เจ้าเวียงชื่น บุตรรัตน์
เจ้าเวียงชื่น บุตรรัตน์ | |
---|---|
เสียชีวิต | ตุลาคม พ.ศ. 2445 คุ้มเจ้าราชวงศ์ เมืองแพร่ |
สามี | พระยาราชวงศ์ (บุญศรี บุตรรัตน์) |
บุตร | เจ้าอินทร์ตุ้ม ศรีจันทร์แดง เจ้าอินทร์สม บุตรรัตน์ เจ้าดาวคำ ศรุตานนท์ |
พระบิดา | น้อยเทพวงษ์ |
พระมารดา | บัวไหล |
เจ้าเวียงชื่น บุตรรัตน์ (สกุลเดิม เทพวงศ์) หรือมีชื่อในภาษาไทยว่า เมืองชื่น เป็นธิดาคนที่สองของน้อยเทพวงษ์ อดีตเจ้าผู้ครองเมืองแพร่ เธอสมรสกับพระยาราชวงศ์ (บุญศรี บุตรรัตน์) ซึ่งถูกวางตัวให้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองแพร่คนถัดไป ทว่าหลังเหตุการณ์กบฏเงี้ยว เจ้าเวียงชื่นและพระยาราชวงศ์ผู้สามี ได้พร้อมใจกันก่ออัตวินิบาตกรรมด้วยการดื่มยาพิษจนถึงแก่กรรมเคียงข้างกันเมื่อช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2445 ไม่ยอมให้รัฐบาลสยามจับกุมคุมขัง ริบทรัพย์ หรือถอดยศ
ประวัติ
[แก้]เจ้าเวียงชื่น หรือเจ้าเมืองชื่น เป็นพระธิดาคนที่สองจากทั้งหมดเจ็ดคนของน้อยเทพวงษ์ อดีตเจ้าผู้ครองเมืองแพร่ กับบัวไหล ชายาคนที่สองของบิดา[1][2][3] แต่ประสูติเมื่อปีใดนั้นไม่เป็นที่ปรากฏ[4] มีเจ้าพี่เพียงคนเดียว คือ เจ้ากาบคำ วราราช และมีเจ้าน้อง คือ เจ้าสุพรรณวดี ณ น่าน เจ้ายวงคำ เตมิยานนท์ เจ้ายวงแก้ว เทพวงศ์ คุณหญิงหอมนวล ราชเดชดำรง และเจ้าอินทร์แปลง เทพวงศ์ นอกจากนี้ยังมีพี่น้องต่างมารดาอีกเจ็ดคน[1]
เจ้าเวียงชื่นสมรสกับพระยาราชวงศ์ (บุญศรี บุตรรัตน์) มีบุตรด้วยกันสามคนคือ เจ้าอินทร์ตุ้ม ศรีจันทร์แดง เจ้าอินทร์สม เทพวงศ์ และเจ้าดาวคำ ศรุตานนท์[1] แต่หลังเจ้ากาบคำผู้เป็นพี่สาว ถึงแก่กรรม เจ้าอุปราช (น้อยเสาร์ วราราช) สามีของเจ้ากาบคำ ผู้เป็นพี่เขยใหญ่ ก็ถูกลดบทบาทการทำงานลงไป เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองเมืองแพร่ ไว้วางพระทัยสามีของเจ้าเวียงชื่น คือพระยาราชวงศ์มากขึ้นโดยลำดับ และวางตัวไว้หวังใจให้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองแพร่คนถัดไป[4]
ในกาลต่อมาเจ้าผู้ครองนครทางตอนเหนือของอาณาจักรสยามมีแนวคิดที่จะเป็นอิสระจากสยาม ก่อให้เกิดกบฏเงี้ยวขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2445 และถูกทางการสยามปราบปรามอย่างรุนแรงเวลาต่อมา[3] รัฐบาลสยามได้ทำการปลดเจ้าพิริยเทพวงษ์ลงเป็นไพร่ ให้เรียกว่า น้อยเทพวงษ์ พร้อมกับยึดคุ้มหลวงและทรัพย์สมบัติ ส่วนบัวไหลถูกถอดและถูกริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นตติยจุลจอมเกล้า[5] จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางการสยามได้เพ่งเล็งพระยาราชวงศ์และเจ้าเวียงชื่นมากเป็นพิเศษว่าอาจมีส่วนหรือรู้เห็นเป็นใจให้เงี้ยวก่อกบฏ[4] ทางการสยามได้ทำการสอบสวนเจ้านายเมืองแพร่ซึ่งกำลังตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดหลังการปราบปรามอย่างหนักของสยาม ผลปรากฏว่า เจ้ายวงคำให้การซัดทอดว่าเจ้าเวียงชื่น พี่สาว กับแม่เจ้าบัวไหล มารดา เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกบฏเงี้ยวอย่างมีนัยสำคัญ[3] หลังจากนั้นเจ้าเวียงชื่นและพระยาราชวงศ์ผู้สามี ได้พร้อมใจกันก่ออัตวินิบาตกรรมด้วยการดื่มยาพิษจนถึงแก่กรรมเคียงข้างกัน ไม่ยอมให้รัฐบาลสยามจับกุมคุมขัง ริบทรัพย์ หรือถอดยศ ภายในคุ้มเจ้าราชวงศ์เมืองแพร่ (ปัจจุบันคุ้มดังกล่าวถูกรื้อไปแล้ว)[4] และหลังการถึงแก่กรรมของเจ้าเวียงชื่น เจ้านายเมืองแพร่ยังเผชิญกับการลงโทษ ฐานที่เป็นผู้ไม่จงรักภักดีต่อสยาม ด้วยการล้มล้างเจ้านายเมืองแพร่ ยึดคุ้มหลวง ยึดทรัพย์สมบัติ ถอดราชศักดิ์เจ้านาย นำชายาและบุตรธิดาที่เหลืออยู่ของเจ้าผู้ครองเมืองแพร่คนก่อนไปกักตัวไว้ที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับส่งข้าราชการชาวสยามมาปกครองเมืองแพร่แทนทั้งหมด[3]
ลำดับสาแหรก
[แก้]พงศาวลีของเจ้าเวียงชื่น บุตรรัตน์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]เชิงอรรถ
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 เชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ 4 สมัย, หน้า 33-35
- ↑ วลัยลักษณ์ ทรงศิริ (15 ธันวาคม 2560). "จากประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสู่ประวัติศาสตร์แบบท้องถิ่นนิยม". มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 "กบฏเงี้ยว พ.ศ.2445 - การต่อต้านสยามของประเทศราชล้านนา". Huexonline. สืบค้นเมื่อ 16 มิถุนายน 2566.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 เพ็ญสุภา สุขคตะ (29 พฤศจิกายน 2565). "โศกนาฏกรรมของสองเจ้านาง หลังเหตุการณ์กบฏเงี้ยวเมืองแพร่". มติชนสุดสัปดาห์. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ประกาศลัญจกราภิบาล ถอดบัวไหลออกจากสามัญสมาชิกาตติยจุลจอมเกล้า" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 20 (เพิ่มเติม 28): 467. 11 ตุลาคม ร.ศ. 122. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2563.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ 6.0 6.1 เชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ 4 สมัย, หน้า 24
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 เชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ 4 สมัย, หน้า 16
- ↑ 8.0 8.1 เชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ 4 สมัย, หน้า 40
บรรณานุกรม
[แก้]- บัวผิว วงศ์พระถาง และคณะ. เชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ 4 สมัย. แพร่ : แพร่ไทยอุสาหการพิมพ์, 2536. 151 หน้า. ISBN 974-89141-2-7