ข้ามไปเนื้อหา

สุพิศาล ภักดีนฤนาถ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สุพิศาล ภักดีนฤนาถ
รองหัวหน้าพรรคประชาชน
เริ่มดำรงตำแหน่ง
22 กันยายน พ.ศ. 2567
(0 ปี 128 วัน)
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แบบบัญชีรายชื่อ
ดำรงตำแหน่ง
24 มีนาคม พ.ศ. 2562 – 20 มีนาคม พ.ศ. 2566
(3 ปี 361 วัน)
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ดำรงตำแหน่ง
14 มีนาคม พ.ศ. 2563 – 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567
(4 ปี 146 วัน)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 (70 ปี)
กรุงเทพมหานคร
พรรคการเมืองอนาคตใหม่ (2561–2563)
ก้าวไกล (2563–2567)
ประชาชน (2567-ปัจจุบัน)
บุพการี
  • ขุนสุเมธมัชชกรรม (บิดา)
ศิษย์เก่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
อาชีพตำรวจ
นักการเมือง
ชื่อเล่นแมว
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ไทย
สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ประจำการพ.ศ. 2521–2557
ยศ พลตำรวจตรี

พลตำรวจตรี สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ม.ป.ช. ม.ว.ม. (เกิด 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497) ชื่อเล่น แมว เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง(นายปดิพัทธ์ สันติภาดา) เคยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2562 และเป็นรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาชนฝ่ายกิจการภายนอก(Deputy head of the people's party, external affairs department) อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม อดีตประธานกรรมการ บมจ.CSS อดีตอาจารย์ประจำหลักสูตรปรัญญาดุษฎีบัณฑิต(การจัดการ)NBU

ประวัติ

[แก้]

พล.ต.ต.สุพิศาล เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 สำเร็จการศึกษารัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สังคมวิทยาประยุกต์) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (การจัดการ) มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ[1] เป็นนรต.31 ร่วมรุ่นกับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

การทำงาน

[แก้]

พล.ต.ต.สุพิศาล เคยรับราชการในสังกัดกรมตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2521 เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ได้แก่ ผู้กำกับการกองแผนงาน กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลเตาปูน, ปทุมวัน, ลุมพินี เป็นรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 รองผู้บังคับการกองปราบปราม และเป็นผู้บังคับการกองปราบปราม ก่อนจะลาออกจากราชการในปี 2557[2]

ในขณะรับราชการตำรวจ พล.ต.ต.สุพิศาล เป็นหนึ่งในตำรวจที่มีส่วนร่วมในการจับกุมอำพล ตั้งนพกุล หรือ อากง ในคดีความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย ในปี 2553 ต่อมาเขาได้แถลงขอน้อมรับความผิดในการให้สัมภาษณ์ในขณะที่มีหน้าที่ในภาครัฐ ปี 2554 และขออภัยต่อดวงวิญญาณของนายอำพล และครอบครัว รวมถึงขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ทุกคนที่อาจจะเกิดจากการทำงานในหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมา[3]

ใน การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 พล.ต.ต.สุพิศาลได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร ซึ่งเขาได้หมายเลข 1 ภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น เขาได้ 267,974 คะแนน ซึ่งเป็นลำดับสอง โดยแพ้ให้กับ คุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา ซึ่งได้ไป 552,651 คะแนน

พล.ต.ต.สุพิศาล ได้เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่ และได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยแรก ต่อมาได้รับตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25 เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 ก็ได้ย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563

ในปี 2566 เขาประกาศไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในปีนี้ ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 (ปดิพัทธ์ สันติภาดา)[4]

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

[แก้]
  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคอนาคตใหม่พรรคก้าวไกล

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-27. สืบค้นเมื่อ 2023-10-01.
  2. “สุพิศาล” ทิ้งเก้าอี้ “ผบก.ป.” “โกวิทย์” เบียด “ชัยทัต” รักษาการ
  3. โอละพ่อ!'บิ๊กแมวก้าวไกล'ขอโทษมีส่วนร่วมจับ'อากง'สมัยเป็นผู้บังคับการกองปราบฯ
  4. ผู้นำก้าวไกลต้องทำงานเชิงรุก “สุพิศาล” มอง “หมออ๋อง” แม้ย้ายพรรคไม่เสียจุดยืน
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๖, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๔ ข หน้า ๓, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๗, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔