สมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน
สมเด็จพระราชินีเลติเซีย | |||||
---|---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชินีแห่งสเปน | |||||
ดำรงพระยศ | 19 มิถุนายน ค.ศ. 2014 – ปัจจุบัน | ||||
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชินีโซเฟีย | ||||
พระราชสมภพ | โอบิเอโด แคว้นอัสตูเรียส ประเทศสเปน | 15 กันยายน ค.ศ. 1972||||
พระราชสวามี | อาลอนโซ เกร์เรโร เปเรซ (ค.ศ. 1998–1999) สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 (ค.ศ. 2004–ปัจจุบัน) | ||||
| |||||
พระบุตร | เลโอนอร์ เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส อินฟันตาโซฟิอาแห่งสเปน | ||||
ราชวงศ์ | บูร์บง (อภิเษกสมรส) | ||||
พระราชบิดา | เฆซุส โฆเซ ออร์ติซ อัลบาเรซ | ||||
พระราชมารดา | มาริอา เด ลา ปาโลมา โรกาโซลาโน โรดริเกซ | ||||
ลายพระอภิไธย |
พระราชวงศ์สเปน |
---|
พระราชวงศ์ส่วนขยาย
|
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระราชินีเลติเซีย | |
---|---|
ตราประจำพระอิสริยยศ | |
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
การทูล | Her Majesty (ใต้ฝ่าละอองพระบาท) |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | Your Majesty (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ) |
สมเด็จพระราชินีเลติเซีย (สเปน: la Reina Doña Letizia, ออกเสียง: [leˈti.θja]; 15 กันยายน ค.ศ. 1972) มีพระนามเดิมว่า เลติเซีย ออร์ติซ โรกาโซลาโน (Letizia Ortiz Rocasolano) เป็นอดีตนักหนังสือพิมพ์และผู้ประกาศข่าว ที่ต่อมาได้เป็นพระราชินีในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน
เลติเซียได้เป็น เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส จากการอภิเษกสมรสกับเจ้าชายเฟลิเปแห่งอัสตูเรียส รัชทายาทแห่งสเปน จนกระทั่งวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 2014 เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 ทรงประกาศที่จะสละราชบัลลังก์ และเห็นชอบที่เจ้าชายแห่งอัสตูเรียสจะขึ้นสืบราชสมบัติ จนเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนปีนั้นได้มีประกาศว่าจะมีพิธีสืบราชบัลลังก์ของเจ้าชายแห่งอัสตูเรียสภายในวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2014 ด้วยเหตุนี้หลังจากพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 พระราชสวามี พระองค์จึงได้เป็น สมเด็จพระราชินีแห่งสเปน ในเวลาต่อมา[1]
พระประวัติ
[แก้]เลติเซีย ออร์ติซ โรกาโซลาโน เสด็จพระราชสมภพที่เมืองโอบิเอโด แคว้นอัสตูเรียส ประเทศสเปน เป็นบุตรคนโตของเฆซุส โฆเซ ออร์ติซ อัลบาเรซ (Jesús José Ortiz Álvarez; ค.ศ. 1949) นักหนังสือพิมพ์ กับภรรยาคนแรกที่ชื่อ มาริอา เด ลา ปาโลมา โรกาโซลาโน โรดริเกซ (María de la Paloma Rocasolano Rodríguez; ค.ศ. 1952) พยาบาลวิชาชีพ และตัวแทนของสหภาพโรงพยาบาล[2] พระองค์มีพระขนิษฐาสองท่าน คือ
- เตลมา ออร์ติซ โรกาโซลาโน (Telma Ortiz Rocasolano; 25 ตุลาคม ค.ศ. 1973) นักเศรษฐศาสตร์ สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา มีบุตรสาวหนึ่งคนชื่อ อามันดา เกิดกับสามีที่มิได้จดทะเบียนสมรสชื่อ เอนริเก มาร์ติน-ยอป (Enrique Martín-Llop)
- เอริกา ออร์ติซ โรกาโซลาโน (Érika Ortiz Rocasolano; 16 เมษายน ค.ศ. 1975 – 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007)[3] สำเร็จการศึกษาด้านวิจิตรศิลป์ ทำงานเกี่ยวกับวรรณกรรม ภายหลังได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และเสียชีวิตเนื่องจากกินยาเกินขนาด[4]
ภายหลังบิดาและมารดาของพระองค์ได้หย่าร้างกันในปี ค.ศ. 1997 บิดาได้สมรสครั้งที่สองในปี ค.ศ. 2001 และครั้งที่สามในปี ค.ศ. 2004 กับอานา โตโกเรส ที่เป็นนักหนังสือพิมพ์เช่นกัน
พื้นฐานครอบครัว
[แก้]พระอัยกาฝ่ายพระบิดา (ปู่) ของพระองค์คือ โฆเซ ลุยส์ ออร์ติซ เบลัสโก (José Luis Ortiz Velasco; ค.ศ. 1923-2005) พนักงานเกษียณอายุที่โอลีเวตตี ปัจจุบันเสียชีวิตด้วยโรคปอด[5] กับภริยาคือพระอัยยิกา (ย่า) ของพระองค์ มาริอา เดล การ์เมน "เมนชู" อัลบาเรซ เดล บาเย (María del Carmen "Menchu" Álvarez del Valle; ค.ศ. 1928) ผู้ประกาศทางวิทยุที่มีชื่อเสียงในอัสตูเรียสกว่า 40 ปี ส่วนพระอัยกาฝ่ายพระมารดา (ตา) ฟรันซิสโก ฆูลิโอ โรกาซาลาโน กามาโช (Francisco Julio Rocasolano Camacho; ค.ศ. 1918) ช่างและเป็นคนขับแท็กซี่ในกรุงมาดริดกว่า 20 ปี[6] เขามีเชื้อสายฝรั่งเศสและอุตซิตา[7] ส่วนภริยาชื่อ เอนริเกตา โรดริเกซ ฟิเกเรโด (Enriqueta Rodríguez Figueredo; ค.ศ. 1919-2008) นางมีบิดาเป็นชาวสเปนที่เกิดในประเทศฟิลิปปินส์[8]
ทั้งนี้พระองค์เป็นที่นิยมเพราะพระองค์มิได้สืบเชื้อสายมาจากชนชั้นสูง โดยเฉพาะฝ่ายพระมารดาที่มีพื้นฐานเป็นชนชั้นแรงงาน ทว่าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษรายหนึ่งได้เปิดเผยข้อมูลบรรพบุรุษฝ่ายพระบิดาว่าสืบเชื้อสายมาจากขุนนางยุคกลางในอาณาจักรกัสติยา[9]
นอกจากนี้สมเด็จพระราชินีเลติเซีย ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับบิกตอร์ เอลิอัส (Víctor Elías) นักแสดงชาวสเปน[10]
การศึกษาและการทำงาน
[แก้]สมเด็จพระราชินีเลติเซีย ทรงเข้ารับการศึกษาครั้งแรกที่โรงเรียนลาเฆสตา (La Gesta) ที่เมืองโอบิเอโดบ้านเกิดของพระองค์ ครั้นเมื่อครอบครัวย้ายไปตั้งถิ่นฐานในมาดริด พระองค์จึงย้ายเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมัธยมรามิโร เด มาเอซตู (Ramiro de Maeztu)[11] พระองค์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสารสนเทศ คณะสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกอมปลูเตนเซแห่งมาดริด และปริญญาโทสารสนเทศศาสตร์ภาพและเสียง จากสถาบันโสตสารสนเทศศาสตร์ (Institute for Studies in Audiovisual Journalism)[12]
ระหว่างที่ทรงศึกษานั้น พระองค์ได้ทำงานให้กับหนังสือพิมพ์รายวันของอัสตูเรียสที่ชื่อ ลานวยบาเอสปัญญา (La Nueva España) ต่อมาได้ทำงานกับหนังสือพิมพ์เอบีซี (ABC) และสำนักข่าวเอเฟ (EFE)[11][12] หลังจากสำเร็จการศึกษาได้ทรงงานที่กัวดาลาฮาราในเม็กซิโก ให้หนังสือพิมพ์ "ศตวรรษที่ 21" (Siglo XXI) เมื่อพระองค์ได้กลับมายังประเทศสเปน ทรงทำงานให้กับช่องข่าวเศรษฐกิจบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ภาคภาษาสเปน ก่อนที่จะทำงานในสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นพลัส (CNN+) ในเวลาต่อมา[12]
ปี ค.ศ. 2000 พระองค์ได้ย้ายมาทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์เตอูเบเอ (TVE) โดยทำงานในรายการข่าว 24 ชั่วโมง (24 Horas) ต่อมาในปี ค.ศ. 2002 พระองค์ได้เป็นผู้ประกาศข่าวรายสัปดาห์ในรายการ อินฟอร์เมเซมานัล (Informe Semanal) และเป็นผู้ประกาศข่าวตอนเช้าของรายการ เตเลเดียริโอมาตินัล (Telediario Matinal) ทางสถานีเตอูเบเอ ช่อง 1[11][12] เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2003 ก่อนการหมั้นกับเจ้าชายแห่งอัสตูเรียสไม่นาน พระองค์ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้ประกาศข่าวตอนเย็นในรายการ เตเลเดียริโอโดส (Telediario 2) อันเป็นรายการข่าวที่มีผู้ชมมากที่สุดในสเปน
สมรสครั้งแรก
[แก้]สมเด็จพระราชินีเลติเซีย สมรสครั้งแรกกับอาลอนโซ เกร์เรโร เปเรซ (Alonso Guerrero Pérez; ค.ศ. 1962) บุตรของฆวน ฟรันซิสโก เกร์เรโร (Juan Francisco Guerrero) กับมาริอา เด โลส โดโลเรส เปเรซ ดิอัซ (María de los Dolores Pérez Díaz) อาลอนโซสำเร็จการศึกษาสาขาปรัชญาจากมหาวิทยาลัยเอซเตรมาดูรา เป็นทั้งนักเขียนและครูสอนวิชาวรรณกรรมในโรงเรียนมัธยม อาลอนโซและสมเด็จพระราชินีเลติเซียได้จัดพิธีสมรสกันเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1999 ที่อัลเมนดราเลโค (Almendralejo) ในบาดาโฆซ (Badajoz) หลังจากที่ทั้งสองคบหากันมา 10 ปี[13] แต่ชีวิตรักกลับไม่ราบรื่น ทั้งสองจึงหย่ากันในปีถัดมาและไม่มีบุตรด้วยกัน ภายหลังอาลอนโซได้สมรสใหม่กับมาริอา เดล การ์เมน อัสเตโร มาร์ติน (María del Carmen Astero Martín) ซึ่งมีอาชีพเป็นครูเช่นเขา[14]
อภิเษกสมรสกับเจ้าชายแห่งอัสตูเรียส
[แก้]วันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003 ทางสำนักพระราชวังประกาศว่า เฟลิเป เจ้าชายแห่งอัสตูเรียสจะทรงหมั้นกับเลติเซีย ออร์ติซ อันสร้างความประหลาดใจแห่งพสกนิกร[12] หลังจากนั้นเลติเซียได้ย้ายไปพำนักในพระราชวังซาร์ซวยลา (Zarzuela) จนกว่าจะถึงวันอภิเษกสมรส[15] ทั้งนี้เจ้าชายแห่งอัสตูเรียสทรงมอบแหวนเพชรสิบหกเหลี่ยมขลิบทองคำขาว[16]
งานอภิเษกสมรสถูกจัดขึ้นวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 ที่อาสนวิหารซานตา มาริอา ลา เรอัล เด ลา อัลมูเดนา (Santa María la Real de la Almudena) กรุงมาดริด เป็นงานอภิเษกสมรสครั้งแรกที่ในโบสถ์ที่สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ทรงอุทิศสร้างไว้เมื่อปี ค.ศ. 1993 และเป็นงานอภิเษกสมรสที่จัดขึ้นในมาดริดในรอบเกือบศตวรรษ เพราะพระบรมวงศานุวงศ์ในรัชกาลสมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 จัดงานอภิเษกสมรสนอกเมืองหลวงเสียหมด
ทั้งสองมีพระธิดาด้วยกันสองพระองค์ คือ เลโอนอร์ เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส (31 ตุลาคม ค.ศ. 2005) และอินฟันตาโซฟิอา (29 เมษายน ค.ศ. 2007) ครอบครัวของเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียสทรงพำนักอยู่ในพระราชวังซาร์ซวยลา กรุงมาดริด
พงศาวลี
[แก้]ลำดับสาแหรกของสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Coronation of Prince Felipe to take place on June 18". El Pais.
- ↑ "Paloma Rocasolano, enlace sindical" (ภาษาสเปน). ES: Diario de Navarra. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-16. สืบค้นเมื่อ 2014-06-07.
- ↑ El Mundo
- ↑ "Una muerte por ingestión de pastillas". El País (ภาษาสเปน) (impresa ed.). ES. 9 February 2007.
- ↑ "Jesús Ortiz: 'Como abuelo me siento emocionado'". El Periódico (ภาษาสเปน). Aragón, ES. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-29. สืบค้นเมื่อ 2014-06-07.
- ↑ "Birth date of her maternal grandfather". El Mundo (ภาษาสเปน). ES.
- ↑ "Ancestry of Letizia Ortiz Rocasolano". Wargs.
- ↑ "Birth date of her maternal grandmother". El Mundo (ภาษาสเปน). ES. 2008.
- ↑ "We're all princesses now: The rise of the middle-class monarchy". Daily mail. 18 March 2011. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
- ↑ "Entrevista a la actriz Amelia Álvarez del Valle". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-15. สืบค้นเมื่อ 2014-06-07.
- ↑ 12.0 12.1 12.2 12.3 12.4 The Royal Household of His Majesty the King – Her Royal Highness the Princess of Asturias
- ↑ "Prefiere los pantalones a la falda". Diariode Navarra. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-14. สืบค้นเมื่อ 2014-06-07.
- ↑ Full name
- ↑ "Boda Real – Palacio de la Zarzuela". El Mundo.
- ↑ "Crown jewels: The fabulous rings which sealed the love of Europe's royal couples". HELLO! magazine. UK.[ลิงก์เสีย]
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เจ้าหญิงโซเฟียแห่งกรีซและเดนมาร์ก | สมเด็จพระราชินีแห่งสเปน (ราชวงศ์บูร์บง) (19 มิถุนายน ค.ศ. 2014 - ปัจจุบัน) |
ปัจจุบัน |