ฉบับร่าง:ศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก
ฉบับร่างนี้ถูกตีกลับ เมื่อ 16 กรกฎาคม 2567 โดย Kaoavi (คุย) แหล่งอ้างอิงในบทความที่ส่งไม่ได้แสดงให้เห็นว่าหัวข้อของบทความมีคุณสมบัติเพียงพอจะมีบทความในวิกิพีเดีย กล่าวคือ ไม่ได้มีการกล่าวถึงหัวเรื่องดังกล่าวอย่างมีนัยยะสำคัญ (คือไม่ได้กล่าวถึงอย่างลอย ๆ) ในแหล่งอ้างอิงที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ, เชื่อถือได้, เป็นแหล่งอ้างอิงทุติยภูมิ ซึ่งเป็นอิสระจากหัวเรื่อง (โปรดดูที่แนวทางว่าด้วยความโดดเด่นของเว็บไซต์) ก่อนจะส่งบทความอีกครั้ง คุณควรใส่แหล่งอ้างอิงที่ตรงกับเงื่อนไขดังกล่าวเพิ่มเติม (โปรดดู ความช่วยเหลือทางเทคนิค และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยง) หากไม่มีแหล่งอ้างอิงอื่นมาเพิ่มเติม หัวข้อดังกล่าวก็อาจไม่เหมาะสมสำหรับวิกิพีเดีย
ขอความช่วยเหลือ
วิธีปรับปรุงบทความของคุณ
คุณยังสามารถดู วิกิพีเดีย:บทความคัดสรร และ วิกิพีเดีย:บทความคุณภาพ เพื่อค้นหาตัวอย่างบทความที่ดีที่สุดของวิกิพีเดียในหัวข้อที่คล้ายกับบทความที่คุณแจ้งทบทวน ทรัพยากรการแก้ไข
ฉบับร่างนี้ไม่ได้ถูกแก้ไขมานานกว่าหกเดือน ซึ่งตรงกับเงื่อนไขสำหรับการลบทันที ข้อ ท10 ปฏิเสธโดย Kaoavi 6 เดือนก่อน แก้ไขล่าสุดโดย Kaoavi เมื่อ 6 เดือนก่อน ผู้ทบทวน: ส่งข้อความถึงเจ้าของ |
- ความคิดเห็น: อ้างอิงไม่ได้มีความน่าเชื่อถือไม่ควรนำเว็บบล็อกหรือไฟล์ pdf ที่ไม่ได้ระบุแหล่งที่มามาอ้างอิง ควรหาแหล่งอ้างอิงให้หลากหลายกว่านี้เพื่อยืนยันความโดดเด่นของครูท่านนี้ด้วยครับ Kaoavi (คาโอะเอวีไอ) (คุย) 21:40, 16 กรกฎาคม 2567 (+07)
นี่คือบทความฉบับร่างซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแก้ไขได้ โปรดตรวจสอบว่าเนื้อหามีลักษณะเป็นสารานุกรมและมีความโดดเด่นควรแก่การรู้จักก่อนที่จะเผยแพร่เป็นบทความลงในวิกิพีเดีย กรุณาอดทนรอผู้เขียนคนอื่นมาช่วยตรวจให้ อย่าย้ายหน้าไปเป็นบทความเองโดยพลการ ค้นหาข้อมูล: Google (books · news · newspapers · scholar · free images · WP refs) · FENS · JSTOR · NYT · TWL สำคัญ: ถ้าลบป้ายนี้ออกจะทำให้บันทึกหน้าไม่ได้ ผู้แก้ไขหน้านี้คนล่าสุด คือ Kaoavi (พูดคุย | เรื่องที่เขียน) เมื่อ 6 เดือนก่อน (ล้างแคช) |
ศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก (ต่วน ภัทรนาวิก) | |
---|---|
เกิด | 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2426 ต่วน ภัทรนาวิก |
เสียชีวิต | 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 (73 ปี) |
คู่สมรส | เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์หลาน กุญชร) |
อาชีพ | นาฏศิลป์ |
ปีที่แสดง | พ.ศ. 2435 - 2499 |
ศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก (5 กรกฎาคม พ.ศ. 2426 – 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499) หรือที่ชาวนาฏศิลป์เรียกกันโดยทั่วไปว่าหม่อมครูต่วน ผู้ซึ่งมีคุณูปการต่อศิลปะการแสดงนาฏศิลป์ไทยเป็นอย่างมาก[1]
ประวัติ
[แก้]นางศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก นามเดิม ต่วน หรือที่บรรดาศิษย์และผู้เกี่ยวข้องในวงการละครรู้จักและพูดถึงกันว่า หม่อมครูต่วน เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีขึ้น 1 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม จ.ศ. 1245 ตรงกับวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 ที่บ้านเหนือวัดทองธรรมชาติ อำเภอคลองสาน จังหวัดธนบุรี บิดาชื่อ นายกลั่น ภัทรนาวิก เป็นบุตรพระยาภักดิ์ภัทรากร (จอง ภัทรนาวิก) มารดา ชื่อ ลำไย เป็นชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางต่วน ภัทรนาวิก มีพี่น้องร่วม บิดามารดา 5 คนด้วยกัน คือ
- แดง ภัทรนาวิก
- เจิม ภัทรนาวิก
- แสง ภัทรนาวิก
- ต่วน(ศุภลักษณ์) ภัทรนาวิก
- พระสาลี (สุย ภัทรนาวิก)
ภายหลังบิดามารดาได้ขายเรือนและไปซื้อแพอยู่ทางบางลำภูล่าง ซึ่งต่อมาบิดาก็เสียชีวิตลง ณ แพนั้น ขณะหม่อมครูมีอายุได้ 6 ขวบ มารดาจึงขายแพแล้วพาลูก ๆ ไปอยู่กับญาติ แต่ไม่เป็นที่เป็นทางแล้วภายหลังได้มาอยู่กับนางจาดตรงมุมสี่แยกบ้านหม้อด้านใต้ ขณะนั้นมีอายุได้ 9 ขวบ นางจาดมีธิดาคนหนึ่งชื่อเลียบ เป็นคุณหญิงของท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และอีกคนหนึ่ง ชื่อเฉลิม ได้ฝึกหัดเป็นละครอยู่ในบ้านของท่านเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์หลาน กุญชร)
เริ่มฝึกหัดละคร
[แก้]ครูต่วนได้ติดตามนางเฉลิมผู้เป็นพี่เข้าไปดูการฝึกหัดละครในบ้านท่านเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์เป็นประจำจนเกิดรักทางละคร เจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์จึงรับเข้าฝึกหัดละครโดยฝึกหัดบทเป็นตัวนางกับหม่อมวันมารดาของพระยาวิชิตชลธาร (หม่อมหลวงเวศร์ กุญชร)ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ หม่อมวันผู้เป็นครูก็รักใคร่ลูกศิษย์คนนี้ ครั้นรู้ไปถึงคุณหญิงเอมซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณย่าท่านไม่ชอบให้หลานเป็นละครจึงมาตามจะนำเอาตัวไปแต่เนื่องจากตนเองมีนิสัยชอบในทางนี้เสียแล้วจึงไม่ยอมไป คุณย่าขัดเคืองมากถึงกับตัดขาดกัน หม่อมครูต่วนจึงพยายามฝึกฝนจนได้แสดงเป็นตัวนางที่มีฝีมือเป็นที่เมตตาปรานีของท่านเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์เป็นอย่างมาก ต่อมาเมื่ออายุได้ 16 ปี ก็ได้ตกเป็นหม่อมของท่านเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ ท่านเจ้าพระยาจึงถือโอกาสพาต่วนไปขอโทษคุณย่าที่บ้านของท่าน ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี[2]
ครูต่วนได้รับโอกาสแสดงเป็นนางเอกหลายๆเรื่อง เช่น เป็นตัวนางสีดา ในเรื่องรามเกียรติ์ นางรจนา ในเรื่องสังข์ทอง ในสมัยรัชกาลที่ 5 เคยออกแสดงหน้าพระที่นั่งหลายครั้ง และเมื่อท่านเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ร่วมกับสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์สร้างและฝึกหัดละครดึกดำบรรพ์ ณ วังบ้านหม้อ ศุภลักษณ์ก็ได้รับฝึกหัดแสดงในละครดึกดำบรรพ์นั้นด้วย ศุภลักษณ์มีความจำดีเป็นพิเศษสามารถจำบทและคำร้อง คำเจรจาของตัวละครทุกตัวและทุกเรื่องในละครดึกดำบรรพ์ได้แม่นยำโดยไม่ต้องดูบท สามารถชี้แจงข้อผิดพลาดว่าตรงนั้นตรงนี้ตกหล่นหรือเกินมาได้อย่างถูกต้อง สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ก็ทรงพระเมตตาโปรดฝึกหัดศุภลักษณ์ให้เป็นตัวนางยุบล(นางค่อม) ในเรื่องอิเหนา ตอน ตัดดอกไม้ฉายกริช และ ตัวนางศุภลักษณ์ ในเรื่องอุณรุท ซึ่งศุภลักษณ์ได้รับฝึกฝนจนสามารถแสดงได้ดียิ่ง โดยเฉพาะบทของนางค่อมยุบล ภายหลังทีีสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์สิ้นพระชนม์ ศุภลักษณ์ได้รำบทนางค่อมถวายหน้าพระโกศเป็นการถวายสักการะด้วยความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่าน[3]
หม่อมครูต่วนมิได้มีบุตรธิดากับท่านเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์แต่ก็วางตนดี บรรดาบุตรธิดารุ่นเล็กของท่านเจ้าพระยา เช่น คุณหญิงอิศรพงษ์พิพัฒน์ (หม่อมหลวงสำลี) และพลโทหม่อมหลวงขาบ กุญชร ต่างพากันเรียกท่านว่าแม่ ด้วยความเคารพทุกคน
รับราชการ
[แก้]หม่อมครูต่วนอยู่กับท่านเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์มาจน อายุได้ 22 ปี จึงได้ออกจากบ้านท่านเจ้าพระยามาอยู่กับญาติเมื่อราวปีพ.ศ. 2453 ได้อาศัยศิลปะที่ตนฝึกฝนมารับช่วยเหลือฝึกสอนนักเรียนและผู้สนใจในศิลปะทางละครฟ้อนรำเรื่อยมา เมื่อทางราชการได้ตั้งกรมปี่พาทย์และโขนหลวงขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ 7 คุณหญิงเทศ นัฏกานุรักษ์ จึงชักชวนเข้ามารับราชการใน กรมปี่พาทย์และโขนหลวง กระทรวงวัง โดยมอบหน้าที่ให้เป็นคนฝึกหัดละครดึกดำบรรพ์และละครหลวงแต่ก็ได้ลาออกจากราชการไปเมื่อคราวยุบกระทรวงวัง ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งโรงเรียนนาฏดุริยางค์ขึ้นในกรมศิลปากร ศุภลักษณ์ก็ได้เข้ามารับราชการ เป็นครูฝึกสอนนาฏศิลป์อยู่ในโรงเรียนนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2478 และอยู่ตลอดมาจนสิ้นชีวิต นอกจากฝึกสอนนักเรียนเป็นประจำในโรงเรียนนาฏศิลป์ กรมศิลปากรแล้วยังช่วยเหลือฝึกสอนและให้คำแนะนำในเรื่องนาฏศิลป์แก่สถานศึกษาและวงสังคมอื่น ๆ อีกหลายหนหลายแห่ง ตามแต่จะมีผู้ขอร้องมาทั้งส่วนตัวและส่วนราชการ จึงเป็นที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์และพากันยกย่องเรียกท่านว่า "หม่อมครู" ด้วยความเคารพรัก
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อทางราชการปรับปรุงวัฒนธรรมและชักชวนประชาชนให้ปฏิบัติตามรัฐนิยมหลายอย่าง เช่นชักชวนให้เปลี่ยนชื่อให้และสวมหมวกให้ถูกต้องตามรัฐนิยม หม่อมครูต่วนจึงเปลี่ยนชื่อจริงเป็น “ศุภลักษณ์” ตามที่ได้เคยรับฝึกหัดแสดงเป็นตัวนางศุภลักษณ์ในละครในเรื่องอุณรุท
เสียชีวิต
[แก้]ในตอนหลังของชีวิตหม่อมครูได้มาอาศัยอยู่กับน้องชาย คือ พระวิเศษสาลี(สุย ภัทรนาวิก) อธิบดีกรมที่ดิน ณ บ้านเลขที่ 1275 ตำบลบางขุนนนท์ อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี แต่พระวิเศษสาลีก็มาถึงแก่กรรมไปเสียก่อนเมื่อพ.ศ.2490 หม่อมครูก็มีอาการป่วย ออดๆ แอดๆ อยู่เสมอ แต่ก็พยายามมาปฏิบัติราชการไม่ขาดจนถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 รวมอายุได้ 73 ปี 4 เดือน กับ 14 วัน
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ชีวประวัติของหม่อมครูต่วน (ศุภลักษณ์) ภัทรนาวิก pdf
- ↑ "เราชาวนาฎศิลปไม่ควรละเลย". ptyalaptyala.blogspot.com.
- ↑ "นางศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-6 หน้า | PubHTML5". pubhtml5.com.