ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข.
ก่อตั้ง | 2459 |
---|---|
ยุติ | 2558 |
ประเทศ | ไทย |
สมาพันธ์ | เอเอฟซี |
ระดับในพีระมิด | 2 (2459-2538) 3 (2539-2549) 4 (2550-2558) |
เลื่อนชั้นสู่ | ลีกดิวิชั่น 2 |
ตกชั้นสู่ | ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ค. |
ทีมชนะเลิศสุดท้าย | สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร (สมัยที่ 1) (2558) |
ชนะเลิศมากที่สุด | ทหารอากาศ (18 สมัย) |
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. (อังกฤษ: Khŏr Royal Cup) หรือชื่อเดิม ถ้วยน้อย (เปลี่ยนชื่อในปี พ.ศ. 2506) เป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานระดับชั้นที่ 2 ของประเทศไทย โดยจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี พ.ศ. 2459 พร้อมกับ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. หรือ ถ้วยใหญ่ โดย สโมสรทหารราชวัลลภ ได้ตำแหน่งชนะเลิศในรายการนี้เป็นสโมสรแรก[1]
ในปี 2506 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ทำการเปลี่ยนชื่อฟุตบอลถ้วยใหญ่และฟุตบอลถ้วยน้อยเป็น ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. และ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. และได้เพิ่ม ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ค. และ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง. เข้ามาตามแบบฟุตบอลลีกของประเทศอังกฤษในขณะนั้น
ต่อมาเมื่อมีการจัดการแข่งขัน ไทยแลนด์ลีก ในปี 2539 และ ไทยลีกดิวิชั่น 1 ในปี 2540 ทำให้ระดับชั้นของการแข่งขันถอยลงเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับกึ่งสมัครเล่น และเมื่อมีการปรับปรุงการแข่งขัน ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ในปี 2552 จึงได้มีการให้สิทธิ์สโมสรที่ได้ตำแหน่งชนะเลิศและรองชนะเลิศ เลื่อนชั้นเข้ามาทำการแข่งขัน โดยต้องมีความพร้อมที่จะเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว
ต่อมาในปี 2559 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีนโยบายในการปรับปรุงการแข่งขันระดับสโมสร จึงได้มีการยุบรวมฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ข., ค. และ ง. โดยรวมกันเป็น ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 3[2] ประกอบกับทางสมาคมฯ ได้โอน ถ้วยพระราชทานประเภท ก. ไปเป็นถ้วยสำหรับสโมสรชนะเลิศ ไทยลีก ถ้วยพระราชทานประเภท ข. เป็นถ้วยสำหรับสโมสรชนะเลิศ ดิวิชั่น 1 ถ้วยรางวัลพระราชทานประเภท ค. เป็นถ้วยสำหรับสโมสรชนะเลิศ ดิวิชั่น 2 และ ถ้วยรางวัลพระราชทานประเภท ง. เป็นถ้วยสำหรับแชมป์ ดิวิชั่น 3 ทำให้การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานสิ้นสุดลง
ประวัติ
[แก้]พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรครั้งแรกในประเทศ โดยมีชื่อการแข่งขันว่า การแข่งขันฟุตบอลสำหรับพระราชทานถ้วยทองของหลวง ขึ้นเมื่อปี 2458 โดยสโมสรที่เข้าร่วม ส่วนใหญ่เป็นสโมสรของทหาร ตำรวจ เสือป่า และข้าราชบริพาร[3]
ต่อมา เมื่อมีการสถาปนา คณะฟุตบอลแห่งสยาม เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2459 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลแด่สโมสรชนะเลิศ ก็คือ ถ้วยใหญ่ และ ถ้วยน้อย ให้แก่คณะฯ เพื่อจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสร ชิงถ้วยพระราชทานประจำปี ณ สนามเสือป่า โดยสโมสรชนะเลิศจะได้นำไปครอบครองเป็นเวลา 1 ปี โดยเริ่มต้นจัดขึ้น ในช่วงเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน[1]
เปลื่ยนชื่อการแข่งขัน
[แก้]ต่อมา ในปี 2505 ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ขอพระราชทานถ้วยพระราชทานเพิ่มเติม คือ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ค. และ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง. ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนชื่อ ฟุตบอลถ้วยใหญ่ และ ฟุตบอลถ้วยน้อย เป็น ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. และ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. โดยยึดหลักตามแบบ ฟุตบอลลีกของประเทศอังกฤษในขณะนั้น[3]
ปรับปรุงการแข่งขัน
[แก้]ต่อมาในปี 2539 เมื่อ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีการปรับปรุงการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสร ให้มีความเป็นมืออาชีพ จึงได้มีการแข่งขัน ไทยแลนด์ลีก และ ไทยลีกดิวิชั่น 1 ในปี 2540 ทำให้การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. ต้องลดระดับและความสำคัญ เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับกึ่งสมัครเล่น แต่ก็ได้มีการให้สิทธิ์สโมสรที่ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ มาเพลย์ออฟเลื่อนชั้นกับสโมสรที่จบอันดับรองสุดท้ายในตารางของ ดิวิชั่น 1 (2540-2541) ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะให้ทั้งสโมสรชนะเลิศ และ รองชนะเลิศของการแข่งขัน เลื่อนชั้นทั้งคู่[4]
ต่อมาเมื่อมีการจัดการแข่งขัน ดิวิชั่น 2 ในปี 2549 โดยมีการคัดเลือกสโมสรที่ไม่ได้จบด้วยตำแหน่งชนะเลิศ และ รองชนะเลิศของการแข่งขัน เข้ามาร่วมทำการแข่งขัน ก็ทำให้ระดับการแข่งขัน ลดขั้นลงไปอีก[5] เนื่องในเวลานั้น อยู่ในช่วงการปรับโครงสร้างของลีก
เมื่อมีการปรับปรุงการแข่งขัน ดิวิชั่น 2 ให้เป็นรูปแบบลีกภูมิภาค ทำให้มีการกำหนดการเลื่อนชั้นตกชั้น โดยให้ สโมสรชนะเลิศ และ รองชนะเลิศของการแข่งขัน ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ (ในบางปี จำนวนสโมสรที่เลื่อนชั้นอาจจะมีการเปลื่ยนแปลง) โดยต้องมีความพร้อมที่จะเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว
ในปี 2559 สมาคมฯ ได้ทำการยุบการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข., ค. และ ง. โดยรวมกันเป็น ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 3[2] ต่อมา ทางสมาคมฯ ได้โอน ถ้วยพระราชทานประเภท ก. ไปเป็นถ้วยสำหรับสโมสรชนะเลิศ ไทยลีก ถ้วยพระราชทานประเภท ข. เป็นถ้วยสำหรับสโมสรชนะเลิศ ดิวิชั่น 1 ถ้วยรางวัลพระราชทานประเภท ค. เป็นถ้วยสำหรับสโมสรชนะเลิศ ดิวิชั่น 2 และ ถ้วยรางวัลพระราชทานประเภท ง. เป็นถ้วยสำหรับแชมป์ ดิวิชั่น 3 ทำให้การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน สิ้นสุดลง
รายนามสโมสรชนะเลิศ
[แก้]รายนามทำเนียบสโมสรชนะเลิศการแข่งขัน ฟุตบอลถ้วยน้อย (2459-2504) และ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. (2505-2539) ในการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรระดับสองของประเทศ[6]
ฟุตบอลถ้วยน้อย (2459-2504)
[แก้]ครั้งที่ | ประจำปี | สโมสรชนะเลิศ |
---|---|---|
1 | 2459 | สโมสรทหารราชวัลลภ |
2 | 2460 | สโมสรกรมมหรสพ |
3 | 2461 | สโมสรกรมมหรสพ |
4 | 2462 | สโมสรกรมมหรสพ |
5 | 2463 | สโมสรโรงเรียนนายเรือ |
6 | 2464 | สโมสรมณฑลนครไชยศรี |
7 | 2465 | สโมสรกรมมหรสพ |
8 | 2466 | สโมสรกรมมหรสพ |
9 | 2467 | สโมสรกรมมหรสพ |
10 | 2468 | สโมสรหนังสือพิมพ์สยามราษฎร์ |
11 | 2469 | สโมสรหนังสือพิมพ์ศรีกรุง |
12 | 2470 | สโมสรกองเดินรถ |
13 | 2471 | สโมสรโรงเรียนกฎหมาย |
14 | 2472 | สโมสรไปรษณีย์ |
15 | 2473 | สโมสรอัสสัมชัญ |
ปี 2475 - 2490 ไม่มีการแข่งขัน | ||
16 | 2491 | สโมสรชายสด |
17 | 2492 | สโมสรทหารอากาศ |
18 | 2493 | สโมสรทหารอากาศ |
19 | 2494 | สโมสรทหารอากาศ |
20 | 2495 | สโมสรมุสลิม |
21 | 2496 | สโมสรตำรวจ |
22 | 2497 | สโมสรตำรวจ |
ปี 2498 ไม่มีการแข่งขัน | ||
23 | 2499 | สมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯ |
24 | 2500 | สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์ฯ |
25 | 2501 | สมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯ |
26 | 2502 | สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์ฯ |
27 | 2503 | เทศบาลนครกรุงเทพ |
28 | 2504 | สโมสรทหารอากาศ |
29 | 2505 | สโมสรทหารอากาศ |
30 | 2506 | สโมสรธนาคารกรุงเทพ |
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. (2505-2539)
[แก้]ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. (2540-2549)
[แก้]รายนามทำเนียบสโมสรชนะเลิศการแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. (2540-2549) ในการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรระดับสามของประเทศ[6]
ครั้งที่ | ประจำปี | สโมสรชนะเลิศ |
---|---|---|
64 | 2540 | สโมสรธนาคารทหารไทย |
65 | 2541 | สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค |
66 | 2542 | โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย |
67 | 2543 | สมาคมกีฬากรุงเก่า |
68 | 2544 | เทศบาลตำบลบางพระ |
69 | 2545 | โรงเรียนจ่าอากาศ |
70 | 2546 | สมาคมกีฬาไทยฮอนด้า |
71 | 2547/48[7] | สโมสรราชวิถี |
72 | 2549 | หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน |
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. (2550-2558)
[แก้]รายนามทำเนียบสโมสรชนะเลิศการแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. (2550-2558) ในการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรระดับสี่ของประเทศ[6]
ครั้งที่ | ปี | สโมสรชนะเลิศ |
---|---|---|
73 | 2550/51 | สโมสรราชประชา |
74 | 2551 | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
75 | 2552 | หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน |
76 | 2553 | สมาคมพนักงานหลักทรัพย์โกลเบล็ก |
77 | 2554 | สมาคมกีฬาบางกอกกล๊าส |
78 | 2555 | สโมสรจังหวัดระยอง |
79 | 2556 | สโมสร เจ ดับบลิว กรุ๊ป |
80 | 2557 | กรมสวัสดิการทหารบก |
81 | 2558 | สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 http://www.vajiravudh.ac.th/OVtoVC/OVtoVC_85.htm เก็บถาวร 2018-10-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ๘๕. คณะฟุตบอลแห่งชาติสยาม (๕) - วชิราวุธวิทยาลัย
- ↑ 2.0 2.1 https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/41244 “ทนายอ๊อด” เตรียมยื่นร้อง กกท. หลังส.บอลจัด ดี3 - PPTV 36
- ↑ 3.0 3.1 http://www.siamfootball.com/index.php/2017-07-18-12-23-04/35-2017-07-19-13-29-52 บทความ เรื่อง "ถ้วยใหญ่แห่งสยามประเทศ" - SiamFootball
- ↑ http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=121026.0;wap2 เก็บถาวร 2021-04-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน มาดูคู่ชิงถ้วย ข ตั้งปต่ปี 2539-ปัจจุบัน - ไทยแลนด์สู้ๆ
- ↑ http://www.bccfootballclub.com/about_us/index.php เก็บถาวร 2017-12-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ประวัติสโมสรฟุตบอลกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
- ↑ 6.0 6.1 6.2 http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=64633.10;wap2 เก็บถาวร 2021-09-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ทำเนียบแชมป์ถ้วยพระราชทานประเภท ข - ไทยแลนด์สู้ๆ
- ↑ https://web.archive.org/web/20070429070822/http://sport.awd-rta.com/th/index.php?option=com_content&task=view&id=12&Itemid=43 สโมสรกรมสวัสดิการทหารบก (ถ้วย ข ประจำปี 2547-2548)