คัปเค้ก (แร็ปเปอร์)
อลิซาเบธ เอเดน แฮร์ริส (อังกฤษ: Elizabeth Eden Harris; เกิด 31 พฤษภาคม 1997) หรือชื่อในวงการคือ "cupcakke" เป็นนักร้องเพลงแนวแร็ปและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน แฮร์ริสเกิดและเติบโตที่เมืองชิคาโก,รัฐอิลลินอยส์ และเป็นเธอเป็นที่รู้จักในการแต่งเพลงที่มีเนื้อหาโจ่งแจ้งทางเพศ
คัปเค้ก | |
---|---|
คัปเค้กในปี ค.ศ.2022 | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อเกิด | อลิซาเบธ เอเดน แฮร์ริส |
เกิด | ชิคาโก,รัฐอิลลินอยส์, สหรัฐอเมริกา | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1997
แนวเพลง | |
อาชีพ |
|
ช่วงปี | 2012–ปัจจุบัน |
แฮร์ริสได้เริ่มเขียนบทกวีเกี่ยวกับคริสต์ศาสนาตอนที่เธอมีอายุ 14 ปี แต่ต่อมาก็รับฉายานามว่า "cupcakke" ตอนที่เธอเริ่มแต่งเพลงแร็ป ตั้งแต่ปี 2012 ถึงปี 2016 คัปเค้กได้แต่งเพลงมากมายที่มีเนื้อหาทางเพศ และได้เผยแพร่ลงช่องทางออนไลน์[3] ต่อมาเพลงแรกของเธออย่าง "โกลดิกเกอร์" ในปี 2012 ก็ได้รับความสนใจในระดับนึง แต่ต่อมาเธอได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากอินเทอร์เน็ตในปี 2015 จากเพลง "ดีปโทรต" และ "เวอไจน่า" ที่เธอได้เผยแพร่ลงยูทูบ[4] จากนั้นคัปเค้กก็ได้ปล่อยมิกซ์เทปเปิดตัวอันแรกของเธอในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 อย่างคัมเค้ก
ชีวิตช่วงแรก
[แก้]อลิซาเบธ เอเดน แฮร์ริส เกิดในวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ.1997[5] ในเมืองชิคาโก,รัฐอิลลินอยส์และเธอถูกเลี้ยงและเติบโตในย่านคิงส์ไดรฟ์ แฮร์ริสถูกเลี้ยงด้วยแม่เลี้ยงเดี่ยวและเธอใช้เวลาเกือบสี่ปีในค่ายผู้ไร้บ้านเมืองชิคาโก ตั้งแต่ที่เธอมีอายุเจ็ดปี[6] แฮร์ริสได้กล่าวถึงประสบการณ์ที่เธอถูกข่มขืนโดยพ่อของเธอที่เป็นบาทหลวง และต้องทนทุกข์กับโรคซึมเศร้าในเนื้อร้องของเพลง "เอซฮาร์ดแวร์"[7][8] โดยตัวของคัปเค้กได้ระบุพ่อของเธอไว้ว่าเป็น "พ่อที่ละเลยหน้าที่ผู้ปกครอง" หรือ "ผู้กระทำชำเราเด็ก" เธอได้จบการศึกษาจากโรงเรียนประถมศึกศาดัลเลส และต่อมาเธอได้เริ่มเขียนบทกวีเกี่ยวกับความศรัทธาต่อพระเจ้า และคริสต์ศาสนา[9]
หน้าที่การงาน
[แก้]2012-2016: เพลงแรก ๆ ,คัมเค้ก ,เชลเตอร์ทูเดลตัส และ ออเดเชียส
[แก้]แฮร์ริสได้ปล่อยเพลง "โกลดิกเกอร์" เป็นมิวสิกวีดีโอเพลงแรกของเธอลงช่องยูทูบในเดือนสิงหาคมปี 2012 เธอมีอายุ 15 ปีขณะช่วงที่ปล่อยเพลง แต่ต่อมาคลิปต้นฉบับก็ถูกลบไป อีกหลายปีถัดมาคัปเค้กยังคงแต่งเพลงต้นฉบับของตัวเองต่อ และลงเพลงแนวฟรีสไตล์โดยใช้ทำนองจากศิลปินอื่น ๆ ลงช่องยูทูบของเธอ ซึ่งมีผู้ติดตาม 931,000 คน ณ ขณะนี้[10]
ในเดือนตุลาคมปี 2015 แฮร์ริสได้ปล่อยเพลง "เวอร์ไจนา" ลงช่องยูทูป เธอบอกว่าเธอได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง "มายเน็ก, มายแบ็ก (ลิกอิต)" ของเคีย[11] อีกเดือนถัดมาแฮร์ริสได้ปล่อยอีกชื่อว่า "ดีปโทรต" ลงช่องของเธอเองและภายในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ทั้งสองเพลงนี้ก็กลายเป็นไวรัลในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเช่นยูทูบหรือเฟซบุ๊ก ต่อมาทั้งสองเพลงนี้ก็ได้ไปอยู่อัลบั้มมิกซ์เทปเปิดตัวชื่อ "คัมเค้ก" ต่อมาก็มีเพลงเพิ่มเข้ามาในอัลบั้มเช่น "จูซี่คูชี่", "ทิตฟอร์แทต" และ "เพโดไฟเอิล"[12]
ในเดือนมิถุนายนปี 2016 แฮร์ริสได้ปล่อยตัวมิกซ์เทปที่สองของเธอ เอสทีดี (เชลเตอร์ทูเดลตัส) โดยอัลบั้มนี้ถูกปล่อยตัวก่อนซิงเกิลเพลงอย่าง "เบสท์ดิกซักเกอร์" และเพลงอื่น ๆเช่น "ด็อกกี้สไตล์" และ"มาเตอร์แลนส์" ก็ถูกปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ลเพลงในภายหลังเช่นกัน และตัวอัลบั้มนี้ก็ติดอยู่ในลิสต์หนึ่งในอัลบั้มเพลงแรปที่ดีที่สุดประจำปี 2016 โดยโรลลิงสโตน อีกด้วย[13]
ในเดือนตุลาคมปี 2016 แฮร์ริสได้ปล่อยตัวอัลบั้มสตูดิโอเปิดตัวอันแรกชื่อ ออเดเชียส[14] โดยตัวอัลบั้มนั้นถูกปล่อยตัวก่อนซิงเกิลเพลง "พิกกิ้งคอตตั้นส์" ซึ่งสำนักข่าวเอ็มทีวีได้บรรยายไว้ว่า "เป็นเพลงที่สร้างมาเพื่อเป็นการประท้วงพวกตำรวจที่เหยียดผิว"[15] ส่วนเพลงอื่นๆเช่น "สไปเดอร์แมนดิก" และ "แอลจีบีที" ก็ถูกปล่อยตัวมาพร้อมกับมิวสิกวิดีโอ[16][17]
2017-2018: ควีนอลิซาบิตช์, เอฟอไรซ์ และเอเดน
[แก้]ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 แฮร์ริสได้ปล่อยเพลง "คัมชอต" ซึ่งเป็นซิงเกิลนำในอัลบั้มชุดที่สองของเธอ ในวันที่ 7 มีนาคมชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ก็ได้ปล่อยตัวซิงเกิลเพลง "ลิปกลอส" ซึ่งมีแฮร์ริสร่วมด้วย ต่อมาตัวเพลงนี้ก็ถูกรวมเข้าไปในมิกซ์เทปนัมเบอร์วันแองเจิลของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ ที่ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 10 มีนาคมปีเดียวกัน[18]
ต่อมาเธอได้ปล่อยตัวอัลบั้มสตูดิโออันที่สองชื่อว่า ควีนอลิซาบิตช์ในวันที่ 31 มีนาคม ปี 2017[19]
ในวันที่ 7 เมษายนปีเดียวกันควีนอลิซาบิตช์ก็ถูกลบจากบริการสตรีมิ่งและบริการขายเพลงดิจิตอลทุกแห่งเนื่องจากแฮร์ริสได้ใช้ backing track ผิดกฎหมายที่เธอซื้อมา ต่อมาเธอก็ได้ประกาศในทวิตเตอร์ว่าเธอจะปล่อยควันอลิซาบิตช์ลงแพลตฟอร์มอีกครั้งในวันที่ 16 เมษา[20] หลัวจากนั้นเธอก็ปล่อยซิงเกิลใหม่สองเพลง "เอ็กซิท" ในเดือนกันยายนและตามมาด้วย "การ์ตูนส์" ในเดือนพฤศจิกายนปี 2017[21][22]
อัลบั้มสตูดิโออันที่สามของเธออย่าง เอฟอไรซ์ ถูกปล่อยตัวในวันที่ 5 มกราคม ปี2018[23] และเธอได้ปล่อยตัวมิวสิกวีดีโอของเพลง "ดัค ดัค กู๊ส" และเพลง "ฟูลเลสท์" ในตัวมิวสิกวิดอโอแสดงให้เห็นคอลเลคชั่นดิลโดและของที่ระลึกเกี่ยวกับเทพีเสรีภาพ แต่ตอนนี้ตัวคลิปถูกปรับเป็นส่วนตัวแล้ว[24]
ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน แฮร์ริสได้ปล่อยตัวอัลบั้มสตูดิโอที่ 4 ,เอเดน เธอได้ปล่อยตัวซิงเกิ้ลนำของอัลบั้มชื่อ "ควิส" และตามมาด้วยซิงเกิ้ลเพลงอื่น ๆเช่น "ฮอต พอกเก็ตส์" และ "แบล็คแจ็ค"
2019-ปัจจุบัน
[แก้]ในวันที่ 8 มกราคม 2019 ได้มีรายงานว่าแฮร์ริสถูกนำตัวส่งเข้าโรงพยาบาลในชิคาโกหลังจากที่เธอทวีตว่าจะฆ่าตัวตาย[25] ในวันถัดไปเธอได้ทวีตอีกครั้งมีใจความว่า "เธอต้องได้สู้กับโรคซึมเศร้ามาเป็นเวลานานมาก ตอนนี้เธอถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล และได้รับความช่วยเหลือ ตอนนี้เธอปลอดภัยดี และพร้อมที่จะทำเพลงใหม่ ๆต่อไป" [26]
ในวันที่ 11 มกราคม 2019 ซิงเกิ้ลเพลง "สควิดเวิร์ดโนส" ได้ถูกปล่อยตัวออกมา[27] และในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เธอได้ปล่อยตัวมิวสิกวีดีโอที่มีนักแสดงตลกชาวอเมริกันอย่างจอห์น เออร์ลีด้วย[28] ต่อมาในวันที่ 17 เมษายน,แฮร์ริสได้ปล่อยตัวเพลง "โอลด์ทาวน์โฮ" ที่เป็นรีมิกซ์จากเพลง "โอลด์ทาวน์โรด" ของลิลนาสเอ็กซ์[29]
ในกันยายนปี 2019 แฮร์ริสได้ออกมาโพสต์วิจารณ์ศิลปินคนอื่น ๆ อย่างเช่นกามิลา กาเบโย หรือชอว์น เมนเดส[30] และต่อมาเธอก็ได้ประกาศในไลฟ์สดอินสตาแกรมว่าเธอจะเลิกทำเพลงและลบเพลงทั้งหมดทิ้ง เพราะเธอรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นเด็กและเยาวชนออกมาถ่ายคลิปร้องเพลงของคัปเค้กที่มีเนื้อหาล่อแหลม[31] และแฮร์ริสได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอมีอาการ "ติดการผนันอย่างหนักมาก ๆ" และเธอได้เสียเงินจำนวน 700,000 เหรียญสหรัฐที่คาสิโนแห่งหนึ่งในเดือนกันยายน 2018[32] ต่อมาบัญชีอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ของเธอถูกปิดตัวลงหลังจากไลฟ์สด แต่ยังคงเหลือเพลงของเธอในแพลตฟอร์มต่าง ๆอยู่
ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2019 แฮร์ริสได้ออกมาเคลื่อนไหวในโชเชียลมีเดียอีกครั้ง หลังจากที่พักการเคลื่อนไหวเป็นเวลา 40 วัน โดยเป็นทวีตว่า "พระเยซูได้ถูกทดสอบเป็นเวลา 40 วันเช่นเดียวกันกับตัวเธอเอง" ต่อมาในวันที่ 6 มีนาคม 2020 แฮร์ริสได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ชื่อว่า "ลอดด์ จีซัส"[33] แฮร์ริสได้อัปโหลดแรกในยูทูบ นับตั้งแต่ที่เธอได้ลบคลิปวิดิโอในช่องเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นคลิปมิวสิกวีดีโอของทั้งเพลง "กริลล์ลิง นิกกาส์" และ "ลอดด์ จีซัส" ในคลิปเดียวกัน[34]
ในวันที่ 1 มิถุนายน 2020 แฮร์ริสได้ปล่อยซิงเกิลชื่อ "เลมอน เพ็บเปอร์" [35] โดยรายได้จากเพลงนี้กว่าครึ่งนึงถูกนำไปบริจาคให้องค์การไม่แสวงหาผลกำไร[36] และอีกซิงเกิ้ลกนึ่งของเธอที่ถูกปล่อยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนอย่าง "ดิสเคานต์" ก็ได้ขึ้นติดอันดับที่ 78 บนชาร์ตยอดดาวน์โหลดซิงเกิ้ลในสหราชอาณาจักร และอันดับที่ 80 ในชาร์ตยอดขายซิงเกิ้ลในสหราชอาณาจักร และก็เป็นซิงเกี้ลแรกของเธอที่ติดอันดับได้[37][38] และติดอันดับหนึ่งบนชาร์ตของไอทูนส์ในสหรัฐอเมริกา และเป็นเพลงแรกของเธอที่ติดอันดับด้วย และคัปเค้กเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดค่ายเพลงใดๆ ที่มีเพลงติดชาร์ตอันดับหนึ่ง
ในวันที่ 16 ธันวาคม 2020 แฮร์ริสได้รับความสนใจจำนวนหนึ่งหลังจากที่ปล่อยเพลง "how to rob (remix)" เป็นเพลงดิสส์ ซึ่งมีเนื้อหาแบบปะทะคารมกันในเพลง[39] และตัวเพลงมุ่งเป้าไปที่เมแกนเดอะสตัลเลียน ,ลิซโซ และศิลปินคนอื่น ๆ[40]
ในวันที่ 1 มีนาคม 2021 เพลง "ดีปโตรต" ได้รับประกันระดับเหรียญทองจากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา[41]
ในปี 2021 เพลงของคัปเค้กได้เป็นไวรัลในติ๊กต็อกด้วยความที่เพลงของเธอมีเนื้อหาที่โจ่งแจ้งทางเพศ ทำให้ผู้คนเริ่มนำเพลงของเธอมารีมิกซ์ใส่เพลงอื่น ๆและเรียกเพลงพวกนี้ว่าคัปเค้กรีมิกซ์ และต่อมาเธอก็ได้สมัครบัญชีติ๊กต็อกเพราะเหตุนี้[42]
ต่อมาในวันที่ 31 พฤษภาคมคัปเค้กได้ปล่อยตัวซิงเกิ้ลใหม่ชื่อว่า "เอชทูโฮ"[43]
สตูดิโออัลบั้ม
[แก้]- ออเดเชียส (Audacious) 2016
- ควีนอลิซาบิตช์ (Queen Elizabitch) 2017
- เอฟอไรซ์ (Ephorize) 2018
- เอเดน (Eden) 2018
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "cupcakKe on Apple Music" (ภาษาอังกฤษแบบแคนาดา) – โดยทาง Apple Music.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAllMusic
- ↑ Garr, Hayley. "Sound Advice: Rapper CupcakKe to Bring Unapologetically Explicit Show to Cincinnati". Cincinnati CityBeat (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "CupcakKe – Artists". www.insomniac.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ https://archive.today/20170505115326/https://twitter.com/CupcakKe_rapper/status/860207849506471936
- ↑ "Concert preview: Chicago rapper Cupcakke brings her "Vagina" monologue to MINT - Entertainment - Columbus Alive - Columbus, OH". web.archive.org. 2017-02-08. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-08. สืบค้นเมื่อ 2024-04-06.
- ↑ CupcakKe - Ace Hardware (Official Music Video), สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ CupcakKe Interview - New Album, Hosting Hot Haus TV Show, Going to School With Chief Keef, สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ "The True, Freaky Originality Of CupcakKe". MTV (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-06. สืบค้นเมื่อ 2024-04-06.
- ↑ "cupcakKe - YouTube". www.youtube.com.
- ↑ "A Kiki with CupcakKe: The 'Audacious' Rapper Is a Queer Icon in the Making". www.out.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Listen To Raunchy Chicago Rapper Cupcakke's Anti-Predatory Anthem "Pedophile"". web.archive.org. 2016-02-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-14. สืบค้นเมื่อ 2024-04-06.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Cupcakke, 'Cum Cake' | 40 Best Rap Albums of 2016 | Rolling Stone". web.archive.org. 2017-02-07. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-07. สืบค้นเมื่อ 2024-04-06.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "CupcakKe Announces New Album "Audacious"". The FADER (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "The True, Freaky Originality Of CupcakKe". MTV (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-06. สืบค้นเมื่อ 2024-04-06.
- ↑ Cupcakke - Spiderman Dick (Official Music Video), สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ CupcakKe - LGBT, สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ "Charli XCX Announced Number 1 Angel Mixtape, Shared Three New Songs". The FADER (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Queen Elizabitch — cupcakKe". Last.fm (ภาษาอังกฤษ). 2023-10-06.
- ↑ "Cupcakke's 'Queen Elizabitch' Taken Down From Streaming Services". idolator. 2017-04-08.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Exit - Single by cupcakKe on Apple Music (ภาษาอังกฤษแบบแคนาดา), 2017-09-15, สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ Cartoons - Single by cupcakKe on Apple Music (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน), 2017-11-10, สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ Ephorize by CupcakKe - RYM/Sonemic (ภาษาอังกฤษ), สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ "CupcakKe's 'Fullest' Video Is the February Beach Party We Need". www.out.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Rapper Cupcakke confirmed as 'safe' by police after troubling social media posts". The Independent (ภาษาอังกฤษ). 2019-01-08.
- ↑ Holmes, Charles (2019-01-08). "CupcakKe Reportedly Safe After Hospitalization, Suicidal Tweet". Rolling Stone (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "Surprise! CupcakKe's New Song 'Squidward Nose' Is Actually About Sex". MTV (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-06. สืบค้นเมื่อ 2024-04-06.
- ↑ "CupcakKe Drops On The Deck And Flops Like A Fish In 'Squidward Nose' Video". MTV (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-04-06. สืบค้นเมื่อ 2024-04-06.
- ↑ CupcakKe - Old Town Hoe (Old Town Road Remix) Official Music Video, สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ "Rapper Cupcakke says she banged Shawn Mendes to get back at 'racist' Camila Cabello". Girlfriend (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). 2019-09-24.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Daly, Rhian (2019-09-23). "CupcakKe announces she's quitting music: "I feel like I'm corrupting the youth"". NME (ภาษาอังกฤษแบบบริติช).
- ↑ https://hiphopdx.com, HipHopDX- (2019-09-23). "CupcakKe Has Social Media Meltdown That Results In Her Retirement Announcement". HipHopDX (ภาษาอังกฤษ).
{{cite web}}
: แหล่งข้อมูลอื่นใน
(help)|last=
- ↑ Nast, Condé (2020-03-06). "CupcakKe Returns With New Song "Lawd Jesus"". Pitchfork (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ CupcakKe - Grilling N****S | Lawd Jesus (Official Music Video), สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ Lemon Pepper - Single by cupcakKe on Apple Music (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน), 2020-05-31, สืบค้นเมื่อ 2024-04-05
- ↑ Aubrey, Elizabeth (2020-06-26). "Listen to CupcakKe's fierce new song, 'Discounts'". NME (ภาษาอังกฤษแบบบริติช).
- ↑ "Official Singles Downloads Chart | Official Charts". www.officialcharts.com.
- ↑ Official selling chartshttps://www.officialchart[ลิงก์เสีย]s.com/charts/singles-sales-chart/"
- ↑ "Diss Track การด่ากันผ่านบทเพลง การใช้ความคิด". THE STANDARD. 2020-10-06.
- ↑ "cupcakKe Drops "How To Rob (Remix)" Diss Track Targeting Megan Thee Stallion, Lizzo, Lil Kim". web.archive.org. 2021-11-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-30. สืบค้นเมื่อ 2024-04-06.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Gold & Platinum". RIAA (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Haasch, Palmer. "CupcakKe says her mom thinks she's 'addicted to porn' because she keeps opening TikTok videos remixing her moans on 'Vagina'". Business Insider (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ CupcakKe - H2hoe (Audio), สืบค้นเมื่อ 2024-04-06
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]คัปเค้ก เก็บถาวร 2024-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ที่ยูทูบ