ข้ามไปเนื้อหา

การรุกรานซีเรียของอิสราเอล (พ.ศ. 2567)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การรุกรานซีเรียของอิสราเอล (พ.ศ. 2567)
ส่วนหนึ่งของ สงครามกลางเมืองซีเรีย, วิกฤติการณ์ในตะวันออกกลาง, และ ความขัดแย้งอาหรับ–อิสราเอล

ด้านบน:

ทหารอิสราเอลบุกเข้าภูเขาฮาร์มอนในซีเรีย, ธันวาคม 2024

  • บน: แผนที่เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม
  •   ดินแดนซีเรียที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มฝ้ายค้านซีเรีย
  •   ดินแดนซีเรียที่ถูกควบคุมโดยกองทัพอิสราเอล
วันที่8 ธันวาคม 2024 – ปัจจุบัน
(1 เดือน)
สถานที่
สถานะ กำลังดำเนินอยู่
ดินแดน
เปลี่ยนแปลง
อิสราเอลได้เคลื่อนกำลังไปภายในและเกินกว่าเขตกันชนของกองกำลังสังเกตการณ์การถอนตัวของสหประชาชาติ (UNDOF) [2]
คู่สงคราม
 อิสราเอล
ซีเรีย[1]
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
เบนจามิน เนทันยาฮู
อิสราเอล คัตซ์
โอรี กอร์ดิน
หน่วยที่เกี่ยวข้อง

 กองทัพอิสราเอล

ฝ่ายค้านซีเรีย รัฐบาลเปลี่ยนผ่านซีเรีย


กำลัง
2 กองพล (ทหาร 6,000 – 10,000 คน)[5] ไม่ทราบ
ความสูญเสีย
ไม่มี ชาวซีเรีย 4 คนถูกสังหาร[6][7][8]
ชาวซีเรียจำนวนหนึ่งถูกจับเป็นเชลย[6][9]

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2024 อิสราเอลได้รุกรานเขตกันชนระหว่างซีเรียและที่ราบสูงโกลันที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอล และได้ทำการโจมตีทางอากาศเพื่อทำลายความสามารถทางการทหารของกองทัพซีเรีย หลังจากการล่มสลายของระบอบอัลอะซัด

สงครามกลางเมืองซีเรียที่เริ่มขึ้นในปี 2011 แต่สงบลงหลังจากข้อตกลงหยุดยิงในปี 2020 และต่อมาเกิดการโจมตีจากกลุ่มฝ่ายค้านในปี 2024 ซึ่งนำไปสู่การโค่นล้มระบอบอัลอะซัด ทำให้ประธานาธิบดีบัชชาร อัลอะซัดของซีเรียต้องหลบหนีออกจากเมืองหลวงไปในวันที่ 8 ธันวาคม 2024 ในเหตุการณ์ในวันนั้น กองทัพซีเรียได้ทิ้งตำแหน่งในบริเวณเขตกันชนของกองกำลังสังเกตการณ์การถอนตัวของสหประชาชาติ (UNDOF) หลังจากนั้น เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้แถลงว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ข้อตกลงชายแดนปี 1974 กับซีเรียเป็นโมฆะ และได้สั่งให้กองทัพอิสราเอลเข้าควบคุมพื้นที่เส้นสีม่วงซึ่งเป็นเขตปลอดทหารที่กองทัพอิสราเอลได้ถอนตัวออกในปี 1974 จนกว่าจะมีข้อตกลงใหม่กับรัฐบาลใหม่ของซีเรีย[10][11]

อิสราเอลยังได้เปิดการโจมตีทางเรือและทางอากาศครั้งใหญ่ต่อเป้าหมายทางการทหารทั่วซีเรียภายใต้ปฏิบัติการที่มีรหัสว่า "ปฏิบัติการลูกธนูแห่งบาชาน" (ฮีบรู: מבצע חץ הבשן, อักษรโรมัน: Mivtza Ḥetz HaBashan).[12][13] ปฏิบัติการของอิสราเอลได้ทำลายกองทัพเรือซีเรียและความสามารถทางการทหารของซีเรีย รวมถึงคลังอาวุธเคมี อิสราเอลได้ประกาศวัตถุประสงค์ต่อปฏิบัติการในครั้งนี้ว่าเป็นการยึดครองอย่างเต็มรูปแบบในเขตกันชนของกองกำลังสังเกตการณ์การถอนตัวของสหประชาชาติ, การสร้างเขตความมั่นคงที่ปราศจากอาวุธหนัก, และการป้องกันการลักลอบขนส่งอาวุธของอิหร่านที่ผ่านซีเรียไปยังเลบานอน แต่ปฏิบัติการของอิสราเอลในซีเรียได้รับการประณามจากนานาชาติ[14] ผู้นำโดยพฤตินัยของซีเรีย อะห์มัด อัชชะเราะอ์ ได้วิจารณ์ถึงการกระทำของอิสราเอล โดยกล่าวว่า อิสราเอลไม่สามารถให้เหตุผลในการกระทำของอิสราเอลในซีเรียได้ แต่ก็กล่าวเพิ่มเติมว่าประเทศของเขาไม่มีสถานะที่จะถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่[15]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Syria latest: Rebel fighters ordered to leave cities – as leader to name Assad officials wanted for torture". Sky News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 10 December 2024.
  2. Ashkenazi, Avi (13 December 2024). "IDF troops reach Damascus' doorstep, uncover Syrian military weakness". The Jerusalem Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 13 December 2024.
  3. Al Nofal, Walid (10 December 2024). "'Decades to rebuild': Israel grabs land and wipes out Syria's arsenal". แปลโดย Nelson, Mateo. Syria Direct. สืบค้นเมื่อ 3 January 2025.
  4. Fabian, Emanuel (11 December 2024). "We don't know how the rebels will act, IDF commander tells ToI inside southern Syria". The Times of Israel. สืบค้นเมื่อ 4 January 2025.
  5. McKernan, Bethan. "Hezbollah's war with Israel left the Assad regime fatally exposed". The Guardian. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2024. สืบค้นเมื่อ 8 December 2024.
  6. 6.0 6.1 "Amid military escalation: Israeli forces invade Al-Qunaitrah countryside, shoot young man dead and arrest civilians". SOHR. 8 December 2024.
  7. "Destroying Syrian weaponry: Israel targets weapon depots and military checkpoints of former regime kil*ling two civilians in Daraa". SOHR. 9 December 2024.
  8. "Rif Dimashq: Young man shot dead by Israeli forces in western Rif Dimashq". SOHR. 11 December 2024.
  9. "Rif Dimashq | Young man shot dead by Israeli forces in western Rif Dimashq – The Syrian Observatory For Human Rights". 11 December 2024.
  10. Krever, Mick (8 December 2024). "Watching with trepidation and glee, Netanyahu orders military to seize Syria buffer zone". CNN. สืบค้นเมื่อ 8 December 2024.
  11. "Israel's Netanyahu declares end of Syria border agreement, orders military to seize buffer zone". The New Arab. 8 December 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2024. สืบค้นเมื่อ 8 December 2024.
  12. Fabian, Emanuel (10 December 2024). "IDF: We struck 320 Syria targets since Assad's fall, taking out over 70% of army's capabilities". Times of Israel. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 December 2024. สืบค้นเมื่อ 10 December 2024. The name of the operation to destroy the former Assad regime army's weapons is dubbed "Bashan Arrow" within the military, after the biblical name for the region in the Golan Heights and southern Syria.
  13. "About 80% of Syrian military capabilities destroyed, IDF estimates; Netanyahu reaches out to new regime". Ynetnews (ภาษาอังกฤษ). 10 December 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 December 2024. สืบค้นเมื่อ 10 December 2024.
  14. "Israel expands airstrikes across Syria amid widening power vacuum". The Washington Post. 10 December 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 December 2024. สืบค้นเมื่อ 15 December 2024.
  15. "Israel intensifies Syria attacks, but HTS leader says doesn't want conflict". Al Jazeera (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2024. สืบค้นเมื่อ 15 December 2024.


อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref> สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/> ที่สอดคล้องกัน