โบสถ์ยิวฟาบริก
โบสถ์ยิวฟาบริก | |
---|---|
Sinagoga din Fabric | |
ศาสนา | |
ศาสนา | ยูดายนีโอล็อก |
สถานะ | ปิด |
ที่ตั้ง | |
ที่ตั้ง | 1 Ion Luca Caragiale Street ตีมีชออารา |
ผู้บริหาร | ศาลาว่าการนครตีมีชออารา |
พิกัดภูมิศาสตร์ | 45°45′22″N 21°14′43″E / 45.75611°N 21.24528°E |
สถาปัตยกรรม | |
สถาปนิก | Lipót Baumhorn |
ผู้รับเหมา | Josef Kremer |
ลงเสาเข็ม | 1897 |
เสร็จสมบูรณ์ | 1899 |
ค่าก่อสร้าง | kr. 162,000 |
ความจุ | 700 |
โบสถ์ยิวฟาบริก (อังกฤษ: Fabric Synagogue) เป็นโบสถ์ยิวนิกายนีโอล็อก ในย่านฟาบริก ตีมีชออารา ประเทศโรมาเนีย อีกชื่อหนึ่งของโบสถ์ยิวนี้คือ โบสถ์ยิวใหม่ เนื่องจากโบสถ์ยิวนี้สร้างขึ้นเพื่อแทนที่โบสถ์ยิวหลังเดิมบนถนน Timocului โบสถ์ยิวฟาบริกสร้างขึ้นในปี 1897 ถึง 1899 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเอ็กเล็กติสต์ ผสมผสานองค์ประกอบของมัวร์ใหม่, กอธิก และ เรนเนสซองส์ใหม่แบบอิตาลี
ประวัติศาสตร์[แก้]
โบสถ์ยิวฟาบริกสร้างขึ้นตามแปลนการออกแบบของ Lipót Baumhorn[1] ผู้ที่ยังออกแบบโบสถ์ยิวนีโอล็อกแห่งอื่น ๆ ในบราชอฟ กับ เซเกด อาคารหลังใหม่ออกแบบตามธรรมเนียมของโบสถ์ยิวนีโอล็อกยุคร่วมสมัยที่ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ในรูปคล้ายกับโบสถ์ยิวใน ริเยกา, โซลโนก และ Zrenjanin ตามแปลนของสถาปนิกคนเดียวกัน[2] เงินทุนบางส่วนของการสร้างโบสถ์ยิวยังได้รับการสนับสนุนโดยสลากกินแบ่งที่จัดขึ้นโดยศาลาว่าการนครตีมีชออารา[2] งานก่อสร้างได้รับการไว้วางใจให้ดูแลโดยนักธุรกิจชาวตีมีชออารา Josef Kremer[3] โสถ์ยิวได้รับการเสกในวันที่ 3 กันยายน 1899 โดยแรบไบ Jakab Singer ส่วนออร์แกนในโบสถ์เป็นผลงานของช่างฝีมือ Carl Leopold Wegenstein
ในสมัยสงคราม โงเรียนมัธยมอิสราเอลได้ดำเนินการเรียนการสอนภายในโบสถ์ยิวนี้อยู่ช่วงหนึ่ง ระหว่างที่อาคารเรียนถูกยึดไป[2] ในช่วงปลายสมัยคอมมิวนิสต์ โสถ์ยิวถูกทิ้งให้ทรุดโทรม และปิดลงในปี 1985 เนื่องจากชาวยิวส่วนใหญ่ในเมืองได้ย้ายออกไปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และอพยพไปยังอิสราเอล โบสถ์ยิวถูกปิดเป็นเวลา 24 ปี ระหว่างนั้นถูกทำลายและของมีค่าถูกจารกรรมไป รวมถึงประติมากรรมและชิ้นเฟอร์นิเจอร์ ในปี 2009 ชุมชนชาวยิวได้ยึดคืนโบสถ์ยิวฟาบริกให้แก่โรงละครแห่งชาติตีมีชออารา และมีแผนจะตั้งโรงละครขึ้นในอาคารภายในเวลาห้าปี[4] กระนั้น ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จึงเป็นผลให้ศาลาว่าการนครตีมีชออารานัดสินใจยึดการดูแลในปี 2018 และตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้พหุวัฒนธรรมขึ้น[5]
สถาปัตยกรรม[แก้]
โบสถ์ยิวฟาบริกเป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่สวยงามที่สุดในตีมีชออารา โดดเด่นด้วยงานประดับตกแต่งที่วิจิตร แปลนอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีโดมกลางที่เชื่อมต่อเข้ากับผนังด้านอกผ่านทางส่วนโค้งครึ่งวงกลม โดมกลางตั้งอยู่บนทัมบัวร์รูปแปดเหลี่ยม (octagonal tambour) ซึ่งทำมาจากไม้ทาสีและฉาบปูนปลาสเตอร์ นอกจากนี้ ลักษณะเด่นของอาคารยังรวมถึงโดมขนาดเล็กและหอคอย และบนฟาซาเที่เป็นอิฐแดงสลับกับปูนปลาสเตอร์[6]
โบสถ์ยิวฟาบริกมีองค์ประกอบบแบบมัวร์ใหม่ (neo-Moorish) ผสมผสานกับกอธิกและเรนเนสซองส์ใหม่[7] อาคารมีทางเข้าสองทาง สำหรับสตรีทางหนึ่ง และสำหรับบุรุษอีกทางหนึ่ง โดยของสตรีอยู่ฝั่งถนน และสามารถเดินตรงขึ้นบันไดต่อได้ ชั้นบนยังมีออร์แกนตั้งอยู่ ส่วนทางเข้าฝั่งบุรุษนั้นผ่านทางโพรงทางเข้า (vestibule; pulish) ซึ่งจะเข้าไปยังห้องที่กั้นไว้สำหรับบุรุษโดยเฉพาะ (heichal) ในห้องนี้ประกอบไปด้วยม้านั่งไม้หลายตัว[6]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Neumann, Victor (1999). Istoria evreilor din Banat: o mărturie a multi- și interculturalității Europei central-orientale. Bucharest: Atlas. ISBN 9789739927543. OCLC 49578555.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 Neumann, Getta (2019). Pe urmele Timișoarei evreiești: mai mult decât un ghid. Timișoara: Brumar. ISBN 9786067261455.
- ↑ "Sinagoga Nouă din Fabric". Timisoara-Info.ro. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-15. สืบค้นเมื่อ 2023-01-15.
- ↑ Bălulescu, Lavinia (20 May 2009). "Teatrul salvează o sinagogă veche de 120 de ani". Adevărul.
- ↑ "Sinagoga din Fabric, închisă de 33 de ani, va intra în circuitul cultural al orașului". TION. 6 February 2018.
- ↑ 6.0 6.1 "Sinagoga din Fabric". Deștepți.ro.
- ↑ Pintilie, Ileana (2001–2002). "Interferențe regionale în arhitectura de stil 1900 reflectată în opera lui Lipót Baumhorn". Studii și comunicări. Arad. 7: 316–317.