เดวิด เบคแคม
เดวิด เบคแคม | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เบคแคมใน ค.ศ. 2014 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกิด | เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม[1] 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975[1] เลย์ตันสโตน ลอนดอน อังกฤษ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สัญชาติ | อังกฤษ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อาชีพ |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวแทน | ไซมอน ฟุลเลอร์ (XIX Entertainment) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 5 ฟุต 11 นิ้ว (180 เซนติเมตร)[2] | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คู่สมรส | วิกทอเรีย อดัมส์ (สมรส 1999) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
บุตร | 4 คน, รวมบรุกลิน เบคแคม และโรมิโอ เบคแคม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ญาติ | นิโคลา เพลซ์ (ลูกสะใภ้) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เว็บไซต์ | www |
เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม[note 1] (อังกฤษ: David Robert Joseph Beckham, OBE; เกิด 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเป็นประธานสโมสรอินเตอร์ ไมอามี ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์
เบคแคมเคยเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เพรสตันนอร์ทเอนด์, เรอัลมาดริด, เอซี มิลาน, แอลเอ แกลักซี และปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ในปี 1996 จนถึงปี 2009 และยังเคยเป็นกัปตันทีมของทีมชาติอังกฤษด้วย
เบคแคมเป็นนักเตะหนึ่งในสี่คนที่เล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มากกว่า 100 นัด เขายังเป็นนักเตะที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 115 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 และเป็นคนอังกฤษเพียงคนเดียวที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง คือ ในฟุตบอลโลก 1998, 2002 และ 2006 โดยยิงประตูให้ทีมชาติอังกฤษรวมทั้งสิ้น 17 ประตู
เบคแคมได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นนายทหารแห่งจักรวรรดิบริเตน (OBE:Officer of the Order of the British Empire) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2[4]
ชื่อเสียงของเบคแคมนั้นคนทั่วโลกรู้จักเขาเป็นอย่างดีทั้งรุ่นต่อรุ่นโดยผลงานของเขาสามารถสร้างชื่อเสียงไว้มากมายทั้งใน ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ และการค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เดวิด เบคแคม ประกาศที่จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพหลังจากที่การแข่งขันลีก 1 ของฝรั่งเศส (Ligue 1) ฤดูกาล 2012-13 ภายใต้สโมสร ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สิ้นสุดลง [5]
ประวัติ
[แก้]เดวิด เบคแคม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิพพส์ครอสส์ ในเขตเมือง เลย์ตันสโตน เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเป็นลูกชายของ ซานดรา จีออร์จีนา ทำอาชีพช่างเสริมสวย และ เดวิด เอดเวิร์ด อลัน "เทด" เบคแคม" ทำอาชีพเป็นพ่อครัวอาชีพ เขาจบการศึกษาจาก โรงเรียน ชิงฟอร์ด ฟาวน์ดาทีออน และได้สมัครเป็นนักฟุตบอลฝึกหัดไปอยู่ในค่ายเยาวชนฟุตบอลของ สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ และจากนั้นได้ย้ายไปอยู่เปรสตันนอร์ธเอ็นด์ และได้ย้ายไปร่วมเป็นนักเตะเยาวชนของ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ชีวิตส่วนตัว
[แก้]เบคแคมแต่งงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 กับ วิคตอเรีย อดัมส์ นักร้องสาวของวงสไปซ์ เกิร์ลส ฉายา "Posh Spice" ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมาก ทั้งคู่ถูกเรียกจากสื่อว่า "Posh and Becks" และชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป
ครอบครัวเบคแคมมีลูกชาย 3 คน และลูกสาว 1 คน คือ บรุคลิน โจเซฟ เบคแคม (เกิด 1999) โรมีโอ เจมส์ เบคแคม (เกิด 2002) ครูซ เดวิด เบคแคม (เกิด 2005) และ ฮาร์เปอร์ เซเว่น (เกิด 2011) [6]
ชีวิตในวงการฟุตบอล
[แก้]แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
[แก้]เบคแคมได้เซ็นสัญญาเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 เค้าเป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกสอนโดย เอริค แฮร์ริสัน เค้าได้พาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพรุ่นเยาวชน ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ 1992 และชุดแมนยูในตอนนั้นรู้จักในฐานะ ยุคของ 92 เค้าลงสนามครั้งแรกในฐานะตัวสำรอง ในลีค คัฟ ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1992 เค้าเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพในวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.1993
ยืมตัวเพรสตันนอร์ทเอนด์
[แก้]เค้าได้ไปร่วมกับสโมสรฟุตบอลเพรสตันนอร์ทเอนด์ ในสัญญายืมตัวในฤดุกาล 1994-1995 เพื่อได้รับประสบการณ์ตัวจริง เค้ายังยิงประตูจากการเตะมุมอีกด้วย
แมนยูไนเต็ด
[แก้]หลังจากการกลับมาเค้าก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1995 แต่เกมนัดนั้นเสมอ 0-0
ฟุตบอลโลก 2006
[แก้]เบคแคมมีส่วนในการทำประตูในรอบแรกของฟุตบอลโลก 2006 และยิงได้ในนัดที่พบกับเอกวาดอร์ ในรอบที่สอง ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามในการแข่งขันกับโปรตุเกสในรอบถัดมา เบคแคมบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง และอังกฤษแพ้ดวลจุดโทษให้กับโปรตุเกสอีกครั้ง
หลังจากตกรอบฟุตบอลโลก เบคแคมประกาศลาออกจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพื่อเปิดทางให้รุ่นน้องคนอื่นเข้ามารับหน้าที่นี้แทน
แอลเอ แกแลกซี
[แก้]หลังจากที่ยุคของกาลาคติคอสหมดลง เดวิด เบคแคม ได้เซ็นสัญญากับทางแอลเอ แกแลกซีสโมสรเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาด้วยค่าเหนื่อยแพงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ[7] [8] เดวิด เบคแคมมีส่วนทำให้คนในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาดูฟุตบอลกันมากขึ้น ชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาของเขาดูเหมือนจะราบรื่นได้ไม่นาน เพราะเขาไม่ค่อยพอใจกับชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกเท่าไหร่ เดวิด เบคแคมบอกทางผ่านสื่อว่าการที่ได้ไปเล่นให้กับเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกานั้นสำหรับดาราอาจจะใช่ แต่สำหรับนักฟุตบอลที่แท้จริงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และหลังจากนั้นเค้าได้ถูกยืมตัวให้กับทางสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานจึงทำให้เค้าคิดที่จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ อีกครั้ง
เอซี มิลาน
[แก้]เมื่อครึ่งหลังฤดูกาลในปี 2008-2009 ของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี ได้ทำการยืมตัว เดวิด เบคแคม มาเล่นให้กับทีมจนจบฤดูกาล ซึ่งเขามีส่วนร่วมในการทำประตูมากมายให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน จนทำให้ทีมได้รองแชมป์ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
ความหวังที่ เดวิด เบคแคม ต้องการมาเล่นให้กับยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีอย่างสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานนั้น สิ่งเดียวที่เค้าหวังคือการที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเค้ารู้ตัวดีว่าถ้าเล่นในเมเจอร์ลีกต่อ นั่นจะทำให้ เดวิด เบคแคม ไม่สามารถโชว์ผลงานเท่าที่คาดคิดไว้ได้ เบคแคมจึงตัดสินใจทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาเล่นกับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เค้าต้องการและนั่นทำให้เค้ากับทางแอลเอ แกแลกซีมีเรื่องบาดหมางกัน แต่ในที่สุดก็ทำข้อตกลงกันได้คือ หลังจากที่ เดวิด เบคแคม หมดสัญญาการยืมตัวจากสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานในฤดูกาลปี 2008-2009 แล้ว เดวิด เบคแคม จะกลับไปเล่นให้กับแอลเอ แกแลกซี ทันทีและหลังจากหมดฤดูกาลกับทางแอลเอ แกแลกซี เดวิด เบคแคม จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน อีกครั้งในฐานะนักเตะของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาในเดือนพฤศจิกายนในปี 2009
ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และ แขวนสตั๊ด
[แก้]เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้เริ่มกลับมาฝึกฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลและได้มีข่าวว่าทางอาร์เซนอลจะเซ็นสัญญากับเบคแคมเป็นผู้เล่นของสโมสรแต่ก็ได้ถูกปฏิเสธไปอย่างเป็นทางการจากอาร์แซน แวงแกร์ ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล โดยแวงแกร์ได้บอกกับสื่อว่าเหตุที่เขาให้เบคแคมมาฝึกซ้อมกับสโมสรอาร์เซนอลคือเพื่อให้เบคแคมได้ฝึกสภาพร่างกายของเขาเท่านั้นไม่ได้มีการเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ.[9][10] สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งจึงได้เปิดตัวเขาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โดยนัดแรกของเบคแคมกับปารีแซ็ง แฌร์แม็งคือในนัดที่พับกับ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ ซึ่งเขาได้ลงเล่นมาเล่นในฐานะตัวสำรองให้กับสโมสรในนาทีที่ 76 และเขายังเป็นผู้เล่นคนที่ 400 ของสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็งอีกด้วย.[11] ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมและเพื่อนร่วมสโมสรสามารนำปารีแซ็ง-แฌร์แม็งคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จด้วยเอาชนะ ออแล็งปิกลียอแน ไป 1-0 แล้วได้คว้าแชมป์ลีกเอิงเป็นสมัยแรกของเบคแคมและสมัยที่สามของสโมสร.[12][13]
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ออกมาประกาศให้แกสื่อมวลชนว่าเขาจะเกษียณจากอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการในการจบอาชีพการเล่นฟุตบอลที่ ประเทศฝรั่งเศส.[14][15]
ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ลงเล่นนัดสุดท้ายในบ้านของฤดูกาลให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็งและนัดสุดท้ายในการเล่นฟุตบอลอาชีพของเขาด้วยการพบกับ สโมสรฟุตบอลแบรสต์ ทื่ปาร์กเดแพร็งส์ โดยในนัดนี้ การ์โล อันเชลอตตี ผู้จัดการทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็งได้ให้เบคแคมได้ลงเป็นตัวจริงและเป็นกัปตันทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 82 และหลังจากจบการแข่งขัน ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งก็สามารถเอาชนะไปได้ 3-1 และคว้าแชมป์ลีกเอิงอย่างเป็นทางการ.[16] และทำให้เบคแคมเป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของแต่ละประเทศได้ถึง 4 ประเทศ คือ อังกฤษ, สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศส
ทีมชาติ
[แก้]เบคแคมได้เริ่มเล่นให้กับ ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1996 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในนัดที่พบกับ ฟุตบอลทีมชาติมอลโดวา.[17]
เบคแคมได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 1998รอบคัดเลือกและเขาก็ได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมชาติอังกฤษที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ ประเทศฝรั่งเศส,[18]
ในปี ค.ศ. 2012 เบคแคมได้มีชื่อติด ฟุตบอลทีมชาติบริเตนใหญ่ชั่วคราว ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012. ประเภทกีฬาฟุตบอล โดยเขาได้ถูกเรียกตัวจากผู้จัดการทีมชาวอังกฤษอย่าง สจวร์ต เพียชร์.[19]
สถิติ
[แก้]สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | ลีกคัพ | ยุโรป | อื่นๆ1 | รวม | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ||
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 1992–93 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 |
1993–94 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | |
เปรสตัน นอร์ทเอนด์ (ยืมตัว) | 1994–95 | 5 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 5 | 2 | 0 | ||
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 1994–95 | 4 | 0 | 0 | 2 | 0 | 0 | 3 | 0 | 0 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 10 | 1 | 0 |
1995–96 | 33 | 7 | – | 3 | 1 | – | 2 | 0 | – | 2 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 40 | 8 | – | |
1996–97 | 36 | 8 | – | 2 | 1 | – | 0 | 0 | 0 | 10 | 2 | – | 1 | 1 | – | 49 | 12 | – | |
1997–98 | 37 | 9 | 1 | 4 | 2 | – | 0 | 0 | 0 | 8 | 0 | – | 1 | 0 | – | 50 | 11 | 1 | |
1998–99 | 34 | 6 | – | 7 | 1 | – | 1 | 0 | – | 12 | 2 | 2 | 1 | 0 | – | 55 | 9 | 2 | |
1999–00 | 31 | 6 | 2 | – | 0 | 0 | 0 | 12 | 2 | 0 | 5 | 0 | 0 | 48 | 8 | 2 | |||
2000–01 | 31 | 9 | 1 | 2 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 12 | 0 | – | 1 | 0 | – | 46 | 9 | 1 | |
2001–02 | 28 | 11 | 0 | 1 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 13 | 5 | 3 | 1 | 0 | – | 43 | 16 | 3 | |
2002–03 | 31 | 6 | 9 | 3 | 1 | 0 | 5 | 1 | 0 | 13 | 3 | 2 | 0 | 0 | 0 | 52 | 11 | 11 | |
รวม | 265 | 62 | 13 | 24 | 6 | – | 12 | 1 | – | 83 | 15 | 7 | 10 | 1 | – | 399 | 87 | 20 | |
เรอัลมาดริด | 2003–04 | 32 | 3 | 0 | 4 | 2 | 0 | – | 7 | 1 | 1 | 2 | 1 | 1 | 45 | 7 | 2 | ||
2004–05 | 30 | 4 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | 8 | 0 | 3 | 0 | 0 | 0 | 38 | 4 | 5 | |||
2005–06 | 31 | 3 | 10 | 3 | 1 | 0 | – | 7 | 1 | 2 | 0 | 0 | 0 | 41 | 5 | 12 | |||
2006–07 | 23 | 3 | 6 | 2 | 1 | 0 | – | 6 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 31 | 4 | 6 | |||
รวม | 116 | 13 | 18 | 9 | 4 | 0 | – | 28 | 2 | 6 | 2 | 1 | 1 | 155 | 20 | 25 | |||
แอลเอ แกลักซี | 2007 | 5 | 0 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | – | 2 | 1 | 1 | 7 | 1 | 3 | ||||
2008 | 25 | 5 | 6 | 0 | 0 | 0 | – | – | 0 | 0 | 0 | 25 | 5 | 6 | |||||
มิลาน (ยืมตัว) | 2008–09 | 18 | 2 | 5 | 0 | 0 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 2 | 0 | 0 | 20 | 2 | 5 | ||
แอลเอ แกลักซี | 2009 | 11 | 2 | 3 | 0 | 0 | 0 | – | – | 4 | 0 | 0 | 15 | 2 | 3 | ||||
มิลาน (ยืมตัว) | 2009–10 | 11 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | – | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 13 | 0 | 1 | ||
รวม | 29 | 2 | 6 | 0 | 0 | 0 | – | 2 | 0 | 0 | 2 | 0 | 0 | 33 | 2 | 6 | |||
แอลเอ แกลักซี | 2010 | 7 | 2 | 3 | 0 | 0 | 0 | – | – | 3 | 0 | 0 | 10 | 2 | 3 | ||||
2011 | 26 | 2 | 11 | 0 | 0 | 0 | – | – | 3 | 0 | 2 | 29 | 2 | 13 | |||||
2012 | 5 | 1 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | 6 | 0 | 2 | 0 | 0 | 0 | 11 | 1 | 4 | |||
รวม | 81 | 12 | 33 | 0 | 0 | 0 | – | 6 | 0 | 2 | 13 | 1 | 8 | 98 | 13 | 43 | |||
รวมทั้งหมด | 494 | 91 | 70 | 33 | 10 | 0 | 12 | 1 | 0 | 121 | 17 | 15 | 21 | 3 | 9 | 684 | 122 | 94 |
ประตูในนามทีมชาติ
[แก้]เกียรติประวัติ
[แก้]สโมสร
[แก้]- แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- พรีเมียร์ลีก 6 สมัย : 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03
- เอฟเอคัพ 2 สมัย : 1995-96, 1998-99
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย : 1998-99
- Intercontinental Cup 1 สมัย : 1999
- คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 4 สมัย : 1993, 1994, 1996, 1997
- เอฟเอยูธคัพ 1 สมัย : 1991-92
- เรอัลมาดริด
- ลาลิกา 1 สมัย : 2006-07
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 1 สมัย : 2003-04
- แอลเอ แกแลกซี
- MLS Supporters' Shield 2 สมัย : 2010, 2011
- MLS Cup 2 สมัย : 2011, 2012
- MLS Western Conference
- Winners (Regular Season) 3 สมัย: 2009, 2010, 2011
- Winners (Playoffs) 3 สมัย: 2009, 2011, 2012
- ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
- ลีกเอิง 1 สมัย : 2012-13
ทีมชาติ
[แก้]- ทีมชาติอังกฤษ
- Tournoi de France 1 สมัย : 1997
- FA Summer Tournament 1 สมัย : 2004
เกียรติประวัติส่วนตัว
[แก้]- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำเดือน (1): สิงหาคม 1996 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
- นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ (1): 1996-97
- FWA Tribute Award: 2008
- Sir Matt Busby Player of the Year (1): 1996-97
- UEFA Club Footballer of the Year (1): 1998-99
- UEFA Club Midfielder of the Year (1): 1998-99
- Premier League 10 Seasons Awards (1992-93 ถึง 2001-02):
- Domestic & Overall Team of the Decade
- Goal of the Decade (vs. Wimbledon, 17 สิงหาคม 1996)
- UEFA Team of the Year 2003
- Real Madrid Player of the Year (1): 2005-06
- PFA Team of the Year (4): 1996-97,1997-98,1998-99,1999-2000
- BBC Sports Personality of the Year (1): 2001
- ฟีฟ่า 100
- ESPY Award – Best Male Soccer Player: 2004
- ESPY Award – Best MLS Player: 2008
- English Football Hall of Fame: 2008
- BBC Sports Personality of the Year Lifetime Achievement Award (1): 2010
- MLS Comeback Player of the Year Award (1): 2011
- Major League Soccer Best XI: 2011
รางวัลพิเศษ
[แก้]- Officer in the Order of the British Empire by Queen Elizabeth II: 2003
- United Nations Children's Fund (UNICEF) Goodwill Ambassador (2005-ปัจจุบัน)
- "Britain's Greatest Ambassador" – 100 Greatest Britons awards
- The Celebrity 100, number 15 – Forbes, 2007
- Number 1 on the list of the 40 most influential men under the age of 40 in the UK – Arena, 2007
- Time 100: 2008
- Gold Blue Peter Badge winner, 2001
- Do Something Athlete Award, 2011
เชิงอรรถ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Hugman, Barry J., บ.ก. (2003). The PFA Footballers' Who's Who 2003/2004. Harpenden: Queen Anne Press. p. 42. ISBN 978-1-85291-651-0.
- ↑ Beckham, David (2002). David Beckham: My Side. HarperCollinsWillow. ISBN 978-0-00-715732-7.
- ↑ "Malaria No More". malarianomore.org.uk. สืบค้นเมื่อ 13 May 2015.
- ↑ ข่าวการแต่งตั้งสมาชิกเครื่องราช
- ↑ David Beckham: ex-Man Utd, Real Madrid & AC Milan star to retireข่าวจาก [1]
- ↑ http://www.komchadluek.net/detail/20110711/102799/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%AE%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%99.html
- ↑ ค่าตัวเบคแคม ประมาณ 50 ล้านเหรีญสหรัฐ ไม่ใช่ 250 ล้าน เหมือนที่เป็นข่าว เก็บถาวร 2007-01-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากอีเอสพีเอ็น
- ↑ ข่าวการย้ายทีมของเบคแคม ไป ลอสแอนเจลิสแกแลกซี
- ↑ "Becks back at Arsenal... but Wenger bbc.co.uk/sport/0/football/21281665". BBC. 31 January 2013.
{{cite news}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
(help) - ↑ "Beckham to play for FREE at PSG as England legend reveals that he will donate £170,000-a-week salary to children's charity". Daily Mail. 31 January 2013. สืบค้นเมื่อ 1 February 2013.
- ↑ "David Beckham calls his Paris St Germain debut 'perfect' as he helps to set up their win over Marseille". The Telegraph Sport. 25 February 2013. สืบค้นเมื่อ 3 March 2013.
- ↑ "Beckham claims league title No 10 as PSG win Ligue 1 crown with victory over Lyon". Daily Mail. 12 May 2013. สืบค้นเมื่อ 13 May 2013.
- ↑ "Beckham's latest league title celebrations marred by rioting PSG fans as police are forced to intervene with tear gas". Daily Mail. 12 May 2013. สืบค้นเมื่อ 13 May 2013.
- ↑ Chick, Alex (16 May, 2013). "Football - David Beckham retires from football". Yahoo! Sport. สืบค้นเมื่อ 2013-05-16.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "David Beckham to retire from football at end of season". BBC Sport. 16 May, 2013. สืบค้นเมื่อ 2013-05-16.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ เปแอสเชฉลองถ้วยแชมป์!อัดแบรสต์สนิ่ม3-1
- ↑ "Moldova 0 – England 3". englandstats.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-15. สืบค้นเมื่อ 16 June 2007.
- ↑ "England in World Cup 1998 Squad Records". englandfootballonline.com. สืบค้นเมื่อ 10 June 2007.
- ↑ Team GB: David Beckham left out for football reasons - Stuart Pearce, BBC, 2 July 2012
- ↑ "– 1998 FIFA World Cup France ™". Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-05-16. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- ↑ "– 2002 FIFA World Cup Korea/Japan ™". Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-02-15. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-11. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "– 2002 FIFA World Cup Korea/Japan ™". Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-02-10. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- ↑ "– 2002 FIFA World Cup Korea/Japan ™". Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-04. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-31. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "– 2002 FIFA World Cup Korea/Japan ™". Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-29. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-09. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-31. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-31. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-07. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-12-25. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-10. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-12-18. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
- ↑ "– 2006 FIFA World Cup Germany™". Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-13. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- ↑ "– 2006 FIFA World Cup Germany™". Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-13. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- ↑ "– 2006 FIFA World Cup Germany™". Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-05. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- David Beckham เก็บถาวร 2012-06-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน FIFA competition record
- The Official David Beckham Website
- The David Beckham Academy เก็บถาวร 2010-03-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Profile at mlssoccer.com
- Profile at ManUtd.com
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2518
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- เดวิด เบคแคม
- นักฟุตบอลชาวอังกฤษ
- นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด
- ผู้เล่นเอซี มิลาน
- ผู้เล่นแอลเอ แกลักซี
- ผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก
- ผู้เล่นในลาลิกา
- ผู้เล่นในเซเรียอา
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 1998
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2002
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2006
- นักกีฬาจากลอนดอน
- ผู้เล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004
- กองกลางฟุตบอล
- ชาวอังกฤษในสหรัฐ
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์โอบีอี
- ฟีฟ่า 100
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ผู้เข้าหอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก
- บุคคลจากเลย์ตันสโตน
- เจ้าของทีมฟุตบอลในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์