พระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก)
พระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง ภูฆัง , โอภาสโก) | |
---|---|
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 11 มกราคม พ.ศ. 2456 (52 ปี) |
มรณภาพ | 18 ธันวาคม พ.ศ. 2508 |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | - พระธรรมวินัย - พระปริยัติธรรม (นักธรรมชั้นเอก) - พุทธาคม |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดโพธาราม ตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี |
อุปสมบท | พ.ศ. 2476 |
พรรษา | 32 พรรษา |
ตำแหน่ง | - อดีตเจ้าคณะตำบลบางงาม - อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธาราม |
พระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก) นิยมเรียกว่า “หลวงพ่อกอง วัดโพธาราม” หรือ "หลวงพ่อกอง วัดบ้านคอยเหนือ" เป็นพระเถราจารย์จังหวัดสุพรรณบุรี อดีตเจ้าคณะตำบลบางงาม เจ้าอาวาสวัดโพธาราม (บ้านคอยเหนือ) ตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
ประวัติ
[แก้]ชาติภูมิ
[แก้]ชื่อ กอง นามสกุล ภูฆัง ชาตะ วันอาทิตย์ ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2456 (แรม 1 ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู) ณ บ้านลำพันบอง[1] ตำบลลำพันบอง อำเภอเดิมบาง เมืองสุพรรณบุรี[2] (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลหนองโพธิ์ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี)
เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 8 คน ของนายขวัญ นางซิว นามสกุล ภูฆัง ครอบครัวชาวไทย เชื้อสายลาวครั่ง ประกอบอาชีพกสิกรรม[3]
วัยเยาว์ - วัยหนุ่ม
[แก้]วัยเยาว์ถึงวัยหนุ่ม ช่วยครอบครัวประกอบอาชีพด้วยความยากลำบาก ต้องอพยพย้ายที่ทำมาหากินบ่อยครั้ง เนื่องด้วยสาเหตุความแห้งแล้งกันดาร ต้องย้ายจากถิ่นฐานที่เกิดมาอยู่บ้านหนองโสน บ้านดอนยาว บ้านหนองแสลบ บ้านหนองนา สุดท้ายที่บ้านหินแลง ตำบลบ้านคอย อำเภอศรีประจันต์ (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์) จังหวัดสุพรรณบุรี[1]
อุปสมบท
[แก้]พ.ศ. 2476 บรรพชาและอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดราษฎรบำรุง[3] ตำบลบ้านคอย อำเภอศรีประจันต์ (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์) จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี
พระครูพิบูลศีลวัตร (ยา คงฺคสุวณฺโณ) เจ้าคณะหมวดโคกคราม เจ้าอาวาสวัดลาดหอย[4] อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการอ้วน ธมฺมกถิโก เจ้าอาวาสวัดสามทอง อำเภอท่าพี่เลี้ยง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์
เจ้าอธิการปุย ปุญฺญสิริ เจ้าคณะหมวดบางงาม เจ้าอาวาสวัดเกาะ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์[5]
ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า โอภาสโก [โอ-พา-สะ-โก]
อุปสมบทแล้วอยู่วัดจิกรากข่า จวนใกล้เข้าพรรษาชาวบ้านคอยจึงนิมนต์ให้มาอยู่วัดโพธาราม (บ้านคอยเหนือ) ตำบลบ้านคอย (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลบางงาม) อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งขณะนั้นมีหลวงตายวงเป็นพระภิกษุชราภาพเฝ้าวัดอยู่เพียงรูปเดียว โดยจำพรรษาอยู่วัดนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 เป็นต้นมา[1]
การศึกษา
[แก้]เนื่องจากบรรพบุรุษมีอาชีพกสิกรรม ชีวิตแต่เยาว์ของท่านส่วนมากคลุกคลีอยู่กับงานกลางไร่ นา ไม่มีโอกาสได้ศึกษาอักษรสมัย ประกอบกับการศึกษาสมัยนั้นส่วนมากต้องเรียนกับพระในวัด ไม่มีระบบการศึกษาภาคบังคับเยี่ยงปัจจุบันนี้ เยาวชนสมัยนั้นจึงสมัครใจอยู่บ้าน ช่วยผู้ปกครองประกอบอาชีพ ต่อเมื่อถึงคราวควรได้บวชตามประเพณีนิยม จึงจะมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียน ดังนั้นชีวิตของท่านจึงมาเริ่มต้นศึกษาอ่านออกเขียนได้เมื่อบรรพชาอุปสมบทแล้ว[3]
โดยเริ่มศึกษาวิชาความรู้ด้วยตนเอง อาศัยสอบถามจากผู้มีความรู้ และเป็นศิษย์ศึกษาจากพระอธิการอ้วน ธมฺมกถิโก (หลวงพ่ออ้วน วัดสามทอง) กับเจ้าอธิการปุย ปุญฺญสิริ (หลวงพ่อปุย วัดเกาะ) และยังศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก ตามลำดับ[5]
วัตรปฏิบัติ - ปฏิปทา
[แก้]วัตรปฏิบัติ และปฏิปทาของพระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก)[3][1] เป็นผู้มีใจกว้างขวาง โอบอ้อมอารี มีคุณธรรม มีเมตตา มีศีลาจารวัตรงดงาม ให้ความอบอุ่นร่มเย็นแก่ชาวบ้าน ให้การเยี่ยมเยียนทุกครอบครัวโดยทั่วถึงเป็นประจำสม่ำเสมอ ประชาชนทั้งใกล้และไกลมีความศรัทธาเลื่อมใสท่านเป็นอย่างมาก
วัดโพธารามสมัยท่านมาอยู่ใหม่ๆ มีสภาพเสมือนวัดร้าง พื้นที่กว้างขวาง เป็นป่าดง ลุ่ม ดอน มีแมกไม้นานาพันธุ์ เช่น มะซาง มะกัก มะกอก ประดู่ แดง มะค่า ปรู ตะเคียน มะขามใหญ่ มะขามป้อม จันทร์โอ จันทร์อิน แจง พิกุล สารภี ฯลฯ ส่วนสิ่งก่อสร้างมีเพียงวิหารร้างเก่าแก่ จำนวน 1 หลัง กุฏิทรงไทยเก่าๆ จำนวน 2 หลัง และศาลาการเปรียญ ขนาดเล็ก ยกพื้นสูง 2 ศอก สภาพผุพัง จำนวน 1 หลัง นอกนั้นไม่มีอะไรเลย
สมัยนั้นโรงเรียนประชาบาลมีจำนวนน้อย ทั้งค่านิยมในสังคมชนบทที่ไม่นิยมส่งเสริมเรื่องการศึกษา ด้วยเกรงว่าจะไม่มีแรงงานช่วยภาคเกษตรกรรม เด็กส่วนใหญ่จึงไม่ได้รับการศึกษา และด้วยท่านเคยเป็นผู้ไม่ได้รับการศึกษามาก่อน จึงเห็นความสำคัญของการศึกษา เมื่อพบเห็นเด็กตามบ้านป่า ท้องถิ่นทุรกันดารในสมัยนั้น เช่น บ้านลำพันบอง บ้านหนองโสน บ้านดอนยาว บ้านหนองแสลบ ตลอดจนแถบเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ท่านจึงไปเยี่ยมเยียนบ้านต่างๆ พูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษา และขออนุญาตนำลูกหลานมาอุปการะเลี้ยงดู ส่งเสริมให้ได้รับการศึกษา อบรมสั่งสอนเต็มความรู้ความสามารถของท่าน
ท่านดำเนินเรื่องขออนุญาตทางราชการเปิดโรงเรียนประชาบาลที่วัดโพธาราม แต่ว่าไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องอาศัยศาลาวัดเป็นสถาบันขั้นต้นไปก่อน แต่ท่านก็ยังไม่ลดละความพยายาม ตั้งใจจะเปิดโรงเรียนประชาบาลให้ได้ เพื่อเด็กจะได้มีสถานที่เรียนรู้ ไม่อยากให้มีความรู้น้อยเหมือนท่านในอดีต จึงจัดการบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะในวัดเพื่อรองรับเด็กนักเรียน เริ่มจากปรับปรุงสภาพภูมิประเทศภายในวัด แผ้วถางป่ารก เมื่อชาวบ้านว่างจากการทำนา กลางคืนจะตีกลองเป็นสัญญาณ จุดตะเกียงเจ้าพายุ ชักชวนมาช่วยขุดดิน ถมบ่อ ส่วนกลางวันท่านจะขึ้นป่าหาไม้มาสร้างและปฏิสังขรณ์วัด กระทั่งทางราชการเห็นถึงความพยายามและความตั้งใจจริง จึงอนุญาตให้เปิดโรงเรียนประชาบาลประเภทนายอำเภอจัดตั้งได้สำเร็จ
ส่วนที่บวชเป็นพระภิกษุ - สามเณร ท่านส่งเสริมให้ศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม โดยท่านเป็นครูสอนเอง หากผู้ใดประสงค์จะศึกษาให้ก้าวหน้ากว่านักธรรม ท่านก็สนับสนุนส่งไปเรียนในแหล่งที่เจริญด้วยการศึกษา มีผู้สำเร็จการศึกษาแล้วกลับมาช่วยท่านอบรมสั่งสอนที่สำนักเดิมหลายราย จวบจนสามารถจัดตั้งการศึกษาแผนกบาลีขึ้นในสำนักเรียนวัดโพธารามได้อีกแผนกหนึ่ง
การพัฒนาวัด ท่านวางแผนว่าสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญหลังใหม่ หอสวดมนต์ อาคารเรียน แล้วจะทำการสร้างอุโบสถต่อไปตามลำดับ เนื่องจากขณะนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประชาชนในท้องถิ่นมีจำนวนน้อย สภาพความเป็นอยู่แร้นแค้น ท่านไม่อยากเบียดเบียนรบกวนชาวบ้าน จึงดำเนินการปักเขตพัทธสีมา ปลูกสร้างอาคารชั่วคราว โดยขึ้นเสา มุงหลังคา ไม่มีฝาผนัง เป็นที่ประกอบสังฆกรรมเพียงใช้ได้ชั่วคราวก่อน
การดำเนินการก่อสร้างในวัดทั้งกุฏิ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ อาคารเรียน ท่านใช้วิธีขึ้นป่าหาไม้ "ทอดผ้าป่าไม้" นำไม้มาเลื่อย ถาก สร้างกันเอง โดยมีหลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี ฯลฯ ชาวบ้านและศิษย์วัดช่วยกันทำ
ผลงาน
[แก้]งานปกครอง
[แก้]- พ.ศ. ยังไม่พบข้อมูล เป็น ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธาราม
- พ.ศ. 2486 เป็น เจ้าอาวาสวัดโพธาราม
- พ.ศ. ยังไม่พบข้อมูล เป็น พระกรรมวาจาจารย์
- พ.ศ. ยังไม่พบข้อมูล เป็น เจ้าคณะตำบลบางงาม
งานสาธารณูปการ
[แก้]- พ.ศ. ยังไม่พบข้อมูล บูรณะกุฏิเก่า และสร้างกุฏิใหม่
- พ.ศ. 2480 ปรับสภาพภูมิประเทศในวัด ขุดพบเครื่องปั้นดินเผา รูปปั้นช้างม้า อาวุธโลหะ ดาบ โล่ ขอ ง้าว สภาพผุพังจำนวนมาก
- พ.ศ. 2485 สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ (หลังปัจจุบัน)เสร็จ โดย พระครูประภัศร์ธรรมาภรณ์ (แต้ม ปุญฺญสุวณฺโณ) วัดพระลอย เป็นนายช่าง ช่วยก่อสร้าง
- พ.ศ. 2487 ดำเนินเรื่องขอพระราชทานวิสุงคามสีมา ได้รับพระราชทานเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2487[6] แต่เนื่องจากเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประชาชนในท้องถิ่นมีจำนวนน้อย สภาพความเป็นอยู่แร้นแค้น จึงดำเนินการปักเขตพัทธสีมา และปลูกสร้างอาคารชั่วคราว โดยขึ้นเสา มุงหลังคา ไม่มีฝาผนัง เป็นที่ประกอบสังฆกรรมเพียงใช้ได้ชั่วคราวก่อน
- พ.ศ. 2493 สร้างหอสวดมนต์เสร็จ โดยมีพระครูประภัศร์ธรรมาภรณ์ (แต้ม ปุญฺญสุวณฺโณ) วัดพระลอย เป็นนายช่าง ช่วยก่อสร้าง[7]
งานการศึกษา
[แก้]- เป็น ครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรมวัดโพธาราม
- เป็น กรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
- เป็น กรรมการศึกษา โรงเรียนประชาบาลตำบลดอนเจดีย์ 2 (วัดโพธาราม)
งานศึกษาสงเคราะห์
[แก้]- พ.ศ. 2482 เป็นผู้อุปถัมภ์ และตั้งโรงเรียนประชาบาล ชื่อว่า "โรงเรียนประชาบาลตำบลดอนเจดีย์ 2 (วัดโพธาราม)" แรกเริ่มใช้ศาลาการเปรียญหลังเก่าและหลังใหม่เป็นสถานที่เรียน (ตามลำดับ) กระทั่งสร้างอาคารเรียนเสร็จจึงย้ายนักเรียนไปที่อาคารดังกล่าว
- พ.ศ. 2487 จัดซื้อตำราเรียนพระปริยัติธรรม ถวายประจำวัดโพธาราม เพื่อให้พระภิกษุ - สามเณร ได้ใช้ศึกษา
- พ.ศ. 2496 สร้างอาคารเรียน โรงเรียนประชาบาลตำบลดอนเจดีย์ 2 (วัดโพธาราม) เสร็จ
- พ.ศ. 2501 - 2508 เป็นผู้อุปถัมภ์สำนักเรียนพระปริยัติธรรม วัดดอนเจดีย์ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอศรีประจันต์ (ภายหลังแยกเป็นอำเภอดอนเจดีย์) จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเริ่มเปิดใหม่ ยังขาดความพร้อม ความสะดวก ในหลายด้าน จึงเป็นผู้อุปถัมภ์สำคัญ[5]
สมณศักดิ์
[แก้]- พ.ศ. 2486 เป็น เจ้าอาวาสวัดโพธาราม สมณศักดิ์ที่ พระอธิการกอง โอภาสโก
- พ.ศ. ยังไม่พบข้อมูล เป็น พระครูประทวน สมณศักดิ์ที่ พระครูกอง โอภาสโก
- พ.ศ. 2505 เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูโอภาสพุทธิคุณ[8]
อาพาธ - มรณภาพ
[แก้]ท่านเริ่มอาพาธตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครทราบ เพราะปกติท่านเป็นผู้มีขันติ เยือกเย็น อดทน ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าท่านได้เจ็บลงอย่างกระทันหัน โดยไม่มีผู้ใดทราบว่าท่านป่วยเป็นโรคอะไร กว่าจะเป็นที่ทราบถึงคณะศิษยานุศิษย์และญาติโยมก็ต่อเมื่ออาการหนักเสียแล้ว แม้กระนั้นก็ไม่ละความพยายาม ได้นำท่านไปตรวจรักษายังโรงพยาบาล จึงเป็นที่ทราบกันว่าท่านป่วยเป็นโรคมะเร็ง น่าใจหาย เพราะโรคร้ายนี้กว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อสายเสียแล้ว จึงนำท่านกลับวัด อาการทรุดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2508 ด้วยอาการอันสงบ[3] สิริอายุ 52 ปี อุปสมบทได้ 32 พรรษา
การจัดการศพ
[แก้]พระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก) ได้สั่งเสียไว้ก่อนมรณภาพว่าให้จัดการศพแบบเรียบง่าย ภายหลังท่านมรณภาพ ทางคณะสงฆ์จึงแต่งตั้ง พระมหาคำพร เมธงฺกุโร (ลูกศิษย์) เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโพธาราม ตั้งพระครูวรนาถรังษี (ปุย ปุญฺญสิริ) วัดเกาะ พระครูสุวรรณวิสุทธิ์ (เจริญ ปภาโส) วัดธัญญวารี พระครูสุนทรวิริยานุวัตร (เทพ ถาวโร) วัดกุฎีทอง และพระมหาคำพร เมธงฺกุโร เป็นคณะจัดการงานศพ
มีพิธีสรงน้ำศพ , พิธีบำเพ็ญกุศล - สวดพระอภิธรรม ต่อเนื่องจนครบ 7 วัน (สัตตมวาร) , ครบ 50 วัน (ปัญญาสมวาร) , ครบ 100 วัน (ศตมวาร) , วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2509 มีพิธีบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรม , วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2509 มีพิธีอัญเชิญหีบศพยังฌาปนสถานชั่วคราว (เมรุลอย) พระสงฆ์สวดมาติกา บังสุกุล ศราทธพรตคาถา และพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดยมี สมเด็จพระวันรัต (ปุ่น ปุณฺณสิริ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร เป็นประธาน , วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2509 พิธีสามหาบ เก็บอัฐิ เป็นอันเสร็จพิธี
สิ่งเกี่ยวเนื่อง - อนุสรณ์
[แก้]- โรงเรียนวัดโพธาราม (โอภาสราษฎร์ประสิทธิ์) เป็นโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่วัดโพธาราม โดยพระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก) เป็นผู้นำสร้าง เดิมชื่อว่า "โรงเรียนประชาบาลตำบลดอนเจดีย์ 2 (วัดโพธาราม)" เปิดดำเนินการวันแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2482 สมัยนายดาบจันทร์ รูปสูง เป็นธรรมการอำเภอ มีนายเตือน บุญแย้ม เป็นครูสอนคนแรก แรกเริ่มใช้ศาลาการเปรียญหลังเก่าและหลังใหม่ของวัดเป็นสถานที่เรียน (ตามลำดับ) กระทั่งสร้างอาคารเรียนเสร็จเมื่อ พ.ศ.2496 จึงย้ายนักเรียนไปที่อาคารดังกล่าว ต่อมาเมื่อโอนย้ายโรงเรียนและวัดมาอยู่ในเขตปกครองตำบลบางงาม จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนวัดโพธาราม (โอภาสราษฎร์ประสิทธิ์)" โดยนำสมณศักดิ์ของท่านมาตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์ และเปิดดำเนินการต่อเนื่องมา จวบจนระยะหลังมีนักเรียนจำนวนน้อย เหลือเพียง 9 คน ทางราชการจึงมีคำสั่งให้เลิกล้มโรงเรียนนี้ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2535[1]
- รูปเหมือนหลวงพ่อกอง สร้างภายหลังพระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก) มรณภาพแล้ว ปัจจุบันประดิษฐานบนศาลาการเปรียญวัดโพธาราม
- วันบูรพาจารย์วัดโพธาราม เป็นวันคล้ายวันมรณภาพพระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก) มีพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน และถวายภัตตาหารเพล วันที่ 18 ธันวาคม ของทุกปี
- คำขวัญประจำหมู่บ้าน เป็นคำขวัญประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยนำสมณศักดิ์ของพระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก) มาเป็นส่วนหนึ่งของคำขวัญประจำหมู่บ้าน คือ "หมู่บ้านประวัติศาสตร์ พระครูโอภาสศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์สาธิตเป็นที่พึ่ง ความเป็นหนึ่งคือสามัคคี"
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 ประนันท์ ศรีหมากสุก. (2536). ที่ระลึกเนื่องในงานปิดทองฝังลูกนิมิต ผูกพัทธสีมา และฉลองสิ่งปลูกสร้าง วัดโพธาราม ตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี 9-17 มกราคม 2536. สุพรรณบุรี: เซ็นทรัลมีเดีย แอนด์ แอดเวอร์ไทซิ่ง.
- ↑ "ประกาศกระทรวงมหาดไทย ประกาศตั้งอำเภอเดิมบางและเปลี่ยนชื่ออำเภอเดิมบางเก่าเป็นอำเภอบ้านเชียน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 28 (0 ง): 299–300. May 21, 1911.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 ประนันท์ ศรีหมากสุก. (2509). ไม่วุ่นจะว่าง โดย พุทธทาสภิกขุ บริษัทกรุงเทพสัมพันธ์ จำกัด พิมพ์เป็นธรรมบรรณาการเนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูโอภาสพุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธาราม. พระนคร: จำลองศิลป์.
- ↑ กรมธรรมการ. (2473). ทำเนียบสมณศักดิ์ กับ ทำเนียบเปรียญ พ.ศ.2473. ม.ป.ท.: ม.ป.พ.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 พีระศักดิ์ สุนทรวิภาต. (2563). ที่ระลึก 125 ปีชาตกาล 40 ปีมรณภาพ พระครูวรนาถรังษี (ปุย ปุญฺญสิริ). พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: กุศลบุญการพิมพ์.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานวิสุงคามสีมา (ให้วัดที่มีชื่อในบัญชีท้ายประกาศ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตามเขตที่กำหนดไว้ในบัญชีนั้น)ประกาศ ณ วันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2487), เล่ม 61, ตอน 58 ก, 19 กันยายน 2487, หน้า 837
- ↑ พระครูประภัศร์ธรรมาภรณ์. (2510). อนุสสรณ์งานทำบุญอายุครบ 76 ปี พระครูประภัศร์ธรรมาภรณ์ (แต้ม ปุญฺญสุวณฺโณ). กรุงเทพฯ: บูรณะการพิมพ์
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 80, ตอน 3 ง, 4 มกราคม 2506, หน้า 13
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ก่อนหน้า | พระครูโอภาสพุทธิคุณ (กอง โอภาสโก) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระภิกษุยวง (ผู้ดูแลวัด) |
เจ้าอาวาสวัดโพธาราม (รักษาการ พ.ศ. 2476 – พ.ศ. 2486) (เจ้าอาวาส พ.ศ. 2486 – พ.ศ. 2508) |
พระมหาคำพร เมธงฺกุโร (รักษาการ) | ||
พระครูสิริยาภินันท์ (แช่ม ฐานคุโณ) | เจ้าคณะตำบลบางงาม (ไม่พบข้อมูล – พ.ศ. 2508) |
พระครูวรนาถรังษี (ปุย ปุญฺญสิริ) |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2456
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2508
- เจ้าอาวาส
- เจ้าคณะตำบล
- พระครูสัญญาบัตร
- เกจิอาจารย์
- พระสงฆ์ชาวไทย
- ภิกษุในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
- ภิกษุจากจังหวัดสุพรรณบุรี
- บุคคลจากอำเภอเดิมบางนางบวช
- บุคคลจากอำเภอหนองหญ้าไซ
- บุคคลจากอำเภอศรีประจันต์
- บุคคลจากอำเภอดอนเจดีย์
- บุคคลจากจังหวัดสุพรรณบุรี
- พระเถราจารย์สายสุพรรณบุรี