สถานีป่วงกก
NE15
ป่วงกก • Buangkok 万国 புவாங்கோக் Buangkok | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สถานีเอ็มอาร์ที | |||||||||||
ทางออก เอ ของสถานี | |||||||||||
ข้อมูลทั่วไป | |||||||||||
ที่ตั้ง | 10 เซิงกังเซ็นทรอล สิงคโปร์ 545061[1] | ||||||||||
พิกัด | 01°22′59″N 103°53′35″E / 1.38306°N 103.89306°E | ||||||||||
ผู้ให้บริการ | เอสบีเอสทรานสิต (คอมฟอร์ตเดลโกร) | ||||||||||
สาย | |||||||||||
ชานชาลา | 2 (ชานชาลาเกาะเดี่ยว) | ||||||||||
ทางวิ่ง | 2 | ||||||||||
การเชื่อมต่อ | บัส, แท็กซี | ||||||||||
โครงสร้าง | |||||||||||
ประเภทโครงสร้าง | รถไฟใต้ดิน | ||||||||||
ระดับชานชาลา | 1 | ||||||||||
ทางเข้าออกสำหรับผู้พิการ | ใช่ | ||||||||||
ประวัติ | |||||||||||
เริ่มเปิดให้บริการ | 15 มกราคม 2006 | ||||||||||
ติดตั้งระบบไฟฟ้า | ใช่ | ||||||||||
ผู้โดยสาร | |||||||||||
June 2024 | 19,010 ต่อวัน[2] | ||||||||||
การเชื่อมต่อ | |||||||||||
| |||||||||||
|
สถานีเอ็มอาร์ทีป่วงกก (อังกฤษ: Buangkok MRT station) เป็นสถานีเอ็มอาร์ที (MRT) บนสายตะวันออกเฉียงเหนือ (NEL) ของประเทศสิงคโปร์ ตั้งอยู่ใกล้กับสี่แยกถนนเซิงกังเซนทรัลกับคอมพัสวาลโบว์ ให้บริการพื้นที่เขตที่อยู่อาศัยป่วงกก โดยเอสบีเอสทรานสิต
มีการประกาศสถานีครั้งแรกในปี 1996 และเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายนต่อมา ป่วงกกเป็นหนึ่งในสองสถานีบนสายตะวันออกเฉียงเหนือที่ไม่เปิดให้บริการพร้อมกับทั้งสายในปี 2003 ทำให้เป็นที่ไม่พึงพอใจแก่ผู้อยู่อาศัยในป่วงกก รัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนการตัดสินใจของเอสบีเอสทรานสิตที่ไม่เปิดให้บริการ และระบุว่าหากเปิดให้บริการ สถานีนี้จะไม่จำเป็นและดูแลได้ยากดั่งช้างเผือก
ประวัติศาสตร์
[แก้]การประกาศไม่เปิดสถานี
[แก้]เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2003 ไม่กี่วันก่อนการเปิดให้บริการสายตะวันออกเฉียงเหนือ เอสบีเอสทรานสิต ผู้ให้บริการ ได้ออกมาประกาศว่าสองสถานีบนสาย ได้แก่ วูดเล และ ปวงกก จะไม่ได้เปิดให้บริการเช่นสถานีอื่น ๆ เนื่องจากขาดการพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าว[3] ความต้องการที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ลดลงเนื่องจากวิกฤตการเงินเมื่อปี 1997 และจากเหตุการณ์ 9/11 คณะกรรมการที่อยู่อาศัยและการพัฒนา (HDB) จึงปรับลดแผนการพัฒนาในแถบสิงคโปร์ตะวันออกเฉียงเหนือลง[4] เอสบีเอสทรานสิตระบุว่าการปิดสถานีไว้เช่นนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อปีในการให้บริการลงถึง 2-3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์[3] และว่าสถานีจะต้องมียอดผู้ใช้งานต่อวันอยู่ที่ 5,000 คน สถานีถึงจะทำเงินพอ[5] บริษัทยังขออภัยสำหรับ "การแจ้งให้ทราบที่ช้า" ระบุว่าพึ่งตัดสินใจได้เช่นนี้หลังการคิดค่าบริการเสร็จสิ้นในเดือนพฤษภาคม และการปิดให้บริการสถานีเป็น "เรื่องไม่ง่าย"[6]
ชาวบ้านในบริเวณโดยรอบผิดหวังกับการตัดสินใจเปลี่ยนที่กระทันหัน ทั้งที่ผู้นำชุมชนได้ให้การยืนยันแล้วว่าสถานีจะเปิดให้บริการ[7][8] ชาลส์ ชอง สมาชิกรัฐสภาจากเขตปาซีร์ริส-ปุงโงล แสดงความเห็นเห็นด้วยกับชาวบ้าน[5] นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจพบว่าชาวบ้านในรัศมี 700 m (2,300 ft) จากสถานีแสดงออกว่าตนยินดีเดินไปใช้งานสถานี แม้ว่าเหตุผลที่เอสบีเอสทรานสิตให้ไว้คือจำนวนผู้ใช้บริการไม่เพียงพอเนื่องจากผู้ใช้บริการน้อยคนจะยอมเดินเกินรัศมี 400 เมตร (1,300 ฟุต) จากสถานี[6] นอกจากนี้ในผลสำรวจยังพบว่าชาวบ้านมีแนวโน้มจะเลือกใช้งานสถานีป่วงกกมากกว่าสถานีข้างเคียงที่เซิงกังและฮัวกัง ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำโดยคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) และถูกเอสบีเอสทรานสิตปฏิเสธ พร้อมระบุว่ามีข้อบกพร่องในการพิจารณาประเด็นความถี่การใช้งาน[9]
เหตุการณ์ช้างเผือก
[แก้]เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงเยาวชน วิเวียน พาลกฤษณัน เดินทางมาเยือนปุงโงลเซาต์ในวันที่ 28 สิงหาคม เขาพบกับกระดาษแข็งสีขาวตัดเป็นรูปช้างวางตามทางไปยังสถานีป่วงกก[10] เขาจึงเดินทางเข้าเยี่ยมสถานีดังกล่าวและพูดคุยกับผู้อยูอ่าศัยในพื้นที่ เขายืนยันให้ว่าสถานีจะเปิดให้บริการในที่สุดหลังมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่ม 2,000 ยูนิตในย่านดังกล่าว ความไม่พอใจต่อกรณีนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นหลังมีการประกาศเพิ่มค่าโดยสาร[11] หลังรัฐมนตรีเยือนสถานีเสร็จ ช้างกระดาษเหล่านี้ได้ถูกนำออกไป[12]
ในวันที่ 1 กันยายน ตำรวจตอบรับคำร้องขอให้ทำการสืบสวนที่มาของช้างกระดาษเหล่านี้ภายใต้รัฐบัญญัติว่าด้วยการให้ความบันเทิงแก่และการพบปะสาธารณะ (Public Entertainment and Meetings Act) ในขณะที่บรรดาผู้นำชุมชนระบุว่าการตั้งช้างกระดาษไม่ได้มีเป้าหมายที่ไม่ดี และเป็นเพียงวิธีการเรียกร้องให้รัฐมนตรีสนใจถึงปัญหาโดยใช้วิธีการที่สร้างสรรค์เท่านั้น[13] ในจดหมายต่อ เดอะสเตรตไทมส์ นักสังคมนิยม ชวา เบ็ง ฮัวะ ให้ความเห็นว่าการสืบสวนของตำรวจนั้นเป็นแค่เพียง "การกังวลไปเอง" (paranoid) รวมถึงวิจารณ์สื่อที่ให้ความสำคัญกับกรณีซึ่งเป็นปัญหาระดับเทศบาลเช่นนี้ราวกับเป็นปัญหาระดับชาติ ทั้งหมดเนื่องด้วยลักษณะการปกครองของสิงคโปร์ซึ่งมีระดับเดียว[14][15] ในวันที่ 6 ตุลาคม ตำรวจสิ้นสุดการสอบสวนโดยไม่มีการแจ้งข้อหาใด ๆ ยกเว้นตักเตือนผู้นำชุมชนคนเดียวเนื่องจากละเมิดกฎหมายที่กล่าวไปข้างต้น[16][17] รองนายกรัฐมนตรี วอง กาน เซ็ง กล่าวว่าการสอบสวนดังกล่าวเริ่มขึ้นเนื่องจากไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายอย่างเลือกปฏิบัติ มิฉะนั้น กฎหมายดังกล่าวจะกลายเป็น “ช้างเผือกตัวจริง”[18] หลังเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ เหตุการณ์ช้างเผือก (White Elephant Incident) นักเรียนจากโรงเรียนสตรีรัฟเฟิลส์ (RGS) รวมตัวกันตั้งกลุ่ม "โปเจ็กต์ไวต์เอเลเฟินต์" (Project White Elephant) ที่มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการเมือง และมีการผลิตเสื้อยืดลาย "ช่วยช้างเผือกด้วย" (Save the White Elephants) เพื่อรวบรวมเงินสำหรับองค์กรการกุศล ยูธไกเดินส์ (Youth Guidance)[19]
การเปิดสถานี
[แก้]ท้ายที่สุดหลังเกิดกรณีเหตุการณ์ช้างเผือกขึ้น คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ทำการสำรวจเพิ่มเติมและพิจารณาเปิดสถานีอีกครั้ง ผู้นำชุมชนในปุงโงลเซาต์ได้เข้าพูดคุยกับนักเรียนที่ทำเสื้อช่วยช้างเผือกด้วย และเชิญชวนให้นำเสื้อดังกล่าวมาขายในวันเปิดสถานี[19] ระหว่างการเตรียมการงานฉลองเปิดสถานี ตำรวจได้ส่งจดหมายเตือนมายังผู้จัดงานว่าการขายเสื้อต้องใช้เอกสารอนุญาตการจำหน่ายเพื่อเรี่ยไรทุน และเตือนว่า "การใส่เสื้อลายดังกล่าวกันเป็นหมู่คณะอาจเข้าข่ายละเมิดกฎเกี่ยวกับความผิดเบ็ดเตล็ด (การรบกวนสาธารณะ ความสงบเรียบร้อย และการก่อความรำคาญ) (การชุมนุมและขบวนแห่)" (Miscellaneous Offences (Public & Order & Nuisance) (Assemblies & Processions) Rules) และจะให้ข้อยกเว้นเป็นพิเศษสำหรับขบวนการขอใบอนุญาตเรี่ยไรเงินทุน[19] ในวันฉลองเปิดสถานี ไม่มีผู้เข้าร่วมงานแม้แต่คนเดียวที่ใส่เสื้อลายดังกล่าว โดยแม้แต่กลุ่มนักเรียนที่ทำเสื้อ และงานฉลองเปิดสถานีดำเนินไปโดยไม่มีปัญหา[20] ต่อมารองนายกรัฐมนตรี วอง ได้ออกมาขอโทษแก่สาธารณะถึงกรณีที่ตำรวจทำเกินไปต่อกรณีดังกล่าว[21]
งานเปิดสถานีดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและเต็มไปด้วยผู้คนมาฉลอง เริ่มต้นด้วยกิจกรรมเดินวิ่งไปยังสถานีที่นำโดยแขกผู้มีเกียรติของงาน รัฐมนตรีกลาโหม เตียว ชี แฮน และพิธีตัดริบบิ้นในเวลา 12:55 น.[20][22] ยอดผู้ใช้งานสถานีต่อวันอยู่ที่ 1,386 คนต่อวันหลังงานเปิด ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ใหม่ไว้ที่ 6,000 คน[23] ชาวพื้นที่หลายคนยังคงตัดสินใจใช้งานสถานีข้างเคียงเนื่องจากมีร้านค้าต่าง ๆ มากกว่า[24]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Buangkok MRT Station (NE15)". OneMap. Singapore Land Authority. สืบค้นเมื่อ 15 November 2022.
- ↑ "Land Transport DataMall". DataMall. Land Transport Authority. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 August 2020. สืบค้นเมื่อ 20 August 2020.
- ↑ 3.0 3.1 Lim, Kenneth (18 June 2003). "Two of 16 NEL Stations Won't Open on Debut". The Business Times. p. 2.
- ↑ Chow, Clarice; Chia, Jean; Zhan, Mina (2018). Integrating Land Use & Mobility: Supporting Sustainable Growth (PDF). Singapore: Centre for Liveable Cities. p. 57. ISBN 978-981-11-7091-1.
- ↑ 5.0 5.1 Tan, Christopher (10 July 2003). "Residents Pile on Pressure to Open Buangkok MRT" (PDF). The Straits Times. p. 5. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ 6.0 6.1 Lim, Vincent (17 July 2003). "SBS Explains Buangkok Decision" (PDF). The Straits Times. p. 20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ Loh, Sherwin (18 June 2003). "Buangkok MRT Delay Frustrates Commuters" (PDF). The Straits Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ Goh, Chin Lian (29 August 2003). "Buangkok Station May Open in Three Years" (PDF). The Straits Times. p. 3. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ Tan, Christopher (23 July 2003). "People Willing to Walk to Buangkok MRT, Says Survey" (PDF). The Straits Times. p. 6. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ Low, Aaron (29 August 2005). "Buangkok Opening a Matter of Time: Vivian" (PDF). The Straits Times. p. 2. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ Majid, Hasnita (28 August 2005). "Residents Bring up 'White Elephant' Buangkok MRT During Minister's Visit". Channel NewsAsia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 January 2006.
- ↑ "Residents Shocked at 'White Elephant' Police Probe" (PDF). The Straits Times. 3 September 2005. p. 3. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ Low, Aaron (2 September 2005). "Police Probe Complaint on 'White Elephants'" (PDF). The Straits Times. p. 8. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 7 July 2024. สืบค้นเมื่อ 7 July 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ Chong, Terence (2006). "Singapore: Globalizing on Its Own Terms". Southeast Asian Affairs. 2006 (1): 274. ISSN 1793-9135.
- ↑ Chua, Beng Huat. "White-Elephant Saga Isn't a National Issue" (PDF). The Straits Times. p. 8. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 7 July 2024. สืบค้นเมื่อ 7 July 2024.
- ↑ "Conclusion of Police's Investigations into the White Elephants Placards". Singapore Police Force. 6 October 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 June 2007. สืบค้นเมื่อ 26 September 2019.
- ↑ Ng, Julia (6 October 2005). "Stern Police Warning for Offender Who Planted "White Elephants" at Buangkok MRT". Channel NewsAsia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 October 2007. สืบค้นเมื่อ 4 April 2024.
- ↑ Chua, Val (7 October 2005). "Elephant Probe Ends with Slap on the Wrist". Today. p. 2. สืบค้นเมื่อ 2 April 2024 – โดยทาง NewspaperSG.
- ↑ 19.0 19.1 19.2 "Teens' White Elephant T-Shirt Venture Gets Police Attention". Today. 14 January 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 January 2006.
- ↑ 20.0 20.1 Koo, Edwin; Tan, Theresa (16 January 2006). "All Aboard at 'White Elephant' Station" (PDF). The Straits Times. p. 4. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024 – โดยทาง Nexis Uni.
- ↑ Ng, Julia (21 January 2006). "Police Overreacted to White Elephant T-Shirt Incident: DPM Wong". Channel NewsAsia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 September 2007.
- ↑ "Buangkok NEL Station Commences Revenue Service Amid Great Fanfare". SBS Transit. 15 January 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 August 2019. สืบค้นเมื่อ 29 August 2019.
- ↑ Goh, Chin Lian (24 January 2006). "Poor Buangkok MRT Ridership Since Opening". The Straits Times. p. H4.
- ↑ Fong, Samantha; Huang, Esther; Wong, Cheric (23 February 2006). "Aiyoh, So Creepy at Night". The New Paper. p. 6.
บรรณานุกรม
[แก้]- Leong, Chan Teik (2003). Getting there: The story of the North East Line. Singapore: Land Transport Authority. ISBN 981-04-5886-X. OCLC 53383062.
- Tan, Su Yen (2003). Art in Transit: North East Line MRT. Singapore: Land Transport Authority. ISBN 981-04-7384-2. OCLC 52771106.