ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์
ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ | |
---|---|
ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ในปี 2018 | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อเกิด | ชาร์ล็อตส์ เอ็มม่า อิชชิซัน |
เกิด | สิงหาคม 2, 1992 |
ที่เกิด | เคมบริดจ์ เคมบริดจ์เชอร์ |
แนวเพลง | ป็อปพังก์, ดาร์กป็อป, อิเล็กโทรป็อป, อินดีโทรนิกา, วิซเฮาวน์, ซินธ์ป็อป |
อาชีพ | นักร้อง นักแต่งเพลง |
เครื่องดนตรี | ร้องเสียง |
ช่วงปี | ค.ศ. 2008 - ปัจจุบัน |
ค่ายเพลง |
|
เว็บไซต์ | www |
ชาร์ล็อตส์ เอ็มม่า อิชชิซัน (อังกฤษ: Charlotte Emma Aitchison) (เกิด 2 สิงหาคม ค.ศ. 1992) รู้จักกันในนาม ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ (อังกฤษ: Charli XCX) เป็นนักร้องนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ ชาร์ลีปล่อยตัวซิงเกิลของเธอในปี 2008 และเริ่มดำเนินการอัดเพลงในบ้านที่กรุงลอนดอน เธอเซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับสังกัดเพลง Asylum Records เมื่อปี 2010 และปล่อยมิกซ์เทปสองเพลง Heartbreaks , Earthquakes และ Super Ultra ในปี 2012 ชาร์ลีได้วางจำหน่ายอัลบั้มแรก True Romance ในปี 2013 และปล่อยซิงเกิลได้แก่เพลง Nuclear Seasons และ Stay Aways เธอเริ่มมีชิ่อเสียงสู่ระดับนานาชาติในช่วง 2013 - 2014 จากผลงานซิงเกิลที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลงานที่เธอได้รับเชิญได้แก่ ผลงานเพลง I Love It ของ อีคอนน่า ป็อป และ ผลงานเพลง แฟนซี ของอิ๊กกี้ อาซาเลียผลงานซิงเกิลของเธอในปี 2014 Boom Clap ติดอันดับท็อปเท็นในประเทศต่างๆซึ่งทำให้การการเปิดตัวอัลบั้มชุดที่สามของเธอนั้นล่าช้า อัลบั้มสตูดิโอชุดที่สองของเธอ Sucker[1] มีผลงานซิงเกิลทีปล่อยออกมาอันได้แก่ Break The Rules และ Doing It
ประวัติ
[แก้]ชาร์ล็อตส์ เอ็มม่า อิชชิซัน เกิด 2 สิงหาคม ค.ศ. 1992 ใน เคมบริดจ์ เคมบริดจ์เชอร์ สหราชอาณาจักร[2] มีพ่อเป็นชาวสก็อตและแม่เป็นชาวอินเดียจากยูกันดา เธอเติบโตในไบช็อป สตอร์ฟอร์ด เฮิร์ดฟอร์ดไชน์[3][4] เธอแต่งเนื้อเพลงเมื่อตอนอายุ 14[5][6] เธอเรียนมหาวิทยาลัยที่ Bishop's Stortford College และออกจากโรงเรียนเมื่อปี 2010[7] ชาร์ลีเรียนที่โรงเรียนศิลปะ Slade School of Fine Art ในกรุงลอนดอนแต่ลาออกในช่วงปีที่สองของระดับ[8]
หน้าที่การงาน
[แก้]2008 -11 การแสดงครั้งแรกและการอัดเพลง
[แก้]ชาร์ลี เมื่ออายุได้ 14 เธอก็อัดอัลบั้มแรกของเธอซึ่งเงินที่ใช้ในการอัดพ่อแม่เธอเป็นคนช่วยเหลือ ในต้นเดือน 2008 เธอได้โพสต์เพลงบางส่วนในอัลบั้มในรูปแบบเดโม่ลง มายสเปซ ของเธอเอง มีผู้สนับสนุนผลงานเพลงของเธอจากบ้านเล็กๆในลอนดอนเป็นจำนวนมากจนเธอได้รับการชักชวนให้จัดคอนเสริ์ต [9][10] จนเธอตั้งชื่อบนเวทีการแสดงว่า ชาร์ลีเอ็กซ์ซีเอ็กซ์ อีกทั้งมันเป็นชื่อของเธอใน เอ็มเอสเอ็น เมื่อตอนเธอเด็กมาก[11] พ่อแม่ของเธอสนับสนุนในการทำงานของเธอและคอยช่วยเหลือ[12] เธอได้ปล่อยสองซิงเกิล "!Franchesckaar!" และปล่อยเพลงหลักของซิงเกิล Emeline และ Art Brick กลางปี 2008 ภายใต้สังกัด Orgy Music อัลบั้มชุดแรก 14 ของเธอถุกปล่อย ซึ่งไม่ได้ปล่อยออกมาในทางการค้า เธอได้เซ็นสัญญากับสังกัด Asylum Records ในปี 2010 เธอพักจากวงการเพลงไปซึ่งเธออธิบายว่าเธอสูญเสียเวลาพวกนั้นจริงๆ[13]
ในเดือนเมษายน 2011 , เธอปล่อยซิงเกิล Stay Away ตามมาด้วยซิงเกิล Nuclear Seasons ที่ปล่อยในเดือนพฤศจิกายน ทั้งสองซิงเกิลดูแลโดย อริเอล รีชึเซล ถูกปล่อยในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซิงเกิลเพลงเหล่านี้ได้รับความสนใจจากเว็บไซต์เพลงอย่าง Pitchfork Media โดยเธอยังได้รับการชื่นชมว่าเป็นเพลงชิ้นใหม่ที่ดีทั้งสอง และยังได้ติดอยู่ในเพลงที่ดีในปี 2011[14] ในเดือนเมษายน 2012 , ชาร์ลีปล่อยมิกซ์เทปแรกของเพลง 'Heartbreaks และ Earthquake จากทั้งหมดแปดเพลง[15] เธอยังให้ความสนับสนุน โคลด์เพลย์ และ ซานติโกลด์ ในการทัวร์คอนเสริ์ตปีเดียวกันด้วย [16] มิกซ์เทปของเธอลำดับที่สอง , Super Ultra ถูกปล่อยในเว็บไซต์ของเธอเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012[17]
2012 - 13: True Romance
[แก้]ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ยังร่วมแต่งเนื้อเพลงและร่วมขับร้องในซิงเกิลเพลง ในปี 2012 I Love It โดยร่วมอัดเพลงกับคู่หูดูโอ้ชาวสวีเดน อิคอนนา ป็อป และทำให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จในปี 2013[18] เพลงดังกล่าวเข้าชาร์จ บิลบอร์ดฮอต 100 ในสหรัฐหลังจากถูกปล่อยในช่วงต้นปี 2013 และพุ่งพะย่านไปยังอันดับที่ 7 ในชาร์จบิลบอร์ดฮอต 100[19][20] และมันยังติดอันดับ 1 ในชาร์จซิงเกิลของสหราชอาณาจักร UK Single Chart , ซิงเกิลเพลงของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ You're the One ถูกปล่อยในกลางเดือน 2012 และถูกแต่งตั้งให้เป็น 20 เพลงที่สุดยอดในปี 2012 โดยนิตรสารบิลบอร์ด[21] ซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จ You (Ha Ha Ha) ถูกระบุโดยนิตรสาร Spin และเว็บไซต์ดนตรี Consequence of Sound ว่าเป็นหนึ่งในผลงานเพลงที่ดีในปี 2013[22]
ผลงานอัลบั้มชุดที่สองของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ (และการเปิดตัวในค่ายใหญ่) True Romance ถูกปล่อยในเดือนเมษายน 2013 ตามมาด้วยซิงเกิลสุดท้าย What I Like เธอยังเขียนในอัลบั้มว่า มุมประวัติศาสตร์ที่โรแมคนิคของเธอคือการได้อัดเพลง , ในอุดมคติของฉัน , มันดิบและหยาบ , มันยังตรงไปตรงมา และมันยังเป็นความจริง[23] โดยมันยังติดอันดับ 85 ในชาร์จ UK Album Chart[24] และติดอันดับที่ 5 ใน US Billboard Top Heatseekers , และติดอันดับที่ 11 Australian Hitseekers Albums Chart.[25] True Romance ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากเหล่านักวิจารณ์เพลงจำนวนมาก โดยอัลบั้มยังได้คะแนน 76/100 จาก Metacritic จากทั้งหมด 100 รีวิวโดยมีทั้งนักวิจารณ์เพลง[26]
2013 - ปัจจุบัน อัลบั้มชุดที่ 2 Sucker และอัลบั้มชุดใหม่ที่กำลังจะออก
[แก้]ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์เริ่มทำงานอัลบั้มชุดที่ 3 ของเธอในปลายเดือน 2013[27] สิ้นปี 2013 เธอได้ปล่อยซิงเกิล Super Love และเป็นผลงานเดี่ยวแรกของเธอที่ติดชาร์จใน UK Single Charts โดยติดลำดับที่ 62[28] ในกลางปี 2014, เธอได้ร่วมร้องกับแร็ฟเปอร์ชาวออสเตเรีย อิ๊กกี้ อาซาเลีย ในผลงานซิงเกิล Fancy;[29] เพลงดังกล่าวขึ้นติดใน บิลบอร์ดฮอต 100 ส่งผลให้ทั้งคู่ติดเป็นอันดับหนึ่งในชาร์จซิงเกิล[30][31]ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ ยังได้ร่วมแต่งเพลงกับศิลปินอื่นๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมยังเป็นผู้ร่วมแต่งในซิงเกิล Beg for it ของ อิ๊กกี้ อาซาเลีย และ ไรลิน เวพเวอร์ ในผลงานซิงเกิลเปิดตัว OctaHate และนักร้องที่มีส่วนช่วยอาทิ สกาย เฟอร์เรร่า , นีออน จังเกิล ริฮานน่า และ เกว็น สเตฟานี
กลางปี 2014 , ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ มีส่วนร่วมในเพลง 'Boom Clap เพลงประกอบภาพยนตร์ The Fault in Our Stars Boom Clap ขึ้นอันดับที่แปดในบิลบอร์ด ฮอต 100[32]และอันดับที่หกในอังกฤษ[28] และได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำในออสเตเรีย[33] เพลง Boom Clap ยังติดอยู่ในอัลบั้มชุดที่ 3 ของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ อัลบั้มชุดที่ 2 Sucker วางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ในอเมริกาเหนือและกุมภาพันธ์ 2015 ในยุโรป ซิงเกิลลำดับที่ 2 Break The Rules ขึ้นชาร์จติดท็อปสิบในออสเตเรียและเยอรมัน , และซิงเกิลที่สาม Doing It (ร่วมขับร้องโดยนักร้องหญิงชาวอังกฤษ ริต้า โอรา ขึ้นติดอันดับที่ 8 ใน UK Single Chart , ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ยังร่วมเล่นเป็นศิลปินเปิดให้กับ เคที่ เพอร์รี่ กับคอนเสริ์ตพริมาติค เวิลด์ทัวร์ ในช่วงต้นปี 2015 ชาร์ลีได้แสดงในอังกฤษ และร่วมร้องกับศิลปินอาร์แอนด์บี Tinashe ร่วมกับแร็ฟเปอร์ Ty Dolla Sign ในผลงานซิงเกิล "Drop That Kitty"[34][35][36] ในกลางเดือน 2015 ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการทำงานในอัลบั้มชุดที่สี่ว่า เป็นผลงานเพลงแนวอิเล็คทรอนิค [37]
แนวเพลงและอิทธิพลทางสังคม
[แก้]แนวเพลงของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์จะออกไปทาง ป็อปพังก์ [38][39] และ อิเล็กโทรป็อปบางครั้งเธอยังแสดงในแนวเพลง ดาร์คป็อป [40] อินดีโทรนิกา[41] และ witch house ในเสียงของเธอ[40] ชาร์ลียังกล่าวถึง เด็บบี แฮร์รี นักร้องนำวงบลอนดีและ เอ็มมิเน็ม ว่าเป็นอิทธิพลให้กับเธอ เธอยังกล่าวเพิ่ม ศิลปินที่ดีที่สุดที่เป็นคนเปลี่ยนแปลงวงการเพลงอย่างสิ้นเชิง -- อาทิ มาดอนน่า , เดวิด โบอี[42] เพลงของเอ็กซ์ซีเอ็กซ์มักถูกเปรียบเทียบกับวงดนตรีในยุค 80's อาทิ จิตวิญญาณแห่ง Siouxsie Sioux หรือ ต้นแบบที่สมบูรณ์ของมาดอนน่า[43] เมื่อเธอกล่าวถึงผู้ที่มีอิทธิพล , เธอจะเอ่ยชื่อ ปีเยิร์ก , Siouxsie Sioux , เควนติน แทแรนติโน[44] เธอยังกล่าวว่า "Siouxsie Sioux เปรียบเสมือนฮีโร่ของเธอ[45] เธอกล่าวศิลปินในฝันของเธอเป็น ปีเยิร์ก , เคต บุช หรือกระทั่ง ดิออน วอร์วิค .[46] เธอกล่าวถึงโรเบริ์ต ปาล์มเมอร์ โดยผลงานเพลงของโรเบริ์ต Addicted To Love เป็นหนึ่งในเพลงที่เธอชื่นชอบ[46] ศิลปินที่มีอิทธิลต่อเธออาทิ บริตนีย์ สเปียส์ , แอวริล ลาวีน[47][48] สไปซ์เกิลส์ , Uffie , บรุค แคนดี้ , ลิล เวย์น[49][50][51] สำหรับผลงานเดี่ยวชุดที่ 3 ของเธอ เธอมี เดอะไฮฟส์ , วีเซอร์ และ ราโมนส์ เป็นอิทธิพล[52]
สตูดิโออัลบั้ม
[แก้]- True Romance (2013)
- Sucker (2014)
- Charli (2019)
- How I'm Feeling Now (2020)
- Crash (2022)
- Brat (2024)
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Sucker อัลบั้มร้อนแห่งปีของสาวซ่า "ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์"". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-03-16. สืบค้นเมื่อ 2015-05-08.
- ↑ "Fancy that! Charli XCX shows off her bottom as she takes to the stage in cheerleading ensemble for raunchy performance at the Jingle Ball". SDearch.dailymail.co.uk. สืบค้นเมื่อ 11 March 2015.
- ↑ "This Week's Fresh Music Top 20". 4Music. 15 April 2014.
{{cite episode}}
:|series=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help) - ↑ Tinkham, Chris (12 September 2013). "Charli XCX This Is Me". undertheradarmag.com. สืบค้นเมื่อ 5 June 2014.
- ↑ Needham, Alex (27 July 2009). "Brit Pop Girls". Interview. สืบค้นเมื่อ 18 April 2013.
- ↑ "Charli XCX interview (part 1)". FaceCulture. สืบค้นเมื่อ 27 June 2013.
- ↑ "A post from 2 July 2013 on the Old Stortfordian Society's Facebook page". Facebook. สืบค้นเมื่อ 12 October 2014.
- ↑ "Quirky Charli XCX has worked hard to earn her spot in the limelight". The Sydney Morning Herald.
- ↑ "Interview with Charli XCX". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-25. สืบค้นเมื่อ 12 October 2014.
- ↑ Chris Tinkham (12 September 2013). "Charli XCX - This Is Me". Under the Radar. สืบค้นเมื่อ 18 November 2014.
- ↑ "Charli XCX explains "XCX" - On Air with Ryan Seacrest". YouTube. สืบค้นเมื่อ 18 December 2014.
- ↑ Nika, Colleen. "Dark Star Rising: Charli XCX Talks Rave Roots and Her Colorful Future". Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 21 July 2014.
- ↑ "Charli XCX - Guardian Interview". the Guardian. สืบค้นเมื่อ 12 October 2014.
- ↑ "Pitchfork - The Best Songs of 2011". Pitchfork. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-10. สืบค้นเมื่อ 12 October 2014.
- ↑ "Announcing Charli XCX's EP & Tour Dates". Iamsoundrecords.com. 22 January 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-25. สืบค้นเมื่อ 18 April 2013.
- ↑ "Rita Ora On Coldplay Support Slots: "It's Such A Huge Opportunity" - Audio". Capital FM. 9 May 2012. สืบค้นเมื่อ 29 May 2012.
- ↑ "Charli XCX - Super Ultra". Pitchfork. สืบค้นเมื่อ 12 October 2014.
- ↑ Werthman, Christine (19 December 2012). "Q&A: Icona Pop". CMJ. สืบค้นเมื่อ 27 December 2013.
- ↑ Lipshutz, Jason (26 September 2013). "Charli XCX Previews Second Album with 'SuperLove' Single: Watch Video". Billboard. Prometheus Global Media. สืบค้นเมื่อ 22 December 2013.
- ↑ Trust, Gary. "Pink Holds at No. 1 on Hot 100 While Rihanna Rules at Radio". สืบค้นเมื่อ 2 May 2013.
- ↑ http://www.billboard.com/articles/news/1481334/20-best-songs-of-2012-critics-picks
- ↑ http://www.spin.com/2013/12/best-songs-2013/131125-best-songs-charli-xcx/
- ↑ Snapes, Laura (26 February 2013). "Charli XCX Announces Debut Album, True Romance". Pitchfork Media. สืบค้นเมื่อ 2 March 2013.
- ↑ "Official UK Albums Top 100". Official Charts Company. 27 April 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-27. สืบค้นเมื่อ 27 April 2013.
- ↑ "Heatseekers Albums : May 04, 2013 | Billboard Chart Archive". Billboard.com. 4 May 2013. สืบค้นเมื่อ 21 May 2013.
- ↑ "True Romance – Charli XCX". Metacritic. CBS Interactive. สืบค้นเมื่อ 21 April 2013.
- ↑ "Charli XCX Already Writing Music for Second Album". Billboard. 19 June 2013. สืบค้นเมื่อ 12 October 2014.
- ↑ 28.0 28.1 "CHARLI XCX - UK Singles Chart". Official Charts Company. สืบค้นเมื่อ 26 August 2014.
- ↑ Jacques Peterson (29 September 2012). "Listen To Iggy Azalea and Charli XCX's Cocky New Single, 'Fancy'". Popdust. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-09. สืบค้นเมื่อ 13 April 2014.
- ↑ "Chart Watch: Meet Iggy Azalea". YAHOO. 29 May 2014. สืบค้นเมื่อ 29 May 2014.
- ↑ Sam Lansky (4 March 2014). "Iggy Azalea and Charli XCX's Homage to Clueless Will Have You Totally Buggin'". TIME. สืบค้นเมื่อ 20 April 2014.
- ↑ "Charli XCX - Chart history". Billboard.
- ↑ "ARIA Charts – Accreditations – 2014 Singles". Australian Recording Industry Association. สืบค้นเมื่อ 26 August 2014.
- ↑ "💘EUROPE!💘 @charli_xcx is going to get prismatic with us next February & March! Excited to welcome her to #ThePrismaticWorldTour!". 4 September 2014.
- ↑ Natalie Kuchik. "Charli XCX announces U.K. tour dates". AXS.
- ↑ "Ty Dolla $ign, Charli XCX & Tinashe Demonstrate How to 'Drop That Kitty' in New Video". Billboard.
- ↑ "Charli XCX Is "Over" 'Sucker,' Says She's Working On An Electronic Party Album". Music News, Reviews, and Gossip on Idolator.com.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Punk Pop Princess". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-01. สืบค้นเมื่อ 30 October 2014.
- ↑ Tehrene Firman. "Charli XCX Releases London Queen Song from Sucker Album - Teen Vogue". Teen Vogue.
- ↑ 40.0 40.1 Dombal, Ryan (13 December 2011). "Rising". Pitchfork Media. สืบค้นเมื่อ 12 October 2014.
- ↑ "Charli XCX – The Best of Bonnaroo 2013". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ 16 March 2015.
20-year-old English indietronica star-in-the-making Charli XCX...
- ↑ "Charli XCX interview 'I really want to change the way women think about themselves. A lot of young girls are quite lost'". Standard.co.uk. 3 October 2014. สืบค้นเมื่อ 15 February 2015.
- ↑ Caramanica, Jon (11 March 2012), Untamed and Unabashed, Rolling Stone, สืบค้นเมื่อ 3 February 2014
- ↑ Neil McCormick (17 June 2014). "Is Charli XCX the new Adele?". Telegraph.co.uk. สืบค้นเมื่อ 15 February 2015.
- ↑ Joe Bosso Neil (14 June 2012). "Breaking an interview with Charli XCX". Self-titledmag.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-02. สืบค้นเมื่อ 15 February 2015.
- ↑ 46.0 46.1 Alex Catarinella (19 July 2012). "Interview with Charli XCX". Elle.com. สืบค้นเมื่อ 15 February 2015.
- ↑ "10 essential facts about Charli XCX". Thestar.com. 15 December 2014. สืบค้นเมื่อ 13 February 2015.
- ↑ Ryan Roschke. "Charli XCX Interview About New Album Sucker 2014". POPSUGAR Entertainment. สืบค้นเมื่อ 13 February 2015.
- ↑ "British pop starlet Charli XCX, the particularly grown-up 21-year-old". Nashville Scene. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-24. สืบค้นเมื่อ 22 July 2014.
- ↑ Artist Biography by Heather Phares. "Charli XCX | Biography". AllMusic. สืบค้นเมื่อ 20 April 2014.
- ↑ "Gimme Five: Charli XCX on Her Musical Obsessions". Billboard. สืบค้นเมื่อ 20 April 2014.
- ↑ Carl Williott. "Charli XCX Disses Flo Rida, Says Sophomore Album Has Punk Influence | Music News, Reviews, and Gossip on". Idolator.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-26. สืบค้นเมื่อ 20 April 2014.