ข้ามไปเนื้อหา

ดีโยกู ฌอตา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ดีโยกู ฌูตา)
ดีโยกู ฌอตา
ฌอตาขณะเล่นให้แก่ลิเวอร์พูลในปี 2021
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ดีโยกู ฌูแซ ไตไชรา ดา ซิลวา[1]
วันเกิด (1996-12-04) 4 ธันวาคม ค.ศ. 1996 (27 ปี)[2]
สถานที่เกิด โปร์ตู โปรตุเกส
ส่วนสูง 1.78 m (5 ft 10 in)[2]
ตำแหน่ง กองหน้า
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
ลิเวอร์พูล
หมายเลข 20
สโมสรเยาวชน
2005–2013 กงดูมาร์
2013–2015 ปาซุชดึฟึไรรา
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2014–2016 ปาซุชดึฟึไรรา 41 (14)
2016–2018 อัตเลติโกเดมาดริด 0 (0)
2016–2017โปร์ตู (ยืม) 27 (8)
2017–2018วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ (ยืม) 44 (17)
2018–2020 วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 67 (16)
2020– ลิเวอร์พูล 104 (42)
ทีมชาติ
2014–2015 โปรตุเกส อายุไม่เกิน 19 ปี 9 (5)
2015–2018 โปรตุเกส อายุไม่เกิน 21 ปี 20 (8)
2016 โปรตุเกส อายุไม่เกิน 23 ปี 1 (1)
2019– โปรตุเกส 41 (14)
เกียรติประวัติ
ฟุตบอลชาย
ตัวแทนของ ธงชาติโปรตุเกส โปรตุเกส
ยูฟ่าเนชันส์ลีก
ชนะเลิศ 2019
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2024
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 1 กรกฏาคม ค.ศ. 2024

ดีโยกู ฌูแซ ไตไชรา ดา ซิลวา (โปรตุเกส: Diogo José Teixeira da Silva; เกิด 4 ธันวาคม ค.ศ. 1996) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดีโยกู ฌอตา (Diogo Jota) เป็นนักฟุตบอลชาวโปรตุเกส ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับลิเวอร์พูลและทีมชาติโปรตุเกส

เขาเริ่มต้นอาชีพกับปาซุชดึฟึไรราในปรีไมราลีกา ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับอัตเลติโกมาดริดในอีกสองฤดูกาลถัดมา และถูกปล่อยยืมตัวให้กับโปร์ตูและวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ ต่อมาใน ค.ศ. 2018 เขาย้ายไปสโมสรหลังแบบถาวร เขาเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลใน ค.ศ. 2020.[3]

ฌอตาเคยเล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกสรุ่นอายุไม่เกิน 19, 21 และ 23 ปี[4][5] และลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกใน ค.ศ. 2019

สโมสรอาชีพ

[แก้]

วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์

[แก้]

ลิเวอร์พูล

[แก้]

ฤดูกาล 2020-21

[แก้]

วันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 2020 ฌอตาย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 41 ล้านปอนด์ ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2020 ฟุตบอลลีกคัพ รอบ 3 ฌอตาลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดแรก โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลิงคอล์นซิตี 7-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 4 ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[6] ต่อมา ในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2020 ฌอตาทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[7] ต่อมา ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ฌอตาทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 2-1[8] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม D ฌอตาทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ มิดทิลลันด์ จากเดนมาร์ก 2-0 และนับเป็นประตูที่ 10,000 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรลิเวอร์พูลอีกด้วย[9] ต่อมา ในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ฌอตาทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-1[10] ต่อมา ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 รอบแบ่งกลุ่ม D ฌอตาทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาตาลันตา จากอิตาลิ ที่สตาดีโออัตเลตีอัซซูร์รีดีตาเลีย 5-0[11] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 ฌอตาทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 3-0[12] ต่อมา ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ฌอตาทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 1-1

ในวันที่ 15 มีนาคม 2020 ฌอตาทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะทีมเก่าของเขา วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ ที่สนามกีฬาโมลีนิวส์ 1-0[13] ต่อมา ในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2021 ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 3-0[14] ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 4-2[15]

ฤดูกาล 2021-22

[แก้]

ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 3-0[16] ต่อมา ในวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 2-0[17] ต่อมา ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เบรนต์ฟอร์ด ที่เบรนต์ฟอร์ดคอมมิวนิตีสเตเดียม 3-3 ต่อมา ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 5-0[18] ต่อมา ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021–22 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม B ฌอตาทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021–22 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อัตเลติโกเดมาดริด จากสเปน 2-0[19] ต่อมา ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 4-0[20] ต่อมา ในวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 4-0[21] ต่อมา ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสันพาร์ก 4-1[22] ต่อมา ในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-1[23] ต่อมา ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2021 ฌอตาทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามกีฬาทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-2 ต่อมา ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2021 ฟุตบอลลีกคัพ รอบ 5 ฌอตายิงประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เลสเตอร์ซิตี 3-3 สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[24]

ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2022 ฟุตบอลลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 2-0 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[25] ต่อมา ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบ 4 ฌอตายิงประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[26] ต่อมา ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 2-0[27]

ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 อีเอฟแอลคัพ 2022 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 11-10 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพ สมัยที่ 9 ได้สำเร็จ[28] ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2022 ฌอตาทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 2-0[29] ต่อมา ในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ฌอตายิงประตูชัย ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอตทิงแฮมฟอเรสต์ ที่ซิตีกราวด์ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[30] ต่อมา ในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2022 ฌอตาทำประตูที่ 14 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 2-0 ต่อมา ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2022 ฌอตาทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 2-2

ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ[31] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ แอสตันวิลลา ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[32]

ฤดูกาล 2022-23

[แก้]

ในวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 2022 ฌอตาตัดสินใจต่อสัญญา 5 ปี กับสโมสรลิเวอร์พูล จนถึงปี ค.ศ. 2027[33]

ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2023 ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลีดส์ยูไนเต็ด ที่เอลแลนด์โรด 6-1[34] ต่อมา ในวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2023 ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอตทิงแฮมฟอเรสต์ 3-2[35] ต่อมา ในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2023 ฌอตาทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4-3[36] ต่อมา ในวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เซาแทมป์ตัน 4-4

ฤดูกาล 2023-24

[แก้]

ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2023 ฌอตาทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-1[37] ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2023 ฌอตาทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-1[38] ต่อมา ในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2023 ฟุตบอลลีกคัพ รอบ 3 ฌอตายิงประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 4 ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[39] ต่อมา ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2023 ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2023–24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E ฌอตาทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ยูนิยง แซงต์ กิลลุส 2-0[40] ต่อมา ในวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 2023 ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E ฌอตาทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ตูลูซ 5-1[41] ต่อมา ในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2023 ฌอตาทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอตทิงแฮมฟอเรสต์ 3-0[42]

ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 ฌอตาทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบรนต์ฟอร์ด 3-0[43] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2023 ฌอตาทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 2-0 และเป็นประตูที่ 50 ให้กับสโมสรลิเวอร์พูล อีกด้วย[44] ต่อมา ในวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 2024 ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท 4-0[45] ต่อมา ในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2024 เอฟเอคัพ รอบ 4 ฌอตาทำประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 5-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[46] ต่อมา ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2024 ฌอตาทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชลซี 4-1[47] ต่อมา ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 ฌอตาทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 3-1[48] ต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2024 ฌอตาทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม ที่เครเวนคอตทิจ 3-1[49]

ฤดูกาล 2024-25

[แก้]

ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2024 ฌอตาทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024–25 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อิปสวิชทาวน์ 2-0[50] ต่อมา ในวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2024 ฟุตบอลลีกคัพ รอบ 3 ฌอตายิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 5-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 4 ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[51] ต่อมา ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2024 ฌอตาทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 1-0[52]

สถิติอาชีพ

[แก้]

สโมสร

[แก้]
ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2024[53]
สโมสร ฤดูกาล ลีก ถ้วยแห่งชาติ[a] ลีกคัพ[b] ยุโรป อื่น ๆ รวม
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
ปาซุชดึฟึไรรา 2014–15 ปรีไมราลีกา 10 2 1 1 0 0 11 3
2015–16 31 12 1 0 2 0 34 12
รวม 41 14 2 1 2 0 45 15
อัตเลติโกมาดริด 2016–17 ลาลิกา 0 0 0 0
โปร์ตู (ยืม) 2016–17 ปรีไมราลีกา 27 8 1 0 1 0 8[c] 1 37 9
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ (ยืม) 2017–18 อีเอฟแอลแชมเปียนชิป 44 17 1 1 1 0 46 18
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 2018–19 พรีเมียร์ลีก 33 9 3 1 1 0 37 10
2019–20[54] 34 7 0 0 0 0 14[d] 9 48 16
รวม 111 33 4 2 2 0 14 9 131 44
ลิเวอร์พูล 2020–21[55] พรีเมียร์ลีก 19 9 0 0 2 0 9[c] 4 30 13
2021–22[56] พรีเมียร์ลีก 35 15 5 2 4 3 11[c] 1 55 21
2022–23[57] พรีเมียร์ลีก 22 7 0 0 0 0 6[c] 0 0 0 28 7
2023–24 พรีเมียร์ลีก 21 10 2 1 4 1 5[d] 3 32 15
2024–25[58] พรีเมียร์ลีก 7 2 0 0 1 2 2[c] 0 10 4
รวม 104 43 7 3 11 6 33 8 155 60
รวมทั้งหมด 283 98 14 6 16 6 55 18 368 128

ทีมชาติ

[แก้]
ณ วันที่ 1 กรกฏาคม 2024[59]
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
โปรตุเกส 2019 2 0
2020 8 3
2021 12 5
2022 7 2
2023 7 2
2024 6 2
รวม 42 14

เกียรติประวัติ

[แก้]

วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์

ลิเวอร์พูล

โปรตุเกส

รางวัลส่วนตัว

[แก้]
  • SJPF Young Player of the Month: ตุลาคม/พฤศจิกายน 2015
  • Primeira Liga Goal of the Month: กุมภาพันธ์ 2016
  • UEFA Champions League Breakthrough XI: 2020
  • Liverpool Player of the Month: ตุลาคม 2020[63], พฤศจิกายน 2020[64]
  • PFA Fan’s Player of the Month: พฤศจิกายน 2020

อ้างอิง

[แก้]
  1. "2018/19 Premier League squads confirmed". Premier League. 3 September 2018. สืบค้นเมื่อ 4 September 2018.
  2. 2.0 2.1 "Diogo Jota: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 29 December 2021.
  3. "Liverpool FC seal signing of Diogo Jota on long-term deal". Liverpool FC. สืบค้นเมื่อ 2020-09-19.
  4. "Portugal (sub-20): André Horta e Diogo Jota convocados para estágio" [Portugal (under-20): André Horta and Diogo Jota called for training camp] (ภาษาโปรตุเกส). Mais Futebol. 22 January 2016. สืบค้นเมื่อ 7 June 2018.
  5. "Portugal-México, 4–0" [Portugal-Mexico, 4–0]. Record (ภาษาโปรตุเกส). 28 March 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 7 June 2018.
  6. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกถล่มลินคอล์น ซิตี้ เข้ารอบคาราบาว คัพ
  7. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มเหนืออาร์เซนอล
  8. Match Report: ลิเวอร์พูลแซงเอาชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1
  9. Match Report: ประตูของโชต้า และซาลาห์ ช่วยลิเวอร์พูลคว้าชัยเหนือมิดทิลแลนด์
  10. Match Report: โชต้ายิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลแซงชนะเวสต์แฮม
  11. Match Report: โชต้ากดแฮตทริกในเกมบุกถล่มอตาลันต้า 5-0
  12. Match Report: ลิเวอร์พูลร้อนแรงชนะเลสเตอร์ขาดลอย
  13. Match Report: โชต้ายิงให้ลิเวอร์พูลบุกเฉือนวูล์ฟส์
  14. Match Report: โชต้าเหมาสองประตูให้ลิเวอร์พูลบุกถล่มอาร์เซนอล
  15. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
  16. Match Report: ลิเวอร์พูลออกสตาร์ตพรีเมียร์ลีกด้วยสามแต้ม
  17. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มที่แอนฟิลด์
  18. Match Report: ซาลาห์แฮตทริกช่วยลิเวอร์พูลบุกถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด 5 ประตู
  19. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะแอตเลติโก้ก่อนผ่านเข้ารอบแชมเปียนส์ลีก
  20. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มอาร์เซนอล
  21. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มเซาท์แฮมป์ตัน 4-0
  22. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มเอฟเวอร์ตันถึงกูดิสัน พาร์ก
  23. Match Report: ลิเวอร์พูลกลับมาแซงชนะนิวคาสเซิล 3-1
  24. Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเลสเตอร์ พลิกเข้ารอบรองฯ คาราบาว คัพ
  25. Match Report: ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ
  26. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยเหนือคาร์ดิฟฟ์เข้ารอบเอฟเอ คัพ
  27. Match Report: โชต้าเหมาสองประตูให้ลิเวอร์พูลชนะเลสเตอร์ ซิตี้
  28. Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเชลซีคว้าแชมป์คาราบาว คัพ
  29. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเก็บสามแต้มเหนืออาร์เซนอล
  30. Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนฟอเรสต์ ทะลุเข้ารอบรองเอฟเอ คัพ
  31. Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ
  32. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวูล์ฟส์ในเกมสุดท้ายที่แอนฟิลด์
  33. โชต้าเซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับลิเวอร์พูล
  34. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกถล่มลีดส์ที่เอลแลนด์ โร้ด
  35. Match Report: ลิเวอร์พูลเอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-2
  36. Match Report: โชต้ายิงนาทีสุดท้ายให้ลิเวอร์พูลชนะสเปอร์ส
  37. Match Report: ลิเวอร์พูลประเดิมสามแต้มที่แอนฟิลด์
  38. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดบ้านคว้าชัยเหนือเวสต์แฮม! 3-1
  39. Match Report: ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมคาราบาวคัพ
  40. Match Report: ลิเวอร์พูล เอาชนะกับแซงต์ กิลลัวส์ (ยูโรปา)
  41. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มตูลูสในยูโรปา ลีก
  42. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยเหนือน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ขาดลอย
  43. Match Report: ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มก่อนพักเบรกทีมชาติ
  44. Match Report: ลิเวอร์พูลเอาชนะเบิร์นลีย์ 2-0
  45. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะบอร์นมัธ 4 ประตูต่อ 0
  46. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มนอริชผ่านเข้ารอบ 5 เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ
  47. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มเชลซี 4-1 ที่แอนฟิลด์
  48. Match Report: ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มเหนือเบิร์นลีย์
  49. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกชนะฟูแล่ม 3-1
  50. MATCH REPORTJota and Salah strike to give Liverpool opening-day victory at Ipswich
  51. MATCH REPORTLiverpool hit five against Hammers to start Carabao Cup defence
  52. MATCH REPORTDiogo Jota goal secures victory for league leaders Liverpool at Palace
  53. "Diogo Jota". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 11 June 2018.
  54. "Games played by ดีโยกู ฌอตา in 2019/2020". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 26 July 2019.
  55. "Games played by ดีโยกู ฌอตา in 2020/2021". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 7 March 2021.
  56. "Games played by ดีโยกู ฌอตา in 2021/2022". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 29 December 2021.
  57. "Games played by ดีโยกู ฌอตา in 2022/2023". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 3 September 2022.
  58. "Games played by ดีโยกู ฌอตา in 2024/2025". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 17 August 2024.
  59. "ดีโยกู ฌอตา". National Football Teams. Benjamin Strack-Zimmermann. สืบค้นเมื่อ 28 January 2018.
  60. Anderson, John, บ.ก. (2018). Football Yearbook 2018–2019. London: Headline Publishing Group. pp. 386–387. ISBN 978-1-4722-6106-9.
  61. McNulty, Phil (27 February 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 27 February 2022.
  62. "Portugal regressa ao topo da Europa. Liga das Nações fica em casa" [Portugal returns to the top of Europe. Nations League stays home]. Sapo. 9 June 2019. สืบค้นเมื่อ 10 June 2019.
  63. โชต้าคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนต.ค.ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด
  64. ดิโอโก้ โชต้า คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]