ข้ามไปเนื้อหา

การจับกุมยุน ซ็อก-ย็อล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การจับกุมยุน ซ็อก-ย็อล
ส่วนหนึ่งของ ผลสืบเนื่องจาก วิกฤตการณ์กฎอัยการศึกในประเทศเกาหลีใต้ พ.ศ. 2567 และการฟ้องให้ขับยุน ซ็อก-ย็อล ออกจากตำแหน่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมบ้านพักของยุน ซ็อก-ย็อล
วันที่ตั้งแต่ออกหมายจับ:
30 ธันวาคม 2024 – 15 มกราคม 2025
(2 สัปดาห์ 2 วัน)
  • ความพยายามครั้งแรก: 30 ธันวาคม 2024
  • ความพยายามครั้งที่สอง: 15 มกราคม 2025
สถานที่ฮันนัม-ดง, เขตยงซัน, โซล, เกาหลีใต้
สาเหตุ
  • บทบาทของยุน ซ็อก-ย็อล ในวิกฤตการณ์กฎอัยการศึกในประเทศเกาหลีใต้ พ.ศ. 2567
  • การปฏิเสธของยุน ซ็อก-ย็อล ที่จะเข้าพบตามหมายเรียกที่ออกโดยสำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง จำนวน 3 ครั้ง
  • การกักขังตนเองของยุน ซ็อก-ย็อล ในบ้านพักประธานาธิบดี และการยุยงปลุกปั่นผู้สนับสนุนในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณะ
เป้าหมาย
  • ยุน ซ็อก-ย็อล ถูกจับกุม
  • การสืบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการก่อกบฏ
ผล
  • ความล้มเหลวในการเข้าจับกุมเบื้องต้นเนื่องมาจากการต่อต้านโดยหน่วยงานความมั่นคงของประธานาธิบดี
  • เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงหลายครั้งระหว่างผู้ประท้วงที่สนับสนุนยุนและต่อต้านยุน
  • จับกุมยุนสำเร็จเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 ในความพยายามครั้งที่สอง
คู่ขัดแย้ง

พันธมิตรของยุน
สำนักงานประธานาธิบดี

  • หน่วยงานความมั่นคงของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ (พีเอสเอส)
    • กองพันรักษาความปลอดภัยที่ 55
  • สำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง (ซีไอโอ)
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ (เคเอ็นพีเอ)
  • สำนักงานอัยการเกาหลีใต้
ผู้นำ
จำนวน

ความพยายามครั้งแรก:

  • เจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดีประมาณ 200 คน

ความพยายามครั้งแรก:

  • เจ้าหน้าที่ประมาณ 150 คน

ความพยายามครั้งที่สอง:

  • เจ้าหน้าที่ 1,000 คน

ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2025 ทางการเกาหลีใต้พยายามจับกุม ยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนกักตัวเองอยู่ภายในบ้านพักประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ถูกขับออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2024 หมายจับซึ่งออกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2024 โดยศาลเขตตะวันตกโซล เกิดจากการสอบสวน การประกาศกฎอัยการศึกของยุนเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2024 รวมถึงการปฏิเสธที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียกของสำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง (ซีไอโอ) ทั้งสามครั้ง ในวันที่ 15 มกราคม หลังจากมีการบุกเข้าไปในบ้านพักของเขา ยุนได้มอบตัวให้กับสำนักงานนี้ ทำให้การจับกุมยุติลง [1]

ปฏิบัติการจับกุมเบื้องต้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม ไม่ประสบผลสำเร็จ อีกทั้งยังเกิดการเผชิญหน้าด้านความปลอดภัยที่บ้านพักประธานาธิบดีของเขาใน ฮันนัม-ดง ยงซัน กรุงโซล โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากมีส่วนเกี่ยวข้องและกินเวลานานหลายชั่วโมง ภายหลังการเผชิญหน้ากันประมาณ 6 ชั่วโมงที่บ้านของยุน ซีไอโอก็ได้ระงับการดำเนินงาน โดยอ้างว่ามีความกังวลด้านความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่[2] ความล้มเหลวของความพยายามจับกุมครั้งแรกนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะการต่อต้านจากหน่วยงานความมั่นคงของประธานาธิบดี และการคัดค้านทางกฎหมายจากทนายความของยุน หมายจับและการตรวจค้นถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีการจับกุมประธานาธิบดีขณะยังดำรงตำแหน่ง[3]

ภูมิหลัง

[แก้]
ภาพถ่ายอย่างเป็นทางการของยุน ซ็อก-ย็อล ในปี ค.ศ. 2022

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2024 เวลา 22:27 น. ตามเวลามาตรฐานเกาหลี ยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ประกาศกฎอัยการศึก ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ ในคำประกาศของเขา ยุนกล่าวหาพรรคประชาธิปไตยซึ่งมีเสียงข้างมากในสมัชชาแห่งชาติว่าดำเนิน "กิจกรรมต่อต้านรัฐ" และร่วมมือกับ "คอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ" เพื่อทำลายประเทศ โดยก่อให้เกิด "เผด็จการทางนิติบัญญัติ" คำสั่งดังกล่าวห้ามกิจกรรมทางการเมือง รวมทั้งการชุมนุมของรัฐสภาและสภานิติบัญญัติท้องถิ่น และระงับเสรีภาพสื่อ รายงานระบุว่า ยุนสั่งจับกุมฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองหลายคน รวมถึงผู้นำพรรคประชาธิปไตยและพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของเขาเองด้วย[4][5][6][7]

กองกำลังทหารและตำรวจพยายามขัดขวางไม่ให้สมาชิกสภานิติบัญญัติเข้าไปในห้องประชุมสมัชชาแห่งชาติ ส่งผลให้เกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความปลอดภัย ผู้ประท้วง และผู้ช่วยฝ่ายนิติบัญญัติ สมาชิกสภานิติบัญญัติทั้ง 190 คนที่เข้าร่วมประชุมลงมติเอกฉันท์ให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ส่งผลให้ยุนต้องยกเลิกกฎอัยการศึกในเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น[8]

การกระทำดังกล่าวส่งผลให้ยุนถูกสมัชชาแห่งชาติฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่งในวันที่ 14 ธันวาคม และหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญว่าจะถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่[9][10] นายกรัฐมนตรี ฮัน ด็อก-ซู เคยดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีเป็นเวลาสั้น ๆ จนกระทั่งถูกฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่งของตนเช่นกันเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ชเว ซัง-มก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาการประธานาธิบดีแทนฮัน[11][12][13]

การสอบสวนและหมายจับ

[แก้]

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2024 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นสำนักงานประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนได้นำหมายค้นระบุให้ยุนเป็นผู้ต้องสงสัย[14][15] อย่างไรก็ตาม หน่วยงานความมั่นคงของประธานาธิบดีปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ และส่งเอกสารกับหลักฐานต่าง ๆ มาให้เพียง "จำนวนจำกัดมาก" [16] นอกจากนี้ ยังมีการบุกจู่โจมกองบัญชาการข่าวกรองฝ่ายป้องกันประเทศ กองบัญชาการสงครามพิเศษกองทัพบก[17] สำนักงานตำรวจนครบาลโซล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยข่าวกรองรัฐสภา[18] ในวันเดียวกัน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม คิม ยอง-ฮยอน พยายามฆ่าตัวตายในสถานกักขังระหว่างถูกควบคุมตัว[14][15]

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าไปยังสำนักงานใหญ่ของคณะเสนาธิการทหารร่วมซึ่งอยู่ติดกับทำเนียบประธานาธิบดี[19] รวมถึงสำนักงานใหญ่ของกองบัญชาการป้องกันนครหลวงด้วย[20] วันถัดมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของกรมตำรวจจังหวัดคยองกีนัมบู เพื่อสอบสวนบทบาทของหน่วยในระหว่างกฎอัยการศึก ตำรวจจังหวัดคย็องกีนัมบูได้ส่งกองกำลังตำรวจไปยังคณะกรรมการบริหารแห่งชาติหลังจากที่ยุนประกาศกฎอัยการศึก[21]

หลังจากการถูกฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2024 ยุนได้กักขังตัวเองอยู่ในบ้านพักประธานาธิบดีของเขาใน ฮันนัม-ดง ยงซัน ใจกลางกรุงโซล[3]

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม สมัชชาแห่งชาติได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 191 ต่อ 71 เสียงให้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อสอบสวนข้อกล่าวหาการก่อกบฏต่อยุน โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 คณะกรรมการเริ่มดำเนินการสอบสวนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภา 18 คน รวมถึงสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้าน 10 คน สมาชิกรัฐสภาพรรคพีพีพี 7 คน และสมาชิกรัฐสภาอิสระ 1 คน[22][23]

สำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง (ซีไอโอ) ได้เรียกตัวยุน ซ็อก-ย็อล มาสอบปากคำถึง 3 ครั้งในวันที่ 18, 25 และ 29 ธันวาคม เนื่องจากเขาประกาศกฎอัยการศึก ยุนเพิกเฉยต่อการเรียกทั้งสามครั้ง[24] วันที่ 30 ธันวาคม ซีไอโอได้ขอหมายจับยุนที่ศาลแขวงโซลตะวันตก[25] ศาลได้ออกหมายจับในวันถัดจากนั้น[26] หมายจับซึ่งมีอายุเจ็ดวันจนถึงวันที่ 6 มกราคม 2025[27][28] อนุญาตให้พนักงานสอบสวนสามารถล้อมพื้นที่เพื่อควบคุมตัวยุนได้หลายครั้ง หากความพยายามเบื้องต้นไม่ประสบผลสำเร็จ ในกรณีถูกควบคุมตัว หน่วยงานปราบปรามการทุจริตจะมีเวลา 48 ชั่วโมงในการขอหมายจับอย่างเป็นทางการ มิฉะนั้นจะต้องปล่อยตัวยุนไป ทีมกฎหมายของยุนประกาศเจตนาที่จะดำเนินการทางกฎหมาย โดยระบุว่าการดำเนินการตามหมายจับเป็น "สิ่งผิดกฎหมายและไม่ถูกต้อง" อีกทั้งกล่าวหาว่าซีไอโอไม่มีอำนาจในการออกหมายจับ[28][3]

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2025 ยุนได้ออกแถลงการณ์ต่อผู้สนับสนุน เขาอ้างว่า "ขณะนี้สาธารณรัฐเกาหลีกำลังตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากกองกำลังภายในและภายนอกที่คุกคามอำนาจอธิปไตย" และให้คำมั่นว่าจะ "ต่อสู้เคียงข้างจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องประเทศนี้"[29] สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านวิจารณ์ข้อความนี้ว่าเป็นการยั่วยุ โดยโฆษกพรรคประชาธิปไตย โจ ซอง-แล กล่าวถึงยุนว่าเป็น "คนเพ้อฝัน" และกล่าวหาว่าเขาพยายามยุยงให้เกิดการเผชิญหน้า[30]

ความพยายามจับกุมครั้งแรก

[แก้]

ในช่วงเช้าของวันที่ 3 มกราคม เจ้าหน้าที่สอบสวนจากซีไอโอพร้อมด้วยกองกำลังตำรวจ ได้เข้าไปในบ้านพักประธานาธิบดีของยุน เพื่อดำเนินการตามหมายจับ[3][28][30] รายงานระบุว่าชุดจับกุมมีกำลังประมาณ 150 นาย แบ่งเป็นพนักงานอัยการ 30 นาย และตำรวจหน่วยพิเศษ 120 นาย โดยเจ้าหน้าที่ 80 นาย (อัยการ 30 นาย และตำรวจ 50 นาย) ได้เข้าไปในบริเวณบ้านพัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 70 นายยังคงยืนประจำการอยู่ด้านนอก โดยมีกำลังเสริมบางส่วนมาถึงในเวลาต่อมา[31] มีรายงานว่า ยุนถูกแยกตัวออกไปตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม หลังจากกระบวนการถอดถอน[3] มีการบังคับใช้มาตรการกีดขวางอย่างเข้มงวดและจำกัดยานพาหนะในพื้นที่ฮันนัม-ดง ก่อนปฏิบัติการ [32]

การปฏิบัติการเริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สอบสวนได้ฝ่าด่านตรวจรักษาความปลอดภัยขั้นต้น แต่ถูกพัก จอง-จุน หัวหน้าหสำนักงานความมั่นคงของประธานาธิบดี (พีเอสเอส) ขวางทางเข้าบ้านพัก โดยเขาไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน[3] สำนักงานความมั่นคงของประธานาธิบดีได้อ้างอิงมาตราในพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีอาญาของเกาหลีใต้เกี่ยวกับการปกป้องความลับของทางราชการเพื่อเป็นเหตุในการปิดกั้นการเข้าถึงของผู้สืบสวน[3][30] โฮ ดง-วุน หัวหน้าซีไอโอเตือนว่าผู้พยายามขัดขวางการจับกุมยุนอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม[28][30] พัก ชาน-แด หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย กล่าวว่า ความพยายามใด ๆ ในการขัดขวางปฏิบัติการจับกุมจะถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการกบฏและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่[33]

เมื่อเวลา 08.02 น. มีการบันทึกวิดีโอรถกันกระสุน 2 คัน ซึ่งรายงานว่าใช้โดยยุนและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ขณะกำลังออกจากบ้านพักของเขา ต่อมามีการคาดเดากันว่ายุนหลบหนีออกจากสถานที่นั้นโดยใช้ยานพาหนะเหล่านี้[34]

เวลา 09:54 น. ตามเวลาท้องถิ่น สำนักข่าวยนฮับ รายงานว่าอัยการได้บุกเข้าไปในหน่วยทหารเพื่อปิดกั้นที่พักอาศัยดังกล่าว รวมถึงกองพลความมั่นคงที่ 55 ของกองบัญชาการป้องกันกองทัพบก ซึ่งยังคงรักษาแนวป้องกันชุดที่สองไว้ ยังได้ส่งทหารประจำการจากกองบัญชาการป้องกันประเทศไปขัดขวางการดำเนินการตามหมายจับด้วย[31] สมาชิกหลายคนในทีมกฎหมายของยุนได้เข้าไปในบ้านพักของเขาและท้าทายทางกฎหมายหลายครั้ง พวกเขาโต้แย้งว่าหมายจับนั้นไม่สามารถบังคับใช้ได้ที่บ้านพักประธานาธิบดี โดยอ้างกฎหมายที่คุ้มครองสถานที่ซึ่งเก็บรักษาความลับทางทหารไว้ไม่ให้ถูกค้นโดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างเหมาะสม ทนายความยังตั้งคำถามถึงอำนาจของซีไอโอในการสืบสวน "ข้อกล่าวหาการกบฏ" และโต้แย้งสิทธิทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะช่วยเหลือในการดำเนินการควบคุมตัว[3]

ตามรายงานของสื่อ เจ้าหน้าที่สอบสวนเผชิญหน้ากับกำแพงมนุษย์ที่มีเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดีประมาณ 200 คน และพบกับ "การปะทะหลายครั้งทั้งเล็กน้อยและรุนแรง" ในระหว่างที่พยายามดำเนินการตามหมายจับ [3] ซีไอโอกล่าวว่าเจ้าหน้าที่สอบสวนได้เข้าไปถึงบริเวณที่พักอาศัยของยุนในระยะ 200 เมตร ก่อนที่จะถูกขวาง[35] ภายหลังการเผชิญหน้ากันประมาณ 6 ชั่วโมงที่บ้านของยุน ซีไอโอได้ระงับการดำเนินงานนี้[3] เจ้าหน้าที่ระบุในเวลาต่อมาว่า "เราได้ตัดสินใจว่าการดำเนินการตามหมายจับเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติเนื่องจากการเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่อง และได้หยุดชั่วคราวเพราะกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในสถานที่ที่เกิดจากการต่อต้าน"[2]

เมื่อวันที่ 4 มกราคม เจ้าหน้าที่สอบสวนได้ขอให้รักษาการประธานาธิบดี ชเว ซังมก สั่งให้หน่วยงานความมั่นคงของประธานาธิบดีอนุญาตให้จับกุมยุนได้เป็นครั้งที่สอง[36][37]

เมื่อวันที่ 9 มกราคม มีรายงานว่าสำนักงานสอบสวนแห่งชาติจะรวบรวมเจ้าหน้าที่ 1,000 นายเพื่อพยายามจับกุมครั้งต่อไป[38][39]

วันที่ 10 มกราคม พัก จอง-จุน หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงของประธานาธิบดี ลาออกจากตำแหน่ง[40] พักถูกเรียกตัวไปที่สำนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อสอบปากคำ ในข้อกล่าวหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่โดยป้องกันไม่ให้มีการจับกุมประธานาธิบดีที่ถูกฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่ง[41]

ความพยายามจับกุมครั้งที่สอง

[แก้]

เช้าตรู่ของวันที่ 15 มกราคม ซีไอโอพร้อมด้วยการสนับสนุนจากตำรวจ ได้พยายามจับกุมยุนเป็นครั้งที่สอง[42] สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่าได้จัดกำลังตำรวจประมาณ 1,000 นายจากหลายเขตอำนาจศาลเพื่อดำเนินการตามหมายจับ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่สืบสวน 301 นายจากหน่วยสืบสวนนครบาลของสำนักงานตำรวจนครบาลโซล เจ้าหน้าที่ 270 นายจากสำนักงานตำรวจจังหวัดคย็องกีตอนใต้ที่มีประสบการณ์ในหน่วยสืบสวนปราบปรามการทุจริต หน่วยสืบสวนอาชญากรรมเคลื่อนที่ และหน่วยสืบสวนอาชญากรรมยาเสพติด และเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมจากสำนักงานตำรวจจังหวัดคย็องกีตอนเหนือ และหน่วยสืบสวนภูมิภาคอินช็อน เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ทีมส่วนหน้าซึ่งมีหน้าที่กำจัดสิ่งกีดขวางทางกายภาพและรักษาความปลอดภัยในการเข้าสู่บ้านพักประธานาธิบดี ทีมจับกุมซึ่งรับผิดชอบในการจับกุมประธานาธิบดียุน รวมถึงคิม ซอง-โฮ รองหัวหน้าพีเอสเอส กับเจ้าหน้าที่พีเอสเอสคนใดก็ตามที่อาจต่อต้านการปฏิบัติการ และทีมคุ้มกันซึ่งรับผิดชอบในการเคลื่อนย้ายบุคคลที่ถูกควบคุมตัวออกจากที่เกิดเหตุอย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานกักขังหลายแห่งไว้ในสถานีตำรวจบริเวณใกล้เคียง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจับกุมเจ้าหน้าที่พีเอสเอสหากเกิดการต่อต้าน มีการวางแผนที่จะเริ่มปฏิบัติการในเวลา 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 15 มกราคม โดยมีช่วงเวลาการจับกุมขยายไปจนถึงวันที่ 17 มกราคม การปฏิบัติการดังกล่าวมีการเตรียมอุปกรณ์เครื่องกล เช่น เครน และ รถบรรทุกลาก สำหรับขจัดสิ่งกีดขวางทางกายภาพ การจัดกำลังตำรวจปราบจลาจลเพื่อควบคุมฝูงชน และสงครามจิตวิทยา ซึ่งรวมถึงการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เพื่อผ่อนปรนให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ให้ความร่วมมือ[43]

เมื่อวันที่ 14 มกราคม หน่วยทหารที่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าบริเวณภายนอกบ้านพักได้อนุญาตให้ เจ้าหน้าที่ปราบปรามการทุจริตและตำรวจเข้ามาจับกุมยุน หน่วยงานความมั่นคงของประธานาธิบดีปฏิเสธการอนุญาตของหน่วยทหาร โดยระบุว่าหน่วยงานนี้ไม่มีอำนาจอนุญาตให้เข้าไปในบ้านพักของยุนได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานหลักก่อน[44]

เมื่อเวลา 04.20 น. ของวันที่ 15 มกราคม เจ้าหน้าที่ซีไอโอมาถึงบ้านพักของยุน ตำรวจได้เคลื่อนกำลังเข้าไปยังบ้านพักเพื่อประกาศเตือนภัยว่า บุคลากรคนใดขัดขวางการจับกุมจะถูกดำเนินคดี พีเอสเอสได้จัดวางเครื่องกีดขวางทางกายภาพ 6 ชั้น ไว้บริเวณภายนอกที่พักอาศัย สมาชิกพรรคพลังประชาชนประมาณ 30 คน พร้อมด้วยทนายความ ยุน กาป-กึน และ คิม ฮง-อิล ได้ผูกโซ่มนุษย์ไว้หน้าบ้านพัก เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกเข้าไป ยุน กาป-กึน เรียกปฏิบัติการนี้ว่า "ผิดกฎหมาย" และเป็น "การกบฏภายใน"[45][46] คิม ซองโฮ รองหัวหน้าหน่วยพีเอสเอส ซึ่งได้รับหมายจับเช่นกัน ได้ตัดการสื่อสารทางวิทยุกับสมาชิกหน่วยข่าวกรองคนอื่น ๆ[47] เจ้าหน้าที่หลายนายใช้บันไดเพื่อปีนขึ้นรถบัสซึ่งถูกวางไว้เป็นเครื่องกั้นบริเวณทางเข้า และใช้เครื่องตัดเหล็กในการตัดรั้วลวดหนาม เจ้าหน้าที่บางคนปีนกำแพงและใช้เส้นทางเดินป่าในบริเวณใกล้เคียงเพื่อเข้าถึงบริเวณดังกล่าวจากด้านหลังอาคารรักษาความปลอดภัยหลัก[48]

การจับกุม

[แก้]

เวลา 10.33 น. สำนักงานอัยการสูงสุดประกาศว่าได้จับกุมประธานาธิบดียุนแล้ว[49] ไม่นานก่อนที่เขาจะถูกจับกุม ยุนได้เผยแพร่แถลงการณ์วิดีโอความยาว 3 นาที โดยประกาศการตัดสินใจของเขาที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สืบสวนเพื่อ "ป้องกันการนองเลือดที่น่ารังเกียจ" หลังจากเห็นเจ้าหน้าที่ "บุกรุก" สิ่งกีดขวางด้านความปลอดภัยของที่พักอาศัย เขายืนกรานว่าหมายจับของเขาไม่มีผลตามกฎหมาย และอ้างว่าหลักนิติธรรมของเกาหลีใต้ "พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง"[48][50] อย่างไรก็ตาม ฝ่ายของยุนได้ยื่นคำคัดค้านหมายจับต่อศาล โดยขอให้ปฏิเสธการดำเนินการตามหมายจับกุมและหมายค้น แต่คำคัดค้านดังกล่าวได้ถูกยกในวันที่ 5 มกราคม หัวหน้าสำนักงานบริหารศาลได้แถลงต่อสาธารณะเพื่อตอบโต้ยุน โดยกล่าวว่าหมายจับนี้เป็นมุมมองกระแสหลักในศาลสาธารณรัฐเกาหลี และเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย[51]

หลังการจับกุม

[แก้]

หลังจากถูกจับกุมและสอบสวน เจ้าหน้าที่มีแผนที่จะควบคุมตัวยุนไว้ที่ศูนย์กักขังโซล ในอึยวัง จังหวัดคยองกี ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานซีไอโอประมาณ 5 กิโลเมตร ตามกฎหมายของเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่มีเวลา 48 ชั่วโมงในการขอหมายจับ ซึ่งหากไม่มีหมายดังกล่าว ยุนจะได้รับการปล่อยตัว[48] การสอบปากคำเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ราชการกวาชอน โดยยุนถูกสอบปากคำต่อหน้าทนายความของเขา ยุน กาป-กึน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการรักษาความปลอดภัยได้ถูกส่งไปทั่วทั้งอาคารสำนักงานสอบสวนการทุจริต รองอัยการสูงสุด อี แจ-ซึง ดำเนินการซักถามเบื้องต้นเป็นเวลาสองชั่วโมงครึ่ง ตามด้วยอัยการสูงสุด อี แด-ฮวาน หลังจากพักเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง อัยการได้เตรียมแบบสอบถามละเอียด 200 หน้าสำหรับการสอบสวน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ยุนปฏิเสธที่จะให้คำตอบด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรต่อคำถามของอัยการ กระบวนการนี้ไม่ได้รับการบันทึกเนื่องจากยุนปฏิเสธที่จะให้มีการบันทึกวิดีโอ[52]

เจ้าหน้าที่ของยุนได้เผยแพร่ "จดหมายถึงประชาชน" บนบัญชี เฟซบุ๊ก ของเขาหลังจากการจับกุม ซึ่งรายงานว่าจดหมายดังกล่าวยุนเขียนบนกระดาษด้วยตนเองในช่วงต้นปี 2025[53] จดหมายส่วนใหญ่เน้นไปที่คำแก้ตัวของยุนในการประกาศกฎอัยการศึก ข้อกล่าวหาการทุจริตการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้น และจุดอ่อนในระบบการเลือกตั้งของเกาหลีใต้ เน้นย้ำถึงความสำเร็จของนโยบายของเขา รวมถึงความมุ่งมั่นต่อประชาธิปไตยเสรีนิยมและเสรีภาพส่วนบุคคล ในการต่อต้านลัทธิเผด็จการและการกดขี่ของเสียงส่วนใหญ่[54]

เมื่อวันที่ 15 มกราคม ทีมทนายความอาญาของยุนได้ยื่นคำร้องขอการพิจารณาคดีโดยศาลแขวงกลางกรุงโซล[55]

การชุมนุม

[แก้]

หลังจากมีการออกหมายจับยุนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2024 และการกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้สนับสนุนของยุนในเวลาต่อมา ผู้ประท้วงหลายพันคนได้รวมตัวกันใกล้สถานีฮันกังจิน เพื่อสนับสนุนยุน ท่ามกลางอุณหภูมิที่ลดลงเหลือ −3 องศาเซลเซียส (27 องศาฟาเรนไฮต์) โดยอ้างว่าตนบริสุทธิ์และกล่าวหาว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้สนับสนุนตั้งจุดบริการชาและของว่างใกล้กับพื้นที่ประท้วง ผู้สนับสนุนยูนหลายคนโบกธงชาติสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ระหว่างการชุมนุม และตะโกนคำขวัญ เช่น "เราจะปกป้องประธานาธิบดียุน ซ็อก-ย็อล!" และ "ยกเลิกการถอดถอน!" [3] ในช่วงเวลานี้ ยุนยังคงติดต่อสื่อสารกับผู้สนับสนุนผ่านแถลงการณ์ต่อสาธารณะและชมการประท้วงของพวกเขาผ่านการสตรีมสดบน ยูทูบ[30] ผู้ประท้วงหลายคนเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดทั้งคืนในคืนวันที่ 2–3 มกราคม โดยจัดการสวดมนต์บนถนนก่อนที่การประท้วงหลักจะเริ่มขึ้น[32]

เมื่อเวลา 9.30 น. ของวันที่ 3 มกราคม ตำรวจประมาณการอย่างไม่เป็นทางการว่าฝูงชนมีประมาณ 1,200 คน[32] เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 2,700 นาย รถบัสตำรวจ 135 คัน และหน่วยเฉพาะกิจหลายหน่วย เพื่อป้องกันการปะทะที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้ประท้วงที่สนับสนุนยุนและต่อต้านยุน หลังจากการเผชิญหน้ากันระหว่างทั้งสองฝ่ายเมื่อวันก่อน[3] เกิดการปะทะรุนแรงระหว่างพรรคคู่แข่งกันนอกบริเวณบ้านพักประธานาธิบดี โดยผู้สนับสนุนยูนบางส่วนปิดกั้นทางเข้าบ้านพักด้วยกำลังกาย แบฮุน ผู้ประท้วงต่อต้านยุน วัย 46 ปี รายงานว่าผู้ประท้วงถูก "กลุ่มที่โบกธงชาติโจมตีและทำร้ายหลายครั้ง"[30] ผู้สนับสนุนยูนหลายคนนอนลงบนถนนทางไปสู่บ้านพักประธานาธิบดี โดยเจ้าหน้าที่เกาหลีได้เคลื่อนย้ายพวกเขาออกไป[28] ผู้ประท้วงหลายคนตีกลองใหญ่และตะโกนคำขวัญ เช่น "จับกุมสำนักงานอัยการ!", "เราชนะแล้ว!", "ให้กำลังใจหน่อย ยุน ซ็อก-ย็อล!" หรือ "ให้กำลังใจหน่อย สำนักงานความมั่นคงของประธานาธิบดี!"[32]

พัก ชาน-แด หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย กล่าวหา ยุน ว่า "ดูวิดีโอยูทูบของฝ่ายขวาจัด ที่บ้านพักประธานาธิบดีเป็นเวลาหนึ่งเดือน และยุยงให้ฝ่ายขวาจัดร่วมชุมนุม"[33]

ปฏิกิริยา

[แก้]

หมายจับยุนและการพยายามจับกุมครั้งแรก

[แก้]

ระหว่างปฏิบัติการจับกุม พัก ชาน-แด หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย กล่าวว่ายุน "...ต้องจ่ายราคาสำหรับความผิดของเขาในการพยายามก่อสงครามโดยการสั่ง (ในช่วงกฎอัยการศึก) 'พังประตูด้วยขวาน' และ 'ลากเขาออกไป แม้ว่าจะหมายถึงการยิงเขาก็ตาม' " และเรียกร้องให้พรรคพลังประชาชน (พีพีพี) หยุดปกป้องคนที่ "ทำลายความสงบเรียบร้อยตามรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย" และเตือนว่าใครก็ตามที่ยังคงปกป้องเขาต่อไป "จะต้องเผชิญกับการตัดสินของประชาชน" หลังการบุกจู่โจมเบื้องต้นที่ไม่ประสบผลสำเร็จ พักเรียกยุนว่า “แกนนำกบฏ” และอธิบายว่าการจับกุมเขานั้นเป็น "ภารกิจเร่งด่วนที่สุด" ของเกาหลีใต้ เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตกฎอัยการศึกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเมืองมากขึ้น เขาเรียกร้องให้มีการจับกุมทุกฝ่ายที่ขัดขวางการโจมตีและความพยายามใดๆ ที่จะจับกุมยุนในอนาคตโดยทันที โดยถือว่าพวกเขาเป็น "ผู้ร่วมก่อกบฏ"[3]

คิม บยองจู กล่าวหาหน่วยงานความมั่นคงของประธานาธิบดีว่ามีส่วนร่วมใน "การก่อกบฏครั้งที่สอง" โดยขัดขวางการจับกุมยุน[3]

พร้อมกันกับความพยายามจับกุมครั้งแรก พัก อัน-ซู ผู้บัญชาการกองทัพบก ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเหตุการณ์ในระหว่างการประกาศกฎอัยการศึกของยุนในเดือนธันวาคม และเจ้าหน้าที่ทหาร กวัก จอง-กึน ถูกตั้งข้อกล่าวหาก่อกบฏ[3][56]

ผู้นำชั่วคราวของพรรคพีพีพี ควอน ยอง-เซ สนับสนุนการระงับความพยายามจับกุมเป็นการชั่วคราว และสนับสนุนให้มีการสืบสวนเพิ่มเติมโดยไม่ต้องกักขังยุน[3]

เกาหลีเหนือ

[แก้]

สื่อของทางการเกาหลีเหนือกล่าวถึงเกาหลีใต้ว่าอยู่ใน "ภาวะโกลาหล" และอยู่ในภาวะอัมพาตทางการเมือง โดยได้ตีพิมพ์บทวิจารณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวในหนังสือพิมพ์ โรดองชินมุน การรายงานข่าวของเกาหลีเหนือเน้นย้ำถึง "การฟ้องร้องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" และความวุ่นวายทางการเมืองที่ตามมา และอ้างถึงสถาบันของเกาหลีใต้ว่าเป็นหุ่นเชิดของสหรัฐอเมริกา[3]

หลังการจับกุมยุน

[แก้]

พัก ชาน-แด หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย กล่าวถึงความพยายามจับกุมครั้งที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จว่าเป็น "ก้าวแรก" ที่จะพาเกาหลีใต้กลับคืนสู่ประชาธิปไตยและระเบียบรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งยืนยันว่า "ความยุติธรรมในเกาหลีใต้ยังคงดำรงอยู่"[48]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Sarnoff, Leah; Cho, Joohee. "Impeached South Korean President Yoon Suk Yeol detained over martial law declaration". ABC News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  2. 2.0 2.1 Sarnoff, Leah (3 มกราคม 2025). "South Korean investigators abandon effort to detain impeached President Yoon Suk Yeol". ABC News (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  3. 3.00 3.01 3.02 3.03 3.04 3.05 3.06 3.07 3.08 3.09 3.10 3.11 3.12 3.13 3.14 3.15 3.16 Sullivan, Helen; Badshah, Nadeem; Sullivan (now), Helen; Badshah (earlier), Nadeem (3 มกราคม 2025). "Investigators trying to arrest South Korea's president Yoon Suk Yeol reportedly blocked by military unit – latest updates". the Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  4. "This lawmaker sounded the alarm about martial law in August — here's how he knew" (ภาษาอังกฤษ). The Hankyoreh. 8 ธันวาคม 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 8 ธันวาคม 2024.
  5. Jung, Min-kyung (4 ธันวาคม 2024). "Assembly speaker declares martial law as invalid". The Korea Herald (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 5 ธันวาคม 2024.
  6. "S Korea president ordered arrest of own party leader". BBC. 6 ธันวาคม 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  7. "Yoon's martial law echoes authoritarian playbook but fails in modern Korea". Koreapro (ภาษาอังกฤษ). 10 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2024.
  8. "How a presidential impeachment works in South Korea as Yoon faces backlash". Reuters. 4 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 14 ธันวาคม 2024.
  9. "South Korean president impeached, ending an 11-day standoff". Los Angeles Times. 14 ธันวาคม 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 14 ธันวาคม 2024.
  10. Moloney, Charlie; Mackay, Hamish; Gerts, Mark (14 ธันวาคม 2024). "South Korea impeachment live: president Yoon Suk Yeol impeached over attempt to impose martial law". the Guardian. สืบค้นเมื่อ 14 ธันวาคม 2024.
  11. "[Breaking] South Korea's parliament votes to impeach acting president; Ruling party vows to challenge its effect". The Korea Herald (ภาษาอังกฤษ). 27 ธันวาคม 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2024.
  12. Lee, Minji (26 ธันวาคม 2024). "(LEAD) Main opposition submits bill to impeach acting President Han; vote up for Friday". Yonhap News Agency. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 26 ธันวาคม 2024.
  13. Lee, Haye-ah (24 ธันวาคม 2024). "Opposition party vows to immediately take steps to impeach Han". Yonhap News Agency. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2024.
  14. 14.0 14.1 McCurry, Justin (11 ธันวาคม 2024). "South Korea police raid President Yoon's office over martial law declaration". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2024.
  15. 15.0 15.1 "Yoon Suk Yeol: South Korea police raid presidential office over martial law attempt". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2024.
  16. Park, Sang-soo. "(4th LD) Yoon's office hands over 'very limited' documents to block police raid". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2024.
  17. Kim, Hyun-soo. "(LEAD) Prosecutors raid Army Special Warfare Command headquarters as part of martial law probe". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2024.
  18. "South Korea: Police search President Yoon's office". dw.com (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2024.
  19. Kim, Seung-Yeon. "(2nd LD) Police again try to raid presidential office compound over martial law probe". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 12 ธันวาคม 2024.
  20. Kim, Seung-Yeon (12 ธันวาคม 2024). "Prosecutors raid Capital Defense Command in martial law probe". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 12 ธันวาคม 2024.
  21. Lee, Haye-ah. "Police raid Gyeonggi Nambu Provincial Police in martial law probe". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 13 ธันวาคม 2024.
  22. "Assembly launches special committee to probe Yoon Suk Yeol's martial law decree". The Korea Herald (ภาษาอังกฤษ). 31 ธันวาคม 2024.
  23. "Nat'l Assembly kicks off 45-day probe into Yoon's martial law imposition". The Korea Times (ภาษาอังกฤษ). 31 ธันวาคม 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  24. Yoo, Jee-ho (29 ธันวาคม 2024). "(2nd LD) Yoon snubs 3rd summons for questioning in martial law investigation". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  25. Kim, Tong-hyung (30 ธันวาคม 2024). "South Korean authorities seek warrant to detain impeached President Yoon in martial law probe". AP News (ภาษาอังกฤษ).
  26. "Arrest warrant issued for impeached S Korea president Yoon". BBC (ภาษาอังกฤษ). 31 ธันวาคม 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  27. "South Korean court issues arrest warrant for impeached President Yoon". France 24 (ภาษาอังกฤษ). 31 ธันวาคม 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  28. 28.0 28.1 28.2 28.3 28.4 "South Korean investigators attempt to detain impeached President Yoon Suk Yeol". AP News (ภาษาอังกฤษ). 2 มกราคม 2025. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  29. "Defiant Yoon vows to fight arrest 'until the end'". The Korea Herald (ภาษาอังกฤษ). 2 มกราคม 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  30. 30.0 30.1 30.2 30.3 30.4 30.5 "South Korea's impeached president resists arrest over martial law bid". France 24 (ภาษาอังกฤษ). 2 มกราคม 2025. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.
  31. 31.0 31.1 Lee, Dong-hwan (3 มกราคม 2024). "The Public Prosecutor's Office breaks through the military unit blocking the official residence and confronts the 'closest' security service". Yonhap News Agency. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2024.
  32. 32.0 32.1 32.2 32.3 "Supporters protest in front of the official residence in response to Yoon's arrest attempt... 2,700 police officers deployed (comprehensive)". Yonhap News Agency. 3 มกราคม 2024. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2024.
  33. 33.0 33.1 "Park Chan-dae: "Secret Service must cooperate in arresting Yoon... If you interfere, you will be punished as an accomplice in the rebellion"". Yonhap News Agency. 3 มกราคม 2024. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2024.
  34. 이, 승준 (5 มกราคม 2025). 방탄차 타고 도망가는 윤석열?...체포영장 집행 '관저 라이브' 풀영상 공개 [Yoon Seok-yeol flees from arrest in a bulletproof car?... Full video of arrest warrant execution 'Live at the official residence' released]. The Hankyoreh (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 8 มกราคม 2025.
  35. "(8th LD) Investigators halt execution of warrant to detain Yoon after standoff at presidential residence". Yonhap News Agency. 3 มกราคม 2024. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2024.
  36. "South Korea investigators ask acting president to clear way for Yoon's arrest". Global News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 4 มกราคม 2025.
  37. Choe, Sang-Hun (8 มกราคม 2025). "How Bodyguards Are Keeping South Korea's President Yoon From Detention". The New York Times.
  38. 이, 한주 (10 มกราคม 2025). ""2차 영장 기한, 설 전까지"...'체포 특화된 형사' 최대 1000명 투입한다" ["Second warrant deadline, before Lunar New Year"... Up to 1,000 'specialized arrest detectives' to be deployed )]. JTBC (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  39. 전, 현진 (9 มกราคม 2025). [단독]윤석열 체포 앞둔 경찰, 수사관 대규모 '동원령'... 마수대 등 체포·검거 인력 보강 [[Exclusive] Police mobilize large number of investigators ahead of Yoon Seok-yeol's arrest... Strengthening arrest and detention personnel, including drug investigation group]. Kyunghyang Shinmun (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  40. 이, 승준 (10 มกราคม 2025). 최상목 대행, 박종준 경호처장 사표 수리. The Hankyoreh (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  41. 이, 지혜 (10 มกราคม 2025). 출석 요구 3번 만에 나온 경호처장 "대통령 신분 걸맞은 수사해야". The Hankyoreh (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  42. 이, 지혜 (14 มกราคม 2025). '윤석열 체포' 내일 새벽 재시도 유력...경찰 1000명 투입 ['Arrest of Yoon Seok-yeol' Likely to be Reattempted Tomorrow Morning... 1,000 Police Deployed]. The Hankyoreh (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 14 มกราคม 2025.
  43. "尹체포 15일 디데이...'진입·체포·호송' 형사 1천명 투입(종합2보)" [D-Day for Yoon's Arrest on the 15th... 1,000 Detectives Deployed for 'Entry, Arrest, and Escort' (Comprehensive 2nd Report)]. Yonhap News Agency. 14 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 14 มกราคม 2025.
  44. Kim, Na-young (14 มกราคม 2025). "(2nd LD) Military unit approves entrance of police, CIO into presidential residence". Yonhap News Agency. สืบค้นเมื่อ 14 มกราคม 2025.
  45. "尹 체포영장 재집행 임박...공수처·경찰 등 관저 앞으로" [Yoon's arrest warrant re-execution imminent... Public Prosecutor's Office, police, etc. in front of the official residence]. Yonhap News Agency. 15 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  46. 윤대통령 변호인 "불법영장"...공수처·경찰 "현행범 체포" [President Yoon's lawyer: "Illegal warrant"... Public Prosecutor's Office and police: "Arrest the criminal in the act"]. Yonhap News Agency. 15 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  47. 경찰, '尹체포 저지 주도' 김성훈 경호처 차장 체포 시도 [Police Attempt to Arrest Deputy Chief of Security Service Kim Seong-hoon, Who 'Leaded in Preventing Yoon's Arrest']. Yonhap News Agency. 15 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  48. 48.0 48.1 48.2 48.3 Guinto, Joel; Khalil, Shaimaa; Ng, Kelly. "Yoon Suk Yeol: South Korea impeached president arrested after investigators scale walls". BBC (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  49. Kwak, Min-seo; Kim, Seung-wook (15 มกราคม 2025). "尹 "불법 수사이지만 유혈 사태 막기 위해 공수처 출석"(종합)" [Yoon: "It's an illegal investigation, but I'm going to the Public Prosecutor's Office to prevent bloodshed" (Comprehensive)]. Yonhap News Agency. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  50. "South Korean investigators climb wall of buses to arrest president Yoon". The Independent (ภาษาอังกฤษ). 15 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  51. 하얀, 박 (7 มกราคม 2025). "법원행정처장, 윤석열 체포영장 '형소법 적용 예외'에 "영장판사, 주류적 견해 따른 듯"" [The head of the Court Administration Office, "The arrest warrant for Yoon Seok-yeol have followed the mainstream view" on the 'exception to the application of the Criminal Procedure Act']. Yonhap News Agency. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  52. 공수처 200쪽 질문지에 尹 진술거부·영상녹화 거절로 맞서(종합) [Yoon's refusal to testify and videotape in response to the 200-page questionnaire from the Public Prosecutor's Office (comprehensive)]. Yonhap News Agency. 15 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  53. Kim, Seung-wook (15 มกราคม 2025). "尹 "계엄은 범죄 아냐...부정선거 증거 너무나 많다" 주장(종합)" [Yoon claims, "Martial law is not a crime...there is too much evidence of election fraud" (comprehensive)]. Yonhap News Agency. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  54. Kwak, Min-seo (15 มกราคม 2025). [전문] 尹, 체포영장 집행 후 '국민께 드리는 글' 공개 [[Full text] Yoon releases 'Letter to the People' after execution of arrest warrant]. Yonhap News Agency. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  55. 박원기. "윤 대통령 변호인단 "서울중앙지법에 체포적부심사 청구"". Naver (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2025.
  56. "High-ranking military generals sent to trial for role in martial law declaration". Korea JoongAng Daily (ภาษาอังกฤษ). 3 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2025.