คารา
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
มีข้อสงสัยว่าบทความนี้อาจละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ระบุไม่ได้ชัดเจนเพราะขาดแหล่งที่มา หรืออ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังตรวจสอบไม่ได้ หากแสดงได้ว่าบทความนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แทนป้ายนี้ด้วย {{ละเมิดลิขสิทธิ์}} หากคุณมั่นใจว่าบทความนี้ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แสดงหลักฐานในหน้าอภิปราย โปรดอย่านำป้ายนี้ออกก่อนมีข้อสรุป |
บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ หน้าอภิปรายอาจมีข้อเสนอแนะ |
คารา KARA (카라) | |
---|---|
คาราในปี 2565 จากซ้าย: ฮัน ซึง-ย็อน, คัง จี-ย็อง, นิโคล ช็อง, ฮอ ย็อง-จี, พัก กยู-รี | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ที่เกิด | โซล,เกาหลีใต้ |
แนวเพลง | K-Pop, R&B, Dance, J-Pop |
ช่วงปี | 2007–2016 • 2022–ปัจจุบัน |
ค่ายเพลง | DSP Media Platinum (หมดสัญญาแล้ว) Universal Sigma Warner Music |
สมาชิก | พัก กยู-รี ฮัน ซึง-ย็อน นิโคล ช็อง คัง จี-ย็อง ฮอ ย็อง-จี |
อดีตสมาชิก | คิม ซ็อง-ฮี คู ฮา-รา (เสียชีวิต) |
เว็บไซต์ | KARA's Official Website KARA's Official Cafe |
คารา (เกาหลี: 카라; อังกฤษ: KARA; ญี่ปุ่น: カラ) เป็นกลุ่มสาวนักร้องจากเกาหลีใต้ KARA มาจากคำว่า "Chara" ใน ภาษากรีก แปลว่าท่วงทำนองที่ไพเราะ หรือ Sweet Melody KARA เดบิวต์เมือปี ค.ศ. 2007 ในเพลงที่มีชื่อว่า "Break It" ภายใต้สังกัด ดีเอสพีมีเดีย (DSP) ในนามของ Fin.K.L. รุ่นที่ 2 โดยมีสมาชิกภายในวงตอนแรก 4 คนได้แก่ พัก กยู-รี, ฮัน ซึง-ย็อน, คิม ซ็อง-ฮี และ นิโคล ช็อง ในเวลาต่อมา คิม ซ็อง-ฮี ได้ประกาศลาออกจากวง ทำให้มีการคัดสมาชิกใหม่มา 2 คน คือ คู ฮารา และ คัง จี-ย็อง ปัจจุบัน KARA มีสมาชิก 3 คน ได้แก่ พัก กยู-รี, ฮัน ซึง-ย็อน, คู ฮารา หลังจากที่ นิโคล ช็อง และ คัง จี-ย็อง ประกาศถอนตัวจากวงในเดือนมกราคม ปี 2014 ในเดือนมกราคม ปี 2016 สมาชิกเก่าทั้ง 3 คน ได้แก่ พัก กยู-รี ฮัน ซึง-ย็อน คู ฮา-รา ได้หมดสัญญาลงและตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญา เหลือเพียง ฮอ ย็อง-จี สมาชิกใหม่คนเดียว จึงตัดสินใจยุบวงในที่สุด ในปี 2022 หลังจากการพูดคุยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสมาชิกทั้ง 3 คน ได้แก่ พัก กยู-รี, ฮัน ซึง-ย็อน, ฮอ ย็อง-จี ร่วมกับ 2 อดีตสมาชิก นิโคล ช็อง, คัง จี-ย็อง ได้ตัดสินใจรวมตัวเพื่อโปรโมทอัลบั้มฉลองครบรอบ 15 ปีของวง[1]
ประวัติ
[แก้]2007
[แก้]หลังจากที่วงรุ่นพี่อย่าง Fin.K.L เคยสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงปลายยุค 90 ทางค่าย ดีเอสพีมีเดีย (DSP) ได้เปิดตัว "KARA" เปิดตัวสู่วงการเพลงในไตเติ้ลของ Fin.K.L หมายเลข 2
คาราเดบิวเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2007
กับเพลง "Break It" บนเวที MNET M!Countdown ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี "Break It" กลายเป็นเพลงยอดนิยมจากอัลบั้มแรกของพวกเธอ ซึ่งได้รับคำชมจากแฟน ๆ อย่างมาก โดยอัลบั้มแรกของคารา มีชื่อว่า Blooming ซึ่งคอนเซปต์ภาพลักษณ์ของอัลบั้มนี้ จะแสดงออกถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิง และความเข้มแข็งของวงจากเป้าหมายของพวกเธอที่ต้องการทำผลงานให้ดีกว่ารุ่นพี่อย่าง Fin.K.L ทำให้พวกเธอต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า อีกทั้งยังให้คำสัญญาอีกว่าพวกเธอจะพยายาม "ร้องสด" ในทุกคอนเสิร์ตที่พวกเธอขึ้นทำการแสดง ทำให้ในที่สุดพวกเธอได้รับ "รางวัลนักร้องหน้าใหม่" จากกระทรวงวัฒนธรรมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเกาหลีในเดือน พฤษภาคม ค.ศ. 2007
ในปี 2007 ได้มีศิลปินกลุ่มหญิงที่เดบิวต์มาพร้อมกับวง KARA ด้วย ซึ่งก็คือ Girls' Generation (소녀시대) และ Wonder Girls จึงทำให้สงครามเกิร์ลกรุ๊ปเกิดขึ้นในปีนั้น
หลังจากโปรโมต Break It แล้วพวกเธอก็ได้โปรโมต 맘에 들면 (If U Wanna)และ Secret World แต่อัลบั้มนี้กลับขายได้ไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้ (ขายได้ประมาณ 1,000กว่า แผ่น) ทั้งยังความนิยมของวง ถ้าเทียบกลับ Girls' Generation และ Wonder Girls น้อยกว่ามาก ทำให้ดูเหมือนอัลบั้มนี้ล้มเหลวมากกว่าที่คิด
2008
[แก้]หลังจากสิ้นสุดการโปรโมทอัลบั้มแรก KARA ได้วางแผนที่จะคัมแบคใน เดือนมีนาคม ค.ศ. 2008คิม ซ็อง-ฮี ได้ให้คำมั่นสัญญากับพ่อของเธอไว้ว่า เธอจะตั้งใจเรียนพร้อม ๆ กับทำงานเพลงที่เป็นส่วนหนึ่งของ KARA ด้วย
รวมถึงได้อัดเพลงในอัลบั้มที่ 2 เสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย แต่ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 คิม ซ็อง-ฮีได้ประกาศถอนตัวออกจากวง เนื่องจากแต่ว่าด้วยตารางการซ้อมร้องเพลงที่แน่นมาก ทำให้มันส่งผลกระทบต่อการเรียนของเธอและทำให้เธอเครียดมาก นอกจากนั้นมันยังส่งผลไปถึงสุขภาพที่ย่ำแย่ลงของเธออีกด้วย[2] ทำให้พ่อของเธอเป็นผู้ตัดสินใจให้เธอลาออกจากวง เธอจึงไม่ได้บอกสมาชิกในวงระหว่างการตัดสินใจ
ซึ่งช่วงนี้ ถือเป็น "วิกฤตของ KARA" ครั้งแรก เนื่องจากนักร้องเสียงหลักออกไป ทั้งยังความนิยมก็มีเพียงน้อยนิด ฉะนั้นถ้าจะยุบวงเลยก็ไม่แปลก เมื่อเป็นเช่นนั้น ฮัน ซึง-ย็อน จึงพยายามออก TV ให้มากที่สุด เพื่อรักษาชื่อเสียงของ KARA ไว้ จนบางคนเข้าใจผิดว่า ฮัน ซึง-ย็อน คือหัวหน้าวง และมีคนรู้จัก ฮัน ซึง-ย็อน มากกว่าที่จะรู้จักวง KARA ด้วยซ้ำ เพราะการทำเช่นนี้เอง ฮัน ซึง-ย็อน จึงมีชื่อเล่นว่า แฮมผู้เข้มแข็ง หรือ ซึงยอนผู้ปกป้อง KARA
หลังจากที่ คิม ซ็อง-ฮี ได้ถอนตัวออกจากวงคารา ทางค่าย DSP ได้เปิดการรออดิชั่นสมาชิกใหม่ของวง KARA เพื่อมาแทนซ็องฮี ผ่านทาง Mnet ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 และรับสมาชิกใหม่อีก 2 คน ทำให้วง KARA กลายเป็นกลุ่มนักร้องที่มีจำนวน 5 คน ซึ่งคือ คู ฮารา และ คัง จี-ย็อง เพราะฉะนั้น KARA จึงกลับมาด้วย สมาชิก 5 คนได้แก่ พัก กยู-รี,ฮัน ซึง-ย็อน,นิโคล ช็อง,คู ฮารา และ คัง จี-ย็อง ทำให้จบยุคของของ Fin.K.L หมายเลข 2 และเข้าสู่ยุคของ KARA โดยแท้จริง ซึ่งพวกเธอได้กลับมากับมินิอัลบั้มแรก "Rock U" ในวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ ฮัน ซึง-ย็อน อีกด้วย
สำหรับคอนเซ็ปต์ภาพลักษณ์ใหม่ของวงนั้น ได้ออกมาในแนวน่ารัก สดใส ซึ่งแตกต่างกับอัลบั้ม Blooming ที่ออกมาในแนวแข็งแกร่ง สำหรับเพลง Rock U นั้น ก็ทำให้วงคาราเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง และเพลง Rock U นั้นก็ได้รับความนิยม สามารถขึ้นไปถึง อันดับที่ 7 ของรายการเพลง อย่าง M.net ได้ด้วย
ปลายปี 2008 KARA ก็ได้ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใส กว่าเดิมด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อผ้า สีสันสดใสที่มาพร้อมกับมินิอัลบั้มชุดที่สอง Pretty Girl ในคอนเซปต์ คือ "ปาร์ตี้ / ความสนุก" KARA ได้ส่งซิงเกิล Pretty Girl มาสร้างสีสันในช่วงปลายปีให้คึกคัก โดยทีเซอร์เพลงได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2008 ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าชมทีเซอร์มากถึง 40,000 ครั้ง ในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง
ด้วยคอนเซปต์ของเพลง ที่เข้ากับวง KARA จึงส่งผลให้ Pretty Girl กลายเป็นซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถติดชาร์ตเพลงถึงอันดับที่ 2 ของรายการเพลงชั้นนำของเกาหลีหลายรายการด้วยกัน และเพลงนี้เป็นที่แจ้งเกิดของ คู ฮารา เนื่องจาก ตอนที่พวกเธอแสดงสดในรายการ KBS Music Bank คู ฮาราได้เต้นผิดไปชน นิโคล ช็อง ซึ่งเธอได้ร้องออกมาว่า "อ๊า" โดยมีเสียงเธอดังออกมาขณะแสดงสดออก TV ซึ่งหลังจากจบรายการ เธอเข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำ แต่แทนทีจะโดนตำหนิ เธอกลับได้รับคำปลอบโยนจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก และเนื่องจากตารางอันวุ่นวายและความนิยมของพวกเธาสูงขึ้น วง KARA จึงต้องทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้สมาชิกต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในวันที่ 19 ธันวาคม หลังการฝึกซ้อมเพลงที่ KBS Music Bank
2009
[แก้]ต่อจากนั้นในปี 2009 หลังจากได้รับกระแสตอบรับจากการกลับมาจากภาพลักษณ์ของสาวสดใสใน Pretty Girl มาแล้ว ทางค่าย DSP ได้ประกาศเปิดให้แฟน ๆ ของวงลงคะแนนโหวตเพลงที่จะให้เป็นซิงเกิลต่อไปของ KARA จากอัลบั้ม Pretty Girl และผลก็คือ เพลง "Honey" ได้กลายเป็นซิงเกิลที่จะโปรโมต ต่อจาก Pretty Girl
มิวสิกวิดีโอเพลง Honey ได้เปิดตัววันที่ 16 กุมภาพันธ์ และแสดงครั้งแรกบน KBS Music Bank เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สำหรับเพลง "Honey" ได้กลายเป็นเพลงแรกของกลุ่มที่สามารถขึ้นถึงอันดับ 1 ของชาร์ตเพลง Gaon เป็นเวลาถึง 1 สัปดาห์ และได้รับรางวัลชนะเลิศจากรายการของ M! Countdown, M.net ถึง 3 ครั้ง (Triple win) ซึ่งในตอนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศครั้งแรกนั้นทั้ง พัก กยู-รี และ ฮัน ซึง-ย็อน ได้ร้องไห้เป็นอย่างมาก เพราะพวกเธอต้องใช้เวลาถึงเกือบ 2 ปีถึงจะได้รับรางวัลนี้ และพวกเธอยังได้รับรางวัล "Mutizen Song" อีกด้วย ทำให้วง KARA ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น อีกทั้งช่วงปลายปี พวกเธอได้รับรางวัล "Best Dance Award" จากรายการ 2009 Mnet Asian Music Awards
ในช่วงปลายเดือนมีนาคม พวกเธอได้รับเลือกให้เป็นพิธีกรรายการ MBC's Idol Show ซีซั่น 4 และพวกเธอยังมีรายการ MTV Meta Friends โดยพวกเธอจะไปทำกิจกรรมร่วมกับแฟนคลับ (Kamilia) ด้วย
ต่อมาในช่วงกลางปี 2009 KARAได้มีการ "อัพเกรด" จากแนวน่ารัก สดใส กลายเป็น "เซ็กซี่และแข็งแกร่ง" มากขึ้น โดยยังคงความน่ารัก สดใสอยู่ โดยทีเซอร์ของอัลบั้มนี้ ได้มีการปล่อยเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม และได้รับความนิยมอย่างมาก โดยอัลบั้มนี้ใช้ชื่อว่า "Revolution"
ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2009 KARA ได้ปล่อยเอ็มวีและเพลง "Wanna" ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกของอัลบั้มใหม่ออกมา ซึ่งเพลงนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก สามารถไต่ลำดับชาร์ตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และยังสามารถขึ้นถึง ลำดับ 1 ของ M.net, M! Countdown และยังได้รับรางวัล "Mutizen Song" ด้วย ต่อมา KARA ได้โปรโมตเพลง "Mister" เป็นเพลงที่สอง ด้วยท่าเต้น "ส่ายสะโพก" ที่เป็นเอกลักษณ์ของเพลง จึงทำให้เพลง Mister ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น กลายเป็น "Mister Syndrome" ไป ณ ช่วงขณะหนึ่งเลยทีเดียว แต่เพลง Mister กลับไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย เนื่องจากมาโปรโมตตอนท้าย ความนิยมจึงตกมากแล้ว
จึงเกิดความไม่พอใจจากแฟนคลับเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตอนที่จะออกมาโปรโมต "Wanna" กับ "Mister" นั้น มีแฟนคลับหลายคนสนับสนุนให้โปรโมต "Mister" มากกว่า "Wanna" เนื่องจากทำนองเพลงที่ติดหูกว่า และมีท่าเต้น "ส่ายสะโพก" ที่มีเอกลักษณ์มากกว่า แต่ DSP กลับยังโปรโมต "Wanna" เหมือนเดิม เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยมอย่างมากเท่าที่ควร (เพราะในปัจจุบันคนส่วนมากจะรู้จัก "Mister" มากกว่า "Wanna")
โดยอัลบั้มนี้ KARA ได้ทำการโปรโมตที่ประเทศไทย ณ ลานพารค พารากอนด้วย ซึ่งถือเป็นการเดินทางมาเยือนเมืองไทยครั้งแรกของ 5 สาว KARA เพื่อเข้าร่วมโชว์ฟรีคอนเสิร์ต ภายใต้ชื่อว่า "คอนเสิร์ตความสัมพันธ์ไทย - เกาหลี (Thai-Korea s Friends Concert)" ในงาน "มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2552 (Thailand Entertainment 2009)"
โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน KARA มีรายการ Reality ของตัวเองคือ Kara Bakery ซึ่งในรายการ พวกเธอต้องวางแผน และหาเงิน เพื่อเปิดร้าน Bakery และพยายามขายให้ได้กำไร
และในช่วงเดือนธันวาคม DSP ได้ประกาศว่า KARA จะไป Showcase ที่ญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2010 ซึ่งได้รับความสนใจจากคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก จนต้องจัดเป็น 2 รอบ
2010
[แก้]ในปี 2010 KARA กลับมาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดูเป็นสาวที่ลึกลับน่าค้นหามากขึ้น คอปเซปต์ของเพลงและเอ็มวีมาในภาพลักษณ์ของ "Stealer" โจรสาว พร้อมกับมาดสาวชุดดำที่ให้เสน่ห์แบบรุนแรงโดยเฉพาะกับท่าเต้นที่เขย่าหัวใจ เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งที่พลิกภาพลักษณ์แบบ 180 องศาเลยก็ว่าได้กับเพลงที่มีชื่อว่า "Lupin" โดยทีเซอร์เพลงนี้ ได้เปิดตัวเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2010 โดยมีผู้เข้าชมทีเซอร์และฟังเพลงมากถึง 90,000 views ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงแรกที่เปิดตัวเท่านั้น
ในทันทีที่ คารา เปิดตัวมิวสิกวีดีโอผลงานมินิอัลบั้มชุด 3 ในเพลงไตเติ้ล 'Lupin' เวอร์ชันเต็มอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์พอร์ทัลวีดีโอ GomTV มิวสิกวีดีโอของพวกเธอก็สามารถทะยานขึ้นอันดับที่ 1 ในชาร์ตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นการตอบรับอย่างร้อนแรงจากชาวเน็ต
สำหรับเพลง Lupin นั้นได้กลายเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยในอาทิตย์แรกที่เปิดตัว ก็สามารถคว้าอันดับ 1 ของรายการเพลงทุกรายการในเกาหลีได้ทันที่ นับว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของวงเลยก็ว่าได้ เพลง Lupin ยังสามารถครองชาร์ตอันดับที่ 1 ของชาร์ตเพลงเกาหลี ได้นานถึง 3 อาทิตย์เลยทีเดียว โดยพวกเธอได้รับรางวัลในรายการ M! Countdown ถึง 2 ครั้ง, ในรายการ Music Bank ถึง 3 ครั้งซ้อน และยังได้รับรางวัล "Mutizen Song" อีกด้วย ส่วนเพลง "Umbrella" ซี่งเป็นซิงเกิลที่โปรโมตพร้อม กับ Lupin ก็ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เช่นเดียวกัน
โดยในมีนาคม KARA ได้ไปร่วมงานคอนเสิร์ต 8th Annual Korean Music Festival ที่ Hollywood Bowl ใน LA ที่สหรัฐอเมริกา และก่อนหน้าที่จะออกมินิอัลบั้ม Lupin พวกเธอได้ไปงาน Showcase ที่ Akasaka BLIT ที่ญี่ปุ่น โดยแสดงโชว์ถึง 2 รอบพร้อมกับการต้อนรับของแฟน ๆ อย่างท่วมท้น หลังจากจบการแสดงพวกเธอได้มีการจับมือกับแฟน ๆ ด้วย
ในเดือนพฤษภาคมพวกเธอได้ร่วมเปิดเว็บไซต์แฟนคลับอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่น karaweb.jp ที่ Yokohama’s Minato Mirai Hall โดยมีแฟนคลับถึง 3,000 คนมาร่วมงานพร้อมถ่ายรูปร่วมกับ KARA ด้วย หลังจากนั้น KARA ก็ได้เซ็นสัญญากับ Universal Music Japan โดยได้สังกัดในค่าย universal sigma เก็บถาวร 2013-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
หลังการเสร็จสิ้นการโปรโมตเพลง 'Lupin' ที่เกาหลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้เพลง 'Mister' เป็นหนึ่งในเพลงอัลบั้มชุดที่ 2 ที่มีเพลงไตเติ้ลอย่าง 'Wanna' ซึ่งท่าเต้นส่ายสะโพกในเพลงนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีและประเทศใน แถบเอเชีย ด้วยเหตุนี้ทำให้การเลือกเพลง 'Mister' มาเป็นเพลงไตเติ้ลในซิงเกิลเดบิวของคาราที่ประเทศญี่ปุ่น ต้นสังกัดที่ญี่ปุ่นต่างคาดการณ์ว่าพวกเธอจะได้รับความรักและสามารถกลายเป็น คลื่นเกาหลีลูกใหม่ในญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอนเลยทีเดียว โดยเอ็มวีเพลงนี้ได้มีกำหนดการปล่อยตอนเดือนสิงหาคม
KARA ได้เปิดตัวมิวสิกวีดีโอเพลง 'Mister' เวอร์ชันญี่ปุ่น ก่อนเตรียมเริ่มทำกิจกรรมอย่างเป็นทางการ พวกเธอได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ในเวลานี้คาราได้เข้าบันทึกเทปรายการบันทึกชื่อดังต่าง ๆ อย่างถ้วนหน้าเช่น กันโดยเฉพาะเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2010 โฆษณามิวสิกวีดีโอ 'Mister' ของพวกเธอได้ขึ้นฉายเป็นครั้งแรกบนศูนย์กลางย่านชิบุยะ สำหรับ ตึกที่มิวสิกวีดีโอ 'Mister' ฉายนั้นเป็นตึก Tsutaya Building กรุงโตเกียว ตึกนี้ถึงเป็นตึกที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในย่านชิบุยะ โดยมิวสิกวีดีโอเพลง 'Mister' ของพวกเธอก็ได้ปรากฏบนจอแอลอีดีขนาดใหญ่ซึ่งติดตั้งอยู่บนตึก ทางด้านแฟนคลับในญี่ปุ่นเปิดเผยว่า โฆษณาของคารามีความยาว 15 วินาที และฉายซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เรียกได้ว่าทำให้แฟน ๆ ต่างให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
หลังจากที่เอ็มวีเพลง Mister ได้ถูกปล่อยทางอินเทอร์เน็ตแล้ว ก็ได้การตอบรับอย่างร้อนแรงจากชาวเน็ต และในเวลาเพียงไม่นาน เพลง Mister ของ KARA ก็กลายเป็นซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นเกิดความคาดหวังของวงเป็นอย่างมาก เพลงนี้ สามารถไต่ลำดับขึ้นถึง ลำดับที่ 5 ของ Oricon Chart ซึ่งเป็นชาร์ตเพลงที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นการเปิดตัววงได้ดีอย่างยิ่งใหญ่เกินความคาดหมายเลยทีดียว ทำให้ KARA กลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากในญี่ปุ่น เรียกว่า เกือบสามารถเทียบชั้นได้กับ วง Perfume และ AKB48 ที่เป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
สมาพันธ์แผ่นเสียงญี่ปุ่นออกมาเปิดเผยว่าผลงานเพลง 'Mister' ของ KARA ที่เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเธอสามารถคว้าตำแหน่งโกลด์ในชาร์ตเพลงเสียงเรียกเข้าเดือนกันยายนได้ เป็นผลสำเร็จ และในตอนนี้ เพลง 'Mister' ก็ได้คว้าตำแหน่งแผ่นเสียงทองคำขาวเป็นที่เรียบร้อย จากยอดดาวน์โหลดเพลงมากถึง 250,000 ดาวน์โหลดเลยทีเดียว ส่วนยอดจำหน่ายซีดีซิงเกิล ก็ยังมีมากถึง 120,000 ชุดเลยทีเดียว
8 พฤศจิกายน 2553 ช่วงเช้า คารา (KARA) เปิดตัวทีเซอร์ผลงานเพลงใหม่ที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่เติบโตมากยิ่งขึ้น พวกเธอทำให้แฟน ๆ สามารถสัมผัสได้ถึงเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละคนผ่านเสื้อผ้าและท่าเต้นอันทรงพลัง โดยเฉพาะกับการที่ คารา เตรียมกลับมาพบกับแฟน ๆ เกาหลีอีกครั้งในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่มินิอัลบั้มชุดที่ 3 'LUPIN' ก็ทำให้แฟน ๆ ต่างเฝ้ารอกันเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้พวกเธอได้เปิดตัวภาพแจ็คเก็ตอัลบั้มใหม่เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสุดวิเศษอีกครั้งของคาราทำให้แฟน ๆ ต่างจับตามองกันอย่างไม่กะพริบเลยทีเดียว
สำหรับมินิอัลบั้มชุดที่ 4 คารา มาพร้อมกับเพลงไตเติ้ล 'JUMPING' ซึ่งจะทำออกมาทั้งเวอร์ชันเกาหลีและญี่ปุ่นพร้อมกับแนวเพลงป๊อปแดนซ์ทรงพลัง เป็นฝีมือการร่วมประพันธ์ของฮันแจโฮและคิมซึงซูร่วมกับทีมงาน DSP และ Sweetune ที่ได้ทุ่มเททำงานเพลงในสไตล์ยุโรปป๊อปในยุค 80 ผสมผสานกับซาวน์สมัยใหม่ที่ถ่ายทอดผ่านสไตล์แบบเฉพาะตัวของคารานั่นเอง
คารา เตรียมวางจำหน่ายซิงเกิลชุดที่ 2 'JUMPING' ในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ หลังจากนั้นภายในกลางเดือนพฤศจิกายน พวกเธอก็จะวางจำหน่ายมินิอัลบั้มชุดที่ 4 ในประเทศเกาหลีด้วยเช่นเดียวกัน
คารา (KARA) วางจำหน่ายมินิอัลบั้ม 'Jumping' ในเกาหลีขึ้นแท่นอันดับที่ 1 ชาร์ตปัจจุบันทันด่วน
16 พฤศจิกายน เว็บไซต์ฐานข้อมูลยอดจำหน่ายแผ่นซีดี Hanteo เปิดเผยว่ามินิอัลบั้มใหม่ของคารา (KARA) สามารถคว้าอันดับที่ 1 ในตารางได้เป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้เธอยังสามารถคว้าอันดับที่ 2 ในชาร์ตเพลงประจำสัปดาห์ได้อีกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับการที่ผลงานอัลบั้มชุดใหม่ของ คารา สามารถคว้าอันดับที่ 1 ในชาร์ตปัจจุบันทันด่วนของเว็บไซต์ฟังเพลงออนไลน์ได้อย่างถ้วนหน้าก็นับเป็นการคัมแบ็คในเกาหลีที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนั่นเอง โดยพวกเธอ ขึ้นแสดงครั้งแรกที่ รายการ MBC's Show! Music Core โดยที่สามารถคว้ารางวัลในรายการ KBS's Music Bank และรางวัล Mutizen ของ SBS's Inkigayo ในการออกอากาศครั้งที่ 600 ด้วย
อนึ่ง คารา สามารถคว้าอันดับที่ 2 ในชาร์ตออริกอนประจำวันประเทศญี่ปุ่น และเป็นอันดับ 5 ในออริกอนชาร์ตประจำสัปดาห์ โดยมียอดขายถึง 54,977 แผ่น กลายเป็นอีกหนึ่งฮันรยูสตาร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ในช่วงเดือนกันยายน พวกเธอได้วางอัลบั้ม 'Kara Best 2007-2010' ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงฮิตเกาหลีของพวกเธอ โดยมียอดขายถึง 18,223 แผ่น และเป็นอันดับ 2 ในออริกอนอัลบั้มชาร์ตด้วย และในเดือนพฤศจิกายน RIAJ ได้รองรับว่าอัลบั้ม 'Kara Best 2007-2010' ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทอง (ขายเกิน 100,000 แผ่น) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีศิลปินเกาหลี สามารถขายผลงานเพลงเกาหลีในประเทศญี่ปุ่นได้เกิน 1 แสนแผ่น
คารา (KARA) กับผลงานอัลบั้มชุดแรก 'Girl's Talk' ในญี่ปุ่น สามารถจำหน่ายได้มากกว่า 2 แสนชุดหลังวางจำหน่ายเพียง 1 เดือน
28 ธันวาคม ออริกอนชาร์ตเปิดเผยว่า ในสัปดาห์ล่าสุดคาราสามารถจำหน่ายอัลบั้ม 'Girl's Talk' ได้ไปอีก 21,933 ชุดคว้าอันดับที่ 8 ในตาราง โดยนับตั้งแต่เธอวางจำหน่ายอัลบั้ม 'Girl's Talk' เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พวกเธอก็สามารถทำยอดจำหน่ายสัปดาห์แรกได้มากกว่า 1 แสนชุด คว้าอันดับที่ 2 ในตารางประจำสัปดาห์ ล่าสุดเมื่อรวมยอดจำหน่ายตลอด 1 เดือน คารา สามารถทำยอดในอัลบั้ม 'Girl's Talk' ได้มากกว่า 206,845 ชุดไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้ทำให้ คารา ซึ่งเป็นหนึ่งในคลื่นเกาหลี K-POP น้องใหม่ สามารถคว้าตำแหน่งศิลปินกลุ่มแรกในปีนี้ที่ทำยอดขายอัลบั้มเกิน 2 แสนชุด ในตลาดเพลงญี่ปุ่นไปได้ด้วยเช่นกัน
หลังจากที่คาราเคยคว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวในเพลง 'Mister' กับหมวดเสียงเรียกเข้า (ยอดดาวน์โหลดเกิน 250,000 ครั้ง) จากสมาคมแผ่นเสียงญี่ปุ่นไปได้แล้ว ล่าสุดจากยอดจำหน่ายอัลบั้มแผ่นซีดี 'Girl's Talk' ที่สามารถทำยอดเกิน 2 แสนแผ่นภายในหนึ่งเดือน ส่งผลให้หลายฝ่ายคาดกันว่าพวกเธอน่าสามารถเข้ารับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (ยอดจำหน่ายเกิน 250,000 แผ่น) ได้ภายในเดือนมกราคม 2554 ด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกับข้อมูลสถิติของสมาคมแผ่นเสียงญี่ปุ่นซึ่งจะมีข้อมูลยอดจำหน่ายที่ไม่ถูกรวมอยู่ในออริกอนด้วย ก็ทำให้พวกเธอน่าจะทำยอดได้เกิน 2.5 แสนแผ่นภายในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคมเป็นอย่างเร็ว หรือสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคมเป็นอย่างช้านั่นเอง
14 มกราคม 2554 สมาคมแผ่นเสียงญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลงานอัลบั้มชุดแรกของคาราในชื่อ 'Girl's Talk' ที่วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 สามารถคว้าแผ่นเสียงทองคำขาวได้เป็นผลสำเร็จ โดยแผ่นเสียงทองคำขาวจะมอบให้กับศิลปินที่มียอดจำหน่ายอัลบั้มเกิน 250,000 แผ่นขึ้นไป
ผลงานอัลบั้ม 'Girl's Talk' สามารถทำยอดจำหน่ายเกิน 1 แสนแผ่นได้เพียง 1 สัปดาห์หลังวางจำหน่าย พวกเธอนับเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปต่างประเทศกลุ่มแรกในรอบ 7 ปีที่สามารถทำยอดจำหน่ายเกิน 1 แสนได้ในสัปดาห์แรก และถึงจะผ่านไป 7 สัปดาห์หลังวางจำหน่าย พวกเธอก็ยังสามารถติด TOP10 ในออริกอนชาร์ตได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับการคว้าแผ่นเสียงทองคำขาวในครั้งส่งผลให้ คารา เป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีกลุ่มแรกที่สามารถส่งงานเพลงทั้งแบบแผ่นซีดีและแบบดิจิตอลคว้าแผ่นเสียงทองคำขาวได้อย่างถ้วนหน้า ก่อนหน้านี้พวกเธอสามารถส่งเพลง 'Mister' คว้าแผ่นเสียงทองคำขาวในหมวดของเพลงดิจิตอล (ดาวน์โหลด 2.5 แสนครั้ง) มาได้แล้วเช่นกัน
โดยปลายปี Recochoku ได้ประกาศว่า คารา คือ the Best Rookie Artist ในสาขาดาวน์โหลด และโอริกอน ก็ได้ประกาศว่าวง คารา คือ Best Rookie Artis ในปี 2010 โดยมีรายได้รวม 1,300 ล้านเยน และยอดจำหน่ายซิงเกิล/อัลบั้มรวมจำนวนถึง 493,000 แผ่น
2011
[แก้]ต้นปี 2011 25th annual Japan Gold Disc Award ของ RIAJ ได้ประกาศว่า KARA ได้รับรางวัล The Best 3 New Artists (International) และรางวัล New Artist of the Year
เมื่อช่วงเช้า 19 มกราคม มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า 4 สมาชิกแห่งคาร่า (KARA) ประกอบไปด้วย จองนิโคล ฮันซึงย็อน คังจีย็อง คูฮารา ได้ยื่นเรื่องขอยกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัด DSP Media อย่างไรก็ตามข่าวล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายปรากฏว่า คูฮารา เปลี่ยนใจและต้องการที่จะยังคงอยู่กับต้นสังกัดเดิม
DSP Media เปิดประเด็นสำคัญในข้อแถลงการณ์ กล่าวว่า "ดูเหมือนว่าจะมีความสงสัยที่เกิดขึ้นจากบางคนเกี่ยวกับประเด็นที่ขณะนี้กำลังมีบริษัทบางแห่งกำลังพยายามโน้มน้าวครอบครัวของคาร่าและตัวแทนเนื่องจากเห็นความนิยมในตัวของพวกเธอเพื่อให้คาร่ายกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัดนั้น เราขอเตือนว่าถ้านี่เป็นเรื่องจริง เราจะต้องขอให้เขาผู้นั้นหยุดการกระทำเหล่านี้ในทันที ถ้าสถานการณ์เช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปเราจะดำเนินการทางกฎหมายจนถึงที่สุด" เขากล่าวอย่างแข็งกร้าว
สมาชิก 3 คนของวง Kara ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องความต้องการของพวกเธอนั้นคือ การปรับเปลี่ยนเรื่องสัญญากับทาง DSP Media ใน 2 เรื่องใหญ่ คือ เรื่องของระยะเวลาสัญญา และการปรับเปลี่ยนบอร์ดผู้บริหาร สมาชิกทั้ง 3 คนที่ยังมีสัญญาอยู่อีกประมาณ 3 – 4ปี แต่พวกเธอขอให้สัญญาหมดลงเดือนกรกฎาคม ปี 2012 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการหมดสัญญากับทาง Universal Japan และพวกเธอขอให้ทีมงานเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ รวมไปถึงเรื่องของระบบการเงินนอกจากนั้นแล้วพวกเธอขอให้ภรรยาของ CEO ลีโฮย็อน (Lee Ho Yeon) ออกจากตำแหน่ง โดยที่เธอเข้ามาดูแลแทนสามีของเธอที่อยู่ในอาการโคม่า ซึ่งพวกเธออยากได้ระบบการทำงานใหม่ที่มีตัวแทนในเรื่องของกฎหมายมาร่วมงานรวมไปถึงเริ่องของบัญชีและเรื่องของสัญญา
โดยภายหลังทาง DSP Media จะยอมตกลงด้วยในบางส่วนในคำขอของพวกเธอทั้ง 3 คน ตัวแทนกล่าวว่า “ในการที่มาขอลดระยะเวลาของสัญญาของพวกเธอและขอเปลี่ยนผู้บริหารนี้ค่อนข้างจะมากเกิ นไปหรือไม่? แต่สำหรับเรื่องของทีมบริหารและการใช้ระบบบัญชีและเรื่องระบบของสัญญา ถ้าสมาชิกตั้งใจจะกลับมาจริง ๆ ก็พอที่จะตกลงพูดคุยกันได้ เพราะฉะนั้นเรื่องคำขอของพวกเธอนั้นเป็นที่ยอมรับได้ในบางเรื่องเท่านั้น”
เมื่อวันที่ 27 มกราคมพวกเธอประสบความสำเร็จในการเจรจาข้อตกลงเพื่อดำเนินกิจกรรมที่มีทั้งหมดตามตารางงานที่กำหนดไว้จนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 7.50น. ตามเวลาที่เกาหลี ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ขณะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น พวกเธอได้กล่าวไว้ที่สนามบินว่า "ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนพวกเราคาราตลอดมา พวกเราทำให้แฟน ๆ ต้องเป็นกังวลและสับสน แต่จากนี้ไป พวกเราคาราทั้ง5คนจะทำงานอย่างหนัก ขอบคุณสำหรับความรักที่มีมากมายให้กับพวกเรา ช่วยสนับสนุนเราต่อไป"
อย่างไรก็ตาม พวกเธอก็ได้ตัดสินใจฟ้องศาลให้สั่งให้สัญญาของพวกเธอเป็นโมฆะในที่สุด โดยในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตัวแทนของสามสมาชิกได้ยื่นฟ้อง DSP Media ต่อศาลเป็นที่เรียบร้อย โดยยื่นฟ้องในข้อหาสัญญาของทั้งสามสมาชิกเป็นโมฆะ รวมทั้งการแบ่งเงินรายได้ที่ไม่สมเหตุผลสมผลอีกด้วย
สามสมาชิกวง KARA กล่าวผ่านตัวแทนว่า 'บริษัทหักค่าธรรมเนียมจากรายได้ที่ได้มาจากการโปรโมทโดยไม่ปรึกษาหารือกับ สมาชิกก่อนแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นการยักยอกทรัพย์ จากเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน ปี 2010 เราทำรายได้รวม 410,000 ดอลลาร์สหรัฐ และปรากฏว่ามีค่าใช้จ่าย 390,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน้อยเกินผิดปกติ' และกล่าวต่อว่า 'ถึงแม้เพลง Lupin จะได้รับความนิยมสูงสุด แต่ DSP Media ก็จ่ายให้สมาชิกเพียงคนละ 860000 ดอลลาร์สหรัฐจากระยะเวลาหกเดือน 140 เหรียญที่เราได้รับต่อเดือนนั้นไม่ยุติธรรมหากเทียบกับรายได้ที่เราหามา'
Landmark เคยส่งข้อความเตือนไปยัง DSP Media ก่อนหน้านี้ว่าให้ทำการยุติสัญญาของสามสมาชิกในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา แม้พวกเธอจะยังคงทำกิจกรรมอยู่ก็ตาม ทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถหาข้อยุติหรือไกล่เกลี่ยได้ตลอด 25 วันที่ผ่านมาการ ฟ้องร้องในครั้งนี้ส่งผลให้แฟน ๆ และบุคคลในวงการบันเทิงต่างตื่นตัวและหลาย ๆ คนสงสัยว่าการมารวมตัวกันอีกครั้งของห้าสาวจะสามารถเป็นไปได้หรือไม่
ตัวแทนจาก DSP Media กล่าวผ่าน Sports Today ว่า 'เราตกใจเป็นอย่างมาก เราพบกันหลายครั้ง แต่เป็นเรื่องจริงที่เรายังคงมีเรื่องบาดหมางกันในเรื่องเดิม แต่เพราะการถ่ายทำละครเรื่อง URAKARA ที่ญี่ปุ่น เราได้ตกลงกับครอบครัวของสมาชิกสำหรับการกลับมาในครั้งนี้แล้ว และตอนนี้เราพบว่าพวกเขาฟ้องร้องเรา เรารู้สึกตกใจมาก ก่อนอื่นเราต้องทำการประชุมภายในบริษัทก่อนจะปล่อยคำแถลงการณ์ใด ๆ ' และยังกล่าวกับ Star News ว่า 'ตัวแทนของพวกเขาบอกว่าสมาชิกได้รับเงินเพียง 860 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนภายในระยะเวลาหกเดือนสำหรับการโปรโมทเพลง Lupin แต่มันช่างเป็นเรื่องเหลวไหล เราหักค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปในการโปรโมท แต่เราไม่ได้หักเงินที่ได้จากการโปรโมทอื่น ๆ อย่างเช่นโฆษณา มันไม่ใช่อย่างที่พวกเธอกล่าว เราจ่ายให้พวกเธอเป็นเงินก้อนโตกว่านั้น แต่พวกเธอก็ยังกล่าวหาว่าเรายักยอกทรัพย์'
5 สาว KARA ที่กำลังไปได้ดีทั้งในประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิด และกับการบุกตลอดญี่ปุ่น กลับต้องมาพบกับปัญหาความขัดแย้งเมื่อสมาชิก 4 คนของวงได้แก่ ซึงย็อน , นิโคล, ฮารา และ จีย็อง ได้ตัดสินใจยื่นเอกสารเพื่อขอยกเลิกสัญญากับ DSP Media จนกระทั่งต่อมา กูฮารา (Goo Hara) ได้ตัดสินใจขอยกเลิกคำร้องดังกล่าว และขออยู่กับต้นสังกัดต่อไป
ถึงแม้ขณะนี้จะเกิดเรื่องสับสนอลหม่านเกี่ยวกับสัญญากับทาง DSP ก็ตาม สาว ๆ วงคารา (KARA) กำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเร็ว ๆ นี้อัลบั้มญี่ปุ่นชุดแรก "Girl’s Talk" ได้รับใบรับรอง Platinum จาก RIAJ เนื่องจากการที่มียอดขายเกิน 300,000 แผ่น นอกจากนี้ทาง RIAJ ยังได้ให้ใบรับรองซิงเกิล "Mister" ระดับ Double Platinum (มียอดขายเกิน 500,000) ในหมวดของริงโทน ในตอนนี้สาว ๆ กำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ด้วยยอดขาย DVD ของพวกเธอ
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาราได้ปล่อย DVD “KARA BEST CLIPS” และโอริก้อนได้อัปเดตอันดับ DVD ประจำสัปดาห์ แสดงให้เห็นว่าคาราอยู่อันดับ 1 ที่ยอดขาย 132,132 แผ่น นอกจากนี้อัลบั้ม 'Girl's Talk' ยังคงอยู่ในชาร์ทโอริก้อนอัลบั้มประจำสัปดาห์ที่อันดับที่ 9
แต่ในที่สุด เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา มีการยืนยันจากคนวงในผ่าน SPN ว่าปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างสามสาวสมาชิกวง KARA ซึ่งได้แก่ นิโคล, ซึงย็อน และ จีย็อง กับต้นสังกัด DSP Media ได้ข้อยุติแล้ว เมื่อทั้งสองฝ่ายสามารถหาจุดประนีประนอมร่วมกันได้ในที่สุด โดย แทจินอา ทนายความของทางฝั่งสามสาวได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เพิ่งมีการลงนามเพื่อตกลงประนีประนอมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ทุกคนสามารถร่วมยินดีกับความสำเร็จครั้งนี้ได้แล้ว ผมอยากจะขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด”
ขณะที่ฝ่ายตัวแทนของ DSP Media ก็ยืนยันว่า “ปัญหาระหว่าง DSP Media และสมาชิก 3 คนของ KARA ได้ถูกคลี่คลายไปหมดแล้ว เราสามารถบรรลุข้อตกลงในการประนีประนอม เพื่อให้สมาชิกทั้ง 5 ของ KARA สามารถออกผลงานร่วมกันต่อไปได้ เราปรึกษาหารือกันในเรื่องอนาคตของ KARA และได้ข้อตกลงโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ จากฝ่ายสมาชิกสามคน”นอกจากนั้นทั้ง KARA และ DSP Media ยังออกแถลงการณ์ร่วมกันเพื่อยืนยันการยุติของปัญหา และยังขอโทษแฟน ๆ กับเรื่องยุ่งยากทั้งหมดด้วย
“ทั้ง DSP Media และ KARA สามารถยืนต่อหน้าแฟน ๆ ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ และความเป็นหุ้นส่วนกันที่แน่นแฟ้นกว่าเดิม แต่ถึงแม้ว่าทุกอย่างสามารถคลี่คลายไปได้แล้ว DSP Media ก็ยังอยากจะขอโทษที่ทำให้แฟน ๆ ของ KARA ต้องเป็นห่วง เราขอยอมรับว่าจะติดหนี้พวกคุณไปตลอดกาล KARA จะกลับมาอีกครั้ง เมื่อพวกเธอรู้สึกว่าสามารถตอบแทนเยียวยาบาดแผลครั้งนี้ของแฟน ๆ ได้แล้วเท่านั้น เราจะทำงานให้หนักที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าแฟน ๆ จะสามารถมองเห็นว่า พวกเราได้เปลี่ยนเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้ให้กลายเป็นเรื่องบวกได้ เราอยากจะขอขอบคุณสื่อและองค์กรต่าง ๆ ที่สนับสนุนเราด้วยเช่นเดียวกัน”
KARA ที่ถือว่ากำลังรุ่งสุดขีด ต้องเผชิญหน้ากับความสุ่มเสี่ยง ว่าจะเดินไปสู่เส้นทางแห่งการแยกตัว แบบเดียวกับวงบอยแบนด์สุดดังอย่าง ทงบังชินกี เมื่อสมาชิก 4 คนในวง ตัดสินใจยื่นฟ้องขอยกเลิกสัญญากับ DSP Media (ต่อมา คูฮารา ขอถอนตัว) โดยมีสาเหตุจากเรื่องการทำงาน และการแบ่งรายได้ แต่สุดท้ายปัญหาทั้งหมดก็สามารถคลี่คลายลงได้ หลังจากมีการพูดคุยปรึกษาหารือ ระหว่างฝ่ายตัวแทนทางกฎหมายและผู้ปกครองของสมาชิก 3 คนกับ DSP Media ในช่วงเกือบ 100 วันที่ผ่านมา
หังจากที่ปัญหาได้จบไป KARA ก็ได้สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง ด้วยการขายอัลบั้มรวมทั้งหมดได้เกิน 1 ล้านแผ่น หลังจากพวกเธอได้เข้ามาสู่อุตสาหกรรมเพลงของญี่ปุ่นเพียงแค่ 8 เดือนเท่านั้นจากการเปิดเผยข้อมูลโดย Universal Music Japan ในวันที่ 31 มีนาคม อัลบั้มของ KARA ทั้ง 5 อัลบั้ม ซึ่งมี Mister, Jumping, Girl's Talk, KARA Best Clips และ KARA Best 2007-2010 ขายได้รวมทั้งหมด 1,080,000 แผ่น
Girl's Talk ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ขายได้เกิน 430,000 แผ่นในทุกวันนี้ และติดอันดับต้น ๆ ของโอริคอนชาร์ตถึง 9 สัปดาห์อย่างต่อเนื่องหลังจากที่วางจำหน่าย ส่วนในรูปแบบ DVD มี KARA Best Clip (วางจำหน่ายเมื่อกุมภาพันธ์) และ KARA Best 2007-2010 (วางจำหน่ายเมื่อกันยายนปีที่แล้ว) ขายได้เกินอย่างละ 200,000 แผ่น โดยที่ KARA Best Clip ขึ้นอันดับต้น ๆ ของชาร์ตประจำสัปดาห์ (อันดับ 1 ถึง 3 สัปดาห์) เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ในส่วนของ Single ของสาว ๆ มี Mister กับ Jumping ขายได้ 130,000 และ 110,000 แผ่นตามลำดับ
อิม จิน โม นักวิจารณ์เพลงป๊อบ ได้ให้ความเห็นว่า "หลังจาก BoA และ TVXQ แล้ว วง KARA คือศิลปินกลุ่มแรกที่ขายเกิน 1,000,000 แผ่น ทั้งที่ยังเป็นวงหน้าใหม่ที่พึ่งเดบิวท์ได้เพียง 8 เดือนในญี่ปุ่นเท่านั้น" ซึ่งเป็นที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก "ผมคิดว่าพวกเธอได้สร้างจุดยืนของพวกเธอในฐานะไอดอลของเกาหลีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในญี่ปุ่นได้เรียบร้อยแล้ว"
คาร่า (KARA) เปิดตัวเพลงไตเติ้ล 'JET COASTER LOVE' เวอร์ชันเต็มเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนเตรียมปล่อยซิงเกิลอัลบั้มชุดที่ 3 'JET COASTER LOVE' ในวันที่ 6 เมษายนนี้ ทันทีที่เปิดตัวเพลง 'JET COASTER LOVE' เพลงของพวกเธอก็สามารถคว้าอันดับที่ 1 ในชาร์ตเพลง 'recochoku' รวมถึงอันดับที่ 1 ในชาร์ตซิงเกิลและมิวสิกวีดีโอ iTunes ประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ตั้งแต่ที่พวกเธอได้เริ่มเดบิวท์ที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จนถึงซิงเกิล “Jet Coaster Love” ซิงเกิลล่าสุดของพวกเธอ ยิ่งเป็นตัวตอกย้ำความสำเร็จของพวกเธอได้เป็นอย่างดี ด้วยยอดขาย 123,000 ชุดในอาทิตย์แรก ด้วยยอดขายที่สูงขนาดนี้ จึงทำให้พวกเธอถูกดันขึ้นไปอยู่ในอันดับที่1 ในชาร์ตของโอริกอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียวนี่ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่นักร้องเกิร์ลกรุ๊ปจากต่างประเทศได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 1ในสัปดาห์แรก ตั้งแต่มีการเริ่มก่อตั้งชาร์ตโอริกอนในปี 1968 หรือเมื่อ 43 ปีที่แล้ว
“Jet Coaster Love” ถูกขายได้เป็นสองเท่าจากซิงเกิลก่อนอย่าง “Jumping” ซึ่งถูกปล่อยออกมาในระหว่างช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวงเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยยอดขายกว่า 55,000 ชุดในสัปดาห์แรก คาร่าถูกเลือกให้เป็นวงหน้าใหม่อันดับหนึ่งประจำปีนี้กับ “Jet Coaster Love” ที่สร้างปรากฏการณ์ขึ้นอันดับหนึ่งพร้อมกันทั้งชาร์ตซิงเกิลประจำสัปดาห์และการจัดอันดับอัลบั้ม ขณะที่ซิงเกิลแรกของพวกเธอย่าง “Mister” และซิงเกิลที่สองอย่าง “Jumping” ทั้งคู่อยู่ในอับดับที่ 5 ขณะที่อัลบั้ม “KARA BEST 2007-2010” และ “Girl’s Talk” อยู่ในอันดับที่ 2
ถ้าจะมองย้อนกลับไป นักร้องหญิงต่างชาติคนสุดท้ายที่ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในชาร์ตซิงเกิลประจำสัปดาห์ได้แก่ BoA จากซิงเกิล “DO THE MOTION” เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และเมื่อนับย้อนไปครั้งแรกสุดที่นักร้องเกิร์ลกรุ๊ปจากต่างประเทศขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งนั้น ก็เกิดในช่วงปี 1980 คือวง The Nolan กับผลงานซิงเกิล “Dancing Sister” ซึ่งผ่านมานานกว่า 30 ปีเลยทีเดียว
และพวกเธอยังได้ฝากความเห็นไว้ว่า “ขอบคุณทุก ๆ คนมากนะคะ ที่ทำให้ “Jet Coaster Love” ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง พวกเราในฐานะวงคาราจะทำต่อไปให้ดีที่สุดเพื่อทุกคนที่คอยให้กำลังใจเรานะคะ และพวกเราหวังว่าพวกเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในเร็ว ๆ นี้ค่ะ”
“Jet Coaster Love” เป็นผลงานซิงเกิลชุดแรกประจำปี 2011 ของวงคารา ซึ่งตามปกติแล้วผลงานของพวกเธอจะต้องถูกปล่อยออกมาในวันที่ 23 มีนาคม แต่ถูกเลื่อนออกไปอันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน พวกเธอจึงตัดสินใจบริจาครายได้ทั้งหมดจากการขายซิงเกิล (ทั้งในแบบซีดีและดิจิตอล) ให้กับผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวในครั้งนี้
หลังจากผ่าน 'สถานการณ์คารา' สมาชิกทั้ง 5 คนก็ได้มารวมตัวในรายการทอล์คโชว์พร้อมกันเป็นครั้งแรก วันที่ 17 พฤษภาคม ในรายการ SBS 'Strong Heart' คารา (KARA) (พัคคยูริ ฮันซึงย็อน คูฮารา นิโคล คังจีย็อง) ได้เข้าร่วมรายการพร้อมกันอย่างครบถ้วน ในวันนี้พวกเธอได้มาพูดถึงเรื่องราวในช่วงเวลาที่ผ่านมาในประเด็นเรื่องการ ปกป้องคาราท่ามกลางอารมณ์และความรู้สึก
คูฮารา กล่าวว่า "จริง ๆ พวกเราค่อนข้างจะลังเลพอสมควรว่าควรจะพูดหรือไม่พูดเรื่องนี้ดีค่ะ หลายคนรู้เรื่องเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกันมาก แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเราได้กลับมารวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวแล้ว การที่พวกเราตัดสินใจออกมาในวันนี้ก็เพื่อบอกกับแฟน ๆ ว่าพวกเรานั้นโอเคพวก เราสบายดีค่ะ" เธอกล่าวถึงเบื้องหลังการมาปรากฏตัวในรายการ
เธอกล่าว "ในระหว่างที่เราเดินทางระหว่างเกาหลีญี่ปุ่นมันทำให้กิจกรรมในเกาหลีของเรา ต้องลดลงไปมากค่ะ จากการที่ยุ่งมาก ๆ ทำให้เวลาพูดคุยของเราน้อยลงด้วยค่ะ งานยุ่งมาก แล้วเรื่องการปรับตัวมันก็ทำให้เราเหนื่อยกันมาก ๆ และในช่วงเวลาเหล่านี้ที่ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ มันเลยทำให้พวกเรามีความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย จนทำให้เรื่องราวมันใหญ่มาถึงขนาดนี้เลยค่ะ" เธอเผย
แต่ช่วงเวลาที่ทำให้พวกเธอรู้สึกว่าคาราทั้ง 5 คนคือหนึ่งเดียวกันนั้น คือช่วงหลังเกิดเหตุการณ์และพวกเธอได้ขึ้นโชว์บนเวทีเป็นครั้งสุดท้ายนั่น เอง คูฮารากล่าว "ตอนที่พวกเราร้องเพลงบัลลาดพร้อมกัน 5 คนเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งเนื้อเพลงและทำนองมันเศร้ามาก ๆ และนั่นทำให้พวกเราร้องไห้กันในระหว่างร้องเพลงไปด้วย" เสริม "ตอนนั้นฉันก็ได้คิดถึงช่วงเวลาที่พวกเราเคยอยู่พร้อมหน้ากันบนเวที การที่ได้อยู่บนเวทีพร้อมกันอีกครั้งมันทำให้ฉันกังวล หลังจากเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้พวกเราเศร้าค่ะ ตอนที่ฉันร้องไห้ก็คิดว่าทั้ง 5 คนคิดเหมือนฉันหรือเปล่า ทุกคนอยากจะอยู่บนเวทีพร้อมกันทั้ง 5 คนหรือเปล่า ซึ่งพอฉันเห็นสมาชิกทุกคนร้องไห้เหมือนกัน ฉันรู้สึกได้เลยว่าตอนนั้นเรามีหัวใจดวงเดียวกันแล้วค่ะ ฉันรู้สึกได้แบบนั้นจริง ๆ " เธอกล่าว
คูฮารา เผยต่อ "ตอนที่เราอ่านข่าวมันมีเรื่องที่เขียนเว่อร์เยอะมากเลยค่ะ" ในขณะเดียวกัน "ถึงแม้ว่าจะมีข่าวออกมาแต่พวกเราก็ยังคงติดต่อกันเหมือนเดิมตามปกติ แต่ว่าเพราะบทความที่รุนแรงมาก ๆ ข่าวที่นั่งเทียนแบบนั้นมันเลยทำให้พวกเราอาจรู้สึกไม่ค่อยสนิทใจกันนิด ๆ ค่ะ คือไม่ใช่ความสัมพันธ์ไม่ดีนะคะ มันดีมาก แต่เพราะบทความพวกนั้นก็เลยรู้สึกนิด ๆ ค่ะ" เธอเผยความรู้สึกเศร้า
ทางด้าน ฮันซึงย็อนกล่าว "การรวมตัวของผู้หญิง 5 คนที่ต้องมีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ความจริงแล้วเรื่องที่พวกเราต้องทะเลาะกันบ้างมันก็เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ แต่ว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนี้มันทำให้พวกเราสัมผัสได้ถึงความสำคัญของพวกเรา ทั้ง 5 คนค่ะ ในตอนที่เราร้องเพลงบัลลาดบนเวทีสุดท้าย เมื่อเราได้เห็นแฟน ๆ มันทำให้รู้สึกถึงแม้ว่าพวกเราจะสร้างความวุ่นวายแต่เราก็ยังมีแฟน ๆ ที่รัก พวกเราอยู่ ในวันนั้นมันทำให้ฉันร้องหนักมาก ฉันเหมือนกับฮาราเลยค่ะ คือบอกว่าพวกเราต้องโอเค ต้องหาวิธีให้ได้อะไรแบบนี้ พวกเราคุยกันแต่เรื่องพวกนี้ สมาชิกทุกคนในวงก็เหนื่อยล้ากันมากแต่ก็คุยกันทุกวัน แล้วตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเราในวงก็ดีมากกว่าตอนไหน ๆ เลยค่ะ พวกเราผลัดเลี้ยงลูกหมาและทุกอย่างมันยอดเยี่ยมมากค่ะ" เธอกล่าว
ฮันซึงย็อนกล่าว "พวกเรารู้สึกขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงและต้องเจ็บปวดค่ะ ในวันข้างหน้าพวกเราอยากให้ทุกคนเห็นแต่ภาพลักษณ์ที่ดี ๆ ของพวกเราค่ะ" เธอกล่าว
น้องเล็ก คังจีย็อง กล่าว "ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากสำหรับวัยอย่างฉันค่ะ แต่ว่าพี่ ๆ ทุกคนก็ช่วยกันปลอบฉันอย่างมากเลยค่ะ พี่คยูริเป็นเหมือนกระดาษคำตอบที่คอยทำให้ฉันมั่นคงค่ะ พี่ซึงย็อนก็ช่วยให้พลังกับฉัน คูฮาราและพี่นิโคลก็มอบคำพูดดี ๆ ให้กับฉันค่ะ" เธอกล่าว
นิโคล กล่าว "ปีนี้พวกเราเดบิวเป็นปีที่ 4 แล้วค่ะ ทุกครั้งที่ผ่านปีใหม่พวกเราก็จะคิดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ปีที่ 4 นี้พวกเราสัมผัสได้ถึงความรักของแฟน ๆ ที่มีให้พวกเราอยู่ตลอด พวกเราอยากให้ทุกคนรักเราต่อไปนะคะ" เธอกล่าว
ปิดท้ายด้วย พัคคยูริ กล่าวว่า "แน่นอนค่ะว่าพวกเราจะต้องตอบแทนทุกคนด้วยภาพลักษณ์ที่ดี ๆ ฉันดีใจมากที่พวกเราทั้ง 5 คนได้กลับมารวมตัวกันอีก ในวันข้างหน้าพวกเราจะพยายามต่อไปเพื่อเป็นคาราที่ดีที่สุดค่ะ" เธอกล่าว
ในวันนี้สมาชิกทั้ง 5 คนได้เผยให้เห็นน้ำตาด้วยเช่นกัน แต่หลังจากที่พวกเธอปรากฏตัวมาพร้อมกับโชว์เพลงเมดเลย์อีกครั้งหลังห่างหาย ไปนาน ก็ทำให้พวกวันนี้พวกเธอได้เปล่งประกายในมาดของ 5 สาว KARA มากกว่าครั้งใด ๆ เลยทีเดียว
ต่อมา เตรียมเปิดตัวซิงเกิลญี่ปุ่นเพลงใหม่ครั้งแรกหลังจากผ่านพ้นวิกฤติความขัดแย้งกับต้นสังกัด โดยเตรียมจะวางจำหน่ายซิงเกิลญี่ปุ่นชุดที่ 4 ‘Go Go Summer’ ในวันที่ 29 มิถุนายน และจะเริ่มกลับมาทำกิจกรรมที่ญี่ปุ่นต่ออีกครั้ง ซึ่งซิงเกิลนี้ก็จะเป็นเพลงใหม่เพลงแรกหลังจากวางจำหน่ายซิงเกิลเพลง ‘Jet Coaster Love’ เมื่อเดือนเมษายน และขึ้นครองอันดับ 1 โอริกอนชาร์ต ซึ่งพวกเธอก็จะเริ่มทำกิจกรรมกันเป็นครั้งแรกหลังจากเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งกับต้นสังกัดลงตัวแล้ว
โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา สมาชิกวง KARA ส่วนหนึ่งเกิดปัญหาความขัดแย้งเรื่องความคิดเห็นต่างกับต้นสังกัดขึ้น แต่ภายใน 100 วัน ก็สามารถคลี่คลายปัญหาและกลับมาปรองดองกันในช่วงปลายเดือนเมษายนสำหรับซิงเกิลใหม่ ‘Go Go Summer’ ของ KARA เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานสไตล์เพลงในฤดูร้อน ซึ่งเพลงนี้ก็จะถูกนำไปใช้เป็นเพลงหลักในโฆษณา LG Smartphone Optimus Bright อีกด้วย
หลังจากที่เปิดให้แฟน ๆ ได้สั่งจองอัลบั้ม 'GO GO SUMMER!' เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ผลงานของพวกเธอก็สามารถทะยานขึ้นอันดับที่ 1 ในชาร์ตสั่งจองออนไลน์ของทาวเวอร์เรคคอร์ดได้อย่างรวดเร็ว และออริกอนชาร์ตประจำสัปดาห์ เปิดเผยว่าซิงเกิล 'GO GO SUMMER!' สามารถคว้าอันดับที่ 2 ในตาราง ซึ่งเมื่อรวมกับซิงเกิล 'JET COASTER LOVE' ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา (สัปดาห์แรก 123,000 ชุด) จะทำให้พวกเธอส่งซิงเกิล 2 ชุดติดต่อกันที่สามารถทำยอดจำหน่ายได้เกิน 1 แสนชุดภายในสัปดาห์แรก นับเป็นศิลปินหญิงต่างประเทศกลุ่ม (รวมเดี่ยว) ในรอบ 44 ปี ที่สามารถสร้างสถิตินี้ได้
เมื่อนับรวมกับศิลปินชายต่างประเทศที่สามารถจำหน่ายได้เกิน 1 แสนชุดเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันจะทำให้พวกเธอกลายเป็นกลุ่มที่ 2 ถัดจาก ทงบังชินกี (TVXQ!) ด้วยเหตุนี้ทำให้นับตั้งแต่พวกเธอวางจำหน่ายเพลงในญี่ปุ่น (Mister, Jumping, Jet Coaster Love, Go Go Summer!) พวกเธอก็สามารถคว้า TOP5 ในออริกอนชาร์ตได้ทั้งหมด นับเป็นความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว
ในวันที่ 6 เดือนกันยายน KARA ได้เปิดตัวอัลบั้มชุดที่ 3 'STEP' พร้อมกับนั่งแท่นอันดับ 1 โดยหลังจากเปิดตัวเพลงและอัลบั้ม KARA ก็ขึ้นมาครองอันดับ 1 Real Time ชาร์ตเพลงหลักของเกาหลี อาทิ Melon, Mnet, Oellh Music, Bugs, Soribada, Naver ได้ทั้งหมด ส่วนอัลบั้มก็ขึ้นมาครองอันดับ 1 Hanteo Chart ทั้งชาร์ตยอดจำหน่ายประจำวัน และ Real Time ทั้งยังสามารถขึ้นเป็นอันดับ 2 ใน Billboard's Korea K-Pop Hot 100 ได้ด้วย
สำหรับ KARA ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเธอ All Kill ทั้งชาร์ตเพลงและชาร์ตอัลบั้มในวันเดียวกันกับวันวางจำหน่ายอัลบั้ม โดยหลังจาก All Kill ชาร์ต ได้แล้ว ก็ได้เผยภาพคอนเซปต์ในอัลบั้มปกติออกมาให้ชมกันในวันนี้ (6 กันยายน) ซึ่งก็สร้างความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาพแจ็คเก็ตอัลบั้มในชุดนี้ KARA มาพร้อมกับลุคที่ดูเติบโตและเซ็กซี่ สลัดภาพคอนเซปต์น่ารักที่เป็นต้นฉบับเดิมทิ้งไปเสียไม่เหลือคราบ และ KARA ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศทันทีจากการขึ้นโชว์เพลง 'STEP' เพียงครั้งแรก จากรายการ M! Countdown ในวันที่ 15 กันยายน 2011 และ Music Bank ในวันที่ 16 กันยายน 2011 และยังได้รับรางวัลต่อเนื่องกันเป็น 2 อาทิตย์ซ้อน อีกทั้งได้รับรางวัลชนะเลิศในรายการ Inkigayo ในวันที่ 25 กันยายน 2011 โดยสิ้นปีนั้น อัลบั้ม STEP ยังขายได้สูงสุดถึง 100,000 แผ่น ในประเทศเกาหลีด้วย อีกทั้งเพลง STEP ซึ่งเป็นเพลงภาษาเกาหลีแท้ ๆ แต่สามารถทะยานขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตดาวน์โหลดเพลง Recochoku ได้ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งไม่เคยมีในประวัติที่ว่าเพลงเกาหลีแท้ ๆ (ไม่ได้แปลงเนื้อเป็นภาษาญี่ปุ่น) สามารถขึ้นอยู่บนชาร์ตเพลงของญี่ปุ่นได้เลย
KARA ได้โปรโมตเพลง 'STEP' ที่เกาหลีเพียง 3 อาทิตย์ ก็ได้มาออกซิงเกิลที่ 5 ที่ญี่ปุ่น มีชื่อซิงเกิลว่า "Winter Magic" ในวันที่ 19 ตุลาคม โดยซิงเกิลนี้สามารถขายได้ถึง 79,000 แผ่น โดยเป็นอันดับที่ 3 ของโอริกอนซิงเกิลชาร์ตประจำสัปดาห์
หลังจากนั้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน KARA ได้ออกอัลบั้มเต็มที่ญี่ปุ่นชุดที่ 2 มีชื่อชุดว่า Super Girl ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยทำสถิติด้วยการขายเพียง 1 สัปดาห์ สามารถขายได้ถึง 275,206 โดยเป็นอันดับ 1 ของโอริกอนอัลบั้มชาร์ตประจำสัปดาห์ และโอริกอนได้เปิดเผยว่า “คารา เป็นศิลปินหญิงกลุ่มต่างประเทศที่สามารถคว้าอันดับที่ 1 ได้ทั้งชาร์ตอัลบั้มและซิงเกิ้ล ในรอบ 30 ปี 10 เดือน นับตั้งแต่วง 5 สาว The Nolans จากอังกฤษ” เสริม “ยอดจำหน่ายอัลบั้มชุดนี้ของคารา ยังเป็นยอดจำหน่ายสูงสุดของศิลปินต่างชาติเกิร์ลกรุ๊ปหญิงในสัปดาห์แรกด้วยเช่นกัน" ซึ่งอัลบั้ม Super Girl ยังสามารถคว้าอันดับ 1 ประจำสัปดาห์ถึง 2 ครั้งในรอบ 1 เดือน และอัลบั้มนี้ยังทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน โอริกอนชาร์ตประจำเดือนได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปของเกาหลีวงแรก(และ ณ ปัจจุบันถือเป็นเพียงวงเดียว)ที่สามารถมีผลงานเพลงเป็นอันดับ 1 ในยอดขายอัลบั้มชาร์ตประจำเดือนของโอริกอนชาร์ต และอัลบั้มยังเขียนสถิติใหม่ด้วยการเป็นอันดับ 1 ในยอดชาร์ตดาวน์โหลดของ iTune Store Japan ได้ด้วย ซึ่งอัลบั้มนี้เพียงสัปดาห์เดียวก็มียอดขายที่สามารถคว้ารางวัลแพลตินัม(แผ่นทองคำขาว)ของ RIAJ และในตอนปลายปีอัลบั้มนี้สามารถขายได้ถึง 750,000 แผ่น โดยที่ RIAJ รับรองว่า อัลบั้ม Super Girl คว้ารางวัลทริปเปิลแพลตินัมแล้ว และยังสามารถเป็นอันดับ 7 ในยอดขายอัลบั้มประจำปีของโอริกอนชาร์ตได้ด้วย
โดยช่วงปลายปี KARA ได้รับเชิญให้ไปงาน 62nd Kōhaku Uta Gassen (งานขาวแดง) โดยพวกเธอได้ไปแสดงโชว์ที่งานนี้ด้วยเพลงเมดเล่ย์ "Jet Coaster Love" และ "Mister"
2012
[แก้]ในวันที่ 11 มกราคม KARA ได้รับรางวัลจากงาน Golden Disk Awards ที่จัดที่เมืองโอซาก้า โดยได้รับรางวัล "Disk Bonsang" และ "Best Hallyu Star Award" ต่อจากนั้นในวันที่ 18 มกราคม KARA ก็ไปรับรางวัล "Asia Star Award" ในงาน the 7th Asia Model Awards Ceremony โดยรางวัลนี้จะมอบให้กับคนดังที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอันโดดเด่นและมีความเป็นเลิศในวงการบันเทิง และในวันที่ 19 มกราคม KARA ก็ไปรับรางวัล "Hallyu Special Award" และ "Bonsang Award" ในงาน Seoul Music Awards อีกทั้งในวันที่ 27 มกราคม ทาง Recording Industry Association of Japan (RIAJ) ได้ประกาศรางวัล The 26th Japan Gold Disc Award โดย KARA ได้รับ 5 รางวัลคือ 1.Best 3 Albums (Asia)(โดยอัลบั้ม Girl talk ได้) 2.Song of the Year (Downloads – Asia)(เพลง Jumping) 3.Best 5 Songs by Download (เพลง Jumping) 4.Best Music Video (Asia)(Best Clips) และ 5.Best Asian Artist (ซึ่งเป็นรางวัลใหม่ที่ RIAJ ตั้งขึ้นมาใหม่เฉพาะสำหรับงานนี้เพื่อแยกออกเป็นศิลปินเอเซียกับศิลปินจากยุโรป-อเมริกา)
ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ KARA ได้ประกาศจัดคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเธอ โดยมีชื่อคอนเสิร์ตว่า KARASIA (ซึ่งชื่อคอนเสิร์ตนี้ ซึงย็อนเป็นคนตั้ง โดยนำมาจาก KARA+Asia กับ KARA+Fantasia) โดยจัดขึ้นที่เกาหลีเป็นที่แรก ในวันที่ 18 และ 19 กุมภาพันธ์ 2012 ณ ยิมนาสติกสเตเดียม สวนโอลิมปิค บังอีดง โซล และจะไปทัวร์อีก 5 เมืองที่ประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึง จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ไทย(ซึ่งนิโคลได้รับบาดเจ็บข้อเท้าในช่วงการแสดงคอนเสิร์ตที่เกาหลี และกยูริได้เข้ารับการผ่าตัดเส้นเสียงหลังจากจบคอนเสิร์ตที่เกาหลี)โดยคอนเสิร์ตที่จัดที่เกาหลีก็ได้รับความสำเร็จพอสมควร
จากนั้นในเดือนเมษายน KARA ได้ประกาศว่าจะจัดทัวร์คอนเสิร์ต 'KARASIA' ที่ประเทศญี่ปุ่น จะเริ่มต้นเปิดฉากการแสดงที่แรก ณ Yokohama Arena ในเมืองโยโกฮาม่า วันที่ 14 เมษายน หลังจากนั้นพวกเธอจะไปเปิดการแสดงคอนเสิร์ตกันที่ Nippon Gaishi Hall ในเมืองนาโกย่า วันที่ 18 และ 19 เมษายน, Osaka Castle Hall ในเมืองโอซาก้า วันที่ 27 และ 28 เมษายน, Marine Messe ในเมืองฟูคูโอกะ วันที่ 30 เมษายน และวันที่ 1 พฤษภาคม ปิดท้ายการแสดงทัวร์คอนเสิร์ตกันที่ National Yoyogi Stadium ในเมืองโตเกียว วันที่ 16 และ 17 พฤษภาคม แต่เนื่องจากความร้อนแรงของคอนเสิร์ต 'KARASIA' ของ KARA ทำให้บัตรขายหมดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการเรียกร้องให้เพิ่มรอบการแสดงเพิ่มขึ้น จึงได้มีการจัดเพิ่มอีก 2 รอบที่เมืองไซตามะในวันที่ 26 และ 27 พฤษภาคม ทำให้การจัดงานคอนเสิร์ต 'KARASIA' ของ KARA ในญี่ปุ่นมีด้วยกันทั้งหมด 12 รอบใน 6 เมืองมียอดคนเข้าชมทั้งหมด 150,000 คน และบัตรก็ขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการจัดคอนเสิร์ต KARA ในญี่ปุ่นถือว่าได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก และสร้างได้ความประหลาดใจให้กับผู้สื่อข่าวของประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากในทุกงานคอนเสิร์ตของ KARA ในประเทศญี่ปุ่นจะมีการตั้งซุ้มให้แฟนคลับบริจาคข้าวสารให้กับศิลปิน(เพื่อให้ศิลปินเอาไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลอื่น ๆ ) ซึ่งอันนี้เป็นเหมือนประเพณีในการจัดคอนเสิร์ตในประเทศเกาหลีแต่ในประเทศญี่ปุ่นจะไม่มีอย่างนี้
ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ KARA ได้ออก Kara Best Clips II & Shows ซึ่งผลงานนี้คว้าอันดับ 1 ในยอดขายทั้ง DVD และ Blu-ray Disc Chart ของโอริกอนได้ ซึ่งทำให้ KARA ถือเป็นศิลปินอันดับที่ 5 ต่อจาก อามุโร่ นามิเอะ, AKB48, Mr. Children, และ Radwimps และถือเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่ทำได้
ในวันที่ 21 มีนาคม KARA ได้ออก ซิงเกิลที่หก โดยออกเป็นลักษณะเพลงไตเติล 2 เพลงคือ "Speed Up / Girl's Power" โดยซิงเกิลนี้สามารถทำยอดขายประจำสัปดาห์แรกได้ถึง 99,236 แผ่นและเป็นอันดับ 2 ของโอริกอนชาร์ตประจำสัปดาห์ และในเดือนเมษายน RIAJ ได้รับรองซิงเกิลนี้ ได้รางวัลแผ่นทองคำ (ขายได้มากกว่า 100,000 แผ่น) ทำให้ KARA เป็นศิลปินที่ทำยอดขายซิงเกิลรวมทั้งหมด(6ซิงเกิล)ในญี่ปุ่น ขายรวมได้มากกว่า 1,000,000 แผ่น ซึ่งถือเป็นศิลปินเกาหลีที่ทำได้ต่อจาก BoA และ TVXQ และถือได้ว่าเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปของเกาหลีกลุ่มแรกที่ทำได้
2013
[แก้]คารา ประสบความสำเร็จมากมายในญี่ปุ่น จนกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีวงแรกที่มีคอนเสิร์ตในโตเกียวโดม และตอนนี้พวกเธอได้เปิดเผยเป้าหมายต่อไปของพวกเธอแล้ว
เมื่อบ่ายวันที่6มกราคม ในงานแถลงข่าว2013KARASIA happy new year at TokyoDome สมาชิกวง คารา ได้เปิดเผยต่อนักข่าวถึงเป้าหมายต่อไปของพวกเธอ
ตั้งแต่ปี2011 ในงานเปิดตัวเพลง Step และงานแถลง Japan Tour ความฝันของพวกเธอคือการได้แสดงในโตเกียวโดม และในขณะนี้พวกเธอทำสำเร็จแล้ว เป้าหมายของพวกเธอในตอนนี้ ก้าวสู่เวทียุโรป และ ได้แสดงในโตเกียวโดมอีกครั้ง
ในงานแถลงข่าวพวกเธอตอบคำถามแบบสั้น ๆ ถึงเป้าหมายของพวกเธอ "พวกเราต้องการจะไปยุโรป" นิโคล เสริม "โดยเราอยากจะเริ่มที่ปารีสในฝรั่งเศสก่อน หากเราประสบความสำเร็จเราก็พร้อมจะไปในอีกหลายประเทศของยุโรป"
ฮารา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ตอนที่เราเริ่มต้นที่ญี่ปุ่นใหม่ ๆ เป้าหมายแรกคือKohaku uta gasse(งานขาวแดง) หลังจากนั้นคือโตเกียวโดม ฉันต้องขอบคุณสมาชิกในวงและแฟน ๆ ที่ทำให้ความฝันเหล่านี้เป็นจริงในระยะเวลาอันสั้น จนตอนนี้ได้มายืนบนโตเกียวโดมเป็นครั้งแรก หากเป็นไปได้ ฉันต้องการที่จะเปิดคอนเสิร์ตที่โตเกียวโดมอีกครั้ง"
KARASIA ในโตเกียวโดมเมื่อวานที่ผ่านมา แฟน ๆ กว่า45,000คนเดินทางมาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้พวกเธอได้เปิดทัวคอนเสิร์ตใน6เมืองกว่า15ครั้งที่ญี่ปุ่นมีแฟน ๆ กว่า1แสน5หมื่นคน
2014
[แก้]นิโคล และ จียอง ได้ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิมอย่าง DSP Ent. เนื่องจากนิโคลมีความต้องการที่จะเป็นนักร้องเดี่ยวและนักแสดง ซึ่งนิโคลได้ออกจากวงอย่างเป็นทางการเมื่อ 16 มกราคม 2014 ส่วนจียองมีความต้องการเรียนต่อที่ต่างประเทศและนักแสดง ซึ่งจียองได้ออกจากวงอย่างเป็นทางการเมื่อ 7 เมษายน 2014
สมาชิกที่เหลือ กยูริ ซึงยอน และ ฮารา ได้เซ็นสัญญาต่อเป็นระยะเวลา 2ปี เรียบร้อยแล้ว และยังมีการทำกิจกรรมภายใต้ DSP ต่อไป
DSP ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะมีการเพิ่มสมาชิกใหม่ มีโครงการที่ชื่อว่า " KARA Project " ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง DSP Media และ MBC Music ผลิตรายการออดิชั่นโปรแกรมแนวใหม่ โดยได้มีการคัดเลือกเด็กฝึกหัดจำนวน 7 คนมารวมตัวกันภายใต้ชื่อทีม " Baby KARA " ซึ่งสมาชิกทั้งหมดจะต้องมาผ่านภารกิจต่างๆ ก่อนที่จะถูกคัดเลือกให้เป็นสมาชิกตัวจริงของวง KARA ต่อไป และแฟนคลับสามารถร่วมโหวตผ่านรายการในแบบสดๆผ่านระบบ SNS Connect Me และแอพแช็ค ‘LINE’ รวมถึงจะมีการรวมคะแนนจากผู้เชี่ยวชาญได้ จนกระทั่งได้ผลเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสมาชิกใหม่ของวง KARA คือ ฮอ ย็อง-จี เนื่องจากได้คะแนนโหวดสูงสุด และเธอเป็น Baby KARA ที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ญี่ปุ่น
2016
[แก้]ในต้นปี 2016 สมาชิกเก่าทั้ง 3 คน ได้แก่ พัก กยู-รี ฮัน ซึง-ย็อน คู ฮา-รา ได้หมดสัญญาลงและตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญา เหลือเพียง ฮอ ย็อง-จี สมาชิกใหม่คนเดียว จึงตัดสินใจยุบวงในที่สุด[3]
2022
[แก้]เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2565 RBW บริษัทแม่ของ DSP Media ประกาศว่าพวกเขาจะคัมแบ็กอย่างเต็มรูปแบบด้วยสมาชิก 5 คน ได้แก่ พัก กยู-รี, ฮัน ซึง-ย็อน, นิโคล ช็อง, คัง จี-ย็อง, และฮอ ย็อง-จี ซึ่งหมดสัญญาในปี 2014 ในเดือนพฤศจิกายน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ผ่านช่องทาง SNS อย่างเป็นทางการ มีการประกาศว่าพวกเขาจะคัมแบ็คในวันที่ 29 พฤศจิกายนด้วยอัลบั้มฉลองครบรอบ 15 ปี "MOVE AGAIN" ในวันเดียวกัน เพลงใหม่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน '2022 MAMA Awards' ซึ่งจัดขึ้นที่ Kyocera Dome Osaka ในประเทศญี่ปุ่น
ในวันที่ 21 ธันวาคม 2022 เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นจะวางจำหน่ายในญี่ปุ่น หลังจากนั้นพวกเขาจะจัดงานแฟนมีตติ้งที่โอซาก้าในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ฟุกุโอกะในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ และโยโกฮาม่าในวันที่ 3 มีนาคมเพื่อพบกับแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่น
สมาชิก
[แก้]ชื่อในการแสดง | ชื่อจริง | วันเกิด | ตำแหน่งในวง | ผลงานปัจจุบัน | สังกัดปัจุบัน | เข้าร่วม | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ไทย | โรมัน | เกาหลี | ไทย | โรมัน | เกาหลี | |||||
กยูรี | Gyuri | 규리 | พัก กยู-รี | Park Gyuri | 박규리 | 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 | หัวหน้าวง, เซนเตอร์, นักร้องนำ | นักจัดรายการวิทยุ | Motion Media | 2007 |
ซึงย็อน | Seungyeon | 승연 | ฮัน ซึง-ย็อน | Han Seungyeon | 한승연 | 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 | นักร้องเสียงหลัก | นักแสดง, ศิลปินเดี่ยว | J WIDE Company | 2007 |
นิโคล | Nicole | 니콜 | จอง ยงจู , จอง นิโคล | Jung Yong-Joo , Jung Nicole | 정용주 | 7 ตุลาคม พ.ศ. 2534 | นักร้องนำ, นักเต้นหลัก, แร็ปเปอร์หลัก | ศิลปินเดี่ยว | B TO M Entertainment | 2007 |
จียอง | Ji Young | 지영 | คัง จี-ย็อง | Kang Ji Young | 강지영 | 18 มกราคม พ.ศ. 2537 | นักเต้นนำ, นักร้องเสริม, แร็ปเปอร์ | นักแสดง | Sweet Power | 2008 |
ยองจี | Young-Ji | 영지 | ฮอ ย็อง-จี | Heo Young Ji | 허영지 | 30 สิงหาคม พ.ศ. 2537 | นักเต้นนำ, แร็ปเปอร์นำ, นักร้องเสริม | นักแสดง | DSP Media | 2014 |
อดีตสมาชิก
[แก้]ชื่อในการแสดง | ชื่อจริง | วันเกิด | วันเสียชีวิต | ตำแหน่งในวง | เข้าร่วม | ออกจากวง | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ไทย | โรมัน | เกาหลี | ไทย | โรมัน | เกาหลี | |||||
ซองฮี | Sunghee | 성히 | คิมซองจี | Kim SungJi | 김성지 | 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2532 | - | นักร้องเสียงหลัก | 2007 | 2008 |
ฮารา | Hara | 하라 | คู ฮารา | Goo Hara | 구하라 | 13 มกราคม 2534 | 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 (28 ปี) | นักเต้นนำ, นักร้องสนับสนุน, แร็ปเปอร์เสริม, ภาพลักษณ์ของวง | 2008 | 2016 |
ผลงาน
[แก้]ภาษาเกาหลี
[แก้]อัลบั้มเต็ม
[แก้]อัลบั้ม | รายละเอียด | รายชื่อเพลง | อันดับสูงสุด | ยอดขาย |
---|---|---|---|---|
1 |
|
|
2 | ไม่ระบุ |
2 |
|
|
2 | 110,000+ (เกาหลี) 6,500+ (ญี่ปุ่น) |
3 |
|
|
1 | 120,000+ (เกาหลี) 65,000+ (ญี่ปุ่น) |
4 |
|
|
1 | 50,000+ |
มินิอัลบั้ม (EPs)
[แก้]อัลบั้ม | รายละเอียด | รายชื่อเพลง | อันดับสูงสุด | ยอดขาย |
---|---|---|---|---|
1 |
|
|
8 | 30,000+ |
2 |
|
|
2 | 40,000+ |
3 |
|
|
1 | 84,000+ (เกาหลี) 4,300+ (ญี่ปุ่น) |
4 |
|
|
1 | 78,000+ (เกาหลี) 12,000+ (ญี่ปุ่น) |
5 |
|
|
1 | 70,000+ (เกาหลี) 20,000+ (ญี่ปุ่น) |
6 |
|
|
1 | 20,000+ |
7 |
|
|
1 | 13,000+ |
อัลบั้มรีแพ็คเกจ
[แก้]อัลบั้ม | รายละเอียด | รายชื่อเพลง | อันดับสูงสุด | ยอดขาย |
---|---|---|---|---|
1 |
|
|
2 | 50,000+ |
อัลบั้มพิเศษจำหน่ายในประเทศไทย
[แก้]อัลบั้ม | รายละเอียด | รายชื่อเพลง | อันดับสูงสุด | ยอดขาย |
---|---|---|---|---|
1 |
|
|
- | - |
2 |
|
|
- | - |
ภาษาญี่ปุ่น
[แก้]อัลบั้มเต็ม
[แก้]อัลบั้ม | รายละเอียด | รายชื่อเพลง | ยอดขาย | การรับรอง |
---|---|---|---|---|
1 |
|
รวมอัลบั้มเพลงเกาหลีทั้งหมดเป็น Box Set |
ไม่ระบุ | |
2 |
|
|
250,000+ | (RIAJ: Platinum) |
3 |
|
Version C bonus tracks
|
500,000+ | (RIAJ: 2X Platinum) |
4 |
|
|
270,000+ | (RIAJ: Platinum) |
5 |
|
|
800,000+ (Still Charting) | (RIAJ: 3X Platinum) |
5 |
|
|
127,000+ (Still Charting) | (RIAJ: Gold) |
ซิงเกิลอัลบั้มภาษาญี่ปุ่น
[แก้]ซิงเกิล | รายละเอียด | รายชื่อเพลง | ยอดขายรวม (CD + Download) |
---|---|---|---|
1 |
|
ซิงเกิลในการเดบิวที่ญี่ปุ่น
|
1,900,000+ |
2 |
|
ซิงเกิลที่แต่งขึ้นเพื่อใช้ในการโปรโมทที่ญี่ปุ่น
|
1,370,000+ |
3 |
|
ซิงเกิลที่ประพันธ์โดยนักแต่งเพลงชาวเกาหลี
|
1,000,000+ |
4 |
|
ซิงเกิลที่พิเศษสำหรับโปรโมท LG Optimus Bright ที่ญี่ปุ่น
|
1,250,000+ |
5 |
|
ซิงเกิลที่เรียบเรียงโดย Simon Isogai
|
350,000+ |
6 |
|
ซิงเกิลที่โปรโมททั้งสองเพลง
|
150,000+ |
7 |
|
|
100,000+ |
8 |
|
|
ไม่ระบุ |
ซิงเกิล
[แก้]ซิงเกิลภาษาเกาหลี
[แก้]ปี | ชื่อเพลง | อันดับสูงสุด | อัลบั้ม | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชาร์ตเพลง | ||||||||||||||
ชาร์ตเกาหลี | KOR Hot |
ชาร์ตญี่ปุ่น | US World | |||||||||||
2007 | "Break It" | 18 | * | - | - | Blooming | ||||||||
"If U Wanna" | 22 | - | - | |||||||||||
2008 | "Rock U" | 7 | - | - | Rock U | |||||||||
"Pretty Girl" | 2 | - | - | Pretty Girl | ||||||||||
2009 | "Honey" | 1 | - | - | Honey (Special Edition) | |||||||||
"Wanna" | 1 | - | - | Revolution | ||||||||||
2010 | "Lupin" | 1 | - | - | Lupin | |||||||||
"Mister" | 8 | 2 | - | Revolution / Girl's Talk | ||||||||||
"Jumping" | 1 | 3 | - | Jumping / Girl's Talk | ||||||||||
2011 | "Jet Coaster Love" | - | 1 | - | Super Girl | |||||||||
"Go Go Summer!" | - | 1 | - | Super Girl | ||||||||||
"STEP" | 2 | 2 | 2 | - | STEP | |||||||||
"Winter Magic" | - | * | 2 | - | Super Girl | |||||||||
2012 | "STEP (Japan Version)" | - | 6 | - | Speed Up / Girl's Power | |||||||||
"Girl's Power" | - | 6 | - | Speed Up / Girl's Power | ||||||||||
"Speed Up" | - | 3 | - | Speed Up / Girl's Power | ||||||||||
"We're With You" | 14 | 24 | - | Super Girl | ||||||||||
"Pandora" | 2 | 3 | - | 18 | Pandora | |||||||||
2013 | "Damaged Lady" | 4 | 9 | - | - | Full Bloom | ||||||||
2014 | "Mamma Mia!" | 10 | * | 6 | 14 | Day & Night and Girl's Story | ||||||||
2015 | "Cupid" | 14 | - | 12 | In Love | |||||||||
"—" denotes releases that did not chart or were not released in that region. |
ซิงเกิลอื่น ๆ ที่โปรโมต
[แก้]ปี | ชื่อเพลง | อันดับสูงสุด | อัลบั้ม | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชาร์ตเกาหลี | |||||||||||||
Gaon [4] |
Soompi [5] | ||||||||||||
2007 | "Secret World" | - | 42 | The First Blooming | |||||||||
2008 | "I Am.. (Ing)" | - | 30 | Pretty Girl | |||||||||
"Good Day: Season 2" | - | 33 | Honey (Special Edition) | ||||||||||
2009 | "Same Heart" | - | 24 | Revolution | |||||||||
2010 | "Umbrella" | 30 | 34 | Lupin | |||||||||
"We're With You" | 14 | 8 | We're With You | ||||||||||
"2Me" | 22 | 12 | We Online Part.2 | ||||||||||
"—" denotes releases that did not chart or were not released in that region. |
ดิจิตอลซิงเกิล (ดาวน์โหลด)
[แก้]ซิงเกิล | รายละเอียด | รายชื่อเพลง | อันดับสูงสุด |
---|---|---|---|
1 |
|
|
33 |
2 |
|
|
24 |
3 |
|
|
14 |
4 |
|
|
22 |
5 |
|
|
10 |
เพลงประกอบละคร
[แก้]ปี | เพลง | ศิลปิน | ละคร | ช่อง |
---|---|---|---|---|
2005 |
|
ซ็องฮี | Three Leaf Clover | SBS |
2007 |
|
KARA | Catch A Kang Nam Mother | SBS |
2008 |
|
KARA | Boys Over Flowers | KBS2 |
|
KARA | Naruto Shippuden | Tooniverse | |
2009 |
|
ซึงย็อน | Why Did You Come to My House | SBS |
2010 |
|
KARA | Stars Falling From the Sky | SBS |
|
ซึงย็อน | Mary Stayed Out All Night | KBS2 | |
|
กยูรี, จีย็อง | Daemul | SBS | |
2011 |
|
KARA | URAKARA | TV Tokyo |
|
KARA | URAKARA | TV Tokyo | |
|
กยูรี | City Hunter | SBS | |
|
ฮารา | City Hunter | SBS | |
|
กยูรี | Love Is Elsewhere | SBS | |
|
ซึงย็อน | Warrior Baek Dong Soo | SBS | |
2012 |
|
กยูรี | Tasty Life | SBS |
|
กยูรี | The Great Seer | SBS | |
2013 |
|
กยูรี | Nail Shop Paris Part 1 | MBC QueeN |
ซิงเกิลญี่ปุ่น
[แก้]ปี | ซิงเกิล | อันดับที่สูงสุด | ยอดขาย (CD) | การรับรอง (CD) | อัลบั้ม | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
JPN [6] | |||||||||||||
2010 | "Mister" | 5 | 150,000+ |
|
Girl's Talk | ||||||||
"Jumpin'" | 5 | 120,000+ |
| ||||||||||
2011 | "Jet Coaster Love" | 1 | 230,000+ |
|
Super Girl | ||||||||
"Go Go Summer!" | 2 | 230,000+ |
| ||||||||||
"Winter Magic" | 3 | 130,000+ |
| ||||||||||
2012 | "Speed Up / Girl's Power" | 2 | 120,000+ |
| |||||||||
"—" denotes releases that did not chart or were not released in that region. |
ชาร์ตเพลงที่ไม่ได้โปรโมท
[แก้]ปี | ชื่อเพลง | อันดับสูงสุด | อัลบั้ม | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
KOR [4] | |||||||||||||
2010 | "Umbrella" | 30 | Lupin | ||||||||||
"Tasty Love" | 41 | ||||||||||||
"Lonely" | 56 | ||||||||||||
"Rollin`" | 60 | ||||||||||||
"Love Is " | 77 | Jumping | |||||||||||
"Burn" | 98 | ||||||||||||
"Binks" | 102 | ||||||||||||
"With" | 104 | ||||||||||||
2011 | "Rider" | 43 | STEP | ||||||||||
"Strawberry" | 56 | ||||||||||||
"Follow Me" | 78 | ||||||||||||
"Date (My Boy)" | 83 | ||||||||||||
"I Am... (Ing) (Acoustic version" | 115 | ||||||||||||
"With My Heart (Dear Kamilia)" | 136 | ||||||||||||
"Kara 4 U (Outro)" | 176 | ||||||||||||
"Ey! Oh! (Intro)" | 182 | ||||||||||||
"Dreamin' Girl" | 28 | Super Girl | |||||||||||
"Ima, Okuritai 「Arigatou」" | 17 | ||||||||||||
"Girls Be Ambitious!" | 42 | ||||||||||||
"Do It! Do It!" | 67 | ||||||||||||
"Missing" | 98 | ||||||||||||
2012 | "STEP (Japan Version)" | 6 | Speed Up / Girl's Power (Single) | ||||||||||
"—" denotes releases that did not chart or were not released in that region. |
เพลงที่ร่วม Featuring
[แก้]ปี | ข้อมูลเพลง | ชื่อเพลง | ชื่อศิลปิน |
---|---|---|---|
2008 | Fahrenheit
|
"String" — 02:57 | Sunha featuring นิโคล ช็อง |
2009 | Happy Face
|
"Come to Play " — 03:42 | Nassun featuring ฮัน ซึงย็อน |
Dazzling Eyes
|
Track 1. "Dazzling Eyes" — 03:23 | Jumper featuring คัง จีย็อง | |
Happy... And
|
"Happy... And" — 03:59 | Kang Kyun Sung และ จองนิโคล | |
4 Tomorrow
|
"Dugeunduguen Tomorrow" — 03:59 | Uee, Hyuna Ga In ร่วมกับ ฮันซึงย็อน | |
2010 | MBC Music Travel LaLaLa Vol.7
|
"Gil" ("Road") — 03:55 | KARA |
10 House Special Edition
|
"Day After" — 03:23 | Hong Kyung Min featuring ปาร์ก กยูรี | |
MBC Music Travel LaLaLa Vol.11
|
"Bingeul Bingeul" ("Round and Round") — 03:59 | No Brain featuring พัก กยู-รี, ฮัน ซึงย็อน และนิโคล ช็อง | |
Whale
|
"Whale" — 03:26 | Park Myungsoo และ จองนิโคล | |
Group Of 20
|
"Let`s Go" — 02:33 | Various Artists และ พัก กยู-รี | |
Merry Love
|
"Merry Love" — 02:33[13] | Supernova's Sung Je และ คังจีย็อง | |
2011 | 2011 Kim Hyung Suk With Friends Part.1
|
"I’ll write you a letter" — 03:53 | KARA |
รายชื่อเพลงที่ได้อันดับที่หนึ่ง
[แก้]ปี | วันที่ | ช่องรายการ | ชื่อรายการ | ชื่อเพลง | อันดับที่ได้ |
---|---|---|---|---|---|
2009 | 5 มีนาคม | Mnet | M! Countdown | "Honey" | 1 |
8 มีนาคม | SBS | Inkigayo | "Honey" | Mutizen Song | |
12 มีนาคม | Mnet | M! Countdown | "Honey" | 1 | |
19 มีนาคม | Mnet | M! Countdown | "Honey" | 1 | |
30 สิงหาคม | SBS | Inkigayo | "Wanna" | 1 | |
2010 | 4 มีนาคม | Mnet | M! Countdown | "Lupin" | 1 |
12 มีนาคม | KBS | Music Bank | "Lupin" | 1 | |
14 มีนาคม | SBS | Inkigayo | "Lupin" | Mutizen Song | |
19 มีนาคม | KBS | Music Bank | "Lupin" | 1 | |
26 มีนาคม | KBS | Music Bank | "Lupin" | 1 | |
10 ธันวาคม | KBS | Music Bank | "Jumping" | 1 | |
12 ธันวาคม | SBS | Inkigayo | "Jumping" | Mutizen Song | |
2011 | 15 กันยายน | Mnet | M! Countdown | "STEP" | 1 |
16 กันยายน | KBS | Music Bank | "STEP" | 1 | |
17 กันยายน | SBS | Inkigayo | "STEP" | Mutizen Song | |
22 กันยายน | Mnet | M! Countdown | "STEP" | 1 | |
23 กันยายน | KBS | Music Bank | "STEP" | 1 | |
25 กันยายน | SBS | Inkigayo | "STEP" | 1 |
มิวสิกวิดีโอ
[แก้]ปี | มิวสิกวิดีโอ | ความยาว |
---|---|---|
2007 | "Break It" | 3:14 |
"If U Wanna" | 3:40 | |
2008 | ||
"Rock U" | 3:36 | |
"Pretty Girl" | 3:44 | |
"Good Day: Season 2" | 3:11 | |
2009 | ||
"Honey" | 3:17 | |
"Same Heart" | 3:21 | |
"Wanna" | 3:53 | |
2010 | ||
"Lupin" | 3:20 | |
"We're With You" | 3:21 | |
"Mister" (Japanese Version) | 3:12 | |
"2Me" | 2:45 | |
"Jumping" (Japanese Version) | 2:58 | |
"Jumping" (Smart Sports Version) | 3:44 | |
"Jumping" (Korean Version) | 3:09 | |
2011 | "Jet Coaster Love" | 3:39 |
"Go Go Summer!" | 3:40 | |
"Ima Okuritai Arigatou" | 5:51 | |
"STEP" | 3:21 | |
"STEP (Close up Ver.)" | 3:22 | |
"Winter Magic" | 4:55 | |
"Winter Magic X'mas ver. (Close up ver.)" | 5:06 | |
2011 | "STEP (Street Ver.)" | 3:23 |
"STEP (White Ver.)" | 3:23 | |
"STEP (Stage Ver.)" | 3:23 | |
"Speed Up" | 4:06 | |
"Girl's Power" | 3:57 |
ละครที่แสดง
[แก้]ปี | ชื่อละคร | ช่องโทรทัศน์ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
2008 | Sitcom That Person is Coming | MBC | |
2009 | TV series Hero episode 1 |
MBC | |
2011 | TV series URAKARA | TV Tokyo | |
City Hunter | SBS | Ku Hara | |
200 Pounds Beauty | SBS | Park Gyuri |
คอนเสิร์ต
[แก้]- 1st Asia Tour: Karasia (2012)
- KARASIA 2013 HAPPY NEW YEAR in TOKYO DOME (2013)
KARA 2nd Japan Tour KARASIA (2013)
รางวัลที่ได้รับ
[แก้]ปี | รางวัล |
---|---|
2007 |
|
2009 |
|
2010 |
|
2011 |
|
2012 |
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "카라, 11월 완전체 컴백 확정..'탈퇴' 니콜·강지영까지 [공식]". 언론사 뷰.
- ↑ [1]แฟน ๆ ช็อค คิมซ็องฮี ประกาศลาออกจากวงคาร่า (KARA) เพื่อสานฝันเรียนต่อ
- ↑ "ยืนยันอย่างเป็นทางการ KARA ยุบวง! สมาชิก 3 คนไม่ต่อสัญญา". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-15. สืบค้นเมื่อ 2016-01-15.
- ↑ 4.0 4.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อgaon
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อsoompi
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อo-disco
- ↑ http://www.riaj.or.jp/data/others/gold/201012.html
- ↑ http://www.riaj.or.jp/data/others/chart/w101220.html
- ↑ http://www.riaj.or.jp/data/others/chart/w101220.html
- ↑ http://www.riaj.or.jp/data/others/chart/w101220.html
- ↑ http://www.riaj.or.jp/data/others/chart/w101220.html
- ↑ http://www.riaj.or.jp/data/others/chart/w101220.html
- ↑ Supernova’s Sung Je & KARA’s Jiyoung collaborate for Christmas carol duet
- ↑ 2009 MAMA Awards เก็บถาวร 2010-04-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- ↑ "2009 Melon Music Awards: Winners!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-10. สืบค้นเมื่อ 2010-12-19.
- ↑ "16th Korea Entertainment Arts Awards Winners". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-10. สืบค้นเมื่อ 2010-12-19.
- ↑ 19th Seoul Music Awards Winners!
- ↑ "52nd Japan Record Awards Winner Announced". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-28. สืบค้นเมื่อ 2010-12-19.
- ↑ [2]
- ↑ [3]
- ↑ [4]