ข้ามไปเนื้อหา

กลุ่มเอเวอร์แกรนด์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กลุ่มเอเวอร์แกรนด์
中国恒大集团
ประเภทบริษัทมหาชน
การซื้อขาย
SEHK: 3333
ISINKYG2119W1069
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
ก่อตั้ง1996; 28 ปีที่แล้ว (1996)
ผู้ก่อตั้งสฺวี่ เจียยิ่น (Hui Ka Yan, heoi2 gaa1 jan3)
สำนักงานใหญ่
เชินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง
,
จีน
พื้นที่ให้บริการจีนแผ่นดินใหญ่
บุคลากรหลักสฺวี่ เจียยิ่น (ประธานบริษัท)
รายได้507,248,000,000 เหรินหมินปี้ (พ.ศ. 2563) Edit this on Wikidata
รายได้จากการดำเนินงาน
69,712,000,000 เหรินหมินปี้ (พ.ศ. 2563) Edit this on Wikidata
รายได้สุทธิ
31,400,000,000 เหรินหมินปี้ (พ.ศ. 2563) Edit this on Wikidata
สินทรัพย์2,301,159,000,000 เหรินหมินปี้ (พ.ศ. 2563) Edit this on Wikidata
พนักงาน
123,276 (พ.ศ. 2563) Edit this on Wikidata
บริษัทในเครือบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหิงต้า กลุ่มยานพาหนะพลังงานใหม่เอเวอร์แกรนด์
เว็บไซต์www.evergrande.com
China Evergrande Group
อักษรจีนตัวย่อ中国恒大集团
อักษรจีนตัวเต็ม中國恆大集團

กลุ่มเอเวอร์แกรนด์ (อังกฤษ: China Evergrande Group) หรือ กลุ่มเหิงต้า (จีน: 中国恒大集团; พินอิน: Zhōngguó Héngdà Jítuán) เป็นกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติจีน ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับสองของประเทศ[1] จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการเงินโฮ่วไห่ (Excellence Houhai Financial Center, 卓越后海中心) ในเขตหนานชาน เมืองเชินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน[2] ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1996 โดยสฺวี่ เจียยิ่น (许家印) ดำเนินธุรกิจขายห้องชุดพักอาศัยซึ่งโครงการส่วนใหญ่สำหรับผู้ที่มีรายได้สูงและปานกลาง[3] ในปี 2018 บริษัทได้กลายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก[4]

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2023 กลุ่มเอเวอร์แกรนด์ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์กับศาลล้มละลายในนครนิวยอร์ก[5]

ประวัติ

[แก้]

บริษัทก่อตั้งโดย สฺวี่ เจียยิ่น ที่เมืองกว่างโจวทางตอนใต้ของจีนใน ค.ศ. 1996 ในชื่อกลุ่มเหิงต้า ระหว่างช่วงที่มีการขยายเขตเมืองเป็นจำนวนมากในจีน[6]

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 บริษัทสามารถระดมทุนได้ 722 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเสนอขายหลักทรัพย์แก่สาธารณะเป็นครั้งแรกเพื่อเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (SEHK)[7]

ในปี 2021ปัญหาการจ่ายหนี้ของเอเวอร์แกรนด์เป็นจุดเริ่มต้นวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนในปี 2020–2022 โดยหนี้สินทั้งหมดของเอเวอร์แกรนด์อยู่ที่ประมาณหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งของการลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2021[8] ในตอนท้ายของปี 2021 มีรายงานว่ารัฐบาลจีนกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างของบริษัทเอเวอร์แกรนด์เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์[9][10] ในวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2022 กลุ่มเอเวอร์แกรนด์ยังขอพักชำระหนี้จากผู้ถือหุ้นกู้สำหรับตัวเลือกการชำระคืนก่อนกำหนดของหนึ่งในหุ้นกู้สกุลเงินหยวน[11]

ในปี 2022 บริษัทประกาศว่าจะย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่กว่างโจวเนื่องจากต้องการลดการใช้จ่าย[12]

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2022 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าโครงการก่อสร้างของบริษัทได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในหลายโครงการ[13] และบริษัทยังคงมีหนี้สินอยู่ที่ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2023 กลุ่มเอเวอร์แกรนด์เปิดเผยต่อสาธารณะว่ามีในปี 2021 ผลขาดทุนสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้น 476 พันล้านหยวน (66.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และในปี 2022 ขาดทุนสุทธิ 105.9 พันล้านหยวน (14.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)[14] บริษัทระบุว่าหนี้สินรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2022 อยู่ที่ 2.43 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 340 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) การพิจารณาของศาลเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ของกลุ่มบริษัท จะมีขึ้นในฮ่องกงและแคริบเบียน ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2023[14]

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2023 บริษัทเอเวอร์แกรนด์ได้ยื่นคำร้องขอพิทักษ์ทรัพย์ตามหมวดที่ 15 ของประมวลกฎหมายล้มละลายของสหรัฐ เพื่อขอความคุ้มครองจากเจ้าหนี้ต่อศาลล้มละลายสหรัฐในแมนฮัตตัน[15]

ธุรกิจและการดำเนินงาน

[แก้]

อสังหาริมทรัพย์

[แก้]

กลุ่มเอเวอร์แกรนด์ เป็นเจ้าของที่ดินเพื่อการพัฒนาและโครงการอสังหาริมทรัพย์รวม 565 ล้านตารางเมตร (6,080 ล้านตารางฟุต) ใน 22 เมืองในประเทศจีน ซึ่งรวมถึงกว่างโจว เทียนจิน เสิ่นหยาง อู่ฮั่น คุนหมิง เฉิงตู ฉงชิ่ง หนานจิง เจิ้งโจว ลั่วหยาง ฉางชา หนานหนิง ซีอาน ไท่หยวน และกุ้ยหยาง[16] โครงการที่โดดเด่นของบริษัท ได้แก่ เกาะโอเชียนฟลาวเวอร์ (Ocean Flower Island, 海花岛) ในมณฑลไห่หนาน

บริษัท Evergrande Real Estate เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์สามอันดับแรกเป็นที่รู้จักในชื่อ "ว่านเหิงปี้" คือร่วมกับอีกสองแห่ง ได้แก่กลุ่มว่านเค่อ (อังกฤษ: Vanke group, จีน: 万科集团; พินอิน: Wànkē jítuán) และบริษัทคันทรีการ์เดน (อังกฤษ: Country Garden, จีน: 碧桂园; พินอิน: Bìguìyuán) บริษัทได้พัฒนาโครงการในกว่า 170 เมืองในจีนแผ่นดินใหญ่

โครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสานขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักได้แก่ Evergrande Huazhi Plaza (恒大华志广场) ในนครเฉิงตู ซึ่งออกแบบโดยบริษัท Aedas (凱達環球) และสร้างเสร็จในปี 2014[17]

ท่องเที่ยวและนันทนาการ

[แก้]

เอเวอร์แกรนด์ เป็นเจ้าของตราสินค้าสวนสนุกหลักสองชื่อคือ "Hengda children of the world (恒大童世界)" กับ "Hengda water world (恒大水世界)" และที่มณฑลไห่หนานมีโครงการคอมเพล็กซ์สำหรับนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่คือ "Chinese island of Hainan to spend (中国海南海花岛)"[18][19][20] ซึ่งเกาะโอเชียนฟลาวเวอร์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นส่วนสำคัญของโครงการ[21]

กีฬา

[แก้]

ในปี 2010 บริษัทได้เข้าซื้อสโมสรฟุตบอลกว่างโจว (Guangzhou Evergrande F.C., 广州恒大足球俱乐部) และลงทุนอย่างมากในการเซ็นสัญญากับผู้เล่นชั้นนำ ในปี 2013 ภายใต้ผู้จัดการทีม มาร์เชลโล ลิปปี (Marcello Lippi) สโมสรชนะเลิศการแข่งขันรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก และกลุ่มอาลีบาบาได้เข้ามาร่วมถือหุ้นของสโมสรเป็นจำนวนร้อยละ 50[22]

เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2020 บริษัทเอเวอร์แกรนด์ได้เปิดการก่อสร้างสนามฟุตบอลกว่างโจวเอเวอร์แกรนด์ (Guangzhou Evergrande Football Stadium, 广州恒大足球场) ในหมู่บ้านเซี่ย เขตพานอวี๋ นครกว่างโจว[23]

บริษัทยังได้เปิดโรงเรียนฝึกหัดฟุตบอลเอเวอร์แกรนด์ (Evergrande Football School, 恒大足球学校)[24]

บริษัทเป็นผู้สนับสนุนของสโมสรวอลเลย์บอลหญิงกว่างตงเหิงต้า (Guangdong Evergrande V.C., 广东恒大女子排球俱乐部) ยาวนาน 8 ปี และได้สิ้นสุดสัญญาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2021[25]

ยานยนต์

[แก้]

ในปี 2018 เอเวอร์แกรนด์เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 45 ในบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐ ฟาราเดย์ฟิวเจอร์ (Faraday Future) ในราคา 2 พันล้านดอลลาร์ผ่านบริษัทในเครือ เอเวอร์แกรนด์เฮลท์ (Evergrande Health, 恒大健康产业集团)[26]

ในเดือนกรกฎาคม 2019 บริษัทร่วมมือกับสเตทกริดคอร์ปอเรชัน (State Grid Corporation of China, 国家电网公司) เพื่อพัฒนาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า[27] ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2019 เอเวอร์แกรนด์ประกาศว่าบริษัทจะลงทุน 4.5 หมื่นล้านหยวนในช่วง 3 ปี เพื่อพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่ โดยสร้างฐานการผลิต 3 แห่งในเขตหนานชาน เมืองเชินเจิ้น, กว่างโจว และเซี่ยงไฮ้ รวมถึงเปิดกลุ่มบริษัทย่อย "China Evergrande New Energy Vehicle Group (中国恒大新能源汽车集团)" ในปี 2020[28][29] และสร้างตราสินค้ารถยนต์ไฟฟ้าเหิงฉี (Hengchi, 恒驰)[30]

ในเดือนมิถุนายน 2020 กลุ่มเอเวอร์แกรนด์เข้าซื้อหุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสวีเดน NEVS ที่เหลืออีกร้อยละ 49 ในราคา 380 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ได้ซื้อหุ้นร้อยละ 51 ในราคา 931 ล้านดอลลาร์ในปี 2019[31] กลุ่มยานพาหนะพลังงานใหม่เอเวอร์แกรนด์ ระบุว่าจะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2022[32]

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2023 กลุ่มเอเวอร์แกรนด์ได้รับเงินลงทุนเชิงกลยุทธ์ก้อนแรกมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ จากบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ NWTN[33][34]

บริการสุขภาพ

[แก้]

ในเดือนมีนาคม 2015 เอเวอร์แกรนด์เข้าซื้อกิจการของบริษัทในฮ่องกง นิวมีเดียกรุป (New Media Group Holdings, 新傳媒集團) และเปลี่ยนชื่อเป็นเอเวอร์แลนด์เฮลท์[35] โดยเอเวอร์แกรนด์เฮลท์เป็นผู้ดำเนินโครงการ "Evergrande Health Valley (恒大养生谷)" ในเมืองหนานหนิง ซึ่งเป็นโครงการสวนสุขภาพและชุมชนผู้เกษียณอายุ[36] นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับโรงพยาบาลบริแกมแอนด์วีเมนส์ (Brigham and Women's Hospital) ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ เพื่อบริหารโรงพยาบาลโป๋อ๋าวเอเวอร์แกรนด์ (Boao Evergrande International Hospital, 博鳌恒大国际医院) ในมณฑลไห่หนาน[37]

เอเวอร์แกรนด์เฮลท์เป็นทั้งแผนกหนึ่งในกลุ่มบริษัทและจดทะเบียนเป็นบริษัทย่อย โดยส่วนของบริษัทจดทะเบียนได้เปลี่ยนชื่อเป็น China Evergrande New Energy Vehicle Group (中国恒大新能源汽车集团) ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2020[38][39]

ซึ่งแผนกสุขภาพยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มยานพาหนะพลังงานใหม่เอเวอร์แกรนด์ และต่อมาได้ปรับเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเอเวอร์แกรนด์ ในปี 2021[40]

ธุรกิจบันเทิง

[แก้]

กลุ่มเครือข่ายเหิงเถิง (HengTen Networks Group, 恒腾网络集团) ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยร่วมทุนกับบริษัทเทนเซ็นต์ (Tencent, 腾讯控股) ในเดือนตุลาคม 2020 กลุ่มเครือข่ายเหิงเถิงประกาศว่าจะเข้าซื้อกิจการของบริษัทภาพยนตร์หรูอี้ (Ruyi Films, 儒意影业) ด้วยมูลค่า 7.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง[41] ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2021 บริษัทได้ขายหุ้นร้อยละ 7 ในเหิงเถิงให้กับเทนเซ็นต์ในราคา 418 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[42] ต่อมาในปี 2021 เอเวอร์แกรนด์ได้ขายหุ้นที่เหลือในเหิงเถิงและยุติความสัมพันธ์ทางการค้ากับเทนเซ็นต์[43]

การเงิน

[แก้]

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เอเวอร์แกรนด์เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 50 ในบริษัทประกันชีวิตเกรตอีสเทิร์น (Great Eastern Life Assurance (China)) สัญชาติจีน-สิงคโปร์ ด้วยมูลค่า 617 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเปลี่ยนชื่อเป็นเอเวอร์แกรนด์ไลฟ์ (Evergrande Life, 恒大人寿)[44] นอกจากนี้ยังถือหุ้นในธนาคารเชิ่งจิง (Shengjing Bank, 盛京银行)[45] เอเวอร์แกรนด์ยังดำเนินธุรกิจบริการบริหารความมั่งคั่งให้กับผู้บริโภคอีกด้วย[46]

อาหารและการเกษตร

[แก้]

ใน ค.ศ. 2014 กลุ่มเอเวอร์แกรนด์ได้เปิดตัวตราสินค้าน้ำแร่ "เหิงต้าปิงฉวน" (Hengda Bingquan, 恒大冰泉 และต่อมาคือ "Evergrande Spring") โดยลงทุน 5.54 พันล้านหยวน ซึ่งรวมถึงการว่าจ้างเฉินหลงในการประชาสัมพันธ์ด้วย[47] แต่มีผลตอบรับเชิงลบอย่างมากจากผู้บริโภคชาวเกาหลี เนื่องจากแหล่งน้ำบนฉลากระบุว่ามาจาก "ภูเขาฉางไป๋" (Changbai Mountains, 长白山) แทนที่จะเป็นชื่อภาษาเกาหลีว่า "ภูเขาแพ็กดู" (Paektu Mountain, 백두산) โดยเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความตึงเครียดระหว่างชาวจีนและชาวเกาหลีใต้[48]

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2016 หลังจากขาดทุน 4 พันล้านหยวน เอเวอร์แกรนด์ได้ขายหน่วยธุรกิจการเกษตรซึ่งรวมถึงธุรกิจน้ำแร่ ธุรกิจนม และธุรกิจธัญพืชและน้ำมันประกอบอาหาร ในราคา 2.7 พันล้านหยวน[49][50] ต่อมาในปีนั้นเอเวอร์แกรนด์ได้ประกาศว่าจะลงทุน 300 ล้านหยวนเพื่อสร้างฟาร์มสุกรมากกว่า 110 แห่งในมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน[51]

ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ "Evergrande Spring" ของกลุ่มเอเวอร์แกรนด์

ข้อมูลทางการเงิน

[แก้]
ข้อมูลทางการเงิน (หยวน)[52][53][54](ปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธันวาคม)[55]
ค.ศ. รายรับ รายได้สุทธิ สินทรัพย์ ส่วนของผู้ถือหุ้น
2010[56] 45,801,401,000 8,024,676,000 104,452,464,000 21,366,225,000
2011[57] 61,918,185,000 11,726,593,000 179,023,408,000 34,130,753,000
2012[58] 65,260,838,000 9,181,921,000 238,990,551,000 41,691,325,000
2013[59] 93,671,780,000 12,611,778,000 159,950,689,000 79,342,634,000
2014[60] 111,398,112,000 12,604,053,000 206,225,229,000 112,378,004,000
2015[61] 133,130,000,000 10,460,000,000 757,035,000,000 142,142,000,000
2016[62] 211,444,000,000 5,091,000,000 1,350,868,000,000 192,532,000,000
2017[63] 311,022,000,000 24,372,000,000 1,761,752,000,000 242,208,000,000
2018[64] 466,196,000,000 37,390,000,000 1,880,028,000,000 308,626,000,000
2019[65] 477,561,000,000 17,280,000,000 2,206,577,000,000 358,537,000,000
2020[55] 507,248,000,000 8,076,000,000 2,301,159,000,000 350,431,000,000
2021[66] 250,013,000,000 -476,035,000,000 2,107,096,000,000 -473,054,000,000
2022[67] 230,067,000,000 -105,914,000,000 1,838,338,000,000 -599,074,000,000

ปัญหาทางการเงิน

[แก้]

ใน ค.ศ. 2016 ศาลคดีประพฤติมิชอบในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงสั่งพักงานผู้ค้าหลักทรัพย์โดยยืมหุ้นมาขายและผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยซิตรอง (Citron Research) แอนดริว เลฟต์ ชาวอเมริกัน เป็นเวลาห้าปี เนื่องจากการตีพิมพ์รายงานที่มีข้อวิจารณ์บริษัทเอเวอร์แกรนด์อย่างรุนแรง โดยคำสั่งระบุว่า "พบว่าเขามีความผิดในการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิดซึ่งชักนำให้เกิดการทำธุรกรรมภายใต้ข้อบัญญัติหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (SFO) ในการตีพิมพ์รายงานการวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์เอเวอร์แกรนด์ (Evergrande) ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012"[68][69][70] หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า การห้ามการซื้อขาย "ได้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูดเกี่ยวกับตลาดการเงินในฮ่องกง"[71]

ในช่วงฤดูร้อนปี 2021 การชำระหนี้ที่ครบกำหนดซึ่งมีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ส่งผลให้เกิดวิกฤตสภาพคล่องของเอเวอร์แกรนด์[72][73][74][75] นี่เป็นสาเหตุหนึ่งของการลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2021[76] เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2021 เอเวอร์แกรนด์ประกาศว่าไม่สามารถตกลงขายสินทรัพย์มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะนำไปใช้ในการชำระดอกเบี้ย 83 ล้านดอลลาร์ที่ขาดการชำระในเดือนกันยายน 2021 ได้[77] ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 เอเวอร์แกรนด์ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้อีก 3 ครั้งหลังจากเลยช่วงเวลาผ่อนผันการจ่ายดอกเบี้ย[78]

แม้ว่าปริมาณหนี้สินจะมีขนาดใหญ่ แต่จากมุมมองเฉพาะข้อมูลทางการเงินเอเวอร์แกรนด์ยังไม่ถึงภาวะ "ล้มละลาย" ตามรายงานทางการเงินที่ดินในกรรมสิทธิ์ของเอเวอร์แกรนด์ในปัจจุบันมีมูลค่า 456.8 พันล้านหยวน และเมื่อรวมกับการปรับปรุงโครงการเก่า 146 โครงการ มูลค่ารวมของที่ดินที่ถือครองของบริษัทมีเกือบ 2 ล้านล้านหยวน นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ที่สร้างเสร็จแล้วและสิทธิในการถือครองทรัพย์อีกมากมาย เช่น อาคารสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านหยวน[79][80]

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2021 บริษัทจัดอันดับเอสแอนด์พี (S&P Global) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเอเวอร์แกรนด์ผิดนัดชำระหนี้ หลังจากขาดการชำระหนี้หุ้นกู้เมื่อต้นเดือน[81] ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 2022 หุ้นของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ถูกระงับการซื้อขายและไม่มีคำชี้แจงใด ๆ จากบริษัท[82] หุ้นของบริษัทกลับมาซื้อขายอีกครั้งในวันรุ่งขึ้นและราคาหุ้นก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 10[83] ในวันที่ 15 มีนาคม 2022 ราคาหุ้นของเอเวอร์แกรนด์ตกลงสู่ระดับต่ำสุดใหม่ตลอดกาลที่ 1.16 ดอลลาร์ฮ่องกง (0.15 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งลดลงจากระดับสูงสุดที่มากกว่า 31 ดอลลาร์ฮ่องกงในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2017[84]

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2022 เอเวอร์แกรนด์ได้ประกาศการตัดสินใจขายโครงการคริสตัลซิตี (Crystal City, 杭州水晶城) ในหางโจวในราคา 3.66 พันล้านหยวน ให้กับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เจ้อเจียงเจ้อเจี้ยน (Zhejiang Zhejian Real Estate Group, 浙江省浙建房地产集团) และกลุ่มบริษัทวิศวกรรมก่อสร้างเจ้อเจียง (Zhejiang Construction Engineering Group, 浙江省建工集团) โดยนำเงินที่ได้มาชำระหนี้การก่อสร้างจำนวน 920.7 ล้านหยวนให้กับกลุ่มบริษัทวิศวกรรมก่อสร้างเจ้อเจียง ข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 216 ล้านหยวน[85]

บริษัทมีผลขาดทุน 476 พันล้านหยวนในปี 2021 และ 106 พันล้านหยวนในปี 2022[86]

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2023 เอเวอร์แกรนด์ได้ยื่นขอล้มละลายตามหมวดที่ 15 ของประมวลกฎหมายล้มละลายของสหรัฐ ในนิวยอร์ก[87]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ↑ "Evergrande draws eight strategic investors for Shenzhen listing". South China Morning Post. 2 มกราคม 2017.
  2. ↑ "Contact". Evergrande Group. 35 / f, Excellent houhai financial center, no. 1126 Haide 3rd Road, Nanshan district, Shenzhen
  3. ↑ Martin, Nik (16 กันยายน 2021). "Evergrande: Why the Chinese property giant is close to collapse". Deutsche Welle.
  4. ↑ "China's Evergrande tops world's most valuable real estate brand". Xinhua News Agency. 5 กันยายน 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 กันยายน 2018.
  5. ↑ Delouya, Samantha (17 สิงหาคม 2023). "China's Evergrande files for bankruptcy | CNN Business". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 17 สิงหาคม 2023.
  6. ↑ Stevenson, Alexandra; Li, Cao (10 สิงหาคม 2021). "Evergrande Went From China's Biggest Developer to One of Its Worst Debtors". The New York Times.
  7. ↑ Or, Amy (30 ตุลาคม 2009). "Evergrande Gets $722 Million". The Wall Street Journal.
  8. ↑ "Struggling Evergrande Group says it will make bond payment this week". CBS News. 22 กันยายน 2021.
  9. ↑ Zhai, Keith; Yu, Elaine; Bao, Anniek (10 พฤศจิกายน 2021). "China's Plan to Manage Evergrande: Take It Apart, Slowly". Wall Street Journal (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0099-9660.
  10. ↑ "Evergrande Braces for Debt Restructuring – December 6, 2021". Daily News Brief (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 6 ธันวาคม 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 มกราคม 2022. สืบค้นเมื่อ 6 ธันวาคม 2021.
  11. ↑ "Evergrande Unit Seeks Delaying Possible Yuan Bond Repayment". finance.yahoo.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2022.
  12. ↑ "China Evergrande moves from Shenzhen HQ building to cut costs". Reuters. 10 มกราคม 2022. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2022.
  13. ↑ "Construction has resumed at 95% of China Evergrande projects, unit says". Reuters. 2 เมษายน 2022.
  14. ↑ 14.0 14.1 "China Evergrande reports steep losses, offers update on offshore debt revamp". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). 17 กรกฎาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2023.
  15. ↑ "China Evergrande seeks Chapter 15 protection in Manhattan bankruptcy court". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 17 สิงหาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 17 สิงหาคม 2023.
  16. ↑ Lee, Georgina (2 มิถุนายน 2021). "China Evergrande unit slides by record in US$1.9 billion sell-off as seller offloads stock after lock-up period expires". South China Morning Post.
  17. ↑ "Evergrande Plaza, a Hong Kong-style shopping mall opens in Chengdu". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2021. สืบค้นเมื่อ 15 ธันวาคม 2015.
  18. ↑ Jeremy Goldkorn (24 กันยายน 2020). "Is indebted real estate developer Evergrande Group seeking government support?". supchina.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 มิถุนายน 2021. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2021.
  19. ↑ Qu Hui,Yang Ge (22 ตุลาคม 2020). "Environmental Violations Dog Struggling Evergrande's Hainan Mega-Resort". caixinglobal.com. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2021.
  20. ↑ "Evergrande Group's Ocean Flower Island". ravensuncreative.com.
  21. ↑ "HAINAN OCEAN FLOWER RESORT » LAVA". LAVA.
  22. ↑ "Alibaba, Evergrande-owned soccer club files for China IPO in Asian first". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2 กรกฎาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 17 เมษายน 2020.
  23. ↑ Duerden, John (17 เมษายน 2020). "Chinese club Guangzhou Evergrande building world's biggest stadium for $1.7bn". ESPN.com. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2021.
  24. ↑ Stayton, Jonathan (16 มีนาคม 2016). "Guangzhou Evergrande: Inside China's $185M football factory". CNN.
  25. ↑ White, Jonathan (10 ตุลาคม 2021). "Evergrande's women's volleyball team fate uncertain amid financial trouble".
  26. ↑ O'Kane, Sean (26 มิถุนายน 2018). "Faraday Future reveals the source of its $2 billion investment as a co-founder steps away". The Verge.
  27. ↑ Xuewan, Chen; Kirton, David (17 กรกฎาคม 2019). "State Grid, Evergrande Team Up to Build Electric-Car Charging Network". Caixin.
  28. ↑ "Xinhua Silk Road: Evergrande teams up with global partners to promote NEV development" (Press release). PR Newswire. 13 พฤศจิกายน 2019.
  29. ↑ "The road gets bumpy for billionaires investing in China's electric cars". The Japan Times. 3 ธันวาคม 2019.
  30. ↑ "Evergrande to introduce first EV in 2020". Electrive. 13 พฤศจิกายน 2019.
  31. ↑ "Evergrande to buy up the rest of NEVS". Electrive. 17 มิถุนายน 2020.
  32. ↑ Kharpal, Arjun (12 ตุลาคม 2021). "Evergrande plans to roll out electric cars in 2022, sending shares of its auto unit 4.5% higher". CNBC (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2021.
  33. ↑ Sebastian, Dave. 迪拜车企纽顿集团5亿美元入股恒大汽车. 华尔街日报中文网 (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2023.
  34. ↑ 恒大汽车：获得NWTN集团首笔5亿美元战略投资. www.yicai.com. สืบค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2023.
  35. ↑ "Evergrande Acquires New Media and to Rename it Evergrande Health" (Press release). PR Newswire. 1 มีนาคม 2015.
  36. ↑ "Evergrande Health Valley in Nanning Airport Economic Zone". nanning.gov.cn. 15 พฤศจิกายน 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 ตุลาคม 2021.
  37. ↑ "Boao Evergrande International Hospital". en.lecityhn.com.
  38. ↑ Chiu, Joanne (13 August 2020). "Search For Next Tesla Fuels Rally in Chinese Auto Stocks". The Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 17 December 2021.
  39. ↑ "Change of company name, stock short names and company's website" (PDF) (Press release). China Evergrande New Energy Vehicle Group Limited. 26 สิงหาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 17 ธันวาคม 2021.
  40. ↑ "Interim report 2021" (PDF). China Evergrande New Energy Vehicle Group. 30 กันยายน 2021.
  41. ↑ "Online Home Furnishing Group Makes Surprise $1 Billion Bid for TV Production Company". Caixin. 28 ตุลาคม 2020.
  42. ↑ Zaharia, Marius (1 สิงหาคม 2021). "China's Evergrande to sell stakes in HengTen internet unit for $418 mln". Reuters.
  43. ↑ Baoat, Anniek (18 พฤศจิกายน 2021). "China Evergrande to shed stake in Tencent-backed venture for $273 million".
  44. ↑ Baldwin, Clare (22 พฤศจิกายน 2015). "Chinese developer Evergrande strikes $617 million life insurance deal". Reuters.
  45. ↑ "Evergrande Raises $154 Million Paring Stake in Key Bank Unit". Bloomberg News. 17 สิงหาคม 2021.
  46. ↑ "Lured by promises of high returns, thousands gave Evergrande cash". Al Jazeera (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2021.
  47. ↑ "How Beijing's Debt Clampdown Shook the Foundation of a Real-Estate Colossus". The Wall Street Journal. 18 กันยายน 2021.
  48. ↑ Herald, Korea (2 กรกฎาคม 2014). "Kim Soo-hyun's controversial Chinese ad revealed". The Korea Herald (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2021.
  49. ↑ "Evergrande Sells Food, Beverage Units to Focus on Real Estate". Bloomberg News. 28 กันยายน 2016.
  50. ↑ "Disposal of non-core businesses in grain and oil, diary products and spring water" (PDF).
  51. ↑ Yuanke, Zhang (9 ธันวาคม 2020). "Evergrande, Vanke, Over 1,000 Chinese Developers Try Their Hand at Pig Farming". Shanghai Media Group.
  52. ↑ "China Evergrande Group (3333.HK) Income Statement". finance.yahoo.com.
  53. ↑ "China Evergrande Group (3333.HK) Balance Sheet". finance.yahoo.com.
  54. ↑ "Revenue of Evergrande Real Estate Group Ltd. from 2010 to 2020". Statista.
  55. ↑ 55.0 55.1 "2020 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  56. ↑ "2010 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-09-06. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.
  57. ↑ "2011 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  58. ↑ "2012 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  59. ↑ "2013 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  60. ↑ "2014 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  61. ↑ "2015 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  62. ↑ "2016 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  63. ↑ "2017 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  64. ↑ "2018 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  65. ↑ "2019 Annual Report" (PDF). doc.irasia.com.
  66. ↑ "ANNOUNCEMENT OF RESULTS FOR THE YEAR ENDED 31 DECEMBER 2021" (PDF). CHINA EVERGRANDE GROUP.
  67. ↑ "ANNOUNCEMENT OF RESULTS FOR THE YEAR ENDED 31 DECEMBER 2022" (PDF). CHINA EVERGRANDE GROUP.
  68. ↑ "Market Misconduct Tribunal bans Andrew Left of Citron Research from trading securities in Hong Kong" (Press release). Hong Kong: Securities and Futures Commission. 20 ตุลาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 31 กรกฎาคม 2018.
  69. ↑ "The report of the Market Misconduct Tribunal into dealings in the shares of Evergrande Real Estate Group Limited on 21 June 2012 (Part I)" (PDF). Market Misconduct Tribunal. 26 สิงหาคม 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 7 เมษายน 2023. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2023.
  70. ↑ "The report of the Market Misconduct Tribunal into dealings in the shares of Evergrande Real Estate Group Limited on 21 June 2012 (Part II)" (PDF). Market Misconduct Tribunal. 10 พฤศจิกายน 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 20 มกราคม 2021. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2023.
  71. ↑ Gough, Neil (20 ตุลาคม 2016). "Hong Kong Tribunal Suspends Investor Who Criticized Chinese Firm". The New York Times. ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2016.
  72. ↑ Yu, Sun; Mitchell, Tom; McMorrow, Ryan (14 กันยายน 2021). "China's Evergrande faces investor protests as liquidity crunch worsens". The Irish Times.
  73. ↑ "Heavily indebted Chinese developer Evergrande warns of default risk". Financial Times. 31 สิงหาคม 2021.
  74. ↑ Farrer, Martin (20 กันยายน 2021). "Shares in China's Evergrande plunge again as fears of contagion grow". The Guardian.
  75. ↑ "Evergrande Market Fallout Grows as Local Unit Halts Bond Trading". Bloomberg News. 16 กันยายน 2021.
  76. ↑ Doorn, Philip van. "Here are the worst-performing U.S. stocks as the Evergrande crisis rattles investors". MarketWatch (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2021.
  77. ↑ "Evergrande Shares Drop after $2.6b Deal Fails - October 21, 2021". Daily News Brief (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 21 ตุลาคม 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 มกราคม 2022. สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2021.
  78. ↑ "Evergrande officially defaulted - DMSA is preparing bankruptcy proceedings against Evergrande Group". www.prnewswire.com (ภาษาอังกฤษ). 10 พฤศจิกายน 2021.
  79. ↑ 恒大危机背后可能被忽略的四大问题 (ภาษาจีนตัวย่อ). BBC News 中文. 15 กันยายน 2021. สืบค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2021.
  80. ↑ 四位学者把脉 恒大危机后中国经济的主要隐患 (ภาษาจีนตัวย่อ). BBC News 中文. สืบค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2021.
  81. ↑ "S&P dumps Chinese property giant Evergrande into default". Reuters. 17 ธันวาคม 2021.
  82. ↑ "Embattled China Evergrande shares halt trading". Reuters. 2 มกราคม 2022.
  83. ↑ "Evergrande shares rise as they resume trading after suspension". the Guardian. 4 มกราคม 2022. สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2022.
  84. ↑ "3333 Stock Price | China Evergrande Group Stock Quote (Hong Kong)". MarketWatch (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 15 มีนาคม 2022.
  85. ↑ "China Evergrande to sell Crystal City Project for $575 mln". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 30 มีนาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2022.
  86. ↑ "Evergrande: Crisis-hit Chinese property giant reveals $81bn loss". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 18 กรกฎาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2023.
  87. ↑ Delouya, Samantha (17 สิงหาคม 2023). "China's Evergrande files for bankruptcy". CNN Business. CNN.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มเอเวอร์แกรนด์
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=กลุ่มเอเวอร์แกรนด์&oldid=11905276"