แอลัน วอล์กเกอร์
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
แอลัน วอล์กเกอร์ | |
---|---|
วอล์กเกอร์ในปี ค.ศ. 2016 | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อเกิด | Alan Olav Walker |
รู้จักในชื่อ |
|
เกิด | [1] นอร์แทมป์ตันเชอร์ สหราชอาณาจักร | 24 สิงหาคม ค.ศ. 1997
ที่เกิด | แบร์เกน ประเทศนอร์เวย์ |
แนวเพลง | |
อาชีพ | |
เครื่องดนตรี | |
ช่วงปี | 2012–ปัจจุบัน |
ค่ายเพลง | |
เว็บไซต์ | alanwalker |
สัญชาติ | |
พลเมือง | Norway United Kingdom |
แอลัน โอลาฟ วอล์กเกอร์ (อังกฤษ: Alan Olav Walker) เป็นดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงชาวนอร์เวย์[2] เขาเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในซิงเกิลปี ค.ศ. 2015 "เฟเดด" (Faded) ซึ่งได้รับการรับรองระดับแพลตตินั่มกว่า 10 ประเทศ เขาติดอันดับที่ 36 ในชาร์ต 100 ดีเจยอดเยี่ยมของดีเจแม็ก (DJ Mag) ในปี ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นการร่วงลงมา 19 อันดับจากปีที่แล้ว[3]
ชีวิตในวัยเด็ก
[แก้]แอลัน วอล์กเกอร์ เป็นลูกชายของฮิลด์ อ็อมดอล วอล์กเกอร์ (Hilde Omdal Walker) ชาวนอร์เวย์ และฟิลิป แอลัน วอล์กเกอร์ (Philip Alan Walker) ชาวอังกฤษ[4][5] โดยเขาได้รับการรับรองว่าเป็นพลเมืองสองสัญชาติ (dual citizenship) ทั้งนอร์เวย์และสหราชอาณาจักรซึ่งยึดตามสัญชาติของพ่อและแม่ และเมื่ออายุได้ 2 ปี เขาจึงย้ายไปอยู่ที่แบร์เกน ประเทศนอร์เวย์ กับพ่อแม่และพี่สาวของเขา[6] วอล์กเกอร์เติบโตขึ้นมาพร้อมกับพี่น้อง 2 คน ซึ่งก็คือ คามิลลา (Camilla) พี่สาวคนโตที่เกิดในอังกฤษ และแอนเดรียส์ (Andreas) น้องชายที่เกิดในนอร์เวย์
การที่เติบโตมาในยุคดิจิทัลทำให้วอล์กเกอร์ค้นพบว่าเขามีความสนใจในคอมพิวเตอร์ในช่วงต้น ซึ่งต่อมากลายเป็นความหลงใหลในการเขียนโปรแกรมและการออกแบบกราฟิก ในตอนแรกเขาไม่มีพื้นฐานทางดนตรี แต่ต่อมาหลังจากนั้นเขาก็ได้เรียนรู้ด้วยตัวเองโดยการดูคลิปวิดีโอแนะนำบนยูทูบเพื่อเรียนรู้การผลิตเพลง[7]
อาชีพ
[แก้]2012–2015: เปิดตัวครั้งแรกบนโนก๊อปปี้ไรต์ซาวด์ส และ "เฟเดด"
[แก้]ในปี 2012, วอร์กเกอร์ได้ฟังเพลงของ เดวิต วิสเทิล (หรือที่รู้จักในนามดีเจนาส) และค้นหาวิธีการสร้างเพลง เขาได้รับแรงบันดาลใจจากโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ K-391 และ Ahrix, และยังได้รับอิทธิพลจากผู้เขียนภาพยนตร์ Hans Zimmer และ Steve Jablonsky[8] เขาเริ่มสร้างเพลงโดยใช้แลปท็อปของเขาเอง และโปรแกรม FL Studio ภายในห้องนอนของเขา[9] ในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2012 เขาได้รับความช่วยเหลือจากแฟนเพลงออนไลน์ และได้เริ่มผลิตเพลง รวมทั้งเริ่มเผยแพร่เพลงของเขาลงใน ยูทูบ และซาวน์คลาวน์
วอร์กเกอร์ได้เผยแพร่เพลง "เฟด" (Fade) ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2014.[10] เพลงนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากได้เผยแพร่อีกครั้งผ่านทางค่ายเพลงช NoCopyrightSounds ในวันที่ 19 พฤศจิกายน[11] วอร์กเกอร์ได้แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้จาก K-391 และ Ahrix ซึ่งผลงานของพวกเขา ถูกเลือกโดยค่ายเพลงนี้เช่นกัน เพลงนี้มียอดเข้ายมถึง 300 ล้านคนบน ยูทูบ,[12] 79 ล้านครั้ง บน Spotify,[13] และ 20 ล้านครั้งบน SoundCloud.[14] เพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงที่ยอดฮิตที่สุดในช่อง และได้ถูกนำไปใช้ประกอบวิดิโอจำนวนมากบน ยูทูบ หลังจากนั้น เพลง "สเปกเทอร์" (Spectre) และ "ฟอร์ซ" (Force) ก็ได้เผยแพร่ตามกันมาในปี ค.ศ. 2015.
วอร์กเกอร์ได้เซ็นสัญญากับ MER Musikk ภายใต้ Sony Music Sweden ในช่วงแรกที่ Gunnar Greve ได้โทรไปหาเขาเพื่อขอเซ็นสัญญา เขาได้ถามกลับไปว่า "ใครให้เบอร์ผมกับคุณไป" และไม่เคยคิดว่าจะต้องมีผู้จัดการ เพราะเขาเพียงต้องการแต่งเพลงเพื่อเป็นงานอดิเรก[9] ภายหลังที่ได้ร่วมงานกับ MER Musikk เขาได้เผยแพร่ซิงเกิลถัดมา "เฟเดด" (Faded) ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากเพลง "เฟด" (Fade) แนวคิดในการสร้างมิวสิควิดิโอนี้คือกลุ่มแฟนคลับเดิมของเขา ซึ่งเป็นนักเล่นเกม และการใส่หน้ากากและฮูดนั้น ก็เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพ และเพื่อให้ใครๆก็สามารถมาเป็นวอร์กเกอร์ได้[9] (วอร์กเกอร์ ในที่นี้ คือชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของแอลัน วอร์กเกอร์) เพลงนี้ถูกเผยแพร่ออกมาในวันที่ 8 ธันวาคม โดยมีนักร้องรับเชิญ Iselin Solheim มาร่วมร้อง[15] ซิงเกิลนี้ได้ขึ้นชาร์ตท้ายปีในประเทศออสเตรีย เยอรมนณี สวิตเซอร์แลนด์ และสวีเดน ไอทูนส์ ชาร์ตใน 32 ประเทศ รวมทั้งติด 10 อันดับเพลงใน Spotify Global Chart มิวสิควิดิโอเพลงนี้บน ยูทูบ มียอดเข้าชมมากกว่า 2.0 พันล้านครั้ง และมียอดถูกใจมากกว่า 13 ล้านครั้ง[16] ทำให้อยู่ในอันดับที่ 10 ของวิดิโอที่มียอดถูกใจมากที่สุดบน ยูทูบ. เพลงนี้ถูกเล่นมากกว่า 780 ล้านครั้งบน Spotify,[17] และยังอยู่ใน 10 อันดับเพลงเพลงที่ถูก Shazamed มากที่สุดในปี 2016[18] เพลงนี้ยังถูกรีมิกซ์อย่างเป็นทางการโดย Tiësto[19] Dash Berlin และ Hardwell ต่อมาเขาได้เผยแพร่เพลงนี้ในรูปแบบอะคูสติก "รีสตังค์" โดยส่วนที่เป็นดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จะถูกตัดออกทั้งหมด[20]
2016: การแสดงสด "ซิงมีทูสลีป" และ "อโลน"
[แก้]วอร์กเกอร์ออกจาก โรงเรียนมัธยมปลาย ในเดือนมกราคม[21]
วันที่ 27 กุมภาพันธ์, วอร์กเกอร์ได้แสดงสดครั้งแรกที่ Winter X Games ใน ออสโล โดยเขาได้แสดงสดไปทั้งสิ้น 15 เพลง รวมทั้งเพลง "เฟเดด" ร่วมกับนักร้องรับเชิญ Iselin Solheim.[22][23]
ในเดือนมีนาคม วอร์กเกอร์ได้ผลิตเพลงออกมาทั้งหมด 30 ถึง 40 เพลง แต่ "เฟเดด" เป็นซิงเกิลแรกของเขาที่ได้เซ็นสัญญากับ Sony Music สวีเดน และเป็นเพลงแรกที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก[24]
วันที่ 7 เมษายน วอร์กเกอร์ ได้ร่วมงานกับนักร้องชาวสวีเดน Zara Larsson ที่งาน Echo Awards ในประเทศเยอรมณี ทั้งคู่ได้ร่วมแสดงเพลงของตนเอง คือ "เฟเดด" และ "เนเวอร์ ฟอร์เก็ท ยู".[25] สี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น เพลงของเขาได้ติดอันดับ 1 ของ NRJ Euro Hot 30 เป็นครั้งงแรก ซี่งที่ผ่านมา มีศิลปินชาวนอร์เวย์เพียงคนเดียว ที่เคยติดอันดับชาร์ตนี้คือ ไคโก[26]
ซิงเกิล "ซิง มี ทู สลีพ" (Sing Me To Sleep) ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 3 มิถุนายน ร่วมกับนักร้องสาว Iselin Solheim ซึ่งเป็นนักร้องคนเดียวกันกับคนที่ร้องเพลง "เฟเดด". เพลงนี้ขึ้นอันดับไอทูนส์ ชาร์ต ใน 7 ประเทศ มิวสิควิดิโอเพลงนี้มีผู้ชมมากกว่า 400 ล้านครั้งบน ยูทูบ[27] และถูกเล่นมากกว่า 170 ล้านครั้งบนสปอทิฟาย[28]
ซิงเกิล "อโลน" (Alone) ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 1 ธันวาคม ร่วมกับนักร้องชาวสวีเดน Noonie Bao[29] มิวสิควิดิโอเพลงนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 740 ล้านครั้งบน ยูทูบ[30] ถูกเล่นมากกว่า 210 ครั้งบนสปอทิฟาย[31] กันนาร์ กรีฟ (Gunnar Greeve) ผู้จัดการของวอร์กเกอร์ และเป็นผู้แต่งเพลงร่วม ได้กล่าวว่า เพลงนี้เป็นบทสุดท้ายของไตรภาคที่ประกอบไปด้วย "เฟเดด" "ซิง มี ทู สลีพ" และ "อโลน[32]
วันที่ 21 และ 22 ธันวาคม วอร์กเกอร์ได้จัดคอนเสิร์ต "Alan Walker is Heading Home" ในบ้านเกิดของเขาที่เบอร์เกนเป็นครั้งแรกที่ USF Verftet โดยเขาได้แสดง 16 เพลง ร่วมกับ Angelina Jordan, Marius Samuelsen, Alexandra Rotan, Yosef Wolde-Mariam และ Tove Styrke ซึ่งเป็นนักร้องรับเชิญในงานนี้[33][34] คอนเสิร์ตนี้ถูกถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการบน ยูทูบ[35] เขายังได้เล่นเพลงที่ไม่เคยปล่อยออกมาก่อน รวมทั้ง "ซิง มี ทู สลีพ" ในเวอร์ชันรีสตัง (Restrung) รวมทั้งเพลงอื่นๆ เช่น "สกาย" (Sky) และ "เฮดดิง โฮม" (Heading Home) โดยเพลง "เฮดดิง โฮม" นั้น เขาเคยได้แสดงครั้งแรกที่งาน Winter X Games นอกจากคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังได้แสดงเพลง "เดอะ สเปกเทอร์" (The Spectre) ซึ่งเป็นเพลงที่ปรับปรุงใหม่จากเพลงเดิมของเขา "สเปกเทอร์" (Spectre)
วันที่ 23 ธันวาคม วอร์กเกอร์ได้ปล่อยมิวสิควิดิโอของซิงเกิล "รูทิน" (Routine) ซึ่งเขาได้แสดงไปเมื่อคอนเสิร์ตที่เบอร์เกนเมื่อ 2 วันก่อน และได้แสดงในคอนเสิร์ตของ "วอร์กเกอร์ ทัวร์" (Walker Tour) ในบางครั้ง เพลงนี้เป็นความร่วมมือกันกับ เดวิด วิสเทิล (David Whistle) หรือดีเจนาส (DJ Ness) เพลงนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 30 ล้านครั้งบน ยูทูบ[36] และมีผู้ฟังมากกว่า 23 ล้านครั้งบนสปอทิฟาย[37]
2017: "ไทร์เอ็ด", "เดอะสเปกเทอร์" และ "ออลล์ฟอลส์ดาวน์"
[แก้]ในช่วงต้นปี 2017 ช่องบน ยูทูบของวอร์กเกอร์ ได้กลายเป็นช่อง ยูทูบในประเทศนอร์เวย์ ที่มีผู้ติดตามมากที่สุด โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 4.5 ล้านคน และมียอดเข้าชมใน ยูทูบมากที่สุดในบรรดาช่องของชาวนอร์เวย์ เป็นจำนวน 3.4 พันล้านครั้งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2018[38][2]
วันที่ 7 เมษายน วอร์กเกอร์ได้ปล่อยเพลง "อิกไนต์" (Ignite) ในรูปแบบของดนตรีอย่างเดียว (Instrumental version) ซึ่งเป็นการร่วมงานกับโปรดิวเซอร์เพลง และนักแต่งเพลงชาวนอย์เวย์ K-391 โดยเพลงนี้ถูกปล่อยมาเพื่อใช้ในงานเปิดตัวของโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Sony Xperia XZs
วันที่ 19 พฤษภาคม วอร์กเกอร์ได้ปล่อยเพลงแรก ที่มีนักร้องชายมาร่วมร้อง โดย Gavin James นักร้อง และนักแต่งเพลงชาวไอร์แลนด์ ในชื่อเพลง "ไทร์" (Tired). มิวสิควิดิโอเพลงนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 102 ล้านครั้งบน ยูทูบ[39]
วันที่ 27 พฤษภาคม วอร์กเกอร์ได้ปล่อยวิดิโอสารคดีของเขาในชื่อ Alan Walker Unmasked ตอนที่ 1 โดยจะเล่าถึงประวัติชีวิตในช่วงแรกของเขา การทำเพลง "เฟเดด" (Faded) จนกระทั่งเขาประสบความสำเร็จจากเพลง "เฟเดด" [40] โดยสารคดีชุดนี้ มีทั้งสิ้น 3 ตอน โดยตอนที่ 2 จะเกี่ยวกับการแสดงสด[41] และตอนที่ 3 เล่าเกี่ยวกับการเป็นโปรดิวเซอร์เพลงของเขา[42] โดยถูกปล่อยตามมาในวันที่ 23 กันยายน และ 28 กุมภาพันธ์ในปีถัดมาตามลำดับ[41][42]
วันที่ 9 มิถุนายน เขาได้ปล่อยเพลงที่เขาได้ร่วมงานกับ Dane Alex Skrindo "สกาย" (Sky) ในอัลบัม Insomniac Records Presents: EDC Las Vegas 2017. มิวสิควิดิโอเพลงนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 36 ล้านครั้งบน ยูทูบ[43]
วันที่ 15 กันยายน เขาได้ปล่อยเพลง "เดอะสเปกเทอร์" (The Spectre) ซึ่งได้เพิ่มเนื้อเพลงเข้าไปในเพลง "สเปกเทอร์" (Spectre) ซึ่งเป็นซิงเกิลของเขาตั้งแต่ปี 2015 มิวสิควิดิโอเพลงนี้ ได้รวบรวมวิดิโอที่เขาได้ถ่ายไว้จากคอนเสิร์ต ร่วมกับทีมนักเต้นซึ่งใส่ชุดสีขาว และหมวกกันน็อคสีดำ มิวสิควิดิโอนี้ มีผู้เข้าชมมากกว่า 460 ล้านครั้งบน ยูทูบ[44]
วันที่ 27 ตุลาคม วอร์กเกอร์ได้ปล่อยเพลง "ออลฟอลส์ดาวน์" (All Falls Down) ร่วมกับ Noah Cyrus นักร้องชาวอเมริกัน และ Digital Farm Animals ดีเจชาว และโปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษ เนื้อหาในวิดิโอนี้จะต่อเนื่องจากเพลงที่แล้ว "ไทร์" (Tired) มิวสิควิดิโอเพลงนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 132 ล้านครั้งบน ยูทูบ[45][46]
2018–ปัจจุบัน: "ดาร์กไซด์", "ไดมอนด์ฮาร์ต" และ "ดิฟเฟอเรนต์เวิลด์"
[แก้]ในปีนี้ วอร์กเกอร์ได้กลายเป็น ยูทูบเบอร์อันดับ 1 ของนอร์เวย์ ด้วยยอดผู้ติดตามมากกว่า 19 ล้านคน[47] ในวันที่ 16 มกราคม เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Fuse และเปิดเผยว่า อัลบั้มจะถูกเผยแพร่ในปีนี้ "มันกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ยังไม่เสร็จสิ้น" วอร์กเกอร์กล่าว "ผมไม่สามารถบอกอะไรได้มาก แต่ผมรู้สึกตื่นเต้นกับมันมากๆ"[48]
วันที่ 23 มีนาคม วอร์กเกอร์ได้ปล่อยเพลงในรูปแบบรีลิฟ (Relift) ของ "ดีส อีส มี" (This Is Me) ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ โชว์แมนบันลือโลก (The Greatest Showman) โดยมิวสิควิดิโอนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 12 ล้านครั้งบน ยูทูบ[49]
วันที่ 11 พฤษภาคม วอร์กเกอร์ และโปรดิวเซอร์เพลงชาวนอร์เวย์ K-391 (Kenneth Nilsen) ได้แผยแพร่เพลง "อิกไนต์" (Ignite) ในเวอร์ชันที่มีเสียงร้อง ซึ่งมี Julie Bergan South Korean และ Seungri มาเป็นนักแสดงรับเชิญ[50][51][52] มิวสิควิดิโอถูกเผยแพร่ในวันที่ 12 พฤษภาคมในช่อง ยูทูบของ K-391 เนื่องจาก Nilsen เป็นศิลปินหลักในการแต่งเพลงนี้ขึ้นมา[50] มิวสิควิดิโอนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 100 ล้านครั้งแล้วในเดือนพฤศจิกายน 2018[53][54]
วันที่ 27 กรกฎาคม วอร์กเกอร์ได้เผยแพร่เพลง "ดาร์กไซด์" (Darkside) ร่วมกับนักร้องรับเชิญ Au/Ra และนักร้องชาวนอร์เวย์ Tomine Harket[55]
วันที่ 21 สิงหาคม วอร์กเกอร์ได้กลับมาอัปโหลดอันมาส์ค ซีรีส์ (Unmasked series) อีกครั้ง ในรูปแบบของ วล็อก (vlog) ซึ่งจะเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขา รวมทั้งชีวิตของเขาในระหว่างที่เขาออกทัวร์คอนเสิร์ต[56] ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 7 ตอน
วันที่ 30 สิงหาคม วอร์กเกอร์ได้เผยแพร่เพลงในรูปแบบรีลิฟ (Relift) ของ "ชีพ" (Sheep) โดยสมาชิกวง เอ็กโซ เลย์.[57]
วันที่ 22 กันยายน เขาได้เผยแพร่ตัวอย่างเพลง "ไดมอนด์ฮาร์ท" (Diamond Heart) ที่เดิมถูกเรียกว่าเป็นเพลง "เฟเดด 2.0" ร่วมกับ Sophia Somajo โดยเพลงนี้ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กันยายน.[58] ซึ่งถือได้ว่าเป็นตอนจบของไตร์ภาค "เวิร์ล ออฟ วอร์กเกอร์" (World Of Walker) ซึ่งมี "ไทร์" (Tired) เป็นปฐมบท "ออลฟอลส์ดาวน์" (All Falls Down) เป็นบทที่ 1 "ดาร์กไซด์" (Darkside) เป็นบทที่ 2 และมี "ไดมอนด์ฮาร์ท" (Diamond Heart) รวมถึง "ออน มาย เวย์" (On My Way) เป็นบทสุดท้ายของไตรภาคนี้[59][60] และเขาได้เผยแพร่วิดิโอเนื้อเพลงในวันที่ 11 ตุลาคม โดยแอลัน วอร์กเกอร์ (วอร์กเกอร์ #0 ) ได้ขอให้วอร์กเกอร์ ใส่ฮูด และหน้ากากสีดำ และช่วยกันถือเนื้อเพลงคนละท่อน เพื่อนำมาทำเป็นวิดิโอเนื้อเพลงนี้ [61]
ผลงาน
[แก้]ทัวร์คอนเสิร์ต
[แก้]- หลัก
- The Walker Tour (2016–2018)[62]
- World of Walker Tour: Part I (2018)[63]
- Different World Tour (2018-2019)[64]
- Aviation Tour (2019)
- สมทบ
- Rihanna – Anti World Tour (2016)[65]
- Justin Bieber – Purpose World Tour (2017)[66]
- Martin Garrix – Thursdays At Ushuaïa[67]
การแสดงสดในประเทศไทย
[แก้]- ONYX ในวันที่ 15 ธันวาคม 2560[68]
- Together Festival 2018 ณ ไบเทค บางนา ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2561[69][70]
- Spotify On Stage 2018 ณ เซ็นเตอร์พอยท์ สตูดิโอ (ซอยลาซาล) ในวันที่ 20 ตุลาคม 2561 ร่วมกับจูเลีย เบอร์เกน[71][72][73]
- Maya music festival 2020 ณ Maya space, พัทยา ในคืนวันที่ 31 มกราคม 2563[74][75]
รางวัลและการเสนอชื่อ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Litleskare, Tord (8 December 2017). "Feirer bursdagen i hjembyen med massivt show". gaffa.no (ภาษานอร์เวย์). GAFFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-10-11. สืบค้นเมื่อ 10 October 2018.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "Alan Walker talks fame, gaming and music-making". DJ Mag. 11 March 2018.
- ↑ DJ Mag staff; Guttridge-Hewitt, Martin (11 October 2018). "Alan Walker". DJ Mag. สืบค้นเมื่อ 2 November 2018.
- ↑ "Spellemannprisen 2016, Årets låt - Faded". NRK. สืบค้นเมื่อ 28 February 2018.
- ↑ "Alan Walker: Unmasked (Episode 3)". Alan Walker on YouTube. สืบค้นเมื่อ 28 February 2018.
- ↑ "Alan Walker droppar maska". NRK. 9 November 2016.
- ↑ "Alan Walker - Q&A #1". YouTube. 12 August 2016.
- ↑ Alan Walker (10 February 2016), Alan Walker - Interview No. 1 (Behind The Scenes), สืบค้นเมื่อ 2 February 2017
- ↑ 9.0 9.1 9.2 Alan Walker: Unmasked (Episode 1). Alan Walker on YouTube. สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2561.
- ↑ Alan Walker (17 August 2014), Alan Walker - Fade, สืบค้นเมื่อ 6 February 2017
- ↑ NoCopyrightSounds (19 November 2014), Alan Walker - Fade [NCS Release], สืบค้นเมื่อ 6 February 2017
- ↑ "Alan Walker - Fade". YouTube. สืบค้นเมื่อ 12 July 2017.
- ↑ "Fade - Alan Walker". Spotify. สืบค้นเมื่อ 1 January 2018.
- ↑ "Alan Walker - Fade [NCS Release]". SoundCloud. สืบค้นเมื่อ 17 January 2017.
- ↑ "Best Songs We Heard This Week: Jeremih, The 1975, Alan Walker + More".
- ↑ "Alan Walker - Faded". YouTube. สืบค้นเมื่อ 29 March 2017.
- ↑ "Faded - Alan Walker". Spotify. สืบค้นเมื่อ 10 December 2016.
- ↑ Blake, Emily. "Alan Walker, the 18-year-old behind that 'Faded' song, tells us what's next".
- ↑ "Alan Walker: From Bedroom Producer to Official Sia Remixer". Billboard. สืบค้นเมื่อ 10 December 2016.
- ↑ Alan Walker (11 February 2016), Alan Walker - Faded (Restrung), สืบค้นเมื่อ 2 February 2017
- ↑ "EXCLUSIVE: Interview with 'Faded' hit maker Alan Walker". สืบค้นเมื่อ 18 January 2017 – โดยทาง CelebMix.
- ↑ "DJ Alan Walker celebrates X Games Oslo". X Games. ESPN. 1 March 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-09. สืบค้นเมื่อ 13 March 2016.
- ↑ "Alan Walker @ X Games Oslo 2016 - Live Tracklist". 2 April 2016.
- ↑ Blake, Emily. "Alan Walker, the 18-year-old behind that 'Faded' song, tells us what's next".
- ↑ "Big in Germany: Se Alan Walker feat. Zara Larsson på tyske Grammy's". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-11. สืบค้นเมื่อ 2018-11-11.
- ↑ "Se Zara Larsson gjøre Alan Walkers Faded" [See Zara Larsson do Alan Walker's Faded]. NRJ.no (ภาษานอร์เวย์). 4 November 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-10. สืบค้นเมื่อ 2018-11-11.
- ↑ "Alan Walker - Sing Me to Sleep". YouTube. สืบค้นเมื่อ 17 January 2017.
- ↑ "Sing Me To Sleep - Alan Walker". Spotify. สืบค้นเมื่อ 10 December 2016.
- ↑ "Se Alan Walkers Ulriken-video her. Nå skal den ut til hele verden". Bergens Tidende. bt.no. December 2, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-02.
- ↑ "Alan Walker - Alone". YouTube.
- ↑ "Alone - Alan Walker". Spotify. สืบค้นเมื่อ 17 January 2017.
- ↑ "Alan Walker - The Making of Alone (Behind The Scenes)". YouTube. Alan Walker.
- ↑ Alan Walker (11 January 2017). "Alan Walker - Alone (Live Performance)" – โดยทาง YouTube.
- ↑ "Alan Walker is Heading Home Bergen, Norway 2016 - Live Tracklist". 22 December 2016.
- ↑ "Alan Walker is Heading Home". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-23. สืบค้นเมื่อ 2018-11-11.
- ↑ Alan Walker (23 December 2016), Alan Walker x David Whistle - Routine, สืบค้นเมื่อ 3 February 2017
- ↑ "Routine - Alan Walker". Spotify. สืบค้นเมื่อ 3 February 2017.
- ↑ "Toppliste for norske Youtubere – Nordic Screens". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-13. สืบค้นเมื่อ 2018-11-11.
- ↑ "Alan Walker ft. Gavin James - Tired". YouTube. 19 May 2017. สืบค้นเมื่อ 28 June 2017.
- ↑ Alan Walker: Unmasked (Episode 1). Youtube. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2561
- ↑ 41.0 41.1 Alan Walker: Unmasked (Episode 2). Youtube. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2561
- ↑ 42.0 42.1 Alan Walker: Unmasked (Episode 3). Youtube. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2561
- ↑ Matthew Meadow (7 June 2017). "Alan Walker Drops New Track on EDC Compilation with Alex Skrindo". Your EDM. สืบค้นเมื่อ 9 June 2017.
- ↑ Alan Walker - The Spectre. บน Youtube. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2018.
- ↑ "Alan Walker Brings the Feel-Good Vibes With Noah Cyrus & Digital Farm Animals on 'All Falls Down'". Billboard. Tatiana Cirisano. สืบค้นเมื่อ 27 October 2017.
- ↑ "Alan Walker - All Falls Down (feat. Noah Cyrus with Digital Farm Animals)". YouTube. 27 October 2017. สืบค้นเมื่อ 15 September 2018.
- ↑ "Norway's All Time Most Subscribed YouTube Channels". Dbase. 11 June 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-13. สืบค้นเมื่อ 2018-11-10.
- ↑ "Noah Cyrus and Alan Walker Talk Their Single 'All Falls Down' and Global Domination". Fuse. 16 January 2018.
- ↑ Alan Walker, Keala Settle & The Greatest Showman Ensemble - This Is Me (Alan Walker Relift). Youtube. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2018
- ↑ 50.0 50.1 "K-391 and Alan Walker Releases Gorgeous Vocal Version of 'Ignite'". EDM Sauce. 11 May 2018.
- ↑ "Innovative artist concept K-391 releases debut single, "Ignite" featuring Alan Walker, Julie Bergan and Seungri". Vents Magazine. 11 May 2018.
- ↑ "BIGBANG's Seungri Teams Up With DJ Alan Walker And Julie Bergan For Special Collaboration". soompi. 9 May 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-13. สืบค้นเมื่อ 2018-11-10.
- ↑ "Alan Walker & K-391 release a refreshed version of 'Ignite,' with Julie Bergan and SEUNGRI". Dancing Astronaut. 4 June 2018.
- ↑ "K-391 & Alan Walker - Ignite (feat. Julie Bergan & Seungri)". YouTube. 12 May 2018.
- ↑ Fold, The. "Alan Walker - Darkside feat. Au/Ra & Tomine Harket". Alan Walker. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-08-06. สืบค้นเมื่อ 2018-08-06.
- ↑ Alan Walker: Unmasked Vlog (#1). Youtube. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2018
- ↑ "Lay – Sheep (Alan Walker Relift)". Alan Walker. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-21. สืบค้นเมื่อ 2 September 2018.
- ↑ "Alan Walker feat. Sophia Somajo - Diamond Heart (Trailer)". YouTube. 22 September 2018. สืบค้นเมื่อ 22 September 2018.
- ↑ Alan Walker - Darkside (Trailer). Youtube. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2018.
- ↑ Alan Walker feat. Sophia Somajo - Diamond Heart (Trailer). Youtube. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2018.
- ↑ Alan Walker - Diamond Heart feat. Sophia Somajo (Lyric Video). Alan Walker on Youtube. สืบค้นเมือ 10 พฤศจิกายน 2561
- ↑ Studio, Defy. "The Walker Tour". Alan Walker. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-19. สืบค้นเมื่อ 2018-01-09.
- ↑ "World of Walker Tour". Facebook - Alan Walker.
- ↑ Meier, Sam (13 November 2018). "Alan Walker Announces 'Different World Tour'". promotionmusicnews.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-11-16. สืบค้นเมื่อ 16 November 2018.
- ↑ "Alan Walker varmer opp for Rihanna".
- ↑ "Alan Walker to join Justin Bieber on India Tour".
- ↑ Andrew Rafter (9 June 2017). "Martin Garrix Reveals Full Line-Up For Thursdays At Ushuaïa In Ibiza". DJ Mag. สืบค้นเมื่อ 13 June 2017.
- ↑ การซื้อบัตร Alan Walker วันที่ 15 ธันวาคม 2017. ONYX ใน Facebook. สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2561.
- ↑ Tour Dates. เก็บถาวร 2018-12-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Alan Walker. สืบค้นเมื่อ 3 พฤษภาคม 2561.
- ↑ โพสต์ของ Alan Walker. Alan Walker บน Facebook สืบค้นเมื่อ 15 มีนาคม 2561.
- ↑ Tour Dates. เก็บถาวร 2018-12-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Alan Walker. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2561.
- ↑ Spotify On Stage. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2561.
- ↑ โพสต์ของ Alan Walker. Alan Walker บน Facebook สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2561.
- ↑ https://www.bandsintown.com/e/1018149796?app_id=thefold&came_from=267&utm_medium=api&utm_source=public_api&utm_campaign=event
- ↑ https://www.facebook.com/mayamusicfest/photos/a.1533536673581711/2568030570132311/?type=3&theater