พระยาสุมนเทวราช
เจ้าสุมนเทวราช | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระยาน่าน | |||||
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ | |||||
ราชาภิเษก | 12 มิถุนายน พ.ศ. 2354 | ||||
ครองราชย์ | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2354 - 26 มิถุนายน พ.ศ. 2368 | ||||
รัชกาล | 14 ปี 4 เดือน 13 วัน | ||||
พระอิสริยยศ | พระยาประเทศราช | ||||
ก่อนหน้า | สมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ | ||||
ถัดไป | พระเจ้ามหายศ | ||||
ประสูติ | พ.ศ. 2294 | ||||
พิราลัย | 26 มิถุนายน พ.ศ. 2368 (74 ปี) กรุงเทพพระมหานคร อาณาจักรรัตนโกสินทร์ | ||||
ถวายเพลิงพระศพ | 16 สิงหาคม พ.ศ. 2368 ณ พระเมรุชั่วคราว วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพ | ||||
พระมเหสี | แม่เจ้าพิมพาอรรคราชเทวี | ||||
พระชายา | 7 องค์ | ||||
พระราชบุตร | 10 พระองค์ | ||||
| |||||
ราชสกุล | สมณะช้างเผือก [1] | ||||
ราชวงศ์ | ติ๋นมหาวงศ์ | ||||
พระบิดา | พระเจ้าอริยวงษ์ | ||||
พระมารดา | แม่เจ้าเมืองรามราชเทวี[2] |
เจ้าสุมนเทวราช[3] หรือ เจ้าหลวงสุมนเทวราช [4]ทรงเป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 และองค์ที่ 8 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ทรงเป็นราชโอรสในเจ้าอริยวงษ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 52 และทรงเป็นพระนัดดา(หลานปู่)ในพระเจ้าหลวงติ๋นมหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 51 และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ทรงครองเมืองน่าน ระหว่างปี พ.ศ. 2354 - พ.ศ. 2368
พระประวัติ
[แก้]เจ้าสุมนเทวราช มีพระนามเดิมว่า เจ้าสมณะ[5] ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2294 ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ 3 ในเจ้าอริยวงษ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 52 ประสูติแต่แม่เจ้าเมืองรามราชเทวี (ชายาที่ 2) และทรงเป็นพระนัดดา(หลานปู่)ในพระเจ้าหลวงติ๋นมหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 51 และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ เจ้าสุมนเทวราชทรงมีพระเชษฐาร่วมพระมารดา 2 องค์ ดังนี้
- เจ้าขวา ภายหลังเป็น เจ้าพระยาจางวางขวา เมืองน่าน
- เจ้าซ้าย ภายหลังเป็น เจ้าพระยาจางวางซ้าย เมืองน่าน
- เจ้าสมณะ ภายหลังเป็น พระเจ้าสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58
พระอิสริยยศ และบรรดาศักดิ์
[แก้]- พระยาอุปราชสมณะ พระยาอุปราชเมืองน่าน (พ.ศ. 2331 - พ.ศ. 2353)
- พระยาสุมนเทวราช เจ้าพระยาน่าน (พ.ศ. 2353 - พ.ศ. 2368
(ใน พ.ศ. 2331 เจ้าอัตวรปัญโญ ได้ลงมาเข้าเฝ้าฯ เพื่อขอเป็นข้าขอบขัณฑสีมาในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และได้รับการสถาปนาเป็น “เจ้าฟ้าอัตวรปัญโญ” แล้วกลับให้ครองนครน่านต่อพร้อม กับสถาปนา เจ้าสุมนเทวราช ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของเจ้าฟ้าอัตวรปัญโญ เป็นเจ้าอุปราชหอหน้า (มีฐานะรอง จากเจ้าผู้ครองนคร)
เครื่องยศ
[แก้]เครื่องยศ ที่พระยาสุมนเทวราช ทรงได้รับพระราชทาน[6] ดังนี้ วันพุธ ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2354 หรือ (จุลศักราชได้ ๑๑๗๓ ตัวปีลวงเม็ดเดือน ๗ ลง ๖ ค่ำ) พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯพระราชทาน เครื่องยศ แก่พระยาสุมนเทวราช ดังนี้
- พานพระศรีคำ 1 ใบ
- จอกคำ 2 ใบ
- ผะอบยาสูบคำ 2 อัน
- ซองพลูคำ 1 อัน
- มีดด้ามคำ 1 อัน
- อุบนวดคำ 1 ใบ
- คนโทคำ 1 ลูก
- กะโถนคำ 1 ใบ
- แหวนธำมรงค์ราชลูกดีพลอยเพ็ชร ต้น 10 กลาง 10 2 วง
- พระกลดแดงดอกคำ 1 ใบ
- ปืนลองชนเครือคำ 1 กระบอก
- ปืนลองชนต้นเรียบ 2 กระบอก
- ปืนลองชนต้นกลม 3 บอก
- ผ้ายกไหมคำหลวงสังเวียน 1 ผืน
- ผ้านุ่งยกไหมคำ 4 ผืน
- ผ้าโพกริ้วทอง 1 ผืน
- เสื้อจีบเอวภู่ตราดอกคำ 1 ผืน
- แพรขาวผุดดอกคำ 1 ผืน
- มุ้งแพร 2 หลัง
- สโต๊กเงิน 2 ใบ
พระโอรส พระธิดา
[แก้]เจ้าสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 ทรงมีพระชายา 8 องค์ และพระโอรส/พระธิดา รวม 10 พระองค์ มีรายพระนามดังนี้
- พระชายาที่ 1 แม่เจ้าพิมพาอรรคราชเทวี
- - ไม่มีประสูติกาล
- พระชายาที่ 2 แม่เจ้ามาลาวีราชเทวี ประสูติพระโอรส 2 พระองค์ ดังนี้
- เจ้าอินทบุตร
- เจ้าอชิตวงษ์ ภายหลังได้เป็น พระเจ้าอชิตวงษ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 60
- พระชายาที่ 3 แม่เจ้าสุคันทาราชเทวี ประสูติพระโอรส 1 พระองค์ ดังนี้
- เจ้าบุญสาร
- พระชายาที่ 4 แม่เจ้าคำทิพย์เทวี ประสูติพระโอรส 2 พระองค์ ดังนี้
- เจ้าอนุรุธ
- เจ้าค่ายแก้ว
- พระชายาที่ 5 แม่เจ้าคำเฟือยเทวี
- - ไม่มีประสูติกาล
- พระชายาที่ 6 แม่เจ้าปวงพระเจ้าเทวี
- - ไม่มีประสูติกาล
- พระชายาที่ 7 แม่เจ้าคำปวนเทวี ประสูติพระโอรส/พระธิดา 3 พระองค์ ดังนี้
- เจ้าบุษรถ ภายหลังได้เป็น เจ้าเมืองแก่น
- เจ้าพัทธิยะ
- เจ้านางแปงเมือง
- พระชายาที่ 8 แม่เจ้าต่อมแก้วเทวี ประสูติพระโอรส/พระธิดา 2 พระองค์ ดังนี้
- เจ้านางขวดแก้ว
- เจ้าพุทธวงษ์ [7]
พระกรณียกิจ
[แก้]- ด้านศาสนา
- บูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุเขาน้อย (เขาแก้ว)
ปี พ.ศ. 2354 ก่อนที่เจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ จะเสด็จลงไปเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 นั้นได้มีพระบัญชาให้เจ้าสุมนเทวราช ผู้เป็นเจ้าอุปราชได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุเขาน้อย ภายหลังเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ ได้เสด็จถึงแก่พิราลัย และได้พระราชทานเพลิงพระศพ ณ กรุงเทพฯ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งเจ้าอุปราช (สุมณะ) ขึ้นครองนครน่านสืบต่อ พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุและพระวิหารวัดพระธาตุเขาน้อยจนแล้วเสร็จและสมโภชในปี พ.ศ. 2357 - บูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
เจ้าสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 ทรงโปรดให้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร และทำการสมโภชในปี พ.ศ. 2356 - สร้างพระวิหารหลวง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
ในปี พ.ศ. 2355 เจ้าสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 ทรงโปรดให้เหล่าข้าราชบริพารทำการก่อสร้างพระวิหารหลวง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร พระวิหารหลังดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างเป็นเวลา 7 ปี จึงแล้วเสร็จและทำการสมโภชในปี พ.ศ. 2361 - บูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารหลวง พระประธาน และถวายสิ่งต่างๆ ไว้ ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง
ในปี พ.ศ. 2363 เจ้าสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 ทรงโปรดให้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารหลวง และพระประธาน พร้อมกันนั้นได้สร้างสิ่งต่างๆ ไว้เป็นพุทธบูชา ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง เช่น ฉัตรไม้บุด้วยแผ่นทองแดง ประดับประดาด้วยลวดลายอันงดงามวิจิตรจำนวน 4 คัน ระฆังสำริด จำนวน 2 ใบ เพื่อใช้ตีในพิธีบูชาพระมหาชินธาตุเจ้า และข้าวัดจำนวน 3 คน - สถาปนาพระสังฆราช
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2364 เจ้าสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 ได้ทรงสถาปนาพระมหาเถระวัดพญาวัดนามว่า “ทิพฺพวํโส” ขึ้นเป็น “พระสังฆราชแห่งนครน่าน” - สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย วัดสถารส (เวียงเหนือ)
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2366 เจ้าสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 พร้อมกับพระนางพิมพาราชเทวี พระศรีอนุกัญญา พระราชบุตร พระราชนัดดา พร้อมด้วยเสนาอำมาตย์ข้าราชบริพารทั้งหลายร่วมกันสร้างพระพุทธรูปทองสำริด ประดิษฐาน ณ วัดสถารส (เวียงเหนือ) (ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ วัดสถารศ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน)
- บูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุเขาน้อย (เขาแก้ว)
- ด้านบ้านเมือง
- เมื่อปี พ.ศ. 2353 พระยาสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน ได้สนองพระเดชพระคุณเผยแพร่พระบารมีให้แผ่ไพศาลออกไปอีกครั้ง ด้วยการกรีฑาทัพเมืองน่านขี้นไปตีหัวเมืองไทลื้อต่างๆในสิบสองปันนา เช่น เมืองล้า เมืองพง เมืองเชียงแขง เมืองหลวงภูคา เป็นต้น และได้กวาดต้อนเชลยศึกเข้ามาไว้ในอาณาเขตเมืองนครน่านถึง 60,000 คนเศษ เมื่อเสร็จศึกสงครามแล้วจึงเสด็จลงไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ณ กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อนั้นก็ทรงยินดีโสมนัสเป็นอย่างมาก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของให้เหล่าแม่ทัพอํามาตย์มากมาย ดังในประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๑๐ บันทึกไว้ว่า .. “ในศักราชเดียวนี้ เดือน ๓ อาชญาเจ้าหลวงท่านก็กวาดเอาคนครัวเมืองล้า เมืองพง เชียงแขง เมืองหลวงภูคา ลงมาไว้เมืองน่าน มีคน ๖๐,๐๐๐ คนหั้นแล” .. (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๑๐ , ๒๔๖๑ : ๑๔๗)
- เมื่อปี พ.ศ. 2360 (ในรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ได้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ น้ำในแม่น้ำน่านไหลเข้าสู่ตัวเมืองน่านด้วยความแรงและเชี่ยว ได้พัดพากำแพงเมืองทางด้านทิศตะวันตกพังทลายลงทั้งแถบ บ้านเรือนพังทลายเกือบหมด วัดวาอารามในนครน่านหักพังเป็นอันมาก
- เมื่อปี พ.ศ. 2362 พระยาสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน จึงได้ย้ายเมืองไปอยู่บริเวณดงพระเนตรช้างซึ่งเป็นที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองน่าน (ปัจจุบัน) ทรงใช้เวลาในการก่อสร้างเพียง 6 เดือน จึงแล้วเสร็จ แล้วโปรดให้เรียกว่า "เวียงเหนือ" (ปัจจุบันอยู่ในเขตบ้านมหาโพธิ์ และบ้านสถารส อ.เมืองน่าน) ห่างจากเวียงใต้ (เมืองน่าน ปัจจุบัน) ประมาณ 2 กิโลเมตร เวียงเหนือ มีลักษณะของเมืองคือทอดไปตามลำน้ำน่าน อยู่ห่างจากแม่น้ำน่านประมาณ 800 เมตร มีคูเมืองล้อมรอบ ซึ่งปัจจุบันยังพบร่องรอยคูน้ำคันดินของพื้นที่หัวเวียงเหนืออยู่ ในปัจจุบัน คือ ถนนหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน
หัวเวียงเหนือ มีพื้นที่อาณาเขต ดังนี้
• ทิศใต้ จดกับ ทุ่งนาริน
• ทิศตะวันออก ทอดตัวยาวไปตามถนนสุมนเทวราช
• ทิศตะวันตก จดกับ มุมรั้วสนามกีฬา อบจ. น่าน
• ทิศเหนือ จดกับ ทุ่งควายเฒ่าข้าวสาร
• วัดสถารส สันนิษฐานว่าเป็นวัดหลวงกลางเวียงของหัวเวียงเหนือ ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวในหัวเวียงเหนือที่มีพระธาตุเจดีย์ จึงสันนิษฐานว่าเป็นวัดหลวงกลางเวียง
• ศูนย์กลางการปกครองของนครน่าน ที่ตั้งอยู่ที่เวียงเหนือสืบกันมาได้ 36 ปี จนถึงในรัชสมัยพระเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 62 จึงได้โปรดให้ย้ายศูนย์กลางการปกครองของนครน่านกลับลงมาอยู่ ณ เวียงนครน่าน (เดิม) หรือที่ตั้งของเมืองน่านในปัจจุบัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2400 เป็นต้นมา
- ด้านการถวายความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี
- เมื่อปี พ.ศ. 2359 พระยาสุมนเทวราช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 ได้นำช้างพลายเผือกเอก ลงมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี ณ กรุงเทพฯ ครั้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2359 (แรม ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลูนพศก) เสด็จขึ้นไปรับแลมีการแห่สมโภช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อขึ้นรวางเป็น ..."พระยาเสวตรคชลักษณ์ ประเสริฐศักดิสมบูรณ์ เกิดตระกูลสารสิบหมู่ เผือกผู้พาหนะนารถ อิศราราชธำรง บัณฑรพงษ์จตุรภักตร์ สุรารักษรังสรรค์ ผ่องผิวพรรณผุดผาด ศรีไกรลาศเลิศลบ เฉลิมพิภพอยุทธยา ขัณฑเสมามณฑล มิ่งมงคลเลิศฟ้า"... แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบำเหน็จรางวัลแก่ พระยาสุมนเทวราช พระยานครน่าน เป็นอันมาก แต่มิได้เลื่อนยศขึ้น เพราะเหตุที่ว่าเจ้าผู้ครองเมืองน่านในครั้งนั้น เป็นตระกูลเจ้ามาแต่ก่อน ใช้นามในพื้นเมืองว่า "เจ้าฟ้าเมืองน่าน" เหมือนอย่างเจ้าเมืองไทยใหญ่ทั้งปวง ไม่ใช่เป็นตระกูลซึ่งตั้งเป็นเจ้าขึ้นใหม่เหมือนเจ้าเจ็ดตน เมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองนครลำพูน [8]
สถานที่อันเนื่องมาจากพระนาม
[แก้]ราชตระกูล
[แก้]พงศาวลีของพระยาสุมนเทวราช | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ นามสกุลคนไทย (ต้นสกุล (ต้นวงศ์), ต้นราชสกุล)
- ↑ ราชวงศปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน (ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช) หน้า 110
- ↑ ราชวงศปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน (ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช), หน้า 147
- ↑ ราชวงศปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน (ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช), หน้า 149
- ↑ ราชวงศปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน (ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช), หน้า 147
- ↑ ราชวงศปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน (ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช), หน้า 184
- ↑ พงษาวดารนครเวียงน่าน
- ↑ พระราชพงษาวดาร-กรุงรัตนโกสินทร-รัชกาลที่-๒/๔๗-ได้พระยาเสวตรคชลักษณ์-ช้างเผือกเมืองน่าน
ดูเพิ่ม
[แก้]ก่อนหน้า | พระยาสุมนเทวราช | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ | เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 และองค์ที่ 8 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ (พ.ศ. 2353 - พ.ศ. 2368) |
พระเจ้ามหายศ |