มิก้า ชูนวลศรี
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | มิก้า ชูนวลศรี | ||
วันเกิด | 26 มีนาคม ค.ศ. 1989 | ||
สถานที่เกิด |
เมืองบริดเจนด์, เทศมณฑลมิดกลามอร์แกน เวลส์, สหราชอาณาจักร | ||
ส่วนสูง | 1.78 m (5 ft 10 in) | ||
ตำแหน่ง | กองหลัง, กองกลาง | ||
สโมสรเยาวชน | |||
2005–2007 | คาร์ดิฟฟ์ ซิตี | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2007–2008 | เบรนทิเรียน แอธเลติก | 22 | (3) |
2008 | นีธ แอธเลติก | 5 | (0) |
2008–2009 | อะฟาน ลิโด | 8 | (1) |
2009–2010 | เมืองทองฯ ยูไนเต็ด | 6 | (0) |
2010 | สุวรรณภูมิ-ศุลกากร | 23 | (2) |
2010–2011 | บีอีซี เทโรศาสน | 24 | (0) |
2012 | บางกอก เอฟซี | 29 | (1) |
2013–2014 | สุพรรณบุรี เอฟซี | 29 | (1) |
2014–2022 | แบงค็อกยูไนเต็ด | 176 | (13) |
2023–2024 | ลำพูน วอร์ริเออร์ | 26 | (1) |
รวม | 328 | (20) | |
ทีมชาติ‡ | |||
2005–2006 | เวลส์ U-17 | 3 | (0) |
2015–2019 | ไทย | 7 | (0) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2024 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 9 กันยายน 2019 (UTC) |
มิก้า ชูนวลศรี (อังกฤษ: Mika Chunuonsee) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวไทยเชื้อสายเวลส์ และเล่นในตำแหน่งกองหลัง โดยมิก้าเป็นผู้เล่นชาวไทยคนแรกที่ได้เล่นในเวลช์พรีเมียร์ลีก เขาเล่นให้กับลำพูน วอร์ริเออร์ เป็นสโมสรสุดท้าย
ประวัติ
[แก้]มิก้า ชูนวลศรี เกิดวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2532 ที่เมืองบริดเจนด์, เวลส์, สหราชอาณาจักร [1] มีพ่อชื่อ ชรินทร์ ชูนวลศรี เป็นอดีตนักฟุตบอลของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีแม่ชื่อเอเรียต เมื่ออายุได้ 1 ขวบพ่อของเขาได้พามาอยู่ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนถึงอายุ 10 ขวบ จึงกลับไปที่เวลส์อีกครั้งหนึ่ง มิก้าเคยศึกษาที่ University of Glamorgan ในเซาธ์เวลส์ แต่ย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทยขณะเรียนได้ 2 ปี ด้านชีวิตส่วนตัว มิก้าสมรสกับเทย่า โรเจอร์ส นักแสดงและนางแบบ ชาวไทยเชื้อสายอเมริกันเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2562[2]
ปัจจุบันมีบุตร-ธิดาด้วยกัน 2 คนคือ มิลา ชูนวลศรี ชื่อเล่น มิลา เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 [3]และ เจเดน ชูนวลศรี ชื่อเล่น เจเดน เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2565[4]
ในปี พ.ศ. 2566 มิก้า ได้เรียนจบหลักสูตรผู้ฝึกสอนระดับ “ยูฟ่า เอ ไลเซนส์” (Uefa A Licence) ซึ่งเป็นนักเตะไทยคนแรกที่จบหลักสูตรนี้ ทำให้เขาสามารถคุมทีมชาติและทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้ทุกแห่ง[5]
การเล่นฟุตบอล
[แก้]มิก้าเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เมื่อย้ายจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปอยู่ที่เวลส์โดยเล่นอยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี ในปี 2005 และอยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรนาน 2 ปี ก่อนจะถูกคาร์ดิฟฟ์ซิตี ปล่อยตัวออกจากทีมชุดเยาวชนในเดือนสิงหาคม ปี 2007
เบรนทิเรียน แอธเลติก
[แก้]หลังถูกคาร์ดิฟฟ์ซิตีปล่อยตัว มิก้าก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีม เบรนทิเรียน แอธเลติก ในระดับเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2007–2008 โดยลงเล่นเป็นกองกลาง และสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 5 ในลีก
นีธ แอธเลติก และ อะฟาน ลิโด
[แก้]ฤดูกาลต่อมา เดือนกรกฎาคม ปี 2008 มิก้า ย้ายไปอยู่กับสโมสรนีธ แอธเลติก ในระดับเวลช์พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศเวลส์ โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของแอนดี ดายเออร์ ในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่ในเดือนกันยายน 2008 เขาจะย้ายมาเล่นให้กับสโมสรอะฟาน ลิโด ทีมในเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 [6] โดยมิก้า ยิงประตูแรกให้อะฟาน ลิโด ได้เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2009 ในเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2008–2009 นัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสรฟุตบอลทอน เพนทรี ไปได้ 2–0 ที่สนามมาร์สตัน สเตเดียม [7] หลังจบลีกเวลส์ ฤดูกาล 2008–2009 มิก้าได้ย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทยกับพ่อ
เมืองทองฯ ยูไนเต็ด
[แก้]หลังย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทย ในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2009 มิก้าได้ติดต่อขอทดสอบฝีเท้ากับสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และผลงานเป็นที่น่าพอใจจึงได้เซ็นสัญญาย้ายเข้ามาร่วมทีม ในช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก 2009[8] โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของอรรถพล บุษปาคม และลงสนามให้เมืองทองฯ นัดแรกวันที่ 26 กรกฎาคม 2009 ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกนัดที่ออกไปแพ้สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ 1–0 ที่สนามแพตสเตเดียม ซึ่งการแข่งขันนัดดังกล่าวถือเป็นการลงเล่นในลีกอาชีพของไทยเป็นครั้งแรกของเขาอีกด้วย
โดยมิก้าที่ย้ายเข้ามาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ และได้ลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีกไปเพียงแค่ 6 นัด (ลงเป็นตัวจริง 1 นัด และเป็นตัวสำรอง 5 นัด) โดยเมื่อจบฤดูกาลทีมสามารถคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของสโมสร
สุวรรณภูมิ ศุลกากร
[แก้]หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2010 เริ่มแข่งขันไปได้ไม่นาน วันที่ 9 เมษายน ปี 2010 มิก้า ชูนวลศรี ได้ย้ายจากเมืองทองฯ ยูไนเต็ด มาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด ในไทยลีกดิวิชั่น 1 ที่มี ฌูแซ การ์ลูส ฟีร์ไรรา โค้ชชาวบราซิลเป็นกุนซืออยู่ในขณะนั้น แบบไม่มีค่าตัว และได้เบอร์เสื้อหมายเลข 10 [9] หลังจากย้ายมาร่วมทีมได้เพียงแค่ 10 วัน โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่น สโมสรก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นประภาส ฉ่ำรัศมี [10]
มิก้า ได้รับโอกาสลงสนามให้สโมสรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 เมษายน ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ที่เปิดบ้านแพ้ให้กับสมาคมกีฬาไทยฮอนด้า 0–1 ที่สนามกีฬาสโมสรศุลกากร (ลาดกระบัง 54) และยิงประตูแรกในลีกดิวิชั่น 1 ได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ในนัดที่เปิดบ้านเฉือนชนะสโมสรฟุตบอลอาร์แบค 4–3 โดยประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกที่มิก้า ยิงได้ในลีกของประเทศไทย และมายิงในลีกได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน ในนัดที่ถล่มสโมสรสโมสรฟุตบอลนราธิวาสไปถึง 7–0 ที่สนามกีฬาสโมสรศุลกากร [11]
การลงเล่นในดิวิชั่น 1 เขาสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้สโมสรมีลุ้นเลื่อนชั้น และคว้าอันดับ 7 ได้เมื่อจบฤดูกาล โดยมิก้า ลงสนามในฤดูกาลนี้ 24 นัด (ในลีกดิวิชั่น 1 23 นัด, เอฟเอ คัพ 1 นัด) ยิงในลีกดิวิชั่น 1 ได้ 2 ประตู
บีอีซี เทโรศาสน
[แก้]แม้มิก้าจะพาทีมศุลกากรเลื่อนชั้นไม่สำเร็จ แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่นในระดับดิวิชั่น 1 ทำให้หลังจบฤดูกาล 2010 สโมสรบีอีซี เทโรศาสน เซ็นสัญญาคว้าตัวมิก้า ชูนวลศรี ไปร่วมทีมในเดือนตุลาคม โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของปีเตอร์ บัตเลอร์ โค้ชชาวอังกฤษ และได้รับเสื้อหมายเลข 16
มิก้า ชูนวลศรี ลงสนามนัดแรกให้บีอีซี เทโรศาสน ด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2011 นัดที่บุกไปชนะสโมสรทีทีเอ็ม-เอฟซี พิจิตร 2–1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ [12]
ในฤดูกาล 2011นี้ มิก้าได้เปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งกองหลัง (แบ็คขวาและเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) โดยเป็นผู้เล่นตัวหลักและลงสนามอย่างต่อเนื่อง จากนั้นในเดือนมิถุนายน 2011 สโมสรได้เปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นพยงค์ ขุนเณร ซึ่งมิก้า ก็ยังรักษาตำแหน่งตัวจริงในทีมไว้ได้เช่นเดิม
วันที่ 3 ธันวาคม มิก้า ได้รับบาดเจ็บหนักที่เอ็นหัวเข่าจากการถูกประวีณวัช บุญยงค์เข้าสกัด ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่พบกับสโมสรบางกอกกล๊าส ที่ลีโอสเตเดียม[13] โดยต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวจนจบฤดูกาล
มิก้า ชูนวลศรี ลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ 24 นัด และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 7
บางกอก เอฟซี
[แก้]เดือนมีนาคม ปี 2012 มิก้า ชูนวลศรี ย้ายมาเล่นในระดับดิวิชั่น 1 อีกครั้ง กับสโมสรบางกอก เอฟซี ที่มีทองสุข สัมปหังสิต เป็นผู้ฝึกสอนอยู่ในขณะนั้น โดยได้รับเสื้อหมายเลข 16 หลังจากย้ายมาร่วมทีม มิก้า ซึ่งยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับตั้งแต่สมัยเล่นให้บีอีซี เทโรศาสน ไม่สามารถลงช่วยทีมในช่วงแรกได้ โดย มิก้า ได้ลงสนามในดิวิชั่น 1 ให้บางกอก เอฟซี เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 7 เมษายน ปี 2012 ในนัดที่เสมอกับสโมสรสงขลา เอฟซี ที่สนามศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) ไป 1–1 โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาในครึ่งหลัง [14]
หลังหายจากอาการบาดเจ็บ มิก้า เป็นผู้เล่นคนสำคัญในตำแหน่งกองหลัง และยิงประตูแรกให้บางกอก เอฟซี ได้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ที่เปิดบ้านแพ้ให้กับสโมสรนครราชสีมา เอฟซี 1–2
ถึงแม้เขาจะเป็นผู้เล่นตัวหลักแต่ผลงานของทีมในครึ่งฤดูกาลแรกกลับไม่ค่อยดีนัก โดยตกรอบ 64 ทีมสุดท้ายในถ้วยโตโยต้า ลีกคัพ 2012 ส่วนผลงานในลีกชนะเพียงแค่ 5 นัด จากการแข่งขัน 15 นัด ทำให้ทองสุข สัมปหังสิต ลาออกจากการเป็นผู้ฝึกสอน [15] และสโมสรได้แต่งตั้งให้เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองเข้ามาทำหน้าที่แทน ในครึ่งฤดูกาลหลัง แต่ก็ทำได้เพียงแค่จบฤดูกาลด้วยอันดับ 10 โดยมิก้า ชูนวลศรี ลงสนามในลีกดิวิชั่น 1 ฤดูกาลนี้ 29 นัด ยิงในลีก 1 ประตู
สุพรรณบุรี เอฟซี
[แก้]หลังจบฤดูกาล 2012 มิก้า ชูนวลศรี ได้รับความสนใจจากทีมระดับไทยพรีเมียร์ลีกหลายทีม โดยในเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ได้ซื้อตัวมิก้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 2 ล้านบาท ทำให้มิก้าได้เล่นในลีกสูงสุดอีกครั้งในไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ได้รับเบอร์เสื้อหมายเลข 16 และลงเล่นภายใต้การคุมทีมของพยงค์ ขุนเณร โดยลงสนามให้สุพรรณบุรี เอฟซี นัดแรกเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 2013 ในไทยพรีเมียร์ลีก ที่สุพรรณบุรี เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1–1 ที่สนามนิวไอโมบายสเตเดียม
ในช่วงแรกมิก้าเป็นผู้เล่นตัวจริงของสโมสรด้วยตำแหน่งแบ็คขวา และลงสนามอย่างต่อเนื่อง โดยเขาช่วยให้สโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการไม้แพ้ทีมใดในลีกถึง 7 นัดติดต่อกัน โดยมิก้า ชูนวลศรี ทำประตูในลีกให้สุพรรณบุรี เอฟซี ได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2013 จากการโหม่งลูกเตะมุม ทำให้ทีมบุกมาขึ้นนำสโมสรราชบุรี-มิตรผล เอฟซี 1–0 ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ 1–1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี[16]
แต่หลังจากนั้นเขากลับประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ ที่เรื้อรังมากกว่า 2 เดือน ทำให้ไม่ได้ลงสนามมากนักในช่วงหลัง [17] และสูญเสียตำแหน่งตัวจริงในทีมให้กับ สุพจน์ วงษ์หอย ในเวลาต่อมา
มิก้า ชูนวลศรีลงสนามให้สุพรรณบุรีในฤดูกาล 2013 ทั้งหมด 18 นัด (ในไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด ลีกคัพ 1 นัด) และยิงในลีกได้ 1 ประตู โดยสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 อย่างเหนือความคาดหมาย
ในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 สโมสรเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็น อเล็กซานเดอร์ มาโน โพลกิ้ง โค้ชชาวเยอรมัน-บราซิล และมิก้า ที่หายจากอาการบาดเจ็บก็กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง โดยลงเล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันนัดแรกของฤดูกาล ที่แพ้ในบ้านต่อสโมสรราชบุรี-มิตรผล เอฟซี ไป 1–2 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์[18]
มิก้า กลับมาเป็นตัวจริงของทีมอีกครั้งในยุคของ มาโน โพลกิ้ง แต่ผลงานในลีกของทีมกลับไม่ดีเท่าที่ควร ประกอบกับทีมตกรอบโตโยต้า ลีกคัพ 2014 ตั้งแต่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ทำให้ มาโน โพลกิ้ง ถูกปลดในเดือนพฤษภาคม [19]
จากนั้น อเดบาโย กาเดโบ ผู้อำนวยการชาวไนจีเรียของสโมสรได้แถลงว่า มิก้า ชูนวลศรี ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมในเลกที่ 2 และพร้อมปล่อยตัวออกจากทีมเพื่อให้ย้ายไปร่วมทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด[20] โดยมิก้าลงสนามในเลกแรกของไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 ให้สุพรรณบุรี 12 นัด
แบงค็อก ยูไนเต็ด
[แก้]ในเดือนมิถุนายน ช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 มิก้า ย้ายมาร่วมทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มี อเล็กซานเดอร์ มาโน โพลกิง ที่เคยร่วมงานกันที่สุพรรณบุรี เป็นกุนซือใหญ่ และได้เสื้อหมายเลข 16 [21] โดยมิก้า ชูนวลศรี ลงสนามให้แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ที่เอาชนะสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด 3–0 ที่สนามศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) และมาทำประตูแรกให้สโมสรได้ในนัดต่อมาที่ออกไปเยือนสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี วันที่ 29 มิถุนายน ที่สนามศรีนครลำดวน โดยมิก้าโหม่งลูกเตะมุมให้ทีมขึ้นนำ 1–0 ก่อนจะชนะไป 3–1
มิก้ามายิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้อีกหนึ่งประตูในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่บุกมาเอาชนะสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี 3–0 ที่สนามแพตสเตเดียม โดยในเลกที่ 2 นี้ มิก้าเป็นผู้เล่นตัวหลักที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยลงสนามให้แบงค็อก ยูไนเต็ด 18 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด เอฟเอคัพ 1 นัด) ยิงในลีกได้ 2 ประตู และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 8
ฤดูกาล 2015 มิก้า ยังคงเป็นผู้เล่นตัวจริงของสโมสร และยิงประตูในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 1 ประตู จากลูกฟรีคิกในนัดที่ชนะสุพรรณบุรี เอฟซี 4–3 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม และถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดที่พบกับทีมชาติไต้หวัน ในเดือนพฤศจิกายน โดยนับเป็นการถูกเรียกตัวติดทีมชาติในการแข่งขันอย่างเป็นทางการของฟีฟ่าเป็นครั้งแรก หลังจากเคยเล่นให้ทีมชาติไทยมาแล้วในรายการคิงส์คัพ
สถิติ
[แก้]สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | ทวีป | อื่นๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | ||
เบรนทิเรียน แอธเลติก | 2007-2008 | เวลส์ลีก ดิวิชั่น 1 | 22 | 3 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 22 | 3 |
นีธ แอธเลติก | 2008-2009 | เวลส์ พรีเมียร์ลีก | 5 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 5 | 0 |
อะฟาน ลิโด | 2008-2009 | เวลส์ลีก ดิวิชั่น 1 | 8 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 8 | 1 |
รวม (เวลส์) | 35 | 4 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 35 | 4 | ||
เมืองทอง ยูไนเต็ด | 2009 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 6 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 6 | 0 |
สุวรรณภูมิ-ศุลกากร | 2010 | ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | 23 | 2 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 24 | 2 |
บีอีซี เทโรศาสน | 2011 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 24 | 0 | 2 | 0 | 6 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 32 | 0 |
บางกอก เอฟซี | 2012 | ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | 29 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 29 | 1 |
สุพรรณบุรี เอฟซี | 2013 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 17 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 18 | 1 |
2014 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 12 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 12 | 0 | |
แบงค็อก ยูไนเต็ด | 2014 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 17 | 2 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 18 | 2 |
2015 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 24 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 25 | 1 | |
รวม (ไทย) | 152 | 7 | 5 | 0 | 7 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 164 | 7 | ||
รวมทั้งหมด | 187 | 11 |
ทีมชาติ
[แก้]เดือนมกราคม 2015 มิก้า ชูนวลศรี ได้มีโอกาสติดทีมชาติครั้งแรกในรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 จากเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย หลังจาก อดิศร พรหมรักษ์ ซึ่งเป็นตัววางได้รับอาการบาดเจ็บ
มิก้า ได้ลงสนามในคิงส์คัพนัดแรก เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2015 นัดที่พบกับทีมชาติฮอนดูรัส ชุด U-20 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา โดยลงเล่นเป็นตัวจริงและพาทีมชาติไทยชนะไป 3-1 [23] แต่เนื่องจากการแข่งขันรายการดังกล่าวไม่ได้รับการรับรองจากฟีฟ่า จึงยังไม่นับเป็นสถิติในการลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่
เดือนพฤศจิกายน 2015 มิก้า ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดที่พบกับทีมชาติไต้หวัน
เกียรติประวัติ
[แก้]รางวัลระดับทีมชาติ
[แก้]- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 ปี พ.ศ. 2558:รองชนะเลิศ
ผลงาน
[แก้]เมืองทอง ยูไนเต็ด
[แก้]- ไทยพรีเมียร์ลีก :แชมป์ (ฤดูกาล 2009)
ผลงานอื่น ๆ
[แก้]- มิวสิควิดีโอเพลง "โอ๊ โอ่ โอ โอ๊ โอ่" ของวงแทททูคัลเลอร์ featuring K'NAAN
- ถ่ายแบบ Sport ของ Mthai คู่กับแคทลียา อินทะชัย นักร้องวงจี-ทเวนตี้
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Playing squad, Welsh Premier League
- ↑ "ชื่นมื่น!"เทย่า-มิก้า" เข้าสู่ประตูวิวาห์ริมทะเลสุดโรแมนติก". web.archive.org. 2019-11-13. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-09-27.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ ""เทย่า โรเจอร์" คลอดลูกสาวแล้ว "น้องMILA" น่ารักน่าชังมาก". www.sanook.com/news.
- ↑ ""เทย่า โรเจอร์ส" คลอดลูกคนที่ 2 แล้ว พร้อมตั้งชื่อลูกสุดเก๋!". https://www.tnnthailand.com/news/trueinside/133794/. 2022-12-19.
{{cite web}}
: แหล่งข้อมูลอื่นใน
(help)|website=
- ↑ มิก้า สุดภูมิใจนักเตะไทยคนแรกจบหลักสูตรโค้ชระดับยูฟ่า เอ-ไลเซนส์
- ↑ neathfc.com: Mika leaves for the Lido
- ↑ Football: Depleted Ton Pentre go down fighting against Afan Lido
- ↑ walesonline.co.uk: Mika jetting off to start a new life in Thailand
- ↑ มิก้า ลาเมืองทอง.ซบนายด่านแล้ว
- ↑ มิก้า ย้ายซบ สุวรรณภูมิ ศุลกากร
- ↑ สุวรรณภูมิ ศุลกากร ถล่ม นราธิวาส 7-0
- ↑ "บีอีซี เทโรศาสน 2-1 เอฟซี พิจิตร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-11-24. สืบค้นเมื่อ 2021-09-27.
- ↑ มิก้า ไม่น่ารอดเตรียมขึ้นเขียงผ่าเอ็นเข่ารักษาอาการเจ็บ
- ↑ "กระทิงเหล็ก ยังไม่ฟื้นไล่เจ๊า สงขลา 1-1 เก็บทีมละแต้ม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-09. สืบค้นเมื่อ 2021-09-27.
- ↑ ข่าวฟุตบอลไทยลีก กระทิงเหล็กช็อกอ.ทองสุขไขก๊อกเก้าอี้กุนซือ
- ↑ "ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-1 สุพรรณบุรี เอฟซี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-06. สืบค้นเมื่อ 2015-01-08.
- ↑ มิก้าได้รับอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ
- ↑ "สุพรรณบุรี เอฟซี 1-2 ราชบุรี-มิตรผล เอฟซี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-09. สืบค้นเมื่อ 2015-01-08.
- ↑ มาโน่เสียใจโดนปลดทั้งที่ไม่แพ้บิ๊กทรี-เมินหวนงานทีมชาติ
- ↑ มิก้า ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมสุพรรณบุรีอีกต่อไป
- ↑ สุพรรณโละ"มิก้า"ซบตักบียู
- ↑ สถิติการแข่งขัน
- ↑ "ช้างศึก" เปิดสวย! ไล่ยำ "ฮอนดูรัส" ท้ายเกม 3-1
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2532
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชายชาวไทย
- ชาวเวลส์เชื้อสายไทย
- ชาวไทยเชื้อสายเวลส์
- กองหลังฟุตบอล
- บุคคลจากบริดเจนด์
- บุคคลจากอำเภอเกาะสมุย
- นักฟุตบอลจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ผู้เล่นในคัมรีพรีเมียร์
- ผู้เล่นในไทยลีก
- นักฟุตบอลทีมชาติไทย
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลคัสตอม ยูไนเต็ด
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลลำพูน วอร์ริเออร์
- ผู้เล่นในเอเชียนคัพ 2019
- นักฟุตบอลชายชาวไทยที่ค้าแข้งในต่างประเทศ