ผู้ใช้:PELAMID
โลก อยู่นอกระบบสุริยะอวกาศแต่ก็มิได้อยู่เหนือจักรวาล โลก มี ๔ รูปร่าง แบ่งเป็น ๓ ด้าน ๔ รูปร่างนั้นคือ ธาตุ ดิน น้ำ ลม และ ไฟ ๓ ด้าน เป็น ยาน (วิญญาณ)
ทะเลทราย ตกลงมาจากฟ้า หรือ จักรวาลอีกฟากหนึ่ง มันคือเศษเถ้าถ่านที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ นอกโลก
ทะเลทราย อาจจะมีอยู่ตามสถานที่ต่างดาว อื่นๆ
ญี่ปุ่น อเมริกา จีน อินเดีย เกาหลี มันเป็นเรื่องจริงที่อธิบายได้ แต่ใครจะอธิบายได้ หรือ อธิบายยากมาก สำหรับโลกใบเดียวกัน นี้ พูดถึงทะเลทราย ทะเลทรายอยู่ติดกับโลกแม้เริ่มต้นโลกจะไม่เคยมีทะเลทรายมาก่อน
สฟิง รูปปั้นสัตว์โลก รูปปั้นขนาดใหญ่ เรียกว่า มโหฬาร ได้เลยทีเดียว เรื่องราวของสฟิงเป็นความจริงตามตำนานที่เคยจารึกเอาไว้ เช่น สมมุติเทพ แต่ส่วนมากจะมีอยู่ในโลกหลังความตาย Book Of The Dath
Shaolin Temple ประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่โลกใบนี้เริ่มมีทะเลทราย และความเจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดของโลก
สถาบันการเงิน Palace of Madrid) : พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริดเป็นที่ประทับของราชวงศ์สเปน ภายในมีห้องถึง 3,418 ห้อง นับเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สถาปัตยกรรมของพระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริดเป็นศิลปะสไตล์บาโรคผสมกับคลาสสิก หรูหราทั้งภายนอกและภายใน ควรค่าแก่การไปชมให้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิต
◆ จตุรัสพลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor) : พลาซ่ามายอร์เป็นจัตุรัสกลางเมืองมาดริด ลักษณะเป็นลานกว้างล้อมรอบด้วยอาคารสไตล์โรมันสูงสามชั้น ภายในอาคารมีทั้งโรงแรมหรู ร้านค้า และร้านอาหาร บริเวณลานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสเปน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาชมอาคารแห่งนี้ ในอดีตลานแห่งนี้เคยใช้ประกอบพิธีสำคัญมากมายของสเปน นอกจากนี้ยังเป็นลานใช้จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น กีฬาสู้วัวกระทิงอันโด่งดังของสเปนอีกด้วย
◆ ถนนแกรนเบีย (Gran Via) : ถนนแกรนเบียหรือเกรทเวย์ (Great Way) ถนนช้อปปิ้งใจกลางมาดริด เต็มไปด้วยร้านค้าสุดหรูมากมายให้เพื่อนๆ ได้เลือกซื้อสินค้ากลับบ้าน นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นถนนแห่งการช้อปปิ้งแล้วยังมีอีกชื่อเรียกเล่นๆ ว่าเป็นถนนบรอดเวย์แห่งสเปน (Spanish Broadway) เพราะมีโรงละครให้เพื่อนๆ ไปเลือกชมกันได้ แถมยังเป็นถนนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับใหล ดึกๆ ใครเหงาต้องไปแกรนเบียเลย
◆ วัดเดโบด (Temple of Debod) : วัดโบราณอันสวยงามของอียิปต์ซึ่งจะสวยเป็นพิเศษในตอนกลางคืนที่มีการเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม วัดเดโบดเป็นวัดที่อียิปต์มอบให้แก่สเปนเพื่อให้ช่วยรักษาโบราณสถานไว้จากการสร้างเขื่อนในภูมิภาคนูเบีย (Nubia) ซึ่งวัดเดโบดเป็น 1 ใน 4 วัดที่อียิปต์มอบให้แก่ประเทศต่างๆ อีก 3 วัดอยู่ในประเทศเนเธอแลนด์ อิตาลี และสหรัฐอเมริกา
◆ ปูเอร์ตาเดลโซล (Puerta del Sol) : อีกหนึ่งจัตุรัสที่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่คนเดินทางมาเยอะที่สุดในมาดริด มีแลนด์มาร์คเป็นหอนาฬิกาขนาดใหญ่ที่เป็นสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ของสเปนด้วย
ลัทธิ หมายถึง คัมภีร์ชุดแรกๆซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นผู้ประกาศ เช่น ลัทธิ (บาลี: ลทฺธิ; อังกฤษ: doctrine) หมายถึง ความเชื่อ ความคิดเห็นและหลักการ เกี่ยวกับศาสนา ปรัชญา การเมืองเศรษฐกิจ หรือสังคม ที่นับถือและปฏิบัติตามสืบเนื่องกันมาสังคมนิยม ชาตินิยมทุนนิยม เป็นต้น
ศากยมุนี พระปัจเจกพุทธเจ้าบาลี: ปจฺเจกพุทฺธ; สันสกฤต: ปฺรตฺเยกพุทฺธ) เป็นพระพุทธเจ้าประเภทหนึ่ง ที่ตรัสรู้เฉพาะตัว มิได้ประกาศพระพุทธศาสนา ที่เรียกดังนี้เพราะเมื่อได้ญาณสัมปยุตเป็นที่เฉพาะถึงตรัสรู้ธรรมแล้วให้เกิด อโปหะเป็นที่คล้องเกี่ยว ได้การสิ้นสงสัยและการสละทิ้งอย่างยิ่ง ในที่ๆเป็นเครื่องอุดหนุนให้บังเกิดอัปโปสุกกธรรมวิเวกเอกกะ ด้วยเป็นสำคัญเฉพาะเพียงแต่ลำพัง จึงมิกล่าวขวนขวาย จึงประจำอยู่แต่ในป่านานๆ เมื่อต้องจำเป็นด้วยสัมภาระ หรือเมื่อจวนเวลาแห่งธรรมุทเทศจำเป็นถึงจะเข้ามาในเมืองเพื่อโปรด และบิณฑบาตสักครั้งหนึ่ง โคตมพุทธเจ้า (ออกเสียง: โค-ตะ-มะ) มีพระนามเดิมในภาษาบาลีว่า สิทธัตถะ โคตมะหรือในภาษาสันสกฤตว่า สิทฺธารฺถ เคาตมะ (อ่านว่า /สิดทาด —/) (เทวนาครี: सिद्धार्थ गौतम) เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ผู้เป็นศาสดาของศาสนาพุทธสาวกของพระองค์ไม่นิยมออกพระนามโดยตรง แต่เรียกตามพระสมัญญาว่า "ภควา" (พระผู้มีพระภาคเจ้า) พระสุตตันตปิฎกเป็นชื่อของปิฎกฉบับหนึ่งในพระไตรปิฎกภาษาบาลีซึ่งประกอบด้วย พระวินัยปิฎก พระสุตตตันปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก เรียกย่อว่า พระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม
คัมภีร์หลักในพระพุทธศาสนา
พระไตรปิฎกเถรวาท ๔๕ เล่ม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระวินัยปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระสุตตันตปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระอภิธรรมปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระสุตตันตปิฎก เป็นที่รวมของพระพุทธพจน์ที่เกี่ยวกับเทศนาธรรม ซึ่งประกอบด้วย เนื้อหาสาระ บุคคล เหตุการณ์ สถานที่ ตลอดจนบทประพันธ์ ชาดก หรือ เรื่องราวอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า เมื่อกล่าวโดยรวมก็คือ คำสอนที่ประกอบด้วยองค์ 9 ที่เรียกว่า นวังคสัตถุศาสน์ นั่นเอง นับเป็นธรรมขันธ์ได้ 21,000 พระธรรมขันธ์
พระสุตตันตปิฎก แบ่งออกเป็นหมวดย่อยที่เรียกว่าคัมภีร์ 5 คัมภีร์ คือ ทีฆนิกาย มัชฌิมนิกาย สังยุตตนิกาย อังคุตรนิกายและขุททกนิกาย ใช้อักษรย่อว่า ที ม สัง อัง ขุ อักษรย่อทั้ง 5 คำนี้เรียกกันว่า หัวใจพระสูตร
Dragon เทพมังกร มีชื่อจริงว่า เอนมา เป็นผู้ที่สร้างพระเจ้าขึ้นมาเพื่อให้มีหน้าที่ในการสร้างโลกอีกที
นอกจากนี้ยังมีเทวฑูตที่คอยรับคำสั่งของเทพมังกรต่างๆดั่งต่อไปนี้
- เทวทูตตามังกร
- เทวทูตหูมังกร
- เทวทูตปากมังกร
- เทวทูตเขี้ยวมังกร
- เทวทูตลิ้นมังกร
- เทวทูตหนวดมังกร
- เทวทูตขนมังกร
- เทวทูตเกล็ดมังกร
- เทวทูตขามังกร
- เทวทูตเล็บมังกร
- เทวทูตหางมังกร
- เทวฑูตตูดมังกร
- เทวฑูตหำมังกร
นับระหว่างกลางสองปืรามิดแปดสิบด้วยตัวเลขอารบิก หนังสือ ทิเมอุส (Timaeus) ของเพลโตได้เล่าถึงตำนานน้ำท่วมโลกว่า ซีอุส หรือซุส (Zeus) เทพราชาทรงพิโรธที่มนุษย์ทำสงครามฆ่าฟันกันไม่เลิก จึงอยากลงโทษให้สิ้นซากด้วยน้ำ หนึ่งในเทพไททันนามว่า โพรมีธีอุส (Prometheus) ทราบความก่อน จึงได้นำข่าวไปบอกดิวคาเลียน (Deucalion)ลูกชายกึ่งเทพของตน ทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากน้ำท่วมในครั้งนั้นได้
ส่วนฟากตะวันออกก็มีเรื่องที่เกี่ยวกับน้ำท่วมโลกด้วยเช่นกัน อาทิ เรื่องการอวตารของพระวิษณุมาเป็นปลาชื่อ “ศผริ” เพื่อช่วยเหลือมนุษย์คนแรกคือ “พระมนู” ให้รอดพ้นจากน้ำท่วมโลกในช่วงพรหมราตรี จนกระทั่งได้ก่อตั้งวงศ์มนุษย์ขึ้นมา และตอนหลังยังไปสังหารอสูรชื่อหัยครีวะ ซึ่งลักเอาพระเวทไปจากพระพรหม ดังปรากฏในคัมภีร์มัตสยะปุราณะ แต่ปริศนาน้ำท่วมโลกที่โด่งดังและถูกกล่าวถึงมากที่สุดหนีไม่พ้น “ตำนานน้ำท่วมโลกในพระคัมภีร์ไบเบิล” ซึ่งกล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้าส่งน้ำมาล้างโลก เพราะเห็นว่าโลกมีแต่ความเสื่อมทราม และมนุษย์ในยุคนั้นทำเรื่องไม่ดีไม่งามกันมาก
ในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนั้นพระผู้เป็นเจ้าเลือก “ผู้รอด” นามว่า “โนอาห์” กับครอบครัว รวมถึงสัตว์ต่างๆ โดยอาศัย “อาร์ค (Ark)” เรือหรือยานแบบหนึ่งที่ออกแบบเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยพระองค์ต้องการให้โนอาห์นำสิ่งมีชีวิตบนโลกขึ้นเรือด้วยอย่างละคู่ เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกน้ำท่วมโลกในครั้งนั้น
“อาร์ค” สร้างจากไม้โกเฟอร์ ทากันรั่วภายในและภายนอกด้วยยางไม้หรือยางมะตอย ประตูเข้าออกอยู่ด้านข้าง ตัวเรือมี 3 ชั้น พื้นที่ถูกแบ่งเป็นห้อง ซึ่งขนาดของเรืออาร์คที่แปลงมาจากหน่วยคิวบิตแล้วจะกว้าง 22.86 เมตร ยาว 137.16 เมตร สูง 13.716 เมตรแต่ถ้าเป็นหน่วยคิวบิตหลวงของอียิปต์ เรือก็อาจใหญ่ขึ้นมาอีก คือ กว้าง 26.45 เมตร ยาว 158.7 เมตร สูง 15.87 เมตร
หากนำมาเปรียบเทียบกับเรือไททานิกแล้ว ความยาวกับความสูงของเรือไททานิกนั้นสูงกว่าเรืออาร์คมาก โดยเรือไททานิกกว้าง 28.0 เมตร ยาว 269.0 เมตร สูง 53.3 เมตร และมีถึง 9 ชั้น มากกว่าเรืออาร์คถึง 6 ชั้น ไททานิกรองรับผู้โดยสารกับลูกเรือได้รวม 3,327 คน
จากขนาดของ “อาร์ค” ในมุมมองวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์นำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่า อาร์คจะรับน้ำหนักได้มากพอบรรจุสัตว์และอาหารของพวกมันทั้งหมดในระหว่างที่รอนแรมนานนับครึ่งปีได้หรือไม่ อย่างไร? Max Younce ที่ได้คำนวณพื้นที่ในอาร์คว่า มีความจุเท่ากับรถขนส่งขนาดมาตรฐานราว 552 คัน หรือตู้ขนส่งของรถไฟที่มี 65 ตู้ราว 8 คัน ซึ่งต่อมาเว็บไซต์ skeptic.com อ้างการคำนวณของจอน เรนิช (Jon Renish) ที่อิงจากตัวเลขของ ดร. แม็กซ์ เยาซ์ (Max Younce) อีกทีว่า อาร์คลอยอยู่ราวครึ่งหนึ่งของความสูง ก็น่าจะแทนที่ปริมาตรน้ำทะเลราว 76,000 ลูกบาศก์ฟุต เท่ากับ 2,152 ลูกบาศก์เมตร
หากความหนาแน่นของน้ำหลังจากฝนตกต่อเนื่อง 6-7 เดือนยังคงหนาแน่นใกล้เคียงกับน้ำทะเล อาร์คน่าจะรับน้ำหนักบรรทุกรวมไม่เกิน 2,430 ตัน ซึ่งหักน้ำหนักไม้จากตัวเรือและอาหารทั้งหมดแล้ว อาร์คมีแนวโน้มเหลือน้ำหนักบรรทุกประมาณ 1,600-2,000 ตัน ตัวเลขนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับไททานิกที่มีระวางประมาณ 52,310 ตัน
ถ้าอิงจากงานวิจัยปริมาณชนิดสัตว์โลกในปี 2011 ที่ระบุว่า โลกมีสัตว์บกราว 6.5 ล้านสปีชีส์ สัตว์น้ำ 2.2 ล้านสปีซีส์ ตามการวิเคราะห์น้ำหนักสัตว์ ที่สมมติขั้นต่ำให้มีสัตว์เล็กมากกว่าและนับเฉพาะสัตว์บกให้มีน้ำหนักเฉลี่ยที่ 10 กิโลกรัม หากนำขึ้นเรืออาร์คสปีชีส์ละคู่ น้ำหนักรวมจะอยู่ที่ 130,000 ตัน ต่อให้ลดน้ำหนักเฉลี่ยมาอยู่ที่ตัวละ 1 กิโลกรัม หากนำมาอย่างละ 1 คู่ก็ยังหนักมากถึง 65,000 ตัน เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำหนักที่คาดว่าเรืออาร์คจะบรรทุกได้ 2,000 ตัน จะเห็นได้ว่า เรืออาร์คไม่สามารถที่จะบรรทุกสัตว์ทั้งหมดขึ้นเรือได้ตามหลักการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ (ไททานิกก็รับไม่ไหว) เมื่อเทียบข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และมองความเป็นไปได้ในการอาศัยอยู่บนเรือนาน 7 เดือน 17 วัน คาดว่าสัตว์บนเรือโดยรวมแล้วต้องใช้อาหารที่ให้พลังงานราว 20-30 ล้านกิโลแคลลอรีต่อวัน รวมระยะเวลากว่า 6 เดือนแล้ว ต้องใช้เนื้อคิดเป็นน้ำหนักนับร้อยตัน ยังไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการเก็บเนื้อหรืออาหารสดอื่นๆ อีกในสมัยที่ยังไม่มีตู้ทำความเย็น
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เห็นว่า โอกาสที่จะมีอาร์คซึ่งสามารถพาคนและสัตว์ในโลกรอดน้ำท่วมได้ตามพระคัมภีร์ ถือว่ามีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมามีข้อมูลเรื่องการค้นหา และข้อกล่าวอ้างเรื่องการค้นพบวัตถุที่เชื่อว่าใกล้เคียงกับอาร์คเกิดขึ้นหลายประเทศ (น่าสังเกตว่าทำไมข่าวกระจายตัวไปหลายแห่ง) แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจน และเชื่อว่าในอนาคตจะยังมีผู้สนใจค้นหาอีกเรื่อยๆ
365 HIVES พระศิวะ หรือ พระอิศวร (สันสกฤต: शिव; อังกฤษ: Shiva) หนึ่งในตรีมูรติ หรือเทพเจ้าสูงสุดสามองค์ตามความเชื่อในศาสนาฮินดู (อีกสององค์ได้แก่ พระพรหมและพระวิษณุ) พระศิวะ ทรงมีพระลักษณะมีรูปกายเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ วรรณะขาว (สีผิวขาว) นุ่งห่มหนังเสือเหมือนฤๅษี มีสังวาลย์เป็นลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์ มีงูเห่าคล้องพระศอ ไว้พระเกศายาว ซึ่งจะม้วนเป็นจุฑา (มวยผม) มีพระจันทร์เป็นปิ่นและแม่คงคาอยู่บนยอดจุฑา ซึ่งพ่นน้ำมาตลอด และมีตาที่สามกลางพระนลาฏ (หน้าผาก) ซึ่งโดยปกติจะปิดอยู่เสมอ เชื่อว่าหากเปิดขึ้นเมื่อไหร่จะบันดาลให้ไฟบรรลัยกัลป์จะเผาผลาญล้างโลก (บ้างว่าเป็นพระพรหม) ถือว่าเป็นการสิ้นสุดกัปหนึ่ง ก่อนที่พระพรหมจะสร้างโลกขึ้นมาใหม่
Yiw หลังจากที่ประเพณีนี้ถูกปฏิบัติต่อกันมานับร้อยๆ ปี โดยให้เหตุผลว่า ทางการไม่อยากให้บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ต้องมาสังเวยชีวิตแบบไร้จุดหมายเช่นนี้ พวกเขามีความเชื่ออย่างไร ทำไมจึงเกิดการบูชายัญขึ้นมานานขนาดนี้ เทศกาลคฒิมาอี (Gadhimai festival) เป็นพิธีบูชายัญที่จัดขึ้นทุก 5 ปีที่วัดคฒิมาอี เมืองพริยารปุระ อำเภอพารา ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร ของเมืองหลวงกาฐมาณฑุ ทางภาคใต้ของประเทศเนปาล ใกล้ชายแดนอินโด-เนปาล และแดนติดกับรัฐพิหาร (ประเทศอินเดีย) มีการเฉลิมฉลองเป็นหลักโดยชาวมะเทสี และชาวรัฐพิหาร เทศกาลนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์บูชายัญครั้งใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย ควาย, หมู, แพะ, ไก่, หนู และนกพิราบ โดยมีเป้าหมายเพื่อการเซ่นสังเวยให้แก่ เจ้าแม่คฒิมาอี ซึ่งเป็นเทพีแห่งอำนาจ การจัดงานแต่ละครั้ง มีคนเข้าร่วมงานประมาณ 5 ล้านคน ซึ่งเป็นชาวมะเทสี และผู้ที่ชื่นชอบงานเทศกาลดังกล่าวจากรัฐของประเทศอินเดีย ทั้งรัฐอุตตรประเทศ และรัฐพิหาร ที่เขาร่วมเทศกาลในประเทศเนปาลเพื่อเลี่ยงการประกาศห้ามการฆ่าสัตว์บูชายัญในรัฐของตัวเอง โดยผู้เข้าร่วมเชื่อว่าการฆ่าสัตว์บูชายัญเพื่อเซ่นสังเวยให้แก่เจ้าแม่คฒิมาอี จะช่วยให้ยุติสิ่งเลวร้าย และนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง เทศกาลคฒิมาอี ที่ถูกจัดตลอดช่วง 250 ปีที่ผ่านมา มีผู้แสวงบุญชาวฮินดูจะหลั่งไหลมาที่วัดแห่งนี้พร้อมกับสัตว์ที่เป็นทรัพย์สินของพวกเขาเอง เพื่อบูชายัญแด่เจ้าแม่คฒิมาอี เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่และฐานะของครอบครัวดีขึ้น โดยเทศกาลในปี 2009 มีสัตว์ชนิดต่างๆถูกฆ่ารวมกันกว่า 500,000 ตัวทีเดียว
อุลตร้าแมนคอสมอส
[แก้]อุลตร้าแมนคอสมอส (ญี่ปุ่น: ウルトラマンコスモス โรมาจิ: Urutoraman Kosumosu) เป็นทีวีซีรีส์ชุดที่ 17 ของทีวีซีรีส์อุลตร้าซีรีส์ เป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างสร้างชื่อให้กับอุลตร้าแมน ทั้งด้านดีและไม่ดี อุลตร้าแมนซีรีส์นี้นับว่าเป็นซีรีส์ที่ยาวมาก เนื่องจากมีจำนวนตอนถึง 65 ตอนด้วยกัน
ข้อมูลเบื้องต้น: สร้างโดย, แสดงนำ ...
สร้างโดย | สึบุราย่าโปรดักชั่น |
---|---|
แสดงนำ | ไทโย สุกิอุระ |
ประเทศแหล่งกำเนิด | ญี่ปุ่น |
จำนวนตอน | 65 ตอน |
ความยาวตอน | ตอนละ 30 นาที |
เครือข่าย/ช่อง | TBS |
การออกอากาศแรก | 7 กรกฎาคมพ.ศ. 2544 – 28 กันยายนพ.ศ. 2545 |
ปิด
ในประเทศไทยได้ฉายทางโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยระยะแรกจะออกอากาศทุกวันจันทร์เวลา 17.00-17.30น. ต่อมาย้ายมาฉายทุกวันศุกร์เวลา16.30-17.00น. แต่ฉายไม่จบเนี่องจากหมดสัญญาการออกอากาศบวกกับคดีความของซึบูราย่าไชโยและซึบูราย่าที่ญี่ปุ่น และลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีเป็นของบริษัท เจบิ๊คส์ จำกัด ปัจจุบันทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวีได้นำมาออกอากาศใหม่อีกครั้ง ส่วนลิขสิทธิ์ในการจำหน่ายดีวีดีและวีซีดีภาพยนตร์ฉายโรงเป็นของบริษัท ดรีมเอ็กซ์เพรส(เด็กซ์) จำกัด
- ฮารุโนะ มูซาชิ(春野ムサシ)
- ร่างสถิตย์ของอุลตร้าแมนคอสมอส
- จูเลีย
- ร่างสถิตย์ของอุลตร้าแมนจัสติกส์
ทีม EYES
[แก้]- ฮิอุระ ฮารุมิซึ (日浦晴光)
- มิซึคิ ชิโนบุ (水木忍)
- ฟุบุคิ เคสึเกะ (風吹圭介)
- โดอิงาคิ โคจิ (土井垣浩次)
- โมริโมโตะ อายาโนะ (森本綾乃)
พระคัมภีร์
[แก้]- คัมภีร์เอนมาโย่
- บัญญัติประการสองประการ
การตีความ
[แก้]- รวมเล่มยังไม่ออก จึงไม่มีตีความ
ข้อบัญญัติ
[แก้]- ไม่มี มันหน้าที่พระเจ้า
- เอ้อ แต่มีอยู่ข้อหนึ่ง คือ "ต้องเชื่อว่าท่านเทพมังกรมีจริง และเป็นผู้สร้างพระเจ้า" และ "ท่านเทพมังกรรักท่าน จงรักท่านเทพมังกรอย่างหูดับตับไหม้"
ชีวิตหลังความตาย
[แก้]- ใครเชื่อเทพมังกร ก็ไปอยู่กับเทพมังกร ใครไม่เชื่อ ถูกท่านเทพมังกรหักคอจิ้มน้ำพริกกิน
- หูดับตับไหม้"
ชีวิตหลังความตาย
[แก้]- ใครเชื่อเทพมังกร ก็ไปอยู่กับเทพมังกร ใครไม่เชื่อ ถูกท่านเทพมังกรหักคอจิ้มน้ำพริกกิน
ที่มาของศาสนาท่านเทพที่แท้จริง
[แก้]ที่มาของศาสนาท่านเทพมังกร ซึ่งได้จารึกไว้เป็นตัวอักษรได้เลือนหายไปตามกาลเวลา เหลือแต่ที่เล่ากันปากต่อปาก แล้วนำมาจดบันทึกเป็นตัวอักษรใหม่ ซึ่งคาดว่าไม่เหมือนกับต้นฉบับเดิม จึงทำให้ยากที่จะค้นหาที่มาที่แท้จริงของศาสนาท่านเทพมังกรได้ แต่ว่ากันว่าเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก็ว่าได้
ที่มาของศาสนาท่านเทพในปัจจุบัน
[แก้]ศาสนาเทพมังกรเป็นศาสนาโบราณของห้องศาสนา มีมาตั้งแต่ยุคเรอเนสซองต์ก่อนการล่มสลายของอาณาจักรห้องสมุด(เดิม)เมื่อเกือบสิบปีก่อน ก่อนจะแยกออกมาเป็นอาณาจักรศาสนา อาณาจักรย่อยปรัชญา อาณาจักรหว้ากอ และอาณาจักรสมุด(ใหม่)ในตอนนี้
ในสมัยบุราณนั้น เรียกว่ายุคทองของจักรวรรดิ์พันทิปในช่วงเว็บหน้าดำ(แต่ก่อนเมื่อราวหนึ่งทศวรรษมาแล้ว จักรวรรดิ์พันทิปมีแบ็คกราวด์เป็นสีดำ)
เป็นยุคที่ผู้คนที่เรียกตนเองว่าชาวพันทิปนั้นมีความศิวิไลซ์ไม่ทะเลาะเบาะแว้งทำสงครามศาสนาทางตัวอักษรซึ่งกันและกัน มีความสันติสุขและกลิ่นไอของอารยธรรมอันเรืองรองอยู่ทั่วไปในทุกๆกลุ่มทุกห้อง
ด้วยมนุษย์ในยุคนั้นมีศีลธรรมแก่กล้าสมเป็นปัญญาชนยิ่ง
เทพมังกรจึงเสด็จลงมาจากสวรรค์ แสดงธรรมแก่ศาสดาหวงหมิงเพื่อเผยแผ่ศาสนาเทพมังกรให้ดำรงอยู่ในอาณาจักรห้องสมุด อาณาจักรย่อยศาสนาสืบไป
ซึ่งศาสนาเทพมังกรก็มีผู้ยอมรับนับถือเป็นจำนวนมากมายหลายล็อกอินโบราณ(ล็อกอินยิ้มหุบปาก กับล็อกอินยิ้มยิงฟันหน้าไม่ปิ๊ง) ด้วยกัน
ต่อมาอารยธรรมเริ่มเสื่อมลง ศาสดาหวงหมิงคาดการณ์ตามหลักอนาคตศาสตร์ของท่าน ร่วมกับอำนาจเทพมังกรประทานแล้วเห็นว่าอารยธรรมดั้งเดิมเริ่มเสื่อมลง เนื่องจากมีผู้บุกรุกมาจากแดนมาร
ส่งอิทธิพลมืดเข้าไปยังสมองส่วนล่างทำให้สมาชิกเข้าใหม่บางส่วนมีสมองส่วนนี้เจริญผิดปกติ ก่อให้เกิดอาการก้าวร้าวและสงครามในหมู่สมาชิกขึ้น และทำให้สมาชิกมีคุณภาพหลายท่านเกิดอาการเบื่อหน่ายทางโลก
จึงละกายเนื้อในไซเบอร์สเปซ ก้าวผ่านความวุ่นวายยุ่งเหยิง ปลีกวิเวกอยู่ในมิติของท่านเหล่านั้น แลไม่กลับมาอีกเลย
ผลกระทบอันนี้ส่งผลกับศาสนาเทพมังกรด้วย เนื่องจากมียอดฝีมือดั้งเดิมลดลง ทำให้ศาสนาเทพมังกรและบันทึกเริ่มสูญหายไป ท่านศาสดาจึงส่งอารยธรรมยุคสุดท้าย ฝากไว้กับสาวกแต่ละท่านไปเก็บรักษาไว้ เพื่อการฟื้นฟูในยุคถัดไป
การลงโทษ
[แก้]- โทษ สถานแรกคืองอน หากไม่กลับตัว ก็จะโดนท่านเทพหักคอจิ้มน้ำพริกกิน
ศาสดา และ สาวก
[แก้]ศาสดา ท่านศาสดา หวงหมิง
อัครทูต
- ท่านดอส
อัครสาวก
- ท่านDigiTaL-KRASH!!!
สาวกยุคใหม่
- ท่าน เชษฐา
- คุณ ม่อน (bodin)
- คุณ Angleevil
- คุณ house (panote_saechiew)
- คุณ ทิคัมพร (sueki)
- คุณ ม่านทอง
- คุณ xnone
- คุณ Chuck
- คุณ Devil in baggy pants (ไม่น่าเชื่อว่าจะเอากะเขาด้วย)
- คุณ @# k[A]tty #@
- คุณ แมวเก้าแต้ม
- คุณ อยากให้ทุกคนพร้อมที่จะจัด
- คุณ เบนกิจัง
- คุณ koIom
- คุณ Yoiji
- คุณ SunAzeros
- คุณ Sir.ขงเบ้ง
- คุณ zerza
- คุณ นีละปอย~*
- ไอ้ดวยยาว
- sir.dragonking
- ~cenobite+
- ท่านฅนรกโลก
- i love my boss
- คุณ Angos
- xxxHOLiC ไคโอชิน โลกของสิ่งมีชีวิต (mortal universe) อยู่ในซีกล่าง ซึ่งก็คือดาวเคราะห์ทั้งหมดในเรื่อง ภูมิของอวกาศในเรื่องจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ควอเตอร์ 4 ทิศทาง สำหรับโลกเรานั้นอยู่ในควอเตอร์ทางทิศเหนือ ส่วนครึ่งทรงกลมซีกบนคือ อาณาเขตของพระเจ้า(the other world) ชั้นล่างสุดของ other world (และเป็นพรมแดนกับโลกของสิ่งมีชีวิต) ก็คือ "นรก" (hell) สำหรับ "นรก" เป็นที่อยู่สำหรับตัวร้ายของเรื่อง (เช่น ฟรีเซอร์ หรือ เซลล์) ตอนที่ตายไปแล้ว โดยมี "ยมบาล" (King Yemma) เป็นผู้ดูแล ตอนที่โกคูตายแล้วโผล่ขึ้นมาบนนี้ก็ต้องเจอกับยมบาลก่อน
- ความแตกต่างระหว่างนรกกับ "โลกปีศาจ" (Makai) ที่อยู่อีกสุดปลายของทรงกลมด้วย โลกปีศาจก็จะอาศัยอยู่โดยปีศาจอย่างดาบูราหรือพ่อมดบาบิดี้ในภาคจอมมารบูนั่นเองครับ เหนือนรกขึ้นมาเป็นที่อยู่ของ "ไคโอ" (Kaio) หรือฉบับภาษาไทยเรียก "จ้าวพิภพ" คอยดูแลอยู่ ซึ่งไคโอเลี้ยงลิงและฝึกสอนวิชาหมัดเจ้าพิภพให้โกคูก่อนไปบุกดาวนาเม็ก ก็คือ "ไคโอแห่งทิศเหนือ" ไคโอมีทั้งหมด 4 ตนแยกตาม 4 ทิศ แต่ละตนจะอยู่บนดาวของตัวเองที่อยู่ 4 ทิศใน other world (ที่เชื่อมกันด้วยเส้นทางมังกร)
- โลกแห่งไคโอยังมี "ราชาแห่งไคโอ" (Grand Kaio หรือ Dai Kaio ในภาษาญี่ปุ่น) คอยปกครองอยู่ (โผล่มาเฉพาะในอนิเมของภาค Z เท่านั้น ช่วงหลังเซลล์ก่อนบู) ราชาของไคโอจะอาศัยอยู่บนดาวของตัวเองที่อยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาล ซึ่งดาวแห่งไคโอจะอยู่เหนือ "สวรรค์" (Heaven) ซึ่งมีสถานะเป็นดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งอยู่ในระบบจักรวาลนี้ (สวรรค์อยู่ในอนิเมะภาคบู)
- ลำดับของไคโอทั้ง 5 ก็ตามนี้
- Grand Kaio
- North Kaio
- East Kaio
- West Kaio
- South Kaio ไคโอชิน แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ นอกจากเจ้าพิภพหรือไคโอแล้ว ยังมีเทพเจ้าที่ศักดิ์สูงไปกว่านั้นอีกขั้นหนึ่งคือ "ไคโอชิน" (Kaioshin) ซึ่งเราคุ้นหน้ากันดีจากภาคจอมมารบูนั่นเอง ไคโอชินจะอาศัยอยู่นอกจักรวาลทรงกลม แต่อยู่ใน "โลกแห่งไคโอชิน" (Kaioshin Kai) ซึ่งเป็นทรงกลมขนาดเล็กที่โคจรอยู่รอบจักรวาลทรงกลมอีกทีหนึ่ง โลกแห่งไคโอชินนี้เคยปรากฎมาในดราก้อนบอลตอนที่โกฮังไปค้นหา "ดาบ Z" และได้วิชาฟิวชั่น
- Grand Kaio