ปลาการ์ตูน
ปลาการ์ตูน | |
---|---|
ปลาการ์ตูนส้มขาว (Amphiprion ocellaris) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอตา Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | ปลาที่มีก้านครีบ |
เคลด: | Percomorpha |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Ovalentaria |
วงศ์: | วงศ์ปลาสลิดหิน |
วงศ์ย่อย: | Amphiprioninae Allen, 1975 |
สกุล | |
|
ปลาการ์ตูน เป็นปลากระดูกแข็งขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในทะเล จัดอยู่ในวงศ์ย่อย Amphiprioninae ในวงศ์ปลาสลิดหิน (Pomacentridae)
ลักษณะ
[แก้]เป็นปลาที่มีสีสันสวยงาม โดยทั่วไปประกอบด้วยสีส้ม, แดง, ดำ, เหลือง และมีสีขาวผ่านกลางลำตัว 1-3 แถบ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นชนิดเดียวกัน ก็จะมีสีแตกต่างกันเล็กน้อยเสมอ ซึ่งความแตกต่างนี้ทำให้จดจำคู่ได้ นอกจากนั้น แหล่งที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกันทำให้เกิดการแปรผันด้วย ปลาการ์ตูนอยู่กันเป็นครอบครัว กินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร เป็นปลาที่หวงถิ่นมาก มีเขตที่อยู่ของตนเอง
การกระจายพันธุ์และถิ่นอาศัย
[แก้]พบอาศัยอยู่ตามแนวปะการังในบริเวณเส้นศูนย์สูตรทั่วโลก อาศัยอยู่ตามแนวปะการังกับดอกไม้ทะเล
อนุกรมวิธาน
[แก้]ปลาการ์ตูนแบ่งออกได้เป็น 2 สกุล คือ Amphiprion และ Premnas ซึ่งมีอยู่เพียงชนิดเดียว
ชื่อวิทยาศาสตร์ | ชื่อทั่วไป | เคลด[1] | Complex |
---|---|---|---|
สกุล Amphiprion:[2] | |||
Amphiprion akallopisos | ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง | A. akallopisos | Skunk |
A. akindynos | Barrier reef anemonefish | Australian | A. clarkii |
A. allardi | Allard's anemonefish | Indian | A. clarkii |
A. barberi | Barber's anemonefish | A. ephippium | A. ephippium |
A. bicinctus | Two-band anemonefish | Indian | A. clarkii |
A. chagosensis | Chagos anemonefish | Indian | A. clarkii |
A. chrysogaster | Mauritian anemonefish | Indian | A. clarkii |
A. chrysopterus | Orange-fin anemonefish | Monospecific lineage | A. clarkii |
A. clarkii | ปลาการ์ตูนลายปล้อง | A. clarkii | A. clarkii |
A. ephippium | ปลาการ์ตูนแดงดำ, ปลาสลิดหินส้ม | A. ephippium | A. ephippium |
A. frenatus | ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ | A. ephippium | A. ephippium |
A. fuscocaudatus | Seychelles anemonefish | Indian [n 1] | Clarkii |
A. latezonatus | Wide-band anemonefish | Monospecific lineage | Saddleback |
A. latifasciatus | ปลาการ์ตูนมาดากัสการ์ | Indian | A. clarkii |
A. leucokranos | White-bonnet anemonefish | Likely hybrid | Skunk |
A. mccullochi | Whitesnout anemonefish | Australian | A. ephippium |
A. melanopus | Red and black anemonefish | A. ephippium | A. ephippium |
A. nigripes | Maldive anemonefish | Indian | Skunk |
A. ocellaris | ปลาการ์ตูนส้มขาว | Percula | Clownfish |
A. omanensis | Oman anemonefish | Indian | A. clarkii |
A. pacificus | ปลาการ์ตูนแปซิฟิก | A. akallopisos | Skunk |
A. percula | ปลาการ์ตูนส้ม | Percula | Clownfish |
A. perideraion | ปลาการ์ตูนอินเดียนแดงชมพู | A. akallopisos | Skunk |
A. polymnus | ปลาการ์ตูนอานม้า | A. polymnus | Saddleback |
A. rubrocinctus | Australian anemonefish | A. ephippium | A. ephippium |
A. sandaracinos | ปลาการ์ตูนเหลือง | A. akallopisos | Skunk |
A. sebae | ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง | A. polymnus | Saddleback |
A. thiellei | Thielle's anemonefish | Likely hybrid | Skunk |
A. tricinctus | Three-band anemonefish | Clarkii | Clarkii |
สกุล Premnas:[3] | |||
Premnas biaculeatus | ปลาการ์ตูนแดง | Percula | Maroon |
ปัจจุบัน ปลาการ์ตูนทั่วโลกพบทั้งหมด 30 ชนิด ในน่านน้ำไทยพบปลาการ์ตูน 7 ชนิด[4] ทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามันได้แก่ ปลาการ์ตูนส้มขาว (Amphiprion ocellaris), ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง (A. akallopisos), ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ (A. frenatus), ปลาการ์ตูนอานม้า (A. polymnus), ปลาการ์ตูนลายปล้อง (A. clarkii), ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง (A. sebae) และปลาการ์ตูนแดง (Premnas biaculeatus)
พฤติกรรม
[แก้]ปลาการ์ตูนออกลูกเป็นไข่และสามารถเปลี่ยนเพศได้ ปลาการ์ตูนจะเปลี่ยนเพศเมื่อสิ่งแวดล้อมกำหนดบทบาทให้ โดยในระยะแรกเริ่มหลังจากที่ฟักออกจากไข่ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าเป็นเพศใด จนกว่าจะเป็นตัวเต็มวัยจึงจะปรากฏเป็นปลาเพศผู้ และในปลารุ่นเดียวกันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจะต้องเปลี่ยนแปลงเป็นปลาเพศเมีย โดยในสังคมของปลาการ์ตูนกลุ่มหนึ่ง ๆ จะมีปลาเพศเมียเพียงตัวเดียวเท่านั้น ตัวใหญ่ที่สุดในฝูง สีสันไม่สดใสมากนัก พฤติกรรมก้าวร้าว ส่วนปลาเพศผู้มีขนาดเล็กกว่า สีสันสวยงามกว่า จากปลาเพศผู้ เมื่อมีสิ่งเร้าจากภายนอกและภายในเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ เทเลนฟาลอน (Telenephalon) จะส่งสัญญาณมาที่ทาลามัส (Thalamus) และไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) ส่งคำสั่งไปยังต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมนเฉพาะของเพศผู้ อวัยวะเป้าหมายส่วนที่ จะพัฒนาจนสามารถทำงานได้คืออัณฑะผลิตสเปิร์ม ส่วนตัวที่ใหญ่ ที่สุดจะมีพัฒนาการตรงกันข้าม ไฮโปธาลามัสจะส่งคำสั่งไปยังต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมนเฉพาะของเพศเมีย อวัยวะเป้าหมายคือรังไข่ ผลิตไข่ และถ้าเพศเมียตายไป ปลาการ์ตูนเพศผู้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แข็งแกร่งที่สุด จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเพศทดแทนด้วยกลไกแบบหลังภายใน 4 สัปดาห์ โดยจะเพิ่มขนาดอย่างรวดเร็ว พร้อมสีสันสวยน้อยลง
และจากการศึกษาพบว่า ปลาการ์ตูนมีระบบชนชั้นภายในฝูง โดยตำแหน่งหัวหน้าฝูงจะเป็น ปลาเพศเมียตัวที่ใหญ่ที่สุด และลดหลั่นกันไปจนถึงตัวที่มีขนาดเล็กที่สุด อีกทั้งยังพบด้วยว่า แม้ว่าปลาการ์ตูนจะถือกำเนิดห่างไกลจากที่กำเนิดเท่าใด เมื่อเจริญเติบโตขึ้นหรือถึงฤดูผสมพันธุ์วางไข่ จะว่ายฝ่ากระแสน้ำกลับมาวางไข่ยังบริเวณเดิมที่กำเนิด โดยอาศัยการดมกลิ่นจากกลิ่นของพืชที่อยู่บริเวณนั้น ซึ่งปลาจะมีความจดจำลักษณะเฉพาะของกลิ่นได้[5]
ความสัมพันธ์กับดอกไม้ทะเล
[แก้]ปลาการ์ตูนเป็นปลาที่มีลักษณะเฉพาะ คือ จะอาศัยอยู่ภายในดอกไม้ทะเลซึ่งมีเข็มพิษ แต่ไม่เป็นอันตรายกับปลาการ์ตูน เพื่อป้องกันตัว เป็นพฤติกรรมที่สัตว์ทั้งสองพึ่งพากัน ดอกไม้ทะเลมีหนวดยาวมากมายพลิ้วไหวไปตามกระแสน้ำ ส่วนร่างยึดติดกับโขดหินหรือปะการังเอาไว้ หนวดที่อ่อนนุ่มเป็นอวัยวะสำคัญที่ใช้หาอาหาร บริเวณปลายหนวดเต็มไปด้วยเข็มพิษจำนวนมหาศาล เมื่อมีปลาว่ายหลงผ่านมา ดอกไม้ทะเลจะใช้หนวดพิษทิ่มแทงเหยื่อให้เป็นอัมพาต แล้วใช้หนวดจับเข้าปาก จึงไม่มีปลาอื่นกล้าว่ายเข้าใกล้ดอกไม้ทะเล ยกเว้นเพียงปลาการ์ตูน ที่เที่ยวว่ายหากินสาหร่ายเล็ก ๆ อยู่รอบ ๆ ครั้นมีศัตรูมารบกวน มันจะรีบว่ายเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในกอดอกไม้ทะเล
นอกจากนี้แล้ว จากการศึกษาล่าสุดพบว่า ในเวลากลางคืนที่ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดน้อยลง ปลาการ์ตูนจะโบกครีบไปมาเพื่อให้เกิดกระแสน้ำไหลผ่านดอกไม้ทะเลเพื่อให้ออกซิเจนอีกด้วย[6]
อันที่จริงแล้วปลาการ์ตูนก็ได้รับพิษเช่นกัน แต่รู้จักปรับตัวโดยใช้วิธีว่ายเข้าไปสัมผัสกับดอกไม้ทะเลทีละน้อย ๆ แล้วถอยออกมา ทำอยู่จนกระทั่งร่างกายสร้างเมือกขึ้นมาปกคลุมตัว ช่วยป้องกันเข็มพิษดอกไม้ทะเลได้ในที่สุด แต่ถ้าปลาการ์ตูนปราศจากเมือกอันนี้เมื่อใด ปลาก็จะถูกเข็มพิษของดอกไม้ทะเลทำร้าย จนตายในที่สุด
การเลี้ยงเป็นปลาสวยงามและการเพาะพันธุ์
[แก้]ปัจจุบันได้มีการเพาะพันธุ์ได้ตามศูนย์วิจัยต่าง ๆ ของกรมประมง หรือฟาร์มของเอกชนทั่วไปเพื่อจำหน่าย โดยสถานที่แห่งแรกที่เพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนได้สำเร็จและถือเป็นแหล่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ของประเทศไทย ที่นำโดย ดร.วรเทพ มุธุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบัน โดยใช้วิธีการให้ปลาวางไข่กับแผ่นกระเบื้องเซรามิกในตู้เลียนแบบธรรมชาติ นับว่าได้ผลสำเร็จดี ซึ่งในปัจจุบัน ก็ยังคงวิจัยศึกษาและพัฒนาการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ให้ได้ผลดียิ่งขึ้นต่อไป [5]
การนำปลาที่เพาะพันธุ์ได้ไปปล่อยลงในแหล่งน้ำธรรมชาติ
[แก้]ลูกปลาการ์ตูนบางส่วนที่หน่วยงานกรมประมงเพาะพันธุ์ได้ จะถูกนำไปปล่อยคืนในแหล่งน้ำธรรมชาติที่เหมาะสมซึ่งปลาการ์ตูนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยการปล่อยปลาการ์ตูน จะต้องมีการปรับสภาพให้ปลามีคุ้ยเคยกับแหล่งที่จะปล่อยปลาการ์ตูนเหล่านั้น เพื่อให้รอดพ้นจากกการถูกทำร้ายจากสัตว์น้ำชนิดอื่น และดำรงชีวิตต่อไปได้[7]
ในวัฒนธรรมร่วมสมัย
[แก้]ภาพยนตร์ นีโม...ปลาเล็ก หัวใจโต๊...โต ใน ค.ศ. 2003 และภาคต่อ ผจญภัยดอรี่ขี้ลืมใน ค.ศ. 2016 มีตัวละครหลักอย่างนีโม เมอร์ลินผู้เป็นพ่อ และคอรัลผู้เป็นแม่ ทั้งหมดเป็นปลาการ์ตูน ซึ่งอาจเป็นสายพันธุ์ A. ocellaris[8] หลังภาพยนตร์ออกฉายทำให้มีความนิยมปลาการ์ตูนในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมีมากขึ้น ทำให้เป็นภาพยนตร์แรกที่มีส่วนในการจับสัตว์ป่าเพิ่มขึ้น[9]
หมายเหตุ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Litsios, Glenn; Salamin, Nicolas (December 2014). "Hybridisation and diversification in the adaptive radiation of clownfishes". BMC Evolutionary Biology. 14 (1): 245. doi:10.1186/s12862-014-0245-5. PMC 4264551. PMID 25433367.
- ↑ Froese, Rainer, and Daniel Pauly, eds. (2011). Species of Amphiprion in FishBase. December 2011 version.
- ↑ Froese, Rainer, and Daniel Pauly, eds. (2011). Species of Premnas in FishBase. December 2011 version.
- ↑ "รู้หรือไม่รู้ ดอกไม้ของนายนีโม่". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-03. สืบค้นเมื่อ 2008-04-15.
{{cite web}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ 5.0 5.1 ปลาดารา (Filmstar Fish: The Struggle for Survival), "ท่องโลกกว้าง". สารคดีทางไทยพีบีเอส: วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554
- ↑ ฉลามวาฬ, "มหัศจรรย์พันธุ์ลึก". สารคดีทางไทยพีบีเอส: วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556
- ↑ การนำปลาที่เพาะพันธุ์ได้ไปปล่อยลงในแหล่งน้ำธรรมชาติ
- ↑ "Finding Nemo (2003)". Rotten Tomatoes. สืบค้นเมื่อ 5 April 2016.
- ↑ Calado, Ricardo; Olivotto, Ike; Oliver, Miquel Planas; Holt, G. Joan (6 March 2017). Marine Ornamental Species Aquaculture. John Wiley & Sons. p. 179. ISBN 9780470673904 – โดยทาง Google Books.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- (ในภาษาเยอรมัน) Photo Gallery of Amphiprion ocellaris and their eggs เก็บถาวร 2021-03-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Monterey Bay Aquarium: Video and information
- Clown Fish underwater photography gallery
- Aquaticcommunity.com
- Tolweb.org เก็บถาวร 2017-12-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน