สนามบินสระปทุม
| สนามบินสระปทุม | |
|---|---|
| ราชกรีฑาสโมสร, ปทุมวัน, กรุงเทพฯ ในประเทศไทย | |
 | |
  สนามบินสระปทุม ที่ตั้งของสนามบินสระปทุม | |
| พิกัด | 13°44′20″N 100°32′15″E / 13.73889°N 100.53750°E |
| ประเภท | สนามบินทหาร |
| ข้อมูล | |
| ผู้ดำเนินการ | กองทัพบก |
| ควบคุมโดย | กองบินทหารบก (กองทัพอากาศในปัจจุบัน) |
| เปิดสู่ สาธารณะ | ไม่ |
| สภาพ | รื้อถอน |
| ประวัติศาสตร์ | |
| สร้าง | พ.ศ. 2454 |
| สร้างสำหรับ | กองบินทหารบก (กองทัพอากาศในปัจจุบัน) |
| การใช้งาน | 8 มีนาคม พ.ศ. 2457 |
| ผลลัพธ์ | รื้อถอน |
| รื้อถอน | พ.ศ. 2457 |
| เหตุการณ์ | สนามบินแห่งแรกของประเทศไทย, จัดแสดงสาธิตการบินในปี พ.ศ. 2454 |
| ข้อมูลลานบิน | |
| ความสูง | 10 ฟุต (3 เมตร) (approx.) เหนือระดับ น้ำทะเล |
สนามบินสระปทุม เป็นสนามบินแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2454 บนพื้นที่ของสนามม้าสระปทุมในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2457 ได้ปิดทำการเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและอยู่ใกล้กับกรุงเทพมหานคร
ประวัติสนามบินสระปทุม
[แก้]เจ็ดปีหลังจากการประดิษฐ์เครื่องบินของพี่น้องไรต์ ชาวต่างชาติในกรุงเทพฯ ร่วมมือกันนำเครื่องบินมาจัดแสดงสาธิตที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก และติดต่อกับนักบินชาวเบลเยียมชื่อชาลส์ ฟัน เดิน บอร์น เพื่อนำเครื่องบินเฮนรี ฟาร์แมนที่ 4 เข้ามา[1]
ในสมัยนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ เป็นหนองน้ำ น้ำท่วมถึงได้ง่าย และใช้เป็นพื้นที่นาข้าว โดยบังเอิญ คาร์ล ออฟเฟอร์ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของ Societe d'Aviation Extreme Oriente เป็นสมาชิกของราชกรีฑาสโมสร เขาร้องขอให้ใช้สนามแข่งม้าสำหรับการสาธิต เพราะมีพื้นดินที่แข็งแรงเหมาะแก่การรองรับน้ำหนักเครื่องบิน หลังจากนั้นไม่นาน สโมสรได้สร้างทางเข้าใหม่ 15 แห่งและสะพาน 4 แห่งข้ามคูน้ำโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีโรงเก็บเครื่องบินชั่วคราวในสนามกอล์ฟอีกด้วย เมื่อเย็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2454 จอมพล พระเจ้าพี่ยาเธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช เสนาบดีกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการสาธิตที่สนามแข่งม้า ซึ่งกลายเป็นข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์กรุงเทพไทม์ส[2]
ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทหารสามนายถูกส่งไปเรียนหลักสูตรการบินในฝรั่งเศส ก่อนจะกลับมาในปี พ.ศ. 2456 พร้อมกับเครื่องบิน Breguet 3 ลำและเครื่องบินปีกชั้นเดียว Nieuport 4 ลำที่รัฐบาลสยามสั่งซื้อ[1] เครื่องบิน Breguet หนึ่งลำได้รับการบริจาคโดยผู้ว่าราชการจังหวัดในประเทศสยาม ทำให้มีทั้งหมด 8 ลำ[3]
ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2456 ได้มีการทดสอบการบินครั้งแรก และเจ้าหน้าที่ทั้งสามท่านก็ได้จัดตั้งคณะวิศวกรรมการบินและการฝึกบินของสยามขึ้น ได้สร้างโรงเก็บเครื่องบินชั่วคราวไว้ด้านหลังโรงเรียนนายร้อยตำรวจปทุมวัน กองทัพสยามได้จัดตั้งกองบินทหารบกขึ้น[3]
ปิด
[แก้]ในปี พ.ศ. 2457 กระทรวงกลาโหมเห็นว่าสถานที่ดังกล่าวไม่เหมาะสม เนื่องจากสนามบินสระปทุมตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมเมื่อฝนตกในช่วงมรสุม และยังอยู่ใกล้ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครอีกด้วย[4] เมื่อท่าอากาศยานดอนเมืองสร้างเสร็จ ก็มีการย้ายกองการบินทหารบกไปที่นั่น และสนามม้าสระปทุมที่บริหารงานโดยราชกรีฑาสโมสรก็ยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2457 เที่ยวบินสุดท้ายเกิดขึ้น และสนามบินสระปทุมถูกปิดอย่างเป็นทางการ เที่ยวบินทหารออกเดินทางจากสนามบินสระปทุมและลงจอดที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ต่อมากองการบินทหารบกได้พัฒนามาเป็นกองทัพอากาศไทย[3]
ดูเพิ่ม
[แก้]- สนามบินเชียงรายเก่า – สนามบินแห่งที่ 3 ของประเทศไทย
- ท่าอากาศยานดอนเมือง – ท่าอากาศยานแห่งที่ 2 (ที่มาทดแทนสนามบินสระปทุม) ของประเทศไทย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Simandan, V. M. (March 8, 2013). "A Brief History of Aviation in Thailand".
- ↑ Bandit Chulasai (2021-04-30). "สนามบินสระปทุม: บทบาทแรกของการบินไทย". Silpa Wattanatham. สืบค้นเมื่อ 2024-11-12.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 "History - Royal Thai Air Force". www.globalsecurity.org.
- ↑ "A grand old centenarian keeps the flag flying" – โดยทาง www.bangkokpost.com.
| กรุงเทพมหานครและปริมณฑล | |
|---|---|
| ภาคกลาง | |
| ภาคตะวันออก | |
| ภาคตะวันตก | |
| ภาคเหนือ | |
| ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | |
| ภาคใต้ | |
| ไม่มีบริการเที่ยวบินพาณิชย์ | |
| ยุติการใช้งาน | |
| ระหว่างการก่อสร้างและอยู่ในแผน | |
☆ หมายถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ | |
