองของโลก (โดยมียอดผู้เข้าชมต่อนัดสูงสุดเป็นอันดับที่สองของลีกระดับรอง ตามหลังซไวเทอบุนเดิสลีกา)[3] ผู้เข้าชมนัดการแข่งขันเฉลี่ยในฤดูกาล 2022–23 อยู่ที่ 18,787 คน[4]
คาร์ดิฟฟ์ซิตี เป็นสโมสรที่อยู่ในดิวิชันนี้ยาวนานที่สุด บริสตอลซิตี, เพรสตันนอร์ทเอนด์ และควีนส์พาร์กเรนเจอส์ เป็นสโมสรที่อยู่ในลีกนี้ยาวนานที่สุด โดยครั้งสุดท้ายที่ไม่ได้ลงเล่นคือฤดูกาล 2014–15 บาร์นสลีย์ เป็นสโมสรแรกที่ชนะครบ 1,000 ครั้ง ในลีกฟุตบอลอังกฤษระดับที่สอง โดยชนะคอเวนทรีซิตีในนัดเหย้า 2–1 เมื่อวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 2011 บาร์นสลีย์ยังเป็นสโมสรแรกที่ลงเล่นครบ 3,000 นัดในลีกฟุตบอลอังกฤษระดับที่สอง หลังชนะไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียนในนัดเหย้า 2–1 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2013[5] ผู้ชนะเลิศปัจจุบันคือ เลสเตอร์ซิตี โดยชนะเลิศเป็นสมัยที่แปดและเป็นสถิติสูงสุด
ประวัติ
[แก้]
ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อลีกเป็นฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ซันเดอร์แลนด์ คือผู้ชนะเลิศลีกในฤดูกาลแรก วีแกนแอทเลติก จบอันดับที่สองเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดของอังกฤษได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พวกเขาได้รับเลือกให้เข้าสู่ฟุตบอลลีกใน ค.ศ. 1978 โดยเล่นอยู่ในระดับที่สี่ครั้งล่าสุดใน ค.ศ. 1994 ก่อนที่จะเลื่อนชั้น เวสต์แฮมยูไนเต็ด เป็นสโมสรแรกที่ชนะแชมเปียนชิป รอบเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศในฤดูกาลดังกล่าว โดยชนะเพรสตันนอร์ทเอนด์ด้วยผลประตู 1–0 ที่มิลเลนเนียมสเตเดียมในคาร์ดิฟฟ์ ดิวิชันประกาศจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมดในฤดูกาล 2004–05 (รวมถึงหลังจบฤดูกาล) จำนวน 9.8 ล้านคน ซึ่งเป็นอันดับที่สี่ในดิวิชันฟุตบอลยุโรป ตามหลังพรีเมียร์ลีก (12.88 ล้านคน), ลาลิกาของสเปน (11.57 ล้านคน) และบุนเดิสลีกาของเยอรมนี (10.92 ล้านคน)[6][7][8] มิลล์วอลล์ แข่งขันในแชมเปียนชิปฤดูกาลแรก ได้ไปแข่งขันในยูฟ่าคัพ แต่แพ้ในรอบคัดเลือกรอบแรก ฤดูกาล 2005–06 เรดิง ทำลายสถิติโดยการจบฤดูกาลด้วย 106 คะแนนในฟุตบอลลีก แซงหน้าสถิติ 105 คะแนนที่ซันเดอร์แลนด์ทำไว้เมื่อ ค.ศ. 1999[9]
ซันเดอร์แลนด์ชนะเลิศแชมเปียนชิปครั้งที่สองในฤดูกาล 2006–07 หลังตกชั้นจากลีกสูงสุดในฤดูกาลก่อนหน้า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 ลีดส์ยูไนเต็ด กลายเป็นสโมสรแรกตั้งแต่เปลี่ยนชื่อลีกที่เข้าสู่สภาวะล้มละลาย ทำให้พวกเขาโดนหัก 10 คะแนน และตกชั้นในที่สุด[10][11] เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 ดาร์บีเคาน์ตี ชนะในแชมเปียนชิป รอบเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศ ครั้งแรกที่จัดขึ้นที่สนามกีฬาเวมบลีย์ใหม่ โดยชนะเวสต์บรอมมิชอัลเบียนด้วยผลประตู 1–0[12] เวสต์บรอมมิชอัลเบียนก็ชนะเลิศแชมเปียนชิปในฤดูกาลถัดไป
โครงสร้างของลีก
[แก้]ลีกประกอบด้วย 24 สโมสร เริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป (ยกเว้นใน ค.ศ. 2022 ซึ่งเป็นปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ลีกจึงเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม) แต่ละสโมสรจะแข่งขันกับสโมสรอื่น ๆ ในลีกแบบเหย้าหนึ่งนัดและเยือนหนึ่งนัด ทำให้แต่ละสโมสรแข่งขันกันทั้งหมด 46 นัด โดยสโมสรที่ชนะจะได้รับ 3 คะแนน, เสมอจะได้รับ 1 คะแนน และแพ้จะไม่ได้รับคะแนน สโมสรต่าง ๆ จะได้รับการจัดอันดับในตารางลีกตามคะแนนที่ทำได้ จากนั้นตามผลต่างประตู ประตูที่ทำได้ และสถิติการเจอกันโดยตรงในฤดูกาลนั้น (รวมถึงสถิติประตูทีมเยือน) หากมีสองสโมสรขึ้นไปที่จบฤดูกาลด้วยผลเท่ากันในทุกประการดังกล่าว สโมสรต่าง ๆ จะถูกแบ่งแยกตามลำดับตัวอักษร เว้นแต่จะมีการเลื่อนชั้น ตกชั้น หรือตำแหน่งเพลย์ออฟ (ดูด้านล่าง) เป็นเดิมพัน ซึ่งเมื่อนั้นสโมสรต่าง ๆ จะถูกแบ่งแยกด้วยเกมเพลย์ออฟ แม้ว่าจะไม่เคยเกิดสถานการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นี้เลยตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่มีกฎนี้อยู่ก็ตาม[13]
เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล สโมสรที่จบสองอันดับแรกและผู้ชนะเลิศของแชมเปียนชิปเพลย์ออฟ จะได้รับการเลื่อนชั้นไปสู่พรีเมียร์ลีก และสโมสรที่จบสามอันดับสุดท้ายจะตกชั้นไปสู่อีเอฟแอลลีกวัน การแข่งขันเพลย์ออฟของแชมเปียนชิป เป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออกสำหรับสโมสรที่จบฤดูกาลในอันดับที่ 3 ถึง 6 โดยผู้ชนะจะได้รับการเลื่อนชั้นไปสู่พรีเมียร์ลีก ในการแข่งขันเพลย์ออฟ สโมสรอันดับที่ 3 จะพบกับสโมสรอันดับที่ 6 และสโมสรอันดับที่ 4 จะพบกับสโมสรอันดับที่ 5 ในรอบรองชนะเลิศแบบสองนัด (เหย้าและเยือน) จากนั้นผู้ชนะของแต่ละรอบรองชนะเลิศจะแข่งขันกันในนัดเดียวที่สนามกีฬาเวมบลีย์ โดยรางวัลคือการเลื่อนชั้นไปสู่พรีเมียร์ลีก และถ้วยรางวัลแชมเปียนชิพเพลย์ออฟ
สมาชิกปัจจุบัน
[แก้]- หมายเหตุ: รายชื่อเรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ผลการแข่งขัน
[แก้]ผู้ชนะเลิศลีก, รองชนะเลิศ และผู้ชนะเพลย์ออฟ
[แก้]ผู้ทำประตูสูงสุด
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Sky Bet to sponsor The Football League". English Football League (The Football League]]. 18 July 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 July 2013. สืบค้นเมื่อ 18 July 2013.
- ↑ "Cumulative revenue of Europe's 'big five' leagues grew by 5% in 2012/13 to €9.8 billion". deloitte.com. Deloitte Touche Tohmatsu Limited. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 February 2020. สืบค้นเมื่อ 5 August 2015.
- ↑ รายชื่ออ้างอิงของลีกทั้งหมดที่อันดับสูงกว่าแชมเปียนชิปสามารถดูได้ที่หน้าผู้เข้าชมเมเจอร์ลีกซอกเกอร์
- ↑ "Championship 2022/2023 – Attendance". worldfootball.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 March 2023. สืบค้นเมื่อ 13 December 2023.
- ↑ "Barnsley 2–1 Brighton". BBC Sport. 12 March 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 November 2018. สืบค้นเมื่อ 11 August 2017.
Barnsley became the first team to play 3,000 games in second level league football.
- ↑ "Countdown underway to new season". BBC Sport. 6 August 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 August 2007. สืบค้นเมื่อ 2 May 2010.
Attendances rose by 10% to 9.8 million in 2004/05; it is the fourth best attended division in Europe; 9 clubs had something to play for on the final day of the last campaign (2004–05).
- ↑ Lansley, Peter (29 July 2005). "Championship glories in outstripping Serie A". The Times. UK. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 May 2024. สืบค้นเมื่อ 2 May 2010.
- ↑ First class second division TheFA.com
- ↑ "League Points". Football League 125. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 November 2017. สืบค้นเมื่อ 2 March 2018.
- ↑ "Leeds Utd call in administrators". BBC News. 4 May 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 May 2007. สืบค้นเมื่อ 2 March 2018.
- ↑ "Relegated Leeds in administration". BBC Sport. 4 May 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 September 2009. สืบค้นเมื่อ 2 March 2018.
- ↑ "Derby 1–0 West Brom". BBC Sport. 28 May 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 August 2017. สืบค้นเมื่อ 2 March 2018.
- ↑ "Championship". Sporting Life. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2006. สืบค้นเมื่อ 2 April 2008.