ราชรัฐเชาม์บวร์ค-ลิพเพอ
เคาน์ตี (ราชรัฐ) เชาม์บวร์ค-ลิพเพอ Grafschaft (Fürstentum) Schaumburg-Lippe (เยอรมัน) | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1647–ค.ศ. 1918 | |||||||||
เพลงชาติ: "Heil unserm Fürsten, heil" | |||||||||
![]() เชาม์บวร์ค-ลิพเพอภายในจักรวรรดิเยอรมัน | |||||||||
![]() | |||||||||
สถานะ |
| ||||||||
เมืองหลวง | บือคเคอบวร์ค | ||||||||
เจ้าชาย | |||||||||
• ค.ศ. 1807–1860 | เกออร์ค วิลเฮ็ล์ม | ||||||||
• ค.ศ. 1911–1918 | อดอล์ฟที่ 2 | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุโรปยุคใหม่ตอนต้น | ||||||||
• แยกจากเชาม์บวร์ค | ค.ศ. 1647 | ||||||||
• สืบทอดลิพเพอ-อัลแฟร์ดิสเซน | ค.ศ. 1777 | ||||||||
• ยกฐานะขึ้นเป็นราชรัฐ | ค.ศ. 1807 | ||||||||
ค.ศ. 1918 | |||||||||
• รวมเข้ากับซัคเซินตอนล่าง | ค.ศ. 1946 | ||||||||
ประชากร | |||||||||
• ค.ศ. 1861 | 29,000[1] | ||||||||
|
เชาม์บวร์ค-ลิพเพอ หรือ ลิพเพอ-เชาม์บวร์ค ก่อตั้งขึ้นเป็นเคาน์ตีในปี ค.ศ. 1647 กลายเป็นรัฐในฐานะราชรัฐในปี ค.ศ. 1807 และกลายเป็นเสรีรัฐในปี ค.ศ. 1918 จนกระทั่งปี ค.ศ. 1946 โดยเป็นรัฐขนาดเล็กในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันเป็นรัฐนีเดอร์ซัคเซิน เมืองหลวงคือ บือคเคอบวร์ค มีพื้นที่ 340 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรกว่า 40,000 คน
ประวัติศาสตร์
[แก้]เชาม์บวร์ค-ลิพเพอ ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นเคาน์ตีในปี ค.ศ. 1647 จากการแบ่งดินแดนของ เคาน์ตีเชาม์บวร์ค โดยสนธิสัญญาระหว่าง ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์-ลือเนอบวร์ค, แลนด์เกรฟแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล และ เคานต์แห่งลิพเพอ การแบ่งดินแดนเกิดขึ้นเนื่องจาก เคานต์อ็อทโทที่ 5 แห่งฮ็อลชไตน์-เชาม์บวร์ค-ลิพเพอ สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1640 โดยไม่มีทายาทชาย ในช่วงแรก เชาม์บวร์ค-ลิพเพอ มีสถานะที่ไม่มั่นคงนัก เนื่องจากต้องใช้สถาบันและสิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกับ เคาน์ตีเชาม์บวร์ค (ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของเฮ็สเซิน-คัสเซิล) รวมถึงสภาผู้แทนและเหมือง บือเคแบร์ค ที่ให้ผลผลิตสูง นอกจากนี้ แลนด์เกรฟแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล ยังคงรักษาสิทธิทางศักดินาบางประการเหนือดินแดนนี้ สถานการณ์ของเชาม์บวร์ค-ลิพเพอยิ่งซับซ้อนขึ้น เนื่องจากนโยบายที่แข็งกร้าวของผู้ปกครอง เคานต์ฟรีดริช คริสทีอัน เพื่อตอบโต้ความเสี่ยงดังกล่าว เคานต์วิลเฮ็ล์ม (ผู้ครองรัฐระหว่างปี ค.ศ. 1748–1777) ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของฟรีดริช คริสทีอัน ได้รักษากองทัพประจำการที่มีทหารมากถึง 1,000 นาย ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากสำหรับรัฐขนาดเล็ก เมื่อวิลเฮล์มสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1777 ราชวงศ์รองของตระกูล เชาม์บวร์ค-ลิพเพอ-อัลแฟร์ดิสเซนได้สืบทอดเคาน์ตีแห่งนี้ ส่งผลให้ เชาม์บวร์ค-ลิพเพอ และ ลิพเพอ-อัลแฟร์ดิสเซน กลับมารวมกันอีกครั้ง

เชาม์บวร์ค-ลิพเพอเป็นเคาน์ตีจนถึงปี ค.ศ. 1807 ก่อนจะได้รับการยกระดับเป็นราชรัฐตั้งแต่ปี ค.ศ. 1871 เชาม์บวร์ค-ลิพเพอเป็นรัฐหนึ่งในจักรวรรดิเยอรมันและเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยที่สุดในจักรวรรดิเยอรมันในปีค.ศ. 1913[2] เมืองหลวงของรัฐคือ บือคเคอบวร์ค ในขณะที่ ชตัทฮาเกน เป็นเมืองใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ภายใต้รัฐธรรมนูญปี ค.ศ. 1868 มีสภานิติบัญญัติที่ประกอบด้วยสมาชิก 15 คน โดย 10 คน มาจากการเลือกตั้งในเมืองและเขตชนบท, 1 คน เป็นตัวแทนของขุนนาง, 1 คน เป็นตัวแทนของนักบวช, 1 คน เป็นตัวแทนของกลุ่มนักวิชาการ และ 2 คน ถูกแต่งตั้งโดยเจ้าผู้ครองรัฐ เชาม์บวร์ค-ลิพเพอมีผู้แทน 1 คน ในบุนเดิสราทและ 1 คน ในไรชส์ทาค[3]
รัฐเชาม์บวร์ค-ลิพเพอ ดำรงอยู่จนถึง ค.ศ. 1918 เมื่อการปกครองแบบกษัตริย์ในเยอรมนีสิ้นสุดลง และรัฐถูกเปลี่ยนเป็นเสรีรัฐชอมบวร์ก-ลิพเพอ ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918 โดยเจ้าชายอดอล์ฟที่ 2 เป็นหนึ่งในกษัตริย์เยอรมันพระองค์สุดท้ายที่สละราชบัลลังก์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ A Treatise on Modern Geography, in which are Presented, Under Distinct Heads, the Natural Features, Productions, Zoology, and History of the Various Countries Throughout the World. Dublin: Congregation of the Christian Brothers. 1861. p. 121.
- ↑ Howland, A.C. (1913-03). "The Catholic Encyclopedia. Vols. XIII (pp. xv, 800) and XIV (pp. xv, 800). Price, $6.00 each. New York: Robert Appleton Company, 1912". The ANNALS of the American Academy of Political and Social Science. 46 (1): 206–208. doi:10.1177/000271621304600140. ISSN 0002-7162.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "Chisholm, Hugh, (22 Feb. 1866–29 Sept. 1924), Editor of the Encyclopædia Britannica (10th, 11th and 12th editions)", Who Was Who, Oxford University Press, 2007-12-01, สืบค้นเมื่อ 2025-03-09