อีฟาวิเรนซ์
ข้อมูลทางคลินิก | |
---|---|
การอ่านออกเสียง | /ɪˈfævɪrɛnz/ i-FAV-i-renz |
ชื่อทางการค้า | Atripla, Sustiva และอื่นๆ[1] |
AHFS/Drugs.com | โมโนกราฟ |
MedlinePlus | a699004 |
ข้อมูลทะเบียนยา | |
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ |
|
ช่องทางการรับยา | รับประทาน |
รหัส ATC | |
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย | |
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
ชีวประสิทธิผล | 40–45% (กรณีอย่างเร็ว) |
การจับกับโปรตีน | 99.5–99.75% |
การเปลี่ยนแปลงยา | ตับ |
ระยะเริ่มออกฤทธิ์ | 3–5 ชั่วโมง |
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | 40–55 ชั่วโมง |
การขับออก | ปัสสาวะ (14–34%) และอุจจาระ (16–61%) |
ตัวบ่งชี้ | |
| |
เลขทะเบียน CAS | |
PubChem CID | |
DrugBank | |
ChemSpider | |
UNII | |
KEGG | |
ChEBI | |
ChEMBL | |
NIAID ChemDB | |
PDB ligand | |
ECHA InfoCard | 100.149.346 |
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
สูตร | C14H9ClF3NO2 |
มวลต่อโมล | 315.675 g/mol g·mol−1 |
แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
| |
| |
(verify) | |
อีฟาวิเรนซ์ (Efavirenz) หรือชื่อทางการค้าคือ ซุสติว่า (Sustiva) หรือ อะทริพลา (Atripla) หรือชื่ออื่นๆ เป็นยาต้านรีโทรไวรัสซึ่งใช้สำหรับรักษาและป้องกันเชื้อเอชไอวีและเอดส์ โดยทั่วไปมักจะใช้ควบคู่กับยาต้านรีโทรไวรัสตัวอื่นๆ[1] ยาอีฟาวิเรนซ์มีทั้งแบบแยกขายและขายเป็นชุดประกอบด้วยยาสามตัวชื่อ "อีฟาวิเรนซ์/เอ็มไตรซิทาบีน/เทโนโฟเวียร์" (Efavirenz/Emtricitabine/Tenofovir)[1] ยานี้ใช้โดยการรับประทานวันละครั้ง[1]
ผลข้างเคียงทั่วไปจากการใช้ยาได้แก่ มีผื่น, คลื่นไส้, ปวดหัว, เหนื่อยล้า หรือนอนหลับยาก บางครั้งอาการมีผื่นอาจรุนแรงจนกลายเป็นกลุ่มอาการสตีเฟนส์–จอห์นสัน[1] ผลข้างเคียงขั้นรุนแรงได้แก่ มีภาวะซึมเศร้า, คิดฆ่าตัวตาย, เป็นโรคตับ, มีอาการชัก ยาตัวนี้ปลอดภัยสำหรับสตรีที่มีอายุครรภ์ไม่เกินสามเดือน[2] หากเกินกว่านั้นควรงดใช้เนื่องจากทารกในครรภ์อาจได้รับยาไปด้วย[1]
อีฟาวิเรนซ์ได้รับการอนุมติโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐให้ใช้เป็นยาในปีค.ศ. 1998[1] และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาหลักขององค์การอนามัยโลก ในฐานะยาทรงประสิทธิผลและปลอดภัยต่อระบบสุขภาพ[3] ในปีค.ศ. 2018 องค์การอนามัยโลกได้ให้การรับรองมาตรฐานสากลแก่ยาอีฟาวิเรนซ์ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมของไทย[4][5] ยาตัวนี้ในปัจจุบันยังไม่มีสถานะเป็นยาสามัญ เนื่องจากสิทธิบัตรยายังไม่หมดอาจยุ[6]
ค่าใช้จ่ายในการใช้ยานี้ในประเทศกำลังพัฒนาอยู่ที่ราว 10,000 ถึง 32,000 บาทต่อเดือน[7] ส่วนค่าใช้จ่ายในสหรัฐสูงกว่า 6,700 บาทต่อเดือน[6] และอาจสูงถึง 34,000 บาทต่อเดือน[8] ค่าใช้จ่ายด้านยาอิฟาวิเรนซ์+ทรูแวดา (Efavirenz+Truvada) ในประเทศไทยในปี 2012 อยู่ที่ราว 2,900 บาทต่อเดือน ในปี 2018 องค์การเภสัชกรรมไทยได้ประกาศว่าจะผลิตยาอิฟาวิเรนซ์ขนาด 600 มิลลิกรัมจำนวน 30 เม็ดจำหน่ายในราคาขวดละ 180 บาท
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 "Efavirenz". The American Society of Health-System Pharmacists. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 November 2016. สืบค้นเมื่อ 28 November 2016.
- ↑ Ford, N; Mofenson, L; Shubber, Z; Calmy, A; Andrieux-Meyer, I; Vitoria, M; Shaffer, N; Renaud, F (March 2014). "Safety of efavirenz in the first trimester of pregnancy: an updated systematic review and meta-analysis". AIDS. 28 Suppl 2: S123–31. doi:10.1097/qad.0000000000000231. PMID 24849471.
- ↑ "WHO Model List of Essential Medicines (19th List)" (PDF). World Health Organization. April 2015. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 13 December 2016. สืบค้นเมื่อ 8 December 2016.
- ↑ องค์การอนามัยโลก รับรองยาต้านไวรัสเอดส์ รายแรกของไทย 2 พฤศจิกายน 2561. ข่าวสด
- ↑ ดังไกล! องค์การเภสัชฯ ขึ้นทะเบียนยาต้านไวรัสเอดส์สำเร็จ 2 พฤศจิกายน 2561. ประชาชาติธุรกิจ
- ↑ 6.0 6.1 Hamilton, Richart (2015). Tarascon Pocket Pharmacopoeia 2015 Deluxe Lab-Coat Edition. Jones & Bartlett Learning. p. 62. ISBN 9781284057560.
- ↑ "Efavirenz". International Drug Price Indicator Guide. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-22. สืบค้นเมื่อ 28 November 2016.
- ↑ "Cost Considerations and Antiretroviral Therapy | Adult and Adolescent ARV Guidelines | AIDSinfo". AIDSinfo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-17. สืบค้นเมื่อ 2016-11-16.