ข้ามไปเนื้อหา

เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์
ภาพใบปิดภาพยนตร์ "เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์"
กำกับฟรานซิส ลอว์เรนซ์
บทภาพยนตร์ไซมอน โบฟอย
ไมเคิล อาร์นต์
สร้างจากปีกแห่งไฟ
โดย ซูซาน คอลลินส์
อำนวยการสร้างนิน่า จาคอบสัน
จอน คิลิค[1]
นักแสดงนำเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์
จอช ฮัทเชอร์สัน
เลียม เฮมส์เวิร์ท
วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน
เอลิซาเบธ แบงส์
เลนนี แครวิตซ์
ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน
สแตนลีย์ ทุชชี
โดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์
กำกับภาพโจ วิลเลมส์[1]
ตัดต่อแอลัน เอ็ดเวิร์ด เบลล์[1]
ดนตรีประกอบเจมส์ นิวตัน ฮาเวิร์ด
บริษัทผู้สร้าง
คัลเลอร์ ฟอร์ซ
ผู้จัดจำหน่ายไลออนส์เกท
วันฉาย11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (ลอนดอนพรีเมียม)[2]
21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (รอบปฐมทัศน์)
22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (สหรัฐ)[3]
ความยาว146 นาที[4]
ประเทศสหรัฐ
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้างประมาณ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ [5]
ทำเงิน804,088,390 ดอลลาร์สหรัฐ[6]

เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ (อังกฤษ: The Hunger Games: Catching Fire) เป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2556 เป็นภาคต่อมาจากภาพยนตร์ "เกมล่าเกม" กำกับโดย "ฟรานซิส ลอว์เรนซ์" และนำแสดงโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, จอช ฮัทเชอร์สัน, เลียม เฮมส์เวิร์ท, วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน, เอลิซาเบธ แบงส์, เลนนี่ แครวิตซ์, ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน, สแตนลีย์ ทุชชี และ โดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์ อ้างอิงเนื้อเรื่องมาจานิยายของ ซูซาน คอลลินส์ ที่มีชื่อว่า "ปีกแห่งไฟ" อำนวยการสร้างโดย นิน่า จาคอบสัน และจอน คิลิค เขียนบทภาพยนตร์ใหม่โดย ไซมอน โบฟอย กับ ไมเคิล อาร์นต์ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ประพันต์โดย เจมส์ นิวตัน ฮาเวิร์ด และจัดจำหน่ายโดย ไลออนส์เกท เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ "แคตนิส เอฟเวอร์ดีน" และ "พีต้า เมลลาร์ค" ที่ต้องเดินทางกลับสู่เขต 12 แต่ "ประธานาธิบดีสโนว์" พบว่าถูกกลุ่มคนเล็ก ๆ ท้าทายอำนาจ รวมถึงแคตนิสด้วย จึงตัดสินใจที่จะจัดเกมล่าชีวิตครั้งที่ 75 ด้วยการนำอดีตผู้ชนะจากทั้ง 12 เขตมาต่อสู้กัน เพื่อหาผู้รอดเพียงคนเดียว ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ก็การเป็นชนวนสำคัญ ที่จะเปลี่ยนพาเน็มไปตลอดกาล[7]

การถ่ายทำภาพยนตร์เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555 จนถึงวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555[5] ที่ ฮาวาย แอตแลนตา และ ลอสแอนเจลิส ในสหรัฐอเมริกา[8] โดยจัดฉายทั้งในโรงภาพยนตร์ทั่วไปรวมถึงโรงภาพยนตร์ดิจิตอลไอแมกซ์ โดยทำให้เสียงในภาพยนตร์มีคุณภาพ[9] และสี่ดีเอกซ์ ซึ่งจะมีการเคลื่อนไหวของเก้าอี้ ลม สเปรย์น้ำ แฟลชฟ้าผ่า และเทคนิคกลิ่นพิเศษ ตามแต่ละฉากในภาพยนตร์[10][11][12][13] เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ เปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2013 ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ณ ประเทศฝรั่งเศส[14] มีการโปรโมตภาพยนตร์ที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นการโปรโมตเวิลด์พรีเมียร์[15][2] ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายครั้งแรก (ไม่นับการโปรโมตพรีเมียม) ที่บราซิลในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ต่อมาในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ที่ฟินแลนด์ และ นอร์เวย์ รอบปฐมทัศน์และบางประเทศรวมทั้งไทย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ส่วนสหรัฐอเมริกาฉายในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556[16]

เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟร์เออร์ สร้างสถิติเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาด้วยรายได้กว่า 161.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์อเมริกา พร้อมติดอันดับ 1 ใน 5 ภาพยนตร์ที่เปิดตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์บ๊อกซ์ออฟฟิศ และขึ้นอันดับ 1 ในกว่า 60 ประเทศที่เปิดตัว อาทิ สหราชอาณาจักร (19.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เยอรมนี (12.8 ล้านเดอลลาร์สหรัฐ) ออสเตรเลีย (11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ) รัสเซีย (10.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และเม็กซิโก (10.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งล้วนทำรายได้สูงขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับภาคที่แล้ว โดยทำรายได้ทั่วโลกรวมไปแล้วถึง 307.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเวลาเพียง 3 วัน[17] และยังสามารถทำรายได้ 110.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันหยุดของวันขอบคุณพระเจ้า จนขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลในวันขอบคุณพระเจ้าทั้งห้าวัน[18] ซึ่งสามารถขึ้นนำ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ที่เคยขึ้นอยู่อันดับหนึ่งมาก่อน ร่วมกับ ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ ซึ่งนำแฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคนี้เป็นอันดับสอง[19] นอกจากนี้ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น เว็บไซต์รอทเทนโตเมโต้ จากความคิดเห็นของนักวิจารณ์อ้างอิง 229 ความคิดเห็น โดยจัดระดับที่ 95% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ "รับรองความสด"[20]

เรื่องย่อ

[แก้]

หลังจากการแข่งขันเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 จบลง ผู้ชนะของรายการนี้สองคน คือ "แคตนิส เอฟเวอร์ดีน" และเพื่อนของเธอ "พีต้า เมลลาร์ก" ที่สามารถเอาตัวรอดออกมาในฐานะ "คู่รักที่ชะตาไม่ชักนำ" และได้เดินทางกลับเขต 12 ที่อยู่อาศัยของพวกเขา ชัยชนะของพวกเขานำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ผู้คนในเขต 12 โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของพวกเขาเอง เพราะทุกคนในครอบครัวจะมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต ไม่ต้องอดอยากหิวโหยอย่างที่เป็นมา แม้ว่าความโหดเหี้ยมรุนแรงในสนามประลองจะยังคงฝังลึกเป็นฝันร้ายของแคตนิสก็ตาม โดยทั้งสองต้องออกทัวร์ "ทัวร์ผู้พิชิต" เพื่อพบปะกับคนทุกเขตและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ทว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่แคตนิสยังไม่รู้ ว่าการกระทำของเธอในเกมล่าชีวิต เป็นการท้าทายอำนาจของแคปปิตอลอย่างรุนแรง มันทำให้ผู้คนในเขตต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงพลังของตนเองที่จะไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจแห่งแคปปิตอลอีกต่อไป ทำให้ "ประธานาธิบดีสโนว์" พบกลุ่มชนเล็ก ๆ ที่ได้ท้าทายอำนาจของตน และย่อมวางเฉยเรื่องของแคตนิสไม่ได้ เขามีแผนการอันล้ำลึกของเขาก็ย่อมลึกล้ำและโหดเหี้ยมอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง ในจัดการแข่งขันเกมล่าชีวิตครั้งที่ 75 (The Quarter Quell) ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันครั้งพิเศษ ที่จะต้องนำอดีตผู้ชนะเกมล่าชีวิตทั้งหมดจากทั้ง 12 เขตมาต่อสู้กัน รวมทั้ง "ฟินนิค โอแดร์" และ "โจฮันนา เมสัน" โดยทั้งแคตนิสและพีต้านั้นต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถอย่างมาก ทำให้ทั้งสองต้องฝึกฝนและเอาชีวิตรอดในเกมนี้ให้ได้ ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เกิดการปฏิวัติของพาเน็มไปตลอดกาล[21][22][23][24]

รายชื่อนักแสดง

[แก้]

การเปิดตัว

[แก้]
จีน่า มาโลน ที่งานโปรโมต เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ รอบเวิลด์พรีเมียร์ ณ ลอนดอน

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เปิดตัวครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2013 ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556ประเทศฝรั่งเศส โดยได้จัดปาร์ตี้ในท่ามกลางแขกผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งได้เผยโฉมโปสเตอร์ตัวละครของภาพยนตร์ทั้ง 12 แบบ พร้อมยังเป็นการต้อนรับการเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์คานส์ครั้งแรกของ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ นักแสดงนำของเรื่อง และยังเปิดตัวด้วยสองนักแสดง เลียม เฮมส์เวิร์ท และ แซม แคฟลิน ที่ปรากฏตัวครั้งแรกกับบทบาทของฟินนิค โดยได้เปิดโอกาสให้แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายได้กระทบไหล่นักแสดง ท่ามกลางสื่อมวลชนนับร้อยจากทั่วทุกมุมโลกที่ต่างให้ความสนใจ[14]

ในการโปรโมตภาพยนตร์นั้น ในสหรัฐอเมริกาได้จัดกิจกรรม Mall Tour เดินสายโปรโมตตามห้างสรรพสินค้าในเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มต้นที่มินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา โดยนำนักแสดงของเรื่องไปโปรโมตด้วย คือ แซม แคฟลิน จีน่า มาโลน บรูโน่ กัน และ เมธา โกลดิ้ง[15] ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ภาพยนตร์ยนตร์ เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ จะฉายในรอบเวิลด์พรีเมียร์ ณ เลสเตอร์ สแควร์ ลอนดอน สหราชอาณาจักร ต่อจากนั้นก็ได้ประกาศว่าจะเดินทางไปเปิดตัวภาพยนตร์ที่เมืองใหญ่ๆ ของโลกอย่าง เบอร์ลิน แมดริด โรม ปารีส และลอสแอนเจลิส ตามลำดับ[2]

รอบปฐมทัศน์

[แก้]

เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ ฉายในรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ที่โรงภาพยนตร์โนเกีย นครลอสแอนเจลิส โดยมีทีมนักแสดงมาร่วมงาน คือ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, เลียม เฮมส์เวิร์ท, ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน, โดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์, จอร์ช ฮัทเชอร์สัน, สแตนลีย์ ทุชชี และเอลิซาเบธ แบงส์[27]

ส่วนรอบปฐมทัศน์ในประเทศไทย จัดขึ้นที่ โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในงาน ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร เป็นพิธีกรในงาน ซึ่งแต่งตัวคล้ายกับตัวละคร ซีซาร์ ฟลิกเกอร์แมน ซึ่งรับบทโดย สแตนลี่ ทุซซี่ และ ดาวิกา โฮร์เน่ สวมบทบาทเป็น แคตนิส เอฟเวอร์ดีน ที่รับบทโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ร่วมโปรโมตภาพยนตร์และเดินแบบในการเปิดตัวแฟชั่น Capitol Citizens นอกจากนี้ยังการถ่ายทอดเพลงประกอบภาพยนตร์ "แอตลาส" (เพลงของ โคลด์เพลย์) โดย พิเชษฐ์ บัวขำ และเพลง "วีรีเมน" (เพลงของ คริสตินา อากีเลรา) โดย พรพรรณ มนชะติน และเชิญสื่อมวลชนและนักวิจารณ์เข้าชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ของประเทศไทย[28][29]

งานสร้าง

[แก้]

การคัดเลือกนักแสดง

[แก้]

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 ได้มีการประกาศนักแสดงใหม่ใน เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ ออกมาว่า จีน่า มาโลน จะได้รับบทเป็น โจฮันนา เมสัน[30] ซึ่งเคยมีข่าวลือว่าผู้รับบทอาจจะเป็น มิลา คูนิส, รูนีย์ มารา, เอมมา สโตน, คริสเตน เบลล์, มีอา วาชิคอฟสกา และ โซอี แอกเกลิกี แต่พวกเธอก็ไม่ได้บทโจฮันนาไป[31] อะแมนดา พลัมเมอร์ ได้รับบทเป็น ไวเรส และ ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน รับบทเป็น พลูทาร์ช เฮฟเว่นส์บี[32][31] ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2555 ก็มีการประกาศว่า ลินน์ โคเฮน จะได้รับบทเป็น แม็กส์[33] ซึ่ง เมลิสซา ลีโอ เคยถูกพิจารณาให้รับบทนี้[34] อลัน ริทช์สัน รับบทเป็น กลอส ซึ่งประกาศในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555[35] ต่อมาในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ก็ประกาศว่าผู้ที่จะรับบทเป็น ฟินนิค โอแดร์ คือ แซม แคฟลิน[36] ซึ่ง เทย์เลอร์ คิทซ์ช, อาร์มี แฮมเมอร์, ฮันเตอร์ แพร์ริช, แกรนต์ กัสติน, โจอี กราเซฟฟา, ลุก มิตเชลล์ และ การ์เรต เฮดลันด์ ต่างเคยถูกพิจารณาให้รับบทฟินนิค[31][34] และในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555 ประกาศว่า เจฟฟรีย์ ไรท์ จะรับบทเป็น บีที[37]

เพลงประกอบภาพยนตร์

[แก้]
The Hunger Games: Catching Fire – Original Motion Picture Soundtrack
ซาวด์แทร็กอัลบั้มโดย
ศิลปินจำนวนหนึ่ง
วางตลาด19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
บันทึกเสียง2012–13
แนวเพลงเพลงประกอบภาพยนตร์
ค่ายเพลงรีพับบลิกเรเคิดส์, เมอร์คิวรีเรเคิดส์
โปรดิวเซอร์บิลบอร์ด ,ไรอัน เท็ดเอดร์, ดิโปล, แอนดรูว์ สวานสัน, โคลด์เพลย์, แดเนียล กรีน, ริก ซิมป์สัน
The Hunger Games soundtracks
The Hunger Games: Songs from District 12 and Beyond
(2555)The Hunger Games: Songs from District 12 and Beyond2555
The Hunger Games: Catching Fire – Original Motion Picture Soundtrack
(2556)

อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ของเกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ ออกวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 โดยมี บิลบอร์ด ,ไรอัน เท็ดเอดร์, ดิโปล, แอนดรูว์ สวานสัน, โคลด์เพลย์, แดเนียล กรีน และ ริก ซิมป์สัน ภายในค่ายเพลง รีพับบลิกเรเคิดส์ และ เมอร์คิวรีเรเคิดส์ เพลงประกอบภาพยนตร์หลักคือ "แอตลาส" ขับร้องโดย โคลด์เพลย์ และสามซิงเกิลในอัลบั้ม ได้แก่ "วีรีเมน" ขับร้องโดย คริสตินา อากีเลรา "อิเลสติกฮาร์ต" ขับร้องโดย เซีย เฟอร์เลอร์ เดอะวีนด์ และ ดิโปล[38] และเพลง "อะเกน" ที่ขับร้องโดย แอ๊บบี้ นอกจากนี้ยังมีเพลงที่ร้องโดย ลอร์ด ชื่อเพลงว่า "เอเวอรีบอดีวอนซ์ทูรูลเดอะเวิลด์" ซึ่งอัลบั้มนี้ได้รับคะแนนจากเว็บไซต์ Metacritic ทั้งหมด 63 คะแนนจาก 100 คะแนน[39] และยังขึ้นชาร์ตบิลบอร์ด 200 เป็นอันดับที่ 5[40]

ลำดับชื่อเพลงประพันธ์ศิลปินยาว
1."แอตลาส"กาย เบอร์รี่แมน, จอนนี บัคแลนด์, วิล แชมเปียน, คริส มาร์ตินโคลด์เพลย์3:56
2."ซิลูเอทซ์"นันนา บรินดิส ฮิลมารส์ดอตเตอร์, อาร์นาร์ โรเซนแครนส์ ฮิลมารส์สัน, คริสเจียน พอล คริสเจียนส์สัน, บรินจาร์ ลิฟส์สัน, แร็กนาร์ ธอร์ฮอลส์สันอ็อฟมอนเตอซ์แอนด์เมน4:31
3."อิเลสติกฮาร์ต"เซีย เฟอร์เลอร์, โทมัส เวสลีย์ เพนต์ซ, แอนดรูว์ สวานสัน, แอเบล เทสเฟย์เซีย เฟอร์เลอร์, เดอะวีนด์, ดิโปล4:18
4."ลีน"แมตต์ เบอร์นินเจอร์, แอรอน เดสเนอร์เดอะเนชั่นแนล4:31
5."วีรีเมน"มิคกี้ เอคโค, เบรนท์ คัทเซิล, ไรอัน เท็ดเดอร์คริสตินา อากีเลรา4:00
6."เดวิลเมย์คราย"เจสัน ควีนเนวิล, เทสเฟย์เดอะวีนด์5:23
7."ฮูวีอาร์"อิมเมจินดรากอนส์, อเล็กซ์ ดา คิด, จอช มอสเสอร์อิมเมจินดรากอนส์4:09
8."เอเวอรีบอดีวอนซ์ทูรูลเดอะเวิลด์"ลูคัส คันทอร์, คริส ฮิวส์, ไมเคิล เอ. เลวีน, โรแลนด์ ออซาบอล, เอียน สแตนลีย์ลอร์ด2:35
9."เกลซ็อง"เจเรไมอาห์ ไฟรเทส, เวสลีย์ ชูลท์ซ, เนย์ลา เพกาเร็คเดอะ ลุมิเนียร์3:05
10."มิรเรอร์"เอลลิ กูลดิง, มาตีเยอ จอมฟ์เอลลิ กูลดิง4:21
11."แคปิตอลเล็ตเทอร์"แพตตี สมิธแพตตี สมิธ3:33
12."ชูททิงแอร์โรส์แอตเดอะสกาย"ซานตี ไวท์ซานตีโกลด์3:36
ฉบับดีลักซ์[41]
ลำดับชื่อเพลงศิลปินยาว
13."เพลซฟอร์อัส"มิกกี้ เอคโค, อามมาร์ มาลิก3:31
14."ไลท์ส"แฟนโทแกรม3:45
15."แองเจลออนไฟร์"แอนโทนีแอนด์เดอะจอห์นสัน3:47
ฉบับบราซิลโบนัสแทร็ก
ลำดับชื่อเพลงArtistยาว
16."13"ซีพีเอ็ม 22 
ฉบับเยอรมันและออสเตรียโบนัสแทร็ก[42]
ลำดับชื่อเพลงศิลปินยาว
16."อะเกน"แอ๊บบี้ 
ฉบับสเปน อเมริกากลาง และอเมริกาใต้โบนัสแทร็ก
ลำดับชื่อเพลงศิลปินยาว
16."ออมเบรอะเตียร์รา"โลริ เมเยอร์ส 

ความสำเร็จของภาพยนตร์

[แก้]

รายได้

[แก้]

ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไปทั้งหมด 804,088,390 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถเข้าไปอยู่ในรายชื่อ 50 ภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุด[6] สร้างสถิติเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาด้วยรายได้กว่า 161.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพยนตร์ที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์อเมริกา และติดอันดับ 1 ใน 5 ภาพยนตร์ที่เปิดตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์บ๊อกซ์ออฟฟิศ[17] นอกจากนี้ยังสามารถทำรายได้ 110.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันหยุดของวันขอบคุณพระเจ้า จนขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลในวันขอบคุณพระเจ้า[18]

รางวัล

[แก้]
รายชื่อรางวัลที่ได้เข้าชิง
ปี รางวัล สาขารางวัล ผู้เข้าชิง ผลรางวัล อ้างอิง
2556 โกลเดินเทรลเลอร์อวอร์ด 2013 ใบปิดภาพยนตร์แอคชั่นยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง [43]
ใบปิดภาพยนตร์อิสระยอดเยี่ยม ทัวร์ผู้พิชิตโคลสอัป
ฮอลลีวูดฟิลม์อวอร์ดครั้งที่ 17 เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แอตลาส ชนะ [44]
คีย์อาร์ทอวอร์ด 2013 เทคนิคเสียงและภาพยอดเยี่ยม ไลออนเกท และ อิกนิชั่นครีเอทีฟ เสนอชื่อเข้าชิง [45]
การตลาดทางอินเทอร์เน็ตยอดเยี่ยม ไลออนเกท และ วัตสันดีไซน์
สมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ซานดิเอโก 2013 นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม เอลิซาเบธ แบงส์ [46]
ลำดับภาพยอดเยี่ยม อลัน เอ็ดเวิร์ด บอล
2013 สมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ดีทรอยต์ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม สแตนลี่ ทุซซี่ [47][48]
2557 รางวัลแกรมมี เพลงสำหรับสื่อโสตทัศน์ยอดเยี่ยม แอตลาส รอผล [49]
รางวัลลูกโลกทองคำ เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม [50]
คริติกส์ชอยส์มูฟวี่อวอร์ด 2013 ภาพยนตร์แอคชั่นยอดเยี่ยม [51]
นักแสดงนำหญิงภาพยนตร์แอคชั่นยอดเยี่ยม เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์
เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แอตลาส
IGN's Best of 2013 Movie Awards ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม [52]
ภาพยนตร์ไซไฟยอดเยี่ยม [53]
โปสเตอร์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โปสเตอร์ฉบับไอแมซ์ [54]

ภาคต่อ

[แก้]

ทางไลออนส์เกท บริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์นี้ได้ออกมาประกาศว่าจะมีภาคต่อจากภาพยนตร์นี้ตามหนังสือที่ ซูซาน คอลลินส์ ประพันธ์ไว้ มีชื่อว่า "ม็อกกิ้งเจย์" โดยจะแบ่งเป็นสองภาค คือ "เกมล่าเกม 3 ม็อกกิ้งเจย์ ภาค 1" กำหนดฉายในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 และ "เกมล่าเกม 3 ม็อกกิ้งเจย์ ภาค 2" กำหนดฉายในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558[55] คล้ายกับตอนสุดท้ายของภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ และ ทไวไลท์ ที่ตอนจบจะแยกออกเป็นสองภาค ต่อมาในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ไลออนเกทก็ได้มายืนยันว่า ผู้กำกับภาพยนตร์ทั้งสองจะเป็น ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ ซึ่งจะถ่ายทำทั้งสองภาคกลับไปกลับมา[56]

ภาพยนตร์ภาคต่อจะเริ่มผลิตตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556 และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ที่บอสตัน แอตแลนตา และ ลอสแอนเจลิส[57] โดยเลียม เฮมส์เวิร์ท ยืนยันว่าการถ่ายภาพยนตร์ เกมล่าเกม 3 ม็อคกิ้งเจย์ ทั้งสองภาค จะเริ่มต้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2556[58] นอกจากนี้ยังมีนักแสดงใหม่ในทั้งสองภาค ได้แก่ สเตฟ ดอว์สัน รับบทเป็น "แอนนี่ เครสตา"[59] นาตาลี ดอร์มเมอร์ จะรับบทเป็น "เครสสิดา"[60] อีวาน รอสส์ จะรับบทเป็น "เมสซาลา" จูเลียน มัวร์ จะรับบทเป็น "ประธานาธิบดีอัลม่า คอน"[61] ลิลลี่ เรพ จะรับบทเป็น "ผู้บัญชาการลัยม์"[62] พาติน่า มิลเลอร์ จะรับบทเป็น "ผู้บัญชาการเพลโลร์"[63] และ มาเฮอร์เชลล่า จะรับบทเป็น "บ็อกส์"[64]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 "THE HUNGER GAMES: CATCHING FIRE BEGINS PRODUCTION". 10 กันยายน พ.ศ. 2555. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-18. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help) (press release)
  2. 2.0 2.1 2.2 "World Premiere The Hunger Games: Catching Fire ที่ ลอนดอน". เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์. 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-27. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  3. "Release dates for The Hunger Games: Catching Fire".
  4. "The Hunger Games: Catching Fire". AMC amazing. สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. 5.0 5.1 "Box office / business for The Hunger Games: Catching Fire". IMDb. สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. 6.0 6.1 The Hunger Games: Catching Fire ที่บ็อกซ์ออฟฟิศโมโจ
  7. "The Hunger Games: Catching Fire". เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-18. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. "The Hunger Games: Catching Fire Filming Locations". IMDb. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  9. "The Hunger Games: Catching Fire The IMAX Experience". ไอแมกซ์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-26. สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  10. "<헝거게임: 캣칭 파이어> IMAX, 돌비 애트모스 이어 4DX 개봉 확정 (เกาหลี) WIDECOVERAGE.com". 15 พฤศจิกายน 2556. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-29.
  11. "Cinépolis Online - Los Juegos del Hambre: En Llamas 4DX/2D Sub". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-25. สืบค้นเมื่อ 2013-11-26.
  12. Кто пойдёт на "Голодные игры: И вспыхнет пламя" в 4DX? (รัสเซีย)
    Who will go to "The Hunger Games: Catching Fire" in 4DX? (อังกฤษ)
    เก็บถาวร 2013-12-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. 20 พฤศจิกายน 2556. Gigamir
  13. "ESTRENO DE SECUELA DE "LOS JUEGOS DEL HAMBRE" INCLUIRÁ EFECTOS 4DX". La Nación (Chile). 20 พฤศจิกายน 2556. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-27.
  14. 14.0 14.1 "เปิดฉากความยิ่งใหญ่ที่คนทั้งโลกรอคอย The Hunger Games : Catching Fire ผงาด!!! เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ สมศักดิ์ศรีภาพยนตร์เปิดตัวอันดับหนึ่งตลอดกาล". เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์. 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-09. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  15. 15.0 15.1 "กระแสคลั่งสุดร้อนแรง แฟนทั่วอเมริกาแห่ต้อนรับทีมนักแสดง The Hunger Games: Catching Fire". เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์. 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-27. สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  16. "The Hunger Games: Catching Fire Release Info". IMDb. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  17. 17.0 17.1 "ร้อนแรงกระหึ่มโลก เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟร์เออร์ ทำลายสถิติ เปิดตัวอันดับ 1 เดินหน้าสร้างกระแสความคลั่งไคล้ทั่วโลก". ไอแมกซ์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-27. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  18. 18.0 18.1 "Box Office: 'Catching Fire,' 'Frozen' Serve Up Record Thanksgiving Feast". The Hollywood Reporter. 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556. สืบค้นเมื่อ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  19. "Holiday Weekends - Thanksgiving 5-Day". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  20. "The Hunger Games: Catching Fire". Rotten Tomato. สืบค้นเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  21. "Plot Summary for The Hunger Games: Catching Fire". IMDb. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  22. Chavez, Kellvin (30 กันยายน พ.ศ. 2556). "The Hunger Games: Catching Fire' UK Poster". Latino Reviwe. สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  23. "ปีกแห่งไฟ (เกมล่าชีวิต ภาค 2) ฉบับปรับปรุง". Post Book. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-13. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  24. ซูซาน คอลลินส์. ปีกแห่งไฟ. สหรัฐอเมริกา: Scholastic, 2552
  25. 25.0 25.1 "Smoking Hot New One-Sheet for The Hunger Games: Catching Fire". DreadCentral. 14 มกราคม พ.ศ. 2556. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-03-14. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  26. "Lionsgate Announces Remaining Cast for 'The Hunger Games: Catching Fire'". Mockingjay.net. 26 กันยายน พ.ศ. 2555. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-03-14. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  27. "'เดอะฮังเกอร์เกมส์ : แคชชิ่งไฟเออร์' ฉายรอบปฐมทัศน์ที่แอลเอ". เดลินิวส์. 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  28. ""ใหม่ ดาวิกา" สวมบท "สาวน้อยผู้มากับไฟ" เปิดตัวภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่ The Hunger Games: Catching Fire ร้อนแรงจนไฟลุก!!!". You2Play. 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]
  29. "ใหม่ ดาวิกา สวมบท สาวน้อยผู้มากับไฟ เปิดตัวหนัง The Hunger Games: Catching Fire". TrueLife. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  30. Kit, Borys. "Jena Malone Chosen as Tribute for 'Catching Fire' (Exclusive)". The Hollywood Reporter. The Hollywood Reporter.
  31. 31.0 31.1 31.2 "จีนา ลุ้นสวมบท โจฮันนา ในภาคต่อของ The Hunger Games". siamzone.com. 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555. สืบค้นเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  32. Cornet, Roth. "Philip Seymour Hoffman Cast As Plutarch Heavensbee in The Hunger Games: Catching Fire". AMC Theatres.
  33. Games, Hunger. "Lynn Cohen Hunger Games". Facebook.
  34. 34.0 34.1 "The Hunger Games: Catching Fire เกร็ดหนังน่ารู้". siamzone.com. สืบค้นเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  35. Adly MacKenzie, Carina (9 สิงหาคม พ.ศ. 2555). "'Smallville's' Alan Ritchson joins 'The Hunger Games: Catching Fire' as Gloss". Zap2it. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  36. Wigler, Josh. "'Catching Fire' Casts Sam Claflin As Finnick". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-05.
  37. Sperling, Lindsay (7 กันยายน พ.ศ. 2555). "Jeffrey Wright Will Play Beetee In The Hunger Games: Catching Fire". WeGotThisCovered.com. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  38. Vinaixa, Josep (13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556). "The Hunger Games: Catching Fire (Original Motion Picture Soundtrack)". josepvinaixa.com. สืบค้นเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  39. "The Hunger Games: Catching Fire [Original Motion Picture Soundtrack] Reviews". Metacritic.
  40. Caulfield, Keith (27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556). "Eminem Is Back at No. 1 on Billboard 200 With 'Marshall Mathers LP 2'". นิตยสารบิลบอร์ด. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  41. "The Hunger Games: Catching Fire (Original Motion Picture Soundtrack) [Deluxe Edition]". ไอทูนส์.
  42. "iTunes - Music - Die Tribute von Panem - Catching Fire (Deluxe Edition) [Original Motion Picture Soundtrack] by Various Artists".
  43. "The 14th Annual Golden Trailer Award Nominees". GoldenTrailer.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-08. สืบค้นเมื่อ 2013-10-27.
  44. "Coldplay To Receive The "Hollywood Song Award" At The 17th Annual Hollywood Film Awards For New Hit "Atlas" From The Hunger Games: Catching Fire Soundtrack". PR Newswire.
  45. "Key Art Awards for 2013". IMDb.
  46. "San Diego Film Critics Select Top Films for 2013". San Diego Film Critics Society. 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  47. "The 2013 Detroit Film Critics Society Awards Nominations". Detroit Film Critics Society. 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)[ลิงก์เสีย]
  48. "The 2013 Detroit Film Critics Society Awards". Detroit Film Critics Society. 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  49. http://www.grammy.com/files/pages/56thpresslist-final-secured.pdf
  50. "Golden Globes nominations 2014: The complete list of nominees". Los Angeles Times. 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  51. "19TH ANNUAL CRITICS' CHOICE MOVIE AWARDS NOMINATIONS". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-08.
  52. "IGN's official nominees for Best Movie of 2013".
  53. "IGN's official nominees for Best Sci-Fi Movie of 2013".
  54. "IGN's official nominees for Best Movie Poster of 2013".
  55. Staskiewics, Keith (10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555). "'Mockingjay' to be split into two movies, release dates announced". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-11. สืบค้นเมื่อ 2013-10-27. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  56. Goldberg, Matt (1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555). "'Exclusive: Francis Lawrence to Direct Remainder of THE HUNGER GAMES Franchise with Two-Part Adaptation of MOCKINGJAY′". Collider.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-25. สืบค้นเมื่อ 2013-10-27. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  57. "Twitter / prodweek: UPDATE: Los Angeles added as ..." ทวิตเตอร์. 13 เมษายน พ.ศ. 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  58. "Liam Hemsworth Talks 'Mockingjay,' Confirms Filming Starts September". Mockingjay.net. 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-14. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  59. "OFFICIAL: Stef Dawson Cast as Annie Cresta for 'Mockingjay' Movies". Mockingjay.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-03.
  60. "Game of Thrones Actress Natalie Dormer Cast as Cressida". Mockingjay.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-01.
  61. "'The Hunger Games: Mockingjay' casts Evan Ross as Messalla • Hypable". Hypable.com. 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-27. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  62. "OFFICIAL: Lily Rabe Cast as Commander Lyme in 'The Hunger Games: Mockingjay'". Mockingjay.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-20.
  63. "OFFICIAL: Patina Miller Cast as Commander Paylor in 'The Hunger Games: Mockingjay'". Mockingjay.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-24.
  64. "OFFICIAL: Mahershala Ali Cast as Boggs in 'Mockingjay'". Mockingjay.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-24.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]