นกกระตั้วดำหางขาว
นกกระตั้วดำหางขาว | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอตา Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ Animalia |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง Chordata |
ชั้น: | สัตว์ปีก |
อันดับ: | นกแก้ว Psittaciformes |
วงศ์: | นกกระตั้ว Cacatuidae |
สกุล: | Zanda (ลีร์, 1832) |
สปีชีส์: | Zanda baudinii |
ชื่อทวินาม | |
Zanda baudinii (ลีร์, 1832) | |
พิสัยการกระจายของนกกระตั้วดำบอดินแสดงเป็นสีแดง | |
ชื่อพ้อง | |
|
นกกระตั้วดำหางขาว[2] หรือ นกกระตั้วบูด้า หรือ นกกระตั้วดำบูด้า (อังกฤษ: Long-billed black cockatoo, White-tailed black cockatoo, Baudin's cockatoo, Baudin's black cockatoo[3]; ชื่อวิทยาศาสตร์: Calyptorhynchus baudinii) นกปากขอชนิดหนึ่ง ในวงศ์นกกระตั้ว (Cacatuidae)
เป็นนกกระตั้วชนิดหนึ่งที่มีสีดำ บริเวณสีขนตรงตำแหน่งหูจะมีสีขาวและสีเทา สีขนใต้หางจะมีสีขาวปนเทาเข้ม ขนบริเวณใต้คอลงมาปลายขนมีขอบสีเทาปนดำ ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้เป็นลักษณะเด่นที่ใช้ในการอนุกรมวิธานนกชนิดนี้[2]
มีขนาดโตเต็มที่ยาว 56 เซนติเมตร (22 นิ้ว) มีอายุมากที่สุด 47 ปี ในปี ค.ศ. 1996[4] มีระยะเวลาการฟักไข่ 30 วันเหมือนนกกระตั้วชนิดอื่น ๆ
โดยที่ชื่อสามัญและชื่อวิทยาศาสตร์ baudinii ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักสำรวจชาวฝรั่งเศส นิโกลาส์ บูด้า[3]
พบกระจายพันธุ์บริเวณทางตอนใต้ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในประเทศออสเตรเลีย[2]
อนุกรมวิธานและการตั้งชื่อ
[แก้]นกกระตั้วดำหางขาว (Baudin's black cockatoo) ถูกวาดภาพครั้งแรกในปี พ.ศ. 2375 โดยศิลปินชาวอังกฤษ เอ็ดเวิร์ด ลีร์ ในหนังสือ Illustrations of the Family of Psittacidae, or Parrots จากตัวอย่างที่เป็นของนักธรรมชาติวิทยา เบนจามิน ลีดบีเตอร์ ลีร์ ใช้ชื่อสามัญ "baudinii" และตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Calyptorhynchus baudinii เพื่อรำลึกถึงนักสำรวจชาวฝรั่งเศส นิโกลาส์ บูด้า ซึ่งนำคณะสำรวจมายังออสเตรเลียระหว่างปี พ.ศ. 2344–2347[5]
ชนิดพันธุ์นี้ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในสกุล Zanda ซึ่งนักปักษีวิทยาชาวออสเตรเลีย เกร็กกอรี่ แมทธิวส์ ได้บัญญัติขึ้นในปี พ.ศ. 2456[6][7]
นกกระตั้วดำพันธุ์สั้น Carnaby's black cockatoo (Zanda latirostris) เคยถูกจัดว่าเป็นสายพันธุ์เดียวกับนกกระตั้วดำหางขาว[8] แต่ต่อมาได้มีการจำแนกเป็นสองสายพันธุ์แยกกัน โดย Carnaby’s มีจะงอยปากที่สั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด
นกกระตั้วดำที่มีหางสีขาวในออสเตรเลียตะวันตกสองชนิด (Carnaby's และ Baudin's) และชนิดหางเหลือง (Zanda funerea) ในออสเตรเลียตะวันออก เคยถูกจัดให้อยู่ในสกุลย่อยเดียวกันคือ Calyptorhynchus ก่อนที่จะมีการแยกออกเป็นสกุล Zanda อันเนื่องมาจากความแตกต่างทางพันธุกรรม[9]
ลักษณะเด่นที่แตกต่างระหว่าง Zanda และ Calyptorhynchus ได้แก่ สีหาง รูปแบบหัว และเสียงขออาหารของลูกนกในระยะวัยอ่อน โดย Calyptorhynchus มีลักษณะทางเพศเด่นชัดกว่าที่พบใน Zanda[10]
ลักษณะทั่วไป
[แก้]นกกระตั้วดำหางขาว (Baudin's black cockatoo) มีความยาวประมาณ 56 ซม. (22 นิ้ว) มีขนสีเทาเข้มทั่วตัวและมีลวดลายสีเทาอ่อนที่เห็นลางๆ เกิดจากปลายขนที่มีขอบสีเทาอ่อน ขนบนหัวเรียงตัวเป็นรูปสันสั้นๆ มีแถบขนสีขาวบริเวณหู ขนหางด้านข้างเป็นสีขาวโดยมีปลายสีดำ ส่วนขนหางตรงกลางเป็นสีดำทั้งหมด นัยน์ตามีสีดำและขาสีน้ำตาลเทา จะงอยปากของมันยาวและแคบกว่านกกระตั้วดำพันธุ์สั้น (Carnaby's black cockatoo) ซึ่งใกล้เคียงกันมากในลักษณะ[11]
ตัวผู้โตเต็มวัยมีจะงอยปากสีเทาเข้มและวงรอบตาสีชมพู ส่วนตัวเมียจะมีจะงอยปากสีเนื้อ วงรอบตาสีเทา และแถบขนบริเวณหูมีสีอ่อนกว่าของตัวผู้ ลูกนกมีจะงอยปากสีเนื้อ วงรอบตาสีเทา และมีขนขาวในหางน้อยกว่านกตัวเต็มวัย[11]
มีการบันทึกว่านกกระตั้วดำหางขาวตัวหนึ่งมีอายุยืนถึง 47 ปีภายในปี ค.ศ. 1996[4]
การกระจายพันธุ์และที่อยู่อาศัย
[แก้]นกกระตั้วดำหางขาวเป็นหนึ่งในสองสายพันธุ์ของนกกระตั้วดำหางขาวที่พบเฉพาะถิ่นในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย (south-western Australia) ซึ่งถูกแยกประเภททางอนุกรมวิธานในปี ค.ศ. 1948 พันธุ์นี้มักอาศัยในพื้นที่ชุ่มชื้นที่ป่ามีความหนาแน่นสูง โดยเฉพาะบริเวณที่มีต้นมารรี (Corymbia calophylla) เป็นส่วนประกอบหลัก อย่างไรก็ตาม พื้นที่อยู่อาศัยของมันกำลังถูกคุกคามจากการทำลายถิ่นฐาน
การอนุรักษ์
[แก้]ประชากรของนกกระตั้วดำหางขาวที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่ามีเหลืออยู่เพียงระหว่าง 10,000 ถึง 15,000 ตัว และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2021 ถูกจัดให้เป็นสถานะการอนุรักษ์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต (Critically Endangered) โดย IUCN[1]
นกชนิดนี้ได้รับการติดตามประชากรผ่านการสำรวจประจำปีที่เรียกว่า Great Cocky Count ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของประชากรของนกกระตั้วดำหางขาวและสายพันธุ์อื่นๆ[12]
พื้นที่ที่ BirdLife International ระบุว่าเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการอนุรักษ์นกกระตั้วดำหางขาว (Important Bird Areas - IBA) ได้แก่ Araluen-Wungong, Gidgegannup, Jalbarragup, Mundaring-Kalamunda, North Dandalup, Stirling Range และ The Lakes[13]
แกลเลอรี
[แก้]-
ตัวเมีย ...
-
และตัวผู้ ที่ มาร์กาเร็ตริเวอร์ ออสเตรเลียตะวันตก
-
ภาพถ่ายชายสองคนกำลังเก็บรังในต้นไม้ใหญ่, จากนิตยสาร Emu, ค.ศ. 1903
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อIUCN
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "นกกระตั้วดำหางขาว". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-07. สืบค้นเมื่อ 2012-11-04.
- ↑ 3.0 3.1 Christidis, Les and Walter E. Boles (2008) Systematics and Taxonomy of Australian Birds ISBN 978-0-643-06511-6
- ↑ 4.0 4.1 Brouwer K, Jones M, King C, Schifter H (2000). "Longevity records for Psittaciformes in captivity". International Zoo Yearbook. 37: 299–316. doi:10.1111/j.1748-1090.2000.tb00735.x.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Brouwer2000" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ Jobling, James A. (2010). The Helm Dictionary of Scientific Bird Names. London: Christopher Helm. p. 68. ISBN 978-1-4081-2501-4.
- ↑ Mathews, Gregory M. (1913). "Additions and corrections to my reference list". Austral Avian Record. 1 (8): 187–196 [196].
- ↑ Gill, Frank; Donsker, David; Rasmussen, Pamela, บ.ก. (July 2021). "Parrots, cockatoos". IOC World Bird List Version 11.2. International Ornithologists' Union. สืบค้นเมื่อ 30 July 2021.
- ↑ Saunders, Denis (1974). "Subspeciation in the White-tailed Black Cockatoo, Calyptorhynchus baudinii, in Western Australia". Wildlife Research. 1: 55. doi:10.1071/WR9740055.
- ↑ White, Nicole E.; Phillips, Matthew J.; Gilbert, M. Thomas P. (June 2011). "The evolutionary history of cockatoos (Aves: Psittaciformes: Cacatuidae)". Molecular Phylogenetics and Evolution. 59 (3): 615–622. doi:10.1016/j.ympev.2011.03.011. PMID 21419232.
- ↑ Christidis, Les; Boles, Walter E (2008). Systematics and Taxonomy of Australian Birds. Canberra: CSIRO Publishing. pp. 150–51. ISBN 978-0-643-06511-6.
- ↑ 11.0 11.1 Forshaw (2006). plate 1.
- ↑ "Record number of volunteers sign up for Great Cocky Count". Australian Broadcasting Corporation. 2 April 2014. สืบค้นเมื่อ 15 September 2016.
- ↑ "Baudin's Black-Cockatoo". Important Bird Areas. BirdLife International. 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2001-11-28. สืบค้นเมื่อ 2012-11-04.
ข้อความที่อ้างถึง
[แก้]- Forshaw, Joseph M (2006). Parrots of the World; an Identification Guide. Illustrated by Frank Knight. Princeton University Press. ISBN 0-691-09251-6.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- BirdLife Species Factsheet
- Non-lethal deterrent system for Baudin's cockatoo (vulnerable species)
- Western Australian Museum website Cockatoo Care page
- A Runcible Cockatoo, TaxonomyAustralia – An account of the taxonomic difficulties associated with Baudin's black cockatoo