ข้ามไปเนื้อหา

สมเด็จพระราชินีเกซัง โชเดน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เกซัง โชเดน วังชุก
พระอัยยิกาเจ้า
สมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน
ดำรงพระยศ30 มีนาคม ค.ศ. 1952 – 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1972
ราชาภิเษก27 ตุลาคม ค.ศ. 1952
พระราชสมภพ (1930-05-21) 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1930 (94 ปี)
บ้านภูฏาน กาลิมโปง รัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย
เกซัง โชเดน
คู่อภิเษกสมเด็จพระราชาธิบดีชิกเม โตเจ วังชุก (สมรส 1951; เสียชีวิต 1972)
พระราชบุตรเจ้าหญิงโซนัม โชเดน วังชุก
เจ้าหญิงเดเชน วังโม วังชุก
สมเด็จพระราชาธิบดีชิกเม เซ็งเค วังชุก
เจ้าหญิงเพมา ลาเดน วังชุก
เจ้าหญิงเกซัง วังโม วังชุก
ราชวงศ์วังชุก (โดยเสกสมรส)
พระราชบิดาโซนัม ต็อบกเย ดอร์จี
พระราชมารดามายึม โชยิง วังโม ดอร์จี
ศาสนาพุทธวัชรยาน

สมเด็จพระอัยยิกาเกซัง โชเดน[1] (พระราชสมภพ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2473) เป็นสมเด็จพระอัยยิกาในสมเด็จพระราชาธิบดีชิกเม เคซาร์ นัมกเยล วังชุก[2] และเป็นพระมารดาในสมเด็จพระราชาธิบดีชิกเม เซ็งเค วังชุก และเป็นพระอัครมเหสีในสมเด็จพระราชาธิบดีชิกเม โตเจ วังชุก และเป็นเจ้านายฝ่ายในที่ดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าเพียงพระองค์เดียวของโลกยุคปัจจุบัน[3]

พระราชประวัติ

[แก้]

สมเด็จพระอัยยิกาเกซัง โชเดน เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2473 เป็นธิดาของโซนัม ต็อบกเย ดอร์จี กับมายึม โชยิง วังโม ดอร์จี พระราชชนกเป็นนายกรัฐมนตรีภูฏาน และมาจากตระกูลดอร์จีซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ของภูฏาน ส่วนพระราชชนนีเป็นพระธิดาของมหาราชาแห่งรัฐสิกขิม มีพระพี่น้องเป็นชายสามคนและเป็นหญิงอีกหนึ่งคน ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนักบุญยอแซฟคอนแวนต์ที่กาลิมปง ประเทศอินเดีย

พระองค์อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จี ซึ่งขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน ณ พระราชวังอุกเยนเพลรีในเมืองพาโร เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2494 หลังกษัตริย์พระองค์ก่อนเสด็จสวรรคต พระสวามีขึ้นเสวยราชสมบัติ พระองค์ก็ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน หลังจากนั้นไม่ช้านานก็ให้ประสูติการพระราชธิดา โดยมีสมเด็จพระราชินีพุนโซ โชเดน พระราชินีในรัชกาลก่อน คนรับใช้ และแพทย์ชาวภูฏานคอยถวายการพยาบาลพระราชธิดานี้[4]

พระราชกรณียกิจ

[แก้]

สมเด็จพระอัยยิกาเกซัง โชเดนขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ใน พ.ศ. 2515 เมื่อคราวพระราชสวามีทรงพระประชวร ทรงสนพระทัยในบวรพุทธศาสนามาก ด้วยทรงอุปถัมภ์กิจกรรมสวนมนต์ประจำปี พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ถวายแก่นักพรต 200 รูป และอารามต่าง ๆ ทั้งในภูฏาน และในกาลิมปง ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ทรงสนพระทัยการอนุรักษ์ศิลปะและมรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศภูฏาน โดยทรงสนับสนุนทุนการศึกษาและการวิจัยในประเทศ[2]

อ้างอิง

[แก้]
  1. สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ (2553). จดหมายเหตุงานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. p. 209.[ลิงก์เสีย]
  2. 2.0 2.1 "Octogenarian grandmother of king to visit different holy places in state". สืบค้นเมื่อ 14 September 2014.
  3. "Yeewongmagazine". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-02-26. สืบค้นเมื่อ 2020-08-01.
  4. "Her Majesty Ashi Phuntsho Choden Wangchuck: Patron Queen of Bhutan: A Legacy of Devotion and Leadership". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 September 2014. สืบค้นเมื่อ 14 September 2014.