มหาโมคคัลลานโพชฌังคสุตตปาฐะ
มหาโมคคัลลานโพชฌังคสุตตปาฐะ เป็นบทสวดหนึ่งในบทสวดว่าด้วยโพชฌงค์ 7 หรือธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ หรือองค์ของผู้ตรัสรู้ มีเจ็ดอย่างคือ มีท้งหมดรวม 3 บทได้แก่ มหาโมคคัลลานโพชฌังคสุตตปาฐะ, มหากัสสปโพชฌังคสุตตปาฐะ, และมหาจุนทโพชฌังคสุตตปาฐะ ทั้งหมดรวมอยู่ในภาณวารหรือหนังสือบทสวดมนต์หลวง โดยมหาโมคคัลลานโพชฌังคสุตตปาฐะ นี้ว่าด้วยการเจ็บป่วยและการเยียวยาอาการเจ็บป่วยด้วยพระธรรมของพระมหาโมคคัลลานะ มีเนื้อหาเกือบคล้ายคลึงกับมหากัสสปโพชฌังคสุตตปาฐะ
ที่มา
[แก้]มหาโมคคัลลานโพชฌังคสุตตปาฐะ นำมาจากพระสูตรในพระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ชื่อพระสูตรว่า คิลานสูตร (ที่ 2) ว่าด้วย "พระมหาโมคคัลลานะหายอาพาธด้วยโพชฌงค์ 7" [1] บ้างก็เรียกว่า "ทุติยคิลานสูตร" หรือ "ทุติยคิลานสุตฺตํ" หมายถึงคิลานสูตรที่ 2 ใน สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค (เนื่องจากคิลานสูตรปรากฏอยู่หลายพระสูตรต่างที่มาและเหตุการณ์) [2] สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพระสูตรนี้ที่ณ ภูเขาคิชฌกูฏ ที่พำนักของพระมหาโมคคัลลานะ โดยในยามสายัณวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จจากวัดเวฬุวันมหาวิหาร กลันทกนิวาปสถาน ใกล้กรุงราชคฤห์ ไปเยี่ยมพระมหาโมคคัลลานะ เมื่อพระองค์ทรงทราบว่า พระอัครสาวกเบื้องซ้ายล้มป่วยลง ซึ่งในอรรถกถาอธิบายว่าเป็น "ความป่วยไข้ที่เกิดแต่ความเย็นอ่อน ๆ ซึ่งเกิดขึ้นด้วยการถูกต้องกับลมจากต้นไม้มีดอกเป็นพิษที่บ้านแล้ว ที่เชิงแห่งภูเขา พึงทราบว่าเป็นอาพาธของชนแม้ทั้ง 3 เหล่านี้" [3] ที่ว่า "เป็นอาพาธของชนแม้ทั้ง 3 เหล่านี้" หมายถึงอาการดังกล่าวเป็นอาการล้มป่วยของพระมหาโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะ และพระมหาจุนทะ อันเป็นที่มาของปาฐกว่าด้วยโพชฌงค์ 7 ทั้ง 3 ปาฐก
เนื้อหา
[แก้]เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต วิหรติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ –
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กลันทกนิวาปสถาน ใกล้พระนครราชคฤห์ ก็สมัยนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะอาพาธ ไม่สบาย เป็นไข้หนักอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ. ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่เร้นในเวลาเย็น เข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ ครั้นแล้ว ได้ตรัสถามท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า
‘‘กจฺจิ เต, โมคฺคลฺลาน, ขมนียํ กจฺจิ ยาปนียํ? กจฺจิ ทุกฺขา เวทนา ปฏิกฺกมนฺติ, โน อภิกฺกมนฺติ; ปฏิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน อภิกฺกโม’’ติ? ‘‘น เม, ภเนฺต, ขมนียํ, น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฏิกฺกโม’’ติฯ
ดูกรโมคคัลลานะ เธอพออดพอทนได้หรือ พอยังอัตภาพให้เป็นไปได้แลหรือทุกขเวทนาคลายลงไม่กำเริบขึ้นแลหรือ ความทุเลาย่อมปรากฏ ความกำเริบขึ้นไม่ปรากฏแลหรือ? ท่านพระมหาโมคคัลลานะกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์อดทนไม่ได้ ยังอัตภาพให้เป็นไปไม่ได้ ทุกขเวทนาของข้าพระองค์ย่อมกำเริบหนัก ยังไม่คลายลง ความกำเริบย่อมปรากฏความทุเลาไม่ปรากฏ.
สตฺติเม, โมคฺคลฺลาน, โพชฺฌงฺคา มยา สมฺมทกฺขาตา ภาวิตา พหุลีกตา อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม สตฺต?
ดูกรโมคคัลลานะ โพชฌงค์ 7 เหล่านี้ เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน โพชฌงค์ 7 เป็นไฉน?
สติสมฺโพชฺฌงฺโค โข, โมคฺคลฺลาน, มยา สมฺมทกฺขาโต ภาวิโต พหุลีกโต อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค โข, โมคฺคลฺลาน, มยา สมฺมทกฺขาโต ภาวิโต พหุลีกโต อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, วิริยสมฺโพชฺฌงฺโค โข, โมคฺคลฺลาน, มยา สมฺมทกฺขาโต ภาวิโต พหุลีกโต อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค โข, โมคฺคลฺลาน, มยา สมฺมทกฺขาโต ภาวิโต พหุลีกโต อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ปสฺสัทธิสมฺโพชฺฌงฺโค โข, โมคฺคลฺลาน, มยา สมฺมทกฺขาโต ภาวิโต พหุลีกโต อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค โข, โมคฺคลฺลาน, มยา สมฺมทกฺขาโต ภาวิโต พหุลีกโต อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค โข, โมคฺคลฺลาน, มยา สมฺมทกฺขาโต ภาวิโต พหุลีกโต อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ
ดูกรโมคคัลลานะ สติสัมโพชฌงค์ เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ธัมมวิจยะสัมโพชฌงค์ เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน วิริยะสัมโพชฌงค์ เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ปีติสัมโพชฌงค์ เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน สมาธิสัมโพชฌงค์ เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน อุเบกขาสัมโพชฌงค์ เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน
อิเม โข, โมคฺคลฺลาน, สตฺต โพชฺฌงฺคา มยา สมฺมทกฺขาตา ภาวิตา พหุลีกตา อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺตี’’ติฯ ‘‘ตคฺฆ , ภควา, โพชฺฌงฺคา; ตคฺฆ, สุคต, โพชฺฌงฺคา’’ติฯ
ดูกรโมคคัลลานะ โพชฌงค์ 7 เหล่านี้แล เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้เพื่อนิพพาน. ท่านพระโมคคัลลานะกราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค โพชฌงค์ดีนัก ข้าแต่พระสุคต โพชฌงค์ดีนัก
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิฯ วุฎฺฐหิ จายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตมฺหา อาพาธาฯ ตถาปหีโน จายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส โส อาพาโธ อโหสีติฯ ปญฺจมํฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว ท่านพระมหาโมคคัลลานะปลื้มใจ ชื่นชมภาษิตของพระผู้มีพระภาค ท่านพระมหาโมคคัลลานะหายจากอาพาธนั้นแล้ว และอาพาธนั้นอันท่านพระมหาโมคคัลลานะละได้แล้ว ด้วยประการฉะนี้แล. [4] [5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม 5 ภาค 1 หน้า 224
- ↑ พระไตรปิฎกฉบับฉัฏฐสังคายนา. สุตฺตปิฎก สํยุตฺตนิกาย มหาวคฺคปาฬิ โพชฺฌงฺคสํยุตฺตํ ทุติยคิลานสุตฺตํ
- ↑ สารัตถปกาสินี อรรถกถาสังยุตตนิกาย ในพระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค หน้า 224
- ↑ พระไตรปิฎกฉบับฉัฏฐสังคายนา. สุตฺตปิฎก สํยุตฺตนิกาย มหาวคฺคปาฬิ โพชฺฌงฺคสํยุตฺตํ ทุติยคิลานสุตฺตํ
- ↑ พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม 5 ภาค 1 หน้า 224 - 225
บรรณานุกรม
[แก้]- พระไตรปิฎกฉบับฉัฏฐสังคายนา. สุตฺตปิฎก สํยุตฺตนิกาย มหาวคฺคปาฬิ โพชฺฌงฺคสํยุตฺตํ ทุติยคิลานสุตฺตํ
- พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ทุติยคิลานสูตร เล่ม 5 ภาค 1
- สารัตถปกาสินี อรรถกถาสังยุตตนิกาย ในพระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค