แม็คลาเรน 12ซี
แม็คลาเรน 12ซี | |
---|---|
ภาพรวม | |
บริษัทผู้ผลิต | แม็คลาเรน ออโตโมทีฟ |
เริ่มผลิตเมื่อ | ค.ศ. 2011 – 2014 |
แหล่งผลิต | โวคิง, เซอร์รีย์, สหราชอาณาจักร |
ผู้ออกแบบ | แฟรงก์ สตีเฟนสัน (Frank Stephenson) |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
ประเภท | รถยนต์นั่งสมรรถนะสูง (Sports car) |
รูปแบบตัวถัง | 2 ประตู คูเป 2 ประตู โรดสเตอร์ |
โครงสร้าง | เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) |
จำนวนประตู | 2 แบบบัตเทอร์ฟลายดอร์ (Butterfly doors) |
รุ่นที่คล้ายกัน | แม็คลาเรน 650เอส แม็คลาเรน พี1 |
ระบบส่งกำลัง | |
เครื่องยนต์ | 3.8 L แม็คลาเรน M838T ทวิน-เทอร์โบ V8 |
ระบบเกียร์ | เกียร์ดูอัล-คลัช 7 จังหวะ 7-speed SSG Graziano |
มิติ | |
ระยะฐานล้อ | 2,670 mm (105.1 in)[1] |
ความยาว | 4,509 mm (177.5 in)[1] |
ความกว้าง | 1,908 mm (75.1 in)[1] |
ความสูง | 1,199 mm (47.2 in)[1] |
น้ำหนัก | 1,434 kg (3,161 lb)[2] |
ระยะเหตุการณ์ | |
รุ่นต่อไป | แม็คลาเรน 650เอส |
แม็คลาเรน 12ซี (อังกฤษ: McLaren 12C) หรือที่รู้จักกันในชื่อ แม็คลาเรน เอ็มพี4-12ซี (อังกฤษ: McLaren MP4-12C)[3] เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัท แม็คลาเรน ออโตโมทีฟ บริษัทสัญชาติอังกฤษ รถได้เปิดตัวภายหลังการหายหน้าไปของรถจากค่ายแม็คลาเรน นับตั้งแต่สิ้นสุดสายการผลิต แม็คลาเรน เอฟ1 ในปี ค.ศ. 1998 และในเดือนกันยายน ปี ค.ศ.2009 12ซี ก็ได้รับการเปิดตัว และเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางปี ค.ศ. 2011
เอ็มพี4-12ซี ได้รับการออกแบบโดย แฟรงค์ สเตเฟนสัน (Frank Stephenson) นักออกแบบรถยนต์ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง รถทำจาก คาร์บอน ไฟเบอร์ และกำลังจากเครื่องยนตร์กลางลำท้ายจากแมคลาเรน รุ่น M838T ขนาด 3.8 ลิตร วี8 ทวิน-เทอร์โบ สามารถทำกลังได้ถึง 592 แรงม้า (441 kW; 600 PS) และให้แรงบิดที่ 601 นิวตัว/เมตร (443 lb·ft) รถได้นำเทคโนโลยีจากฟอร์มูลาวันมาปรับใช้ อาทิเช่น "เบรกพวงมาลัย" (Brake steer)[4] ที่ทำให้ล้อหลังเบรกขณะทำความเร็วในช่วงโค้งเพื่อลดการเลี้ยวช้าของพวงมาลัย สำหรับระบบเกียร์ เป็นเกียร์ 7 จังหวะ ชนิดดูอัล-คลัทซ์
รถสามารถทำความเร็วสูงสุดอ้างอิงจากค่ายรถได้ถึง 333 กม./ชม. (207 ไมล์/ชม.)[5] แต่จริงแล้วสามารถทำได้ถึง 343 กม./ชม. (213.2 ไมล์/ชม.)[6] อ้างอิงจากสปอร์ตออโต้.ดีอี ในส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อ้างอิงจาก แดรกไทม์.คอม ได้โพสต์ลงยูทูปว่า 12ซี สามารถทำได้ที่ 2.8 วินาที[7] จึงเป็นรถที่แรงที่สุดอันดับที่ 3 ที่มีขายในท้องตลาด ในขณะนั้น
โฉมเปิดประทุน ในปี ค.ศ. 2012 ใช้ชื่อใหม่ว่า เอ็มพี4-12ซี สไปเดอร์ (MP4-12C Spider) ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 แม็คลาเรนก็ได้เปิดตัว รุ่นต่อมาของ 12ซี คือ แม็คลาเรน 650เอส มาพร้อมกับการปรับปรุงส่วนของตัวถัง มีการพัฒนาเครื่องยนตร์และเทคโนเลยีทางเทคนิคอื่นๆ ในเดือนเมษายน 2014 แมคลาเรนก็ได้ยุติสายการผลิต 12ซี และให้ 650เอส มาเป็นรุ่นต่อไป[8]
ชื่อ
[แก้]ชื่อของ เอ็มพี4-12ซี โดย เอ็มพี4 ย่อมาจาก McLaren Project 4 (ในอดีต "เอ็ม" หมายถึง มาร์ลโบโล บริษัทผลิตบุหรี่ ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักของแม็คลาเรน) ส่วน 12 อ้างอิงถึง "คุณภาพ" ที่อ้างอิงจาก กำลัง น้ำหนัก อัตราการปล่อยคาร์บอนไดอ็อกไซด์ และระบบแอโรไดนามิก ซึ่งเป็นบรรทัดฐานของการผลิตทุกรุ่นของแม็คลาเรน และ ซี หมายถึง คาร์บอน ซึ่งต้องการเน้นถึงอนาคตที่แม็คลาเรนจะใช้วัสดุตัวถังนี้ในวงการมอเตอร์สปอร์ตต่อไป
โฉมย่อย
[แก้]- สไปเดอร์
- เอชเอส
- แคน-แอม
- เอ็กซ์-วัน
แกลอรี่โฉมย่อย
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 "McLaren 12C Specifications". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-15. สืบค้นเมื่อ 19 March 2014.
- ↑ "McLaren 12C Specifications PDF" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-03-18. สืบค้นเมื่อ 19 March 2014.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-05. สืบค้นเมื่อ 2015-04-14.
- ↑ http://www.autoblog.com/2009/09/08/mclaren-mp4-12c-first-batch-of-details-and-images-surface/
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-06. สืบค้นเมื่อ 2015-04-14.
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=dg8Vn3Yso-U
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=zhhxptV2bZ8
- ↑ http://www.evo.co.uk/news/evonews/260200/mclaren_12c_supercar_discontinued.html