Filopaludina martensi
บทความเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนี้มีชื่อบทความเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ เนื่องจากไม่มีชื่อสามัญเป็นภาษาไทย |
Filopaludina martensi | |
---|---|
ภาพวาดเปลือกหอยด้านล่างเห็นฝาปิดเปลือก | |
ภาพวาดด้านหลัง | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Mollusca |
ชั้น: | Gastropoda |
ไม่ได้จัดลำดับ: | clade Caenogastropoda informal group Architaenioglossa |
วงศ์ใหญ่: | Viviparoidea |
วงศ์: | Viviparidae |
สกุล: | Filopaludina |
สกุลย่อย: | Siamopaludina |
สปีชีส์: | F. martensi |
ชื่อทวินาม | |
Filopaludina martensi (Frauenfeld, 1864)[2] | |
ชื่อพ้อง[1] | |
Filopaludina martensi เป็นมอลลัสคาประเภทหอยฝาเดี่ยว จำพวกหอยขม (Viviparidae) ชนิดหนึ่ง
พบในน้ำจืดมีขนาดเล็ก เปลือกเป็นเกลียวกลมยอดแหลม เปลือกหนาและแข็ง ผิวชั้นนอกเป็นสีเขียวแก่ ฝาปิดเปลือกเป็นแผ่นกลม ตีนใหญ่ จะงอยปากสั้นทู่ ตามีสีดำอยู่ตรงกลางระหว่างโคนหนวด ตัวผู้มีหนวดเส้นข้างขวาพองโตกว่าเส้นข้างซ้าย ลักษณะพิเศษของหอยชนิดนี้ จะมีอวัยวะเพศทั้งเพศผู้และเพศเมียอยู่ในตัวเดียวกัน ออกลูกเป็นตัว และผสมพันธุ์ได้ด้วยตัวเองเมื่ออายุได้ 60 วัน ออกลูกเป็นตัวครั้งละประมาณ 40-50 ตัว หอยที่ออกมาใหม่ ๆ มีวุ้นหุ้มอยู่ แม่หอยจะใช้หนวดแทงวุ้นจนแตก เพื่อให้ลูกหอยหลุดออกจากวุ้น หอยขมสามารถเคลื่อนไหวได้ทันทีเมื่อออกจากตัวแม่ จะพบเห็นชุกชุมอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-พฤษภาคม มักอาศัยในแหล่งน้ำจืด เช่น คู, คลอง, หนอง, บึง ที่น้ำไม่ไหลแรงและเป็นน้ำนิ่ง มีระดับความลึกตั้งแต่ 10 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร มักเกาะอยู่กับพันธุ์ไม้น้ำ, เสาหลัก, ตอไม้ หรือตามพื้น กินอาหารจำพวกสาหร่าย และอินทรีย์สาร หรือเศษใบไม้ใบหญ้าผุ ๆ ในน้ำ รวมทั้งซากอินทรีย์ที่เน่าเปื่อยและผงตะกอนที่จมอยู่ตามผิวดิน
นับเป็นหอยขมชนิดที่พบได้แพร่หลายมากที่สุดในประเทศไทย และยังพบได้ในภูมิภาคใกล้เคียง เช่น ลาว, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และเวียดนาม โดยชนิดต้นแบบพบในประเทศไทย ขณะที่ยังใช้ชื่อประเทศว่า "สยาม" อยู่[3]
นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารต่าง ๆ ในตำรับอาหารไทย เช่น แกงคั่วหอยขม[4] มีการส่งเสริมให้มีการเพาะเลี้ยงกันเป็นสัตว์เศรษฐกิจ[5] และยังมีความเชื่อด้วยว่า หากใครได้ปล่อยหอยชนิดนี้ลงกลับสู่ธรรมชาติ จะนำความขมขื่นให้หมดไป[6]
ชนิดย่อย
[แก้]- Filopaludina martensi cambodiensis Brandt, 1974[1]
- Filopaludina martensi martensi (Frauenfeld, 1864)
- Filopaludina martensi munensis Brandt, 1974[1]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 Köhler F., Sri-aroon P. & Simonis J. (2012). "Filopaludina martensi". In: IUCN 2012. IUCN Red List of Threatened Species. Version 2012.2. <www.iucnredlist.org>. Downloaded on 9 November 2012.
- ↑ 2.0 2.1 von Frauenfeld G. R. (1864). "Verzeichnis der Namen der fossilen und lebenden Arten der Gattung Paludina Lam.". Verhandlungen der Kaiserlich-Königlichen Zoologisch-Botanischen Gesellschaft in Wien 14: 561-672. page 588. (เยอรมัน)
- ↑ 3.0 3.1 Martens E. v. (1860). "On the Mollusca of Siam". Proceedings of the Zoological Society of London 1860(1): 6-18, page 13.
- ↑ Piyatiratitivorakul, Piansiri; Boonchamoi, Pachanee (2008). ScienceAsia. 34 (4): 367. doi:10.2306/scienceasia1513-1874.2008.34.367.
{{cite journal}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help) - ↑ "หอยขม". ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรมประมง. สืบค้นเมื่อ 14 October 2014.
- ↑ "ความหมายของการปล่อยสัตว์แต่ละชนิด". citecclub.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-28. สืบค้นเมื่อ 14 October 2014. เก็บถาวร 2020-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Filopaludina martensi ที่วิกิสปีชีส์