ข้ามไปเนื้อหา

เก้าอิมจินเอ็ง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เก้าอิมจินเอ็ง หรือ คัมภีร์นพเก้า หรือ เทวยุทธ์จันทรา (จีนตัวย่อ: 九阴真经; จีนตัวเต็ม: 九陰真經; พินอิน: Jiǔ Yīn Zhēn Jīng; ยฺหวิดเพ็ง: Gau2 Jam1 Zan1 Ging1) ชื่อของวิชาวรยุทธในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก

คัมภีร์ฉบับนี้เคยครอบครองครบทั้ง 2 เล่มโดย เฮ้งเตงเอี้ยงแต่ไม่เคยใช้ฝึกวิชา เล่มแรกเป็นเคล็ดพื้นฐานกำลังภายใน เช่น บทเปลี่ยนเส้นเอ็นชุบกระดูก บทรักษาบาดเจ็บ และเคล็ดกำลังภายในขั้นสูง เขียนด้วยภาษาบาลีสันสกฤต เรียกว่า ลมปราณเทพเก้าอิม จิวแปะทงเก็บเล่มนี้ไว้กับตัวตลอดเวลาที่โดนอึ้งเอี๊ยะซือขังบนเกาะ ส่วนเล่มที่ 2 ประกอบด้วยวิชาต่อสู้ทั้งธรรมะและอธรรม เช่น กงเล็บกระดูกขาวเก้ามหากาฬ วิชาฝ่ามือขยี้หัวใจ วิชาเคลื่อนย้ายวิญญาณ วิชาหดเส้นเย็นย่อกระดูก แส้พิษมังกรเงิน วิชาหมัดกำราบมาร มือปาดสายพิณทั้ง 5 วิชาระฆังทอง วิชาภูษาเหล็ก ทั้งยังมีเคล็ดลับคลายจุด เคล็ดจี้สกัดจุด และค่ายกลต่าง ๆ ซึ่งจิวแปะทงฉีกเล่มที่ 2 ทิ้งไปหลังจากโดนอึ้งเอี๊ยะซือใช้อุบายหลอกว่าเป็นของปลอม โดยตัวเองแอบให้ภรรยาท่องจำคัดลอกไว้ (ภายหลังถูกลูกศิษย์ขโมยไปแล้วตกทอดถึงมือก๋วยเจ๋ง) ทั้งสองเล่มถูกก๋วยเจ๋งท่องจำไว้ขึ้นใจจนหมด ดังนั้นก๋วยเจ๋งเป็นผู้เดียวที่ได้รับรู้คัมภีร์เก้าอิมจนครบ

บางส่วนของคัมภีร์ เฮ้งเตงเอี้ยงสลักไว้ที่สุสานโบราณ เพื่อเอาไว้ข่มวิชาของลิ้มเฉียวเอ็งเท่านั้น ซึ่งผู้สืบทอดมีแค่เซียวเล่งนึ่งและเอี้ยก้วย ที่บังเอิญไปเจอ (ต่อมาคาดว่าน่าจะถ่ายทอดให้ทายาทจอมยุทธหญิงชุดเหลือง)

ต้นกำเนิมคำภีร์ เก้าอิมจินเอ็ง (สัจจะ 9 ปี)

[แก้]

ในปีจิงหอ มีขุนนางคนหนึ่งชื่อ อึ้งเซียะ เขาค้นพบว่ามีสุดยอดวรยุทธรวมอยู่ในคัมภีร์เต๋า แล้วมีครั้งหนึ่ง ฮ่องเต้ได้ให้เขาไปกำจัดพวกมารนอกรีต ทูตช้ายขวารวมถึงผู้พิทักษ์กฎโดนเขาฆ่าหมด แต่ว่าพวกมารนั้นมีมากเกินไป บางคนเป็นเป็นศิษย์สำนักใหญ่ พวกเขาก็เลยเรียกศิษย์ทั้งหมดมาจัดการ ทำให้พ่อแม่ของอึ้งเซียะถูกฆ่าตาย เขาก็เลยหลบไปยังที่ไม่มีคน ค้นคว้าวิชาของพวกศัตรูเพื่อต่อไปจะกลับไปล้างแค้น พอเขาค้นคว้าจนหมดแล้ว เขาก็พบว่าตัวเขาเองนั้นชราภาพมากไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ต้องการให้ทุกสิ่งศูนย์เปล่าจึงได้บันทึกวิชาลงคัมภีร์สองเล่ม นั่นคือ คัมภีร์เก้าอิม

ศึกชิงคัมภีร์ (สาเหตุที่ อึ้งเอี๊ยะซือ ได้ครอบครอง)

[แก้]

หลังจากเฮ้งเต้งเอี้ยงได้คัมภีร์ไป ก็ได้เอาไปไส่ในก้อนหินที่ตัวเองใช้นั่ง พอเฮ้งเต้งเอี้ยงใกล้ตาย เขาก็นำคัมภีร์ออกมาใช้ให้จิวแปะทงเอาไปซ่อนแยกกัน 2 สถานที่ หลังจากที่จิวแปะทงซ่อนส่วนแรกเรียบร้อยแล้ว ก็เอาส่วนที่ 2 ไปช่อนที่เขาเยี่ยนตั้ง แต่ระหว่างทางเจออึ้งเอี๊ยะชือ อึ้งเอี๊ยะชืออยากได้คัมภีร์จึงใช้อุบายยิงหินกับจิวแปะทง เมื่อจิวแปะทงยิงหินแพ้ก็ต้องยอมให้ภรรยาดูคัมภีร์ ภายในระยะเวลาอันสั้น ภรรยาของอึ้งเอี๊ยะชือสามารถจำคัมภีร์ได้ทั้งหมดเพราะนางเป็นคนที่มีความจำเป็นเลิศ แล้วปิดคัมภีร์ท่องให้จิวแปะทงฟัง พร้อมทั้งหลอกจิวแปะทงว่า เนื้อความในคัมภีร์เป็นเพียงบทกลอนของเมืองกังนั้ม เด็ก ๆ ในเมืองกังนั้มท่องได้ทุกคน จิวแปะทง นึกว่าตัวเองโดนเฮ้งเต้งเอี้ยงหลอก เลยฉีกคัมภีร์ทิ้ง สุดท้ายภรรยาของอึ้งเอี๊ยะซือได้คัดลอกขึ้นมาใหม่จากความทรงจำ พวกเขาสองคนครองรักอยู่ที่ "เกาะดอกท้อ" ต่อมาไม่นาน พอนางให้กำเนิดบุตรสาวก็เสียชีวิต

งานประลองที่ฮั่วซัว

[แก้]

งานประลองเพื่อชิงคำภีร์บนเขาสูงสุดของฮั่วซัว (หัวซาน) ประกอบด้วย มารบูรพา (อึ้งเอี๊ยะซือ) พิษประจิม (อาวเอี้ยงฮง) ราชันทักษิณ (ต้วนอ๋อง, อิดเต็งไต้ซือ) ยาจกอุดร (อั้งชิกกง) และ กลางอิทธิฤทธิ์ (เฮ้งเตงเอี้ยง) พวกเขาประลองผีมือ เพื่อแย่งชิงคัมภีร์เก้าอิมจินเอ็ง บนยอดเขานั่น 7 วัน 7 คืน สุดท้าย เฮ้งเตงเอี้ยง เป็นผู้ที่ได้ครอบครอง

โครงเรื่อง

[แก้]

เก้าอิมจินเอ็ง แบ่งออกเป็นสองส่วน เล่มต้นเป็นหลักวิชากำลังภายใน ส่วนเล่มท้ายเป็นเคล็ดวิชา (วิชาที่รู้จักกันดีคือ กรงเล็บกระดูกขาว หรือ เก้าอิมแป๊ะกุ๊กเหยี่ยว อันน่ากลัวซึ่งความจริงเป็นเพียงวิชาดรรชนีแต่หลายคนฝึกผิดจึงกลายเป็นกรงเล็บไปแทน) นอกจากนี้มีวิชาหมัด เท้า อาวุธ ค่ายกล อาวุธลับ หลายแขนงอยู่ด้วย รวมถึงวิธีการรักษาการบอบช้ำภายใน จัดเป็นยอดคัมภีร์ยุทธในจักรวาลกิมย้ง

ข้อสังเกต วิชาเก้าอิมจิงเก็ง เป็นวิชาที่มีรูปแบบของการประยุกต์ใช้ หรือ การใช้เทคนิคมากกว่า เพราะ จากโครงเรื่อง และผู้ที่สำเร็จวิชาเก้าอิมจินเอ๋ง หรือ รู้เก้าอินจิงเก็ง มีหลายคนมาก ทั้งในยุคของมังกรหยกภาค 1 และมังกรหยกภาค 2 เป็นวิชาที่น่าจะสำเร็จได้หลากหลายรูปแบบจากการตีความคัมภีร์ เช่น ก๋วยเจ๋ง กับ จิวแปะทง สำเร็จวิชานี้แบบเที่ยงแท้ แต่อาวเอี้ยงฮง สำเร็จวิชานี้แบบทวนทิศย้อนหลัง ส่วนเอี้ยก้วยก็รู้วิชานี้ทั้งแบบตรงและแบบทวนทิศ นอกจากนี้ในเนื้อเรื่อง ยังมี อิดเต็งไต้ซือ อั้งชิกกง อึ้งเอี้ยซือ อึ้งย้ง และเซียวเล้งนึ่ง ที่รู้วิชานี้ แต่ไม่ทราบว่าสำเร็จไปถึงขั้นไหน นอกจากนี้คัมภีร์เก้าอิมจิงเก็งยังมีการกล่าวถึงในเรื่อง ดาบมังกรหยก อีกด้วย ซึ่งคนที่มีโอกาสได้ฝึกกรงเล็บกระดูกขาวแบบไม่ค่อยจะถูกต้องนักคือ จิวจี้เยียก และคนที่ฝึกเป็นวิชาดรรชนีแบบถูกต้องคือสตรีชุดเหลืองซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสุสานโบราณ

อนึ่ง หลายคนชอบกล่าวว่าสตรีชุดเหลืองเป็นลูกสาวของเอี้ยก้วย แต่ในความเป็นจริงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะ เอี้ยก้วยมีอายุเกือบ 40 ปี ตอนที่เจอกับเตียซำฮงในวัยเพิ่งแตกพาน ส่วนสตรีชุดเหลืองปรากฏตัวในวัยยังสาวตอนที่เตียซำฮงอายุร่วม 110 ปี (เตียบ่อกี้อายุเพียง 9 ปี ตอนที่เตียชุ่ยซัวผู้เป็นบิดาได้กลับสู่บู๊ตึ๊งอีกครั้ง ซึ่งเป็นวันครบรอบ 100 ปีของเตียซำฮงพอดี หลังจากนั้นเตียบ่อกี้แจ้งเกิดบนยอดเขากวงเม้งเตง ตอนอายุ 20 ปี และตอนแยกจากกันกับเซียวเจียว ในเรื่องได้เขียนไว้ชัดว่า เซี่ยวเจียว รับใช้เตียบ่อกี้มาเป็นเวลา 2 ปี) ดังนั้น หากคำนวณว่า เอี้ยก้วยมีลูกทันทีที่ได้พบกับเซียวเล่งนึ่งในตอนจบของจอมยุทธอินทรี ลูกสาวของเอี้ยก้วยอย่างน้อยต้องมีอายุเฉียด 100 ปี หากนับว่าสตรีสมัยนั้นหรือในนวนิยาย ล้วนแต่งงานมีลูกที่อายุเฉลียไม่เกิน 25 ปี สตรีชุดเหลืองย่อมเป็นลื่อของเอี้ยก้วยเลยทีเดียว หรือถ้าสตรีสุสานโบรานแต่งงานมีลูกกันหลัง 30 ทั้งหมด สตรีชุดเหลืองก็ยังต้องนับเป็นเหลนของเอี้ยก้วยเป็นอย่างน้อย