ชื่อบุคคลพม่า
ชื่อบุคคลพม่าไม่มีโครงสร้างเป็นชุดคำอย่างชื่อบุคคลในสมัยใหม่ส่วนมาก ชาวพม่านั้นไม่มีธรรมเนียมการนำชื่อทางญาติฝ่ายพ่อหรือญาติฝ่ายแม่มาใส่ในชื่อตัว ดังนั้นจึงไม่มีการใช้นามสกุล ในวัฒนธรรมพม่า บุคคลสามารถเปลี่ยนชื่อตนเองได้ตามใจชอบ โดยมักจะปราศจากการควบคุมของภาครัฐ เพื่อสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงชีวิตของตน ชาวพม่าจำนวนมากยังนิยมใช้คำนำหน้าชื่อเป็นส่วนหนึ่งของชื่อตัว เพื่อแสดงถึงฐานะของตนเองในแต่ละช่วงอีกด้วย[1]
ชื่อแบบดั้งเดิมและชื่อแบบตะวันตก
[แก้]ชื่อภาษาพม่าแบบดั้งเดิมนั้นมักมีพยางค์เดียว เช่น อู้นุ, อู้ตั่น (คำว่า "อู้" เป็นคำนำหน้าชื่อ) แต่เมื่อถึงช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ชาวพม่าจำนวนมากเริ่มใช้ชื่อแบบ 2 พยางค์ แม้ว่าจะปราศจากรูปแบบและโครงสร้างของชื่อที่แน่นอนนัก ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1890 นักปราชญ์ชาวบริเตนสังเกตพบว่า ชาวยะไข่นิยมใช้ชื่อแบบ 3 พยางค์ ในขณะที่ชาวพม่ายังคงใช้ชื่อพยางค์เดียว หรืออย่างมากที่สุดก็เพียง 2 พยางค์เท่านั้น[2] เมื่อชาวพม่ามีความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมแบบตะวันตกมากขึ้น พวกเขาก็ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนพยางค์ลงในชื่อลูกหลานของตนเองโดยใช้โครงสร้างคำหลากหลายแบบ ปัจจุบันนี้ ชื่อจำนวนสี่พยางค์นั้นเป็นที่นิยมในหมู่บุรุษชาวพม่า สำหรับสตรีชาวพม่านั้น จำนวนพยางค์ชื่ออาจมีได้มากถึง 5 พยางด์
นักปราชญ์จำนวนมาก เช่น ตั่นมหยิ่นอู้ ได้แสดงความเห็นคัดค้านว่า การที่ชื่อของชาวพม่ามีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการล่มสลายของระบอบราชาธิปไตยของพม่า ซึ่งนำไปสู่การสิ้นสุดของระบบการตั้งชื่อแบบภาษาบาลี-พม่า ทำให้ชาวพม่าส่วนมากใช้ชื่อเพียงพยางค์เดียว[3] ชื่อตำแหน่งต่าง ๆ ในอดีต เช่นคำว่า มี่น (မင်း; "กษัตริย์, ผู้นำ") ได้ถูกนำมาปรับใช้ให้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อตัวโดยตรงแทน[3]
กรณีตัวอย่างของระบบการตั้งชื่อของชาวพม่าในที่นี้ได้แก่ อองซาน นักชาตินิยมชาวพม่า มีบิดาชื่อ "พา" (ဖာ) มารดาซื่อ "ซู" (စု) ทั้งสองคนล้วนใช้ชื่อเพียงพยางค์เดียว ชื่อเมื่อแรกเกิดของอองซานคือ "เทนลี่น" (ထိန်လင်း) ภายหลังจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น "อองซาน" (အောင်ဆန်း) ธิดาเพียงคนเดียวของเขาชื่อ อองซานซูจี (အောင်ဆန်းစုကြည်) คำว่า "อองซาน" ในตอนต้นของชื่อนั้นมาจากชื่อบิดาของเธอในตอนที่เธอเกิด "ซู" มาจากชื่อของย่า "จี" มาจากชื่อ "คีนจี" (ခင်ကြည်) ผู้เป็นมารดาของเธอ การแทรกชื่อของบิดาหรือมารดาลงในชื่อตัวนั้นสามารถพบได้บ่อยครั้งในปัจจุบัน แม้นั่นจะไม่ได้แสดงถึงพัฒนาการในการใช้นามสกุลก็ตาม นอกจากนี้ ก็ยังมีการใช้ระบบการตั้งชื่อแบบอื่น ๆ อยู่ด้วยเช่นกัน
ชื่อของบุคคลชนชาติพม่าโดยทั่วไปแล้วมักจะปรากฏคำที่มาจากภาษาบาลีผสมกับคำพื้นถิ่นภาษาพม่า เช่น:
- บุรุษ:
- ตูระ (သူရ) "กล้าหาญ, องอาจ" มาจากคำว่า สูร (สุระ)
- ตีฮะ (သီဟ) "ราชสีห์", มาจากคำว่า สีห (สีหะ)
- เซยะ (ဇေယျာ) "ชัยชนะ", มาจากคำว่า เชยฺย (ไชยยะ)
- วูนนะ (ဝဏ္ဏ) "ทองคำ", มาจากคำว่า วณฺณ (วัณณะ, วรรณะ)
- สตรี:
- ซานดา (စန္ဒာ) "ดวงจันทร์", มาจากคำว่า จนฺท (จันทะ)
- ตานดา (သန္တာ) "หินปะการัง", มาจากคำว่า สนฺตา (สันตา)
- ตีริ (သီရိ) "ความดีงาม", มาจากคำว่า สิริ
- เฮมา (ဟေမာ) "ป่า", มาจากคำว่า เหมา (/เห-มา/) เป็นการเปรียบเทียบกับความงามของป่าหิมพานต์หรือภูเขาหิมาลัย
ชาวพม่าที่แต่งงานกับชาวต่างชาติหรือย้ายไปอาศัยในประเทศที่ใช้นามสกุล อาจใช้ชื่อตัวเพียงส่วนหนึ่งแทนนามสกุลตามแบบธรรมเนียมตะวันตก เช่น ภรรยาของบุรุษชื่อ "ตูน-มหยิ่น" (Tun Myint) ได้เปลี่ยนนามสกุลเดิมของตนเองเป็น "มหยิ่น" แต่ความจริงแล้วคำว่า "มหยิ่น" เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชื่อตัวของสามี
คำนำหน้าชื่อ
[แก้]คำนำหน้าชื่อเป็นส่วนเสริมของชื่อตัว และอาจใช้เป็นรูปแบบปกติในการกล่าวถึงทั้งในการเขียนและการสนทนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชื่อที่มีเพียง 1 หรือ 2 พยางค์ การใช้คำนำหน้าชื่อพบได้แพร่หลายในทุกวัฒนธรรมของภูมิภาคพม่า แม้บางชาติพันธุ์จะมีการใช้คำนำหน้าชื่อพิเศษเป็นการเฉพาะ (เช่น ยศ บรรดาศักดิ์) คำเหล่านั้นก็ได้รับการยอมรับและนำมาปรับใช้ในหมู่ชาติพันธุ์อื่นมากกว่าจะแปลความหมายมาใช้โดยตรง
ยกตัวอย่างเช่น บิดามารดาของอองซานเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ "อู้พา" และ "ดอซู" ซึ่งอาจแปลได้ว่า "นายพา (ลุงพา)" และ "นางซู (ป้าซู)" แต่การแปลเช่นนั้นมักใช้ในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ
ตารางเบื้องล่างนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำนำหน้าชื่อที่พบได้ทั่วไป
คำนำหน้าชื่อ (ทับศัพท์อักษรโรมัน) |
ทับศัพท์อักษรไทย | อักษรพม่า | คำแปล | การใช้งาน |
---|---|---|---|---|
Ashin | อะชีน | အရှင် หรือ အသျှင် | เจ้านาย, นายท่าน, แม่นาย, เจ้ากู | พระภิกษุสงฆ์ ขุนนาง และผู้หญิงชั้นผู้ดี (พบได้ยากมาก) |
Binnya, Banya | บะญ่า | ဗညား หรือ ဗညာ | พญา, พระยา | เจ้านายเชื้อพระวงศ์หรือขุนนาง มักใช้กับชาวมอญ เช่น บะญ่านแหว่ "พระยาน้อย" (พระนามเดิมของพระเจ้าราชาธิราชแห่งหงสาวดี), มาจากคำภาษามอญ เปอะเญีย (ဗညာ /pəɲɛ̀a/ ถอดรูปอักษรไทยคือ พญา)[4] |
Bo, Bogyoke | โบ, โบโชะ | ဗိုလ်/ဗိုလ်ချုပ် | แม่ทัพ/ขุนพล/นายพล/ผู้นำ | นายทหาร เช่น โบโชะอองซาน (นายพลอองซาน, มียศทางทหารชั้นนายพลตรี) |
Daw | ดอ | ဒေါ် | ป้า, น้า, นาง | สตรีผู้อาวุโสด้วยอายุหรือฐานะ เช่น ดออองซานซูจี |
Duwa | ดู้ว่า | ဒူးဝါး | ผู้นำ | ผู้นำชาวกะชีน |
Gyi | จี้ | ကြီး | ยิ่งใหญ่ | ใช้เป็นคำต่อท้ายเพื่อแสดงความเคารพ เช่น คีนจี้ปยอ |
Khun | คูน | ခွန် | นาย | ชาวไทใหญ่ (ซึ่งมีบรรพบุรุษเป็นชาวเชียงตุง เช่น คูนทู่นอู้) และชาวปะโอ ในภาษาไทยบางครั้งเลือกเขียนทับศัพท์ว่า ขุน |
Ko | โก | ကို | พี่ชาย | บุรุษผู้มีอายุใกล้เคียงกัน เช่น โกเมียะเอ้ |
Ma | มะ | မ | น้องสาว/นางสาว | สตรีวัยสาวหรือผู้มีอายุใกล้เคียงกัน |
Mahn | ม่าน | မန်း | นาย | บุรุษชาวกะเหรี่ยง เช่น ม่านวี่น-มอง |
Mai, Me | แม | မယ် | สตรีวัยสาวระดับเดียวกับคำว่า มะ แต่พบการใช้น้อยมาก | |
Maung (คำย่อ: Mg) | มอง (หม่อง) | မောင် | น้องชายวัยเด็ก | บางครั้งใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อตัวด้วย |
Mi | มิ | မိ | นางสาว | สตรีวัยรุ่นบางส่วน มักจะใช้เป็นชื่อเล่น เช่น มิซเว (นักร้องและนักแสดงชาวพม่า) |
Mi | มิ | မိ | นางสาว | สตรีชาวมอญ |
Min | มี่น | မင်း | กษัตริย์ | ใช้เป็นคำต่อท้ายพระนาม เช่น มี่นโด้นมี่น (พระเจ้ามินดง) |
Minh | มี่น | မင်း | เด็กชายชาวมอญ ใช้ในระดับเดียวกับคำว่า มอง มาจากคำภาษามอญ มัง မာံ (/mèm/)[4] | |
Nai | ไนง์ | နိုင် | นาย | บุรุษชาวมอญ ใช้ในระดับเดียวกับคำว่า อู้ (เช่น ไนง์ชเวจีน) มาจากคำภาษามอญ นาย နဲာ (/nài/)[4] |
Nang | น่าน | နန်း | นาง, นางสาว | สตรีชาวไทใหญ่ชั้นผู้ดี มาจากคำภาษาไทใหญ่ นาง ၼၢင်း (/naaŋ/)[5][6] |
Naw | นอ | နော် | คุณผู้หญิง, นางสาว | สตรีชาวกะเหรี่ยง โดยเฉพาะชาวปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยงสกอ) |
Nant | หนั่น | နမ့် | คุณผู้หญิง, นางสาว | สตรีชาวกะเหรี่ยง (โดยเฉพาะชาวกะเหรี่ยงโปว์ตะวันตก) |
Nan | น่าน | နန်း | คุณผู้หญิง, นางสาว | สตรีชาวกะเหรี่ยง (โดยเฉพาะชาวกะเหรี่ยงโปว์ตะวันออก) เช่น น่านคีนทเว่มหยิ่น (มุขมนตรีแห่งรัฐกะเหรี่ยง) |
Nan | น่าน | နန်း | นาง, นางสาว | สตรีชาวไทใหญ่ |
Nga | งะ | င | ไอ้ | ใช้เป็นคำนำหน้าชื่อบุรุษ ปัจจุบันมีความหมายในทางไม่ดี |
Sai | ไซ่ง์ | စိုင်း | ชาย | บุรุษชาวไทใหญ่ (เช่น ไซ่ง์ที่ไซง์) มาจากคำภาษาไทใหญ่ จาย ၸၢႆး (/tsaaj/[5] |
Salai | ซะไล่ง์ | ဆလိုင်း | บุรุษชาวชีน | |
Sao | ซะ | စဝ် | เจ้า | เจ้านายเชื้อพระวงศ์ชาวไทใหญ่ (เช่น ซะซานทู่น) มาจากคำภาษาไทใหญ่ เจ้า ၸဝ်ႈ (/tsaw/)[5] |
Saw | ซอ | စော | เจ้า | เจ้านายเชื้อพระวงศ์ชาวไทใหญ่ (แปลงรูปคำ เจ้า จากภาษาไทใหญ่ตามอักขรวิธีพม่า) เช่น ซอมูนละ |
Saw | ซอ | စော | นาย | บุรุษชาวกะเหรี่ยง (โดยเฉพาะกะเหรี่ยงสกอและกะเหรี่ยงโปว์ตะวันออก) เช่น ซอโบเมียะ, ซอหละตุน (อดีตมุขมนตรีแห่งรัฐกะเหรี่ยง) |
Sa | ซะ | စ | นาย | บุรุษชาวกะเหรี่ยง (โดยเฉพาะกะเหรี่ยงโปว์ตะวันตก) |
Saopha, Sawbwa | ซอ-บว่า | စော်ဘွား | เจ้าฟ้า | เป็นการออกเสียงตามสำเนียงภาษาพม่าของคำภาษาไทใหญ่ เจ้าฟ้า (ၸဝ်ႈၽႃႉ /tsaw.pʰaa/) มักใช้เป็นคำต่อท้ายพระนามของเจ้าฟ้าไทใหญ่ (กษัตริย์แห่งนครรัฐต่าง ๆ ของชาวไทใหญ่) เช่น ญองชเวซอ-บว่าซะชเวไตง์[5] |
Saya | ซะยา | ဆရာ | ครู | บุรุษผู้อาวุโสด้วยฐานะหรืออายุ เช่น ซะยาทิน |
Sayadaw | ซะยาดอ | ဆရာတော် | ราชครู | พระภิกษุสงฆ์ผู้อาวุโส (เช่น ซะยาดออู้ปัณฑิตะ) |
Sayama | ซะยามะ | ဆရာမ | แม่ครู | สตรีผู้อาวุโสด้วยฐานะหรืออายุ |
Shin | ชีน (เชง) | ရှင် หรือ သျှင် | เจ้านาย | คำโบราณ ใช้เรียกพระภิกษุสงฆ์, ขุนนางหรือชนชั้นผู้ดีทั้งชายและหญิง เช่น ชีนอะระฮาน, ชีนแยทุ (หนึ่งในพระนามเดิมของพระเจ้าบุเรงนอง) |
Thamein | ตะเมน | သမိန် | เจ้านาย | แปลงมาจากคำภาษามอญ สมิง သၟီ (/hmoiŋ/) ใช้สำหรับเชื้อพระวงศ์ชาวมอญ เช่น ตะเมนทอ, ตะเมนมะรู่ |
Tekkatho | แตะกะโต | တက္ကသိုလ် | ผู้รอบรู้ | มาจากชื่อเมืองตักศิลา มีความหมายเชิงเปรียบเทียบว่าผู้รอบรู้ ใช้เรียกนักประพันธ์ในสมัยก่อน เช่น แตะกะโตโพ่นไนง์ |
Thakin | ตะคีน | သခင် | เจ้านาย | สมาชิกสมาคมเราชาวพม่า ซึ่งเรียกตัวเองว่า "กลุ่มตะคีน" เช่น ตะคีนโกดอไม่ง์, ตะคีนนุ |
Theippan | เตะปาน | သိပ္ပံ | ศิลปะ | มาจากภาษาบาลี สิปฺปํ ใช้เรียกนักประพันธ์ในสมัยก่อน เช่น เตะปานมองวะ |
U | อู้ | ဦး | ลุง/อา/นาย | บุรุษวัยกลางคน บุรุษผู้อยู่ในตำแหน่งอาวุโส และพระภิกษุสงฆ์ เช่น อู้ตั่น, ซะยาดออู้อุตตมะ |
การทำดรรชนีเอกสาร
[แก้]ตามหนังสือ The Chicago Manual of Style ชื่อบุคคลพม่านั้นจะทำดรรชนีโดยอ้างอิงตามคำแรกในชื่อ เว้นเสียแต่ว่าคำนั้นจะเป็นคำนำหน้าชื่อตัว บรรดาคำนำหน้าชื่อตัวจะถูกกล่าวถึงต่อท้ายจากชื่อตัว โดยแบ่งด้วยเครื่องหมายจุลภาค หรืออาจจะละไว้ ไม่กล่าวถึงเสียเลยก็ได้[7]
ระบบการตั้งชื่อโดยอิงหลักโหราศาสตร์
[แก้]ชาวพุทธในพม่าจำนวนหนึ่งนิยมตั้งชื่อบุตรหลานของตนตามหลักโหราศาสตร์ โดยอิงตามวันและเวลาตกฟากตามปฏิทินแบบโบราณ เช่น เด็กที่เกิดวันจันทร์อาจใช้ชื่อที่ขึ้นต้นด้วยรูปอักษร "ก" (က) ตารางต่อไปนี้เป็นการจำแนกอักษรตามวรรคภาษาบาลีที่ใช้ตั้งชื่อตามวันเวลาตกฟาก ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ได้นิยมใช้กันทั่วไปนัก
วัน | อักษร |
---|---|
จันทร์ (တနင်္လာ) | อักษร ก วรรค ทั้งหมด คือ က (ก), ခ (ข), ဂ (ค), ဃ (ฆ), င (ง) |
อังคาร (အင်္ဂါ) | อักษร จ วรรค ทั้งหมด คือ စ (จ), ဆ (ฉ), ဇ (ช), ဈ (ฌ), ည (ญ) |
พุธกลางวัน (ဗုဒ္ဓဟူး) | อักษรเศษวรรค လ (ล), ဝ (ว) |
พุธกลางคืน, ราหู (ရာဟု) | อักษรเศษวรรค ယ (ย), ရ (ร) |
พฤหัสบดี (ကြာသာပတေး) | อักษร ป วรรค ทั้งหมด คือ ပ (ป), ဖ (ผ), ဗ (พ), ဘ (ภ), မ (ม) |
ศุกร์ (သောကြာ) | อักษรเศษวรรค သ (ส), ဟ (ห) |
เสาร์ (စနေ) | อักษร ต วรรค ทั้งหมด คือ တ (ต), ထ (ถ), ဒ (ท), ဓ (ธ), န (น) |
อาทิตย์ (တနင်္ဂနွေ) | อักษรเศษวรรค အ (อ) |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Burmese Names: A Guide". Mi Mi Khaing. The Atlantic. February 1958
- ↑ Houghton, Bernard (July 1897). "The Arakanese Dialect of the Burman Language". Journal of the Royal Asiatic Society of Great Britain and Ireland. Royal Asiatic Society of Great Britain and Ireland: 454. JSTOR 25207880.
- ↑ 3.0 3.1 Thant Myint-U (2001). The Making of Modern Burma. Cambridge University Press. p. 242. ISBN 9780521799140.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 Shorto, H. L. (1962). Dictionary of Modern Spoken Mon. Oxford University Press.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 Moeng, Sao Tern (1995). Shan-English Dictionary. ISBN 0-931745-92-6.
- ↑ Simms, Sao Sanda (2017-08-09). "Ahp 48 Great Lords of the Sky: Burma's Shan Aristocracy".
- ↑ "Indexes: A Chapter from The Chicago Manual of Style." the Chicago Manual of Style. Retrieved on December 23, 2014. p. 25 (PDF document p. 27/56).