ไฮเดิลแบร์ค
ไฮเดิลแบร์ค | |
---|---|
พิกัด: 49°25′N 08°43′E / 49.417°N 8.717°E | |
ประเทศ | เยอรมนี |
รัฐ | บาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค |
จังหวัด | คาร์ลสรูเออ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 108.83 ตร.กม. (42.02 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 114 เมตร (374 ฟุต) |
ประชากร (2020-12-31)[1] | |
• ทั้งหมด | 158,741 คน |
• ความหนาแน่น | 1,500 คน/ตร.กม. (3,800 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+01:00 (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+02:00 (CEST) |
รหัสไปรษณีย์ | 69115–69126 |
รหัสโทรศัพท์ | 06221 |
ทะเบียนพาหนะ | HD |
เว็บไซต์ | heidelberg.de |
ไฮเดิลแบร์ค (เยอรมัน: Heidelberg) เป็นเมืองในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนแม่น้ำเน็คคาร์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมืองไฮเดิลแบร์คตั้งอยู่ทางทิศใต้ของนครแฟรงก์เฟิร์ตไปราว 78 กิโลเมตร
ไฮเดิลแบร์คเป็นเมืองใหญ่อันดับห้าในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค มหาวิทยาลัยไฮเดิลแบร์คซึ่งสถาปนาขึ้นในปีค.ศ. 1386 เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และได้รับการยอมรับที่สุดของยุโรป และยังมีสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติมากมายตั้งอยู่ในเมืองแห่งนี้ อาทิ สมาคมมักซ์พลังค์[2] ทำให้เมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ประชากรกว่าหนึ่งในสี่เป็นนักศึกษา[3] นอกจากนี้ อาคารสิ่งก่อสร้างในเมืองยังก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะจินตนิยม (Romanticism) และบารอก (Baroque) ทำให้ไฮเดิลแบร์คถูกขนานนามว่าเป็น "เมืองโรแมนติก" ซึ่งดึงดูดผู้คนกว่า 3.5 ล้านคนมาเยือนในทุกปี ประชากรราว 80% ของเมืองนี้ทำงานในภาคบริการ มีเพียง 20% เท่านั้นที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม
ไฮเดิลแบร์คเคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคนาซีในช่วงการเลือกตั้งก่อนปี 1933 ไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังฮิตเลอร์ครองอำนาจ คณาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ไม่มีเชื้อสายอารยันทั้งหมดถูกไล่ออก และภายในปี 1939 บุคลากรกว่าหนึ่งในสามถูกกีดกันให้ออกจากงานด้วยเหตุผลด้านเชื้อชาติและทางการเมือง ไฮเดิลแบร์คเป็นไม่กี่เมืองใหญ่ที่รอดพ้นการโจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากไฮเดิลแบร์คไม่ใช่เมืองอุตสาหกรรม อีกทั้งกองกำลังสหรัฐมีแผนจะใช้เมืองนี้เป็นที่ตั้งของกองทหารรักษาการณ์ของตนเองภายหลังสงคราม
หลังสงครามสิ้นสุดลงในปี 1945 มหาวิทยาลัยกลับมาเปิดทำการได้อย่างรวดเร็วจากการรวมพลังกันคณาจารย์กลุ่มเล็กๆ[4] กองกำลังสหรัฐมีการจัดตั้งกองทหารรักษาการณ์ขึ้นในเมืองแห่งนี้ ไฮเดิลแบร์คกลายเป็นศูนย์ใหญ่ของกองกำลังสหรัฐในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลายหน่วยงานทางทหารของสหรัฐ กองกำลังสหรัฐได้ย้ายออกจากไฮเดิลแบร์คทั้งหมดภายในปี 2016 โดยมอบอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆให้รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค
ภูมิอากาศ
[แก้]ข้อมูลภูมิอากาศของไฮเดิลแบร์ค | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 3.78 (38.8) |
6.11 (43.0) |
10.89 (51.6) |
15.39 (59.7) |
19.89 (67.8) |
23 (73.4) |
25.5 (77.9) |
25.11 (77.2) |
21.5 (70.7) |
15.28 (59.5) |
8.5 (47.3) |
4.78 (40.6) |
15 (59.0) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 2.4 (36.3) |
3.7 (38.7) |
7.4 (45.3) |
11.2 (52.2) |
15.5 (59.9) |
18.1 (64.6) |
20.6 (69.1) |
20.1 (68.2) |
16.1 (61) |
11.5 (52.7) |
6.3 (43.3) |
3.3 (37.9) |
11.4 (52.5) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | -1.39 (29.5) |
-0.72 (30.7) |
1.89 (35.4) |
4.89 (40.8) |
8.89 (48.0) |
12.22 (54.0) |
14 (57.2) |
13.78 (56.8) |
10.61 (51.1) |
6.72 (44.1) |
2.39 (36.3) |
-0.39 (31.3) |
6.06 (42.9) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 56 (2.2) |
53 (2.1) |
53 (2.1) |
61 (2.4) |
79 (3.1) |
86 (3.4) |
71 (2.8) |
66 (2.6) |
53 (2.1) |
58 (2.3) |
66 (2.6) |
66 (2.6) |
770 (30.3) |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 46 | 78 | 118 | 173 | 206 | 215 | 233 | 219 | 157 | 101 | 50 | 35 | 1,631 |
แหล่งที่มา 1: Intellicast[5] | |||||||||||||
แหล่งที่มา 2: Deutscher Wetterdienst[6] |
ความสัมพันธ์กับประเทศไทย
[แก้]พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ส่งพระราชโอรสคือพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ มาทรงศึกษาต่อที่เมืองนี้ และในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อปี 2450 เมื่อพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ ทราบว่าสมเด็จพระบรมชนกนาถเสด็จประพาสถึงเยอรมนีแล้ว จึงได้กราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จประพาสเมืองไฮเดิลแบร์คระหว่างวันที่ 4–6 มิถุนายน 2450
นอกจากนี้เมืองไฮเดิลแบร์คยังเป็นที่เสด็จพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2468
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Bevölkerung nach Nationalität und Geschlecht am 31. Dezember 2020" [Population by nationality and sex as of December 31, 2020] (CSV). Statistisches Landesamt Baden-Württemberg (ภาษาเยอรมัน). มิถุนายน 2021. สืบค้นเมื่อ 17 ตุลาคม 2021.
- ↑ Stiefel, Catherine. "Non-University Research Institutions - Heidelberg University". www.uni-heidelberg.de. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-09. สืบค้นเมื่อ 2017-01-11.
- ↑ Albers, Jürgen. "Daten und Fakten - Studierende und Wissenschaftlicher Nachwuchs - Universität Heidelberg". www.uni-heidelberg.de. สืบค้นเมื่อ 2017-01-12.
- ↑ Remy 2002, p. 240
- ↑ "Heidelberg historic weather averages". Intellicast. สืบค้นเมื่อ October 21, 2009.
- ↑ "Deutscher Wetterdienst - weather and climate, 1981-2010". Deutscher Wetterdienst. สืบค้นเมื่อ February 21, 2015.