ผักเสี้ยนผี
ผักเสี้ยนผี | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | พืช (Plantae) |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Rosids |
อันดับ: | Brassicales |
วงศ์: | Cleomaceae |
สกุล: | Cleome |
สปีชีส์: | C. viscosa |
ชื่อพ้อง[1] | |
|
ผักเสี้ยนผี (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cleome viscosa Linn.) หรือชื่ออื่นเช่น ผักเสี้ยนป่า ส้มเสี้ยนผี (ภาคเหนือ) ผักเสี้ยนตัวเมีย ไปนิพพานไม่รู้กลับ
ลักษณะทางวิทยาศาสตร์
[แก้]ราก
[แก้]ผักเสี้ยนผี เป็นพืชที่มีระบบรากแก้ว ประกอบด้วยรากแรกเริ่มที่งอกออกจากเมล็ดและหยั่งลงสู่ดิน มีขนาดใหญ่กว่ารากอื่นๆ เรียกว่ารากแก้ว มีรากแขนงแตกออกจากรากแก้ว มีขนาดเล็กกว่ารากแก้ว โดยรากแขนงจะแตกออกจากรากแก้วในลักษณะแผ่กระจายออกไปรอบๆ รากแก้ว มีทิศทางเอียงลงสู่ดิน และรากแขนงยังแตกแขนงออกไปอีกเป็นทอดๆ รากผักเสี้ยนผีมีสีขาวขุ่น แต่รากที่มีอายุมากขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นเหม็น รสขม รากที่มีอายุ 3 เดือน มีความยาวของรากแก้ว ประมาณ 16 เซนติเมตร เส้นรอบวงบริเวณโคนราก ยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร รากแขนงยาวประมาณ 7 เซนติเมตร
ลำต้น
[แก้]ผักเสี้ยนผี เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นตั้งตรงเหนือดิน มีกิ่งแตกออกจากลำต้นทุกทิศทาง ข้อและปล้องเห็นไม่ชัดเจน ลำต้นที่มีอายุน้อยจะมีสีเขียว ส่วนลำต้นที่มีอายุมาก จะมีสีน้ำตาลปนม่วง ผิวของลำต้นไม่เรียบ มีรอยนูนเป็นเส้นตามความยาวของลำต้น มีขนอ่อนสีขาวนวลปกคลุมที่ผิวลำต้น มีกลิ่นเหม็น รสขม ภายในลำต้นมีน้ำยางใสและเหนียว เมื่อโตเต็มที่มีความสูงประมาณ 1 เมตร เส้นรอบวงโคนลำต้นยาวประมาณ 3 เซนติเมตร
ใบ
[แก้]ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อย 3 – 7 ใบ แต่ส่วนใหญ่ มีใบย่อย 3 – 5 ใบ รูปไข่ ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร หนาประมาณ 0.3 มิลลิเมตร ปลายแหลม โคนสอบคล้ายรูปลิ่ม ขอบใบหยักเล็กน้อย เส้นใบสานเป็นร่างแห จัดเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ด้านหลังใบจะมีสีเขียวเข้มกว่าด้านท้องใบ มีขนอ่อนสีขาวนวลปกคลุมอยู่ทั่วใบ ใบอ่อนที่ม้วนงออยู่ตามความยาวของใบ เมื่อคลี่ออกจะค่อยๆ คลี่ออกทางด้านกว้างของใบ ก้านใบยาวประมาณ 2 เซนติเมตร มีกลิ่นเหม็น รสขม
ดอก
[แก้]ดอกช่อแบบช่อเชิงหลั่น เป็นดอกสมบูรณ์เพศ คือมีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน และเป็นดอกสมบูรณ์ คือมีส่วนประกอบครบทั้ง 4 ส่วน ได้แก่ กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย ดอกออกที่ปลายยอด กลีบเลี้ยง สีเขียวอ่อน เรียวยาว ปลายกลีบแหลม 4 กลีบเป็นกลีบใหญ่ 1 กลีบ กลีบเล็ก 3 กลีบ กลีบเลี้ยงที่มีขนาดใหญ่ จะอยู่ตรงกับตำแหน่งที่เว้นว่างระหว่างกลีบดอก กลีบเลี้ยงใหญ่มีความยาวประมาณ 0.6 เซนติเมตร กว้างประมาณ 0.2 เซนติเมตร หนาประมาณ 0.1 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยงเล็ก มีความยาวและความหนาเท่าๆ กับกลีบเลี้ยงใหญ่ แต่มีความกว้างน้อยกว่า คือประมาณ 1.5 มิลลิเมตร กลีบดอก สีเหลือง 4 กลีบเรียงชิดกัน มีช่องว่างเหลือประมาณความกว้างของ 1 กลีบดอก กลีบดอกมีลักษณะแผ่แบนคล้ายเล็บ ขอบเรียบ โค้งมน ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร กว้างประมาณ 0.4 เซนติเมตร หนาประมาณ 0.1 มิลลิเมตร ก้านดอก สีเขียวอ่อน ยาวประมาณ 0.6 เซนติเมตร รังไข่มีตำแหน่งอยู่เหนือวงกลีบ แต่ละดอก ประกอบด้วยเกสรเพศเมีย 1 อัน และเกสรเพศผู้ ประมาณ 20 อัน มีกลิ่นเหม็น รสขม ผักเสี้ยนผีจะออกดอกเมื่ออายุประมาณ 1 เดือนครึ่ง – 2 เดือน
ผล
[แก้]ผลเดี่ยวชนิดผลแห้ง ผลมีลักษณะเป็นฝัก กลมยาว ปลายแหลม มีจะงอยที่ปลายผล ผิวหยาบ ผลสด สีเขียว ผลแก่ที่แห้งแล้วสีน้ำตาล มีขนสีขาวนวลปกคลุมทั่วทั้งผล ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร เส้นรอบวงตรงกลางผลยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ก้านผลยาวประมาณ 1.4 เซนติเมตร มีกลิ่นเหม็น รสขม อายุของผลตั้งแต่เริ่มเกิดผลจนกระทั่งแก่และฝักแตก ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์
เมล็ด
[แก้]รูปทรงกลม แบน เมล็ดอ่อน สีเขียวอ่อน เมล็ดแก่ สีน้ำตาลแดง ผิวหยาบ มีเส้นลายนูนต่ำแผ่ออกจากตรงกลางที่เป็นรอยบุ๋ม เส้นผ่านศูนย์กลางยาวประมาณ 1.2 มิลลิเมตร หนาประมาณ 0.6 มิลลิเมตร จำนวนเมล็ดต่อผลประมาณ 150 เมล็ด มีกลิ่นเหม็น รสขม
การกระจายพันธุ์
[แก้]พบได้ทั่วไปตามที่รกร้าง ทุกภาคของประเทศไทย สามารถกระจายพันธุ์ได้เอง โดยฝักแก่จะแตกออกเป็น 2 ซีก ตรงแนวตะเข็บ เมล็ดจะตกกระจายลงในดิน ถ้าดินมีความชื้นเหมาะสม เมล็ดก็จะงอกเป็นต้นใหม่[2]
ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด โดยนำเมล็ดที่แก่เต็มที่มาหว่านลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้ ถ้าเป็นดินร่วนจะดีมาก รดน้ำใช้ชุ่มทุกวัน เมล็ดจะงอกได้ภายใน 1 – 2 สัปดาห์
สรรพคุณทางยาและวิธีใช้
[แก้]ผักเสี้ยนมีน้ำมันหอมระเหย (Volatic Oil) ประกอบด้วย Cyanide ซึ่งจะมีผลระบบทางเดินโลหิต และสารไฮโดรไซยาไนด์ (Hydrocyanide) ซึ่งมีพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง และยังมีกลิ่นเหม็นเขียวอย่างแรง
ต้นใช้ปรุงเป็นยาแก้ฝีในปอดแก้ขับหนองในร่างกาย หรือให้หนองแห้ง แก้ฝีในลำไส้ ในตับ ขับพยาธิในลำไส้ได้ โรคข้ออักเสบ ทาภายนอกแก้โรคผิวหนัง
ใบนำมาพอกแก้ปวดหัวบดกับเกลือทาแก้ปวดหลัง และแก้ปัสสาวะพิการ
ราก แก้โรคผอมแห้งของสตรีเนื่องจากคลอดบุตรและอยู่ไฟไม่ได้ รากผสมกับเมล็ด เป็นยาแก้เลือดออกตามไรฟันและเป็นยากระตุ้นหัวใจ ผักเสี้ยนผีมีฤทธิ์ แก้ปวดเป็นยาชาเฉพาะที่ เสริมฤทธิ์การนอนหลับ ยับยั้งเชื้อ HIV
ในตำรายาโบราณมักนำผักเสี้ยนผีไปเข้าตำรับยารักษาอาการปวดเมื่อยหรือหุง ทำน้ำมัน ใช้สำหรับนวด ยานวดตำรับนี้อาจารย์เนตรดาว ยวงศรี จากกองทุนชีวกโกมารภัจจ์ แนะวิธีการหุงไว้ คือ ใช้ผักเค็ดเลือกเอาแต่ใบสด (วัชพืชที่มักขึ้นคู่กับผักเสี้ยนผี หน้าตาคล้ายผักเป็ดหรือคราดหัวแหวน) ใช้เพชรสังฆาตสด ตองตึง ผักเสี้ยนผี เลือกเอาแต่ใบสด นำไปเคี่ยวในน้ำกะทิ (เลือกเอาแต่หัวกะทิ) เคี่ยวนานประมาณ 6-7 ชั่วโมง จะได้น้ำมันสีเขียวใส จึงเรียกว่าน้ำมันเขียวมรกต สรรพคุณดีมาก นอกจากนี้ นำผักเสี้ยนผีไปต้มเอาน้ำกระสายยาแก้ซางขึ้นทรวงอก
เมล็ด
ผักเสี้ยนนำมาต้มหรือชงเป็นชาดื่มช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ฆ่าพยาธิไส้เดือน ถ้ามีอาการปวดหลังให้ใช้ใบสดตำผสมเกลือทาแก้ปวดหลัง[3]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ The Plant List: A Working List of All Plant Species, สืบค้นเมื่อ 17 May 2016
- ↑ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี[ลิงก์เสีย]
- ↑ มหัศจรรย์แห่งสมุนไพรไทย