อวตาร (แฟรนไชส์)
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
อวตาร | |
---|---|
ไฟล์:Avatar-Logo-2018.png สัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของแฟรนไชส์ | |
สร้างโดย | เจมส์ แคเมรอน |
งานต้นฉบับ | อวตาร (2009) |
เจ้าของ | ทเวนตีท์เซนจูรีสตูดิโอส์ |
ปี | ค.ศ. 2009–ปัจจุบัน |
สื่อสิ่งพิมพ์ | |
หนังสือ | รายชื่อหนังสือ |
การ์ตูน | รายชื่อหนังสือการ์ตูน |
นวนิยายภาพ | อวตาร: เดอะไฮกราวด์ (2022–2023) |
ภาพยนตร์และโทรทัศน์ | |
ภาพยนตร์ |
|
เกม | |
วิดีโอเกม |
|
เสียง | |
เพลงประกอบ |
|
เบ็ดเตล็ด | |
| |
เว็บไซต์ทางการ | |
www |
อวตาร (อังกฤษ: Avatar) เป็นสื่อแฟรนไชส์อเมริกันที่สร้างโดยเจมส์ แคเมอรอน ประกอบด้วยซีรีส์ที่วางแผนไว้ของภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ตำนาน ผลิตโดยไลท์สตอร์ม เอนเตอร์เทนเมนท์ และจัดจำหน่ายโดยทเวนตีท์เซนจูรีสตูดิโอส์ รวมถึงเกมคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องและเครื่องเล่นในสวนสนุก แฟรนไชส์ อวตาร เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่แพงที่สุดที่เคยดำเนินการ โดยงบประมาณรวมของภาพยนตร์เรื่องแรกและภาคต่อสี่เรื่องอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์
ภาคแรก อวตาร ออกฉายเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2009 และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล แผนของซีรีส์ได้รับการประกาศโดยทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552 หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ อวตาร จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ได้ยืนยันแฟรนไชน์เมื่อวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 2010
เช่นเดียวกับภาพยนตร์ต้นฉบับ ภาคต่อที่วางแผนไว้ทั้งสี่เรื่องมีโครงเรื่องแบบแยกเดี่ยวที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์นำมาสู่ข้อสรุปของตัวเอง ภาพยนตร์ทั้งสี่เรื่องมีเนื้อเรื่องที่ครอบคลุมซึ่งเชื่อมโยงพวกเขาเพื่อสร้างซากาขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อถึงกัน[1] เจมส์ คาเมรอนบรรยายภาคต่อว่าเป็นเหมือน "ส่วนขยายตามธรรมชาติของธีมทั้งหมด ตัวละคร และคลื่นใต้น้ำทางจิตวิญญาณ" ของภาพยนตร์เรื่องแรก โดยมี โจชัว อิซโซ เป็นผู้ควบคุมเรื่องราวในจักรวาลให้มีในทิศทางเดียวกันและยังเป็นผู้เขียนหนังสือ เดอะเวิลด์ออฟอวตาร: การสำรวจด้วยภาพ และ งานศิลป์แห่งอวตาร วิถีแห่งสายน้ำ
ภาพยนตร์ใน แฟรนไชน์ภาพยนตร์ทำเงินรวมเป็นอันดับที่ 13 ทั้งสองเรื่องประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในด้านรายได้และคำวิจารณ์ ทำเงินรวมประมาณ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของโลกเป็นอันดับหนึ่ง ภาพยนตร์เรื่องที่สองเป็นอันดับสาม ในขณะนี้ ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องในแฟรนไชน์ได้รับรางวัล รางวัลออสการ์ สาขาเทคนิคสมจริงยอดเยี่ยม
ภาพยนตร์
[แก้]ภาพยนตร์ | วันฉายในสหรัฐ | กำกับโดย | เขียน | อำนวยการสร้างโดย | สถานะ | |
---|---|---|---|---|---|---|
บทภาพยนตร์โดย | เนื้อเรื่องโดย | |||||
อวตาร | 18 ธันวาคม ค.ศ. 2009 | เจมส์ แคเมรอน | เจมส์ แคเมรอน | เจมส์ แคเมรอนและจอน แลนเดา | ฉายแล้ว | |
อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ | 16 ธันวาคม ค.ศ. 2022 | เจมส์ แคเมรอนกับริก จาฟฟากับอแมนดา ซิลเวอร์ | เจมส์ แคเมรอนกับริก จาฟฟากับอแมนดา ซิลเวอร์กับจอช ฟรีดแมนกับเชน ซาเลอร์โน[2] | |||
อวตาร: อัคนีและธุลีดิน | 19 ธันวาคม ค.ศ. 2025 | หลังการถ่ายทำ | ||||
อวตาร 4 | 21 ธันวาคม ค.ศ. 2029 | เจมส์ แคเมรอนกับกับจอช ฟรีดแมน | กำลังถ่ายทำ | |||
อวตาร 5 | 19 ธันวาคม ค.ศ. 2031 | เจมส์ แคเมรอนกับเชน ซาเลอร์โน | ก่อนการถ่ายทำ |
อวตาร (2009)
[แก้]เรื่องราวมุ่งเน้นไปที่ความขัดแย้งครั้งยิ่งใหญ่บนดาวแพนดอรา ดวงจันทร์ขนาดเท่าโลกของดาวโพลีฟีมัส หนึ่งในสามของดาวเคราะห์แก๊สยักษ์ที่โคจรรอบแอลฟาคนครึ่งม้า เอ บนดาวแพนดอรา มนุษย์อาณานิคมและชาวพื้นเมืองคล้ายมนุษย์ที่มีความรู้สึกนึกคิดของแพนดอร่า ชาวนาวี มีส่วนร่วมใน สงครามแย่งชิงทรัพยากรของโลกและการดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องของดาวเคราะห์ ชื่อเรื่องของภาพยนตร์กล่าวถึงร่างกายของมนุษย์บนดาว ชาวนาวี่ ที่ควบคุมจากระยะไกลและดัดแปลงพันธุกรรมซึ่งตัวละครมนุษย์ในภาพยนตร์ใช้โต้ตอบกับชาวพื้นเมือง ผ่านตัวละครของ เจค ซัลลี อดีตนาวิกโยธินพิการที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญของสงครามครั้งนี้
อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ (2022)
[แก้]เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องแรกกว่า 15 ปี วิถีแห่งสายน้ำมุ่งเน้นไปที่การกลับมาของ RDA ซึ่งกระตุ้นให้ครอบครัวของเจคสำรวจพื้นที่แห่งทะเลของดาวแพนดอร่า เพื่อพยายามปกป้องกันและกันให้ปลอดภัยและเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่พวกเขาคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย คาเมรอนให้สัมภาษณ์ว่าในขณะที่ภาพยนตร์เรื่องแรกเกี่ยวกับ "ความกลัวและความพิศวง" ภาคต่อจะเน้นไปที่ "ตัวละคร" มากกว่า โดยได้มีการปรากฏตัวของตัวละครใหม่มากมายทั้งในฝั่งของมนุษย์และชาวนาวี่เผ่าใหม่อย่าง เม็ตคายีน่า
อวตาร: อัคนีและธุลีดิน (2025)
[แก้]เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องสองกว่าหลายสัปดาห์ อัคนีและธุลี มุ่งเน้นไปที่ความสูญเสีย ความรู้สึกผิดของครอบครัวซัลลี่ภายหลังความสูญเสียในเผ่าเม็ตคายีน่า และการก้าวข้ามผ่านอุปสรรคใหม่อย่างเผ่าเถ้าถ่านที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพวกเขา นอกจากนี้ RDA ยังรุกเต็มกำลังเพื่อความหวังที่จะทำให้ดาวแพนดอร่ากลายเป็นอาณานิคมใหม่ของมวลมนุษย์ แคเมรอนให้สัมภาษณ์ว่าภาพยนตร์จะเน้นไปที่ "นาวี่ที่ไม่ดี และมนุษย์ที่ดี" ผ่านตัวละครใหม่และเก่าจากภาคที่แล้ว เนื่องจากความจริงภาพยนตร์เรื่องที่สองและสามเคยจะเป็นเรื่องเดียวกัน โดยจะถูกนำเสนอผ่านการบรรยายของ โล'อัค ซัลลี่ ลูกชายของเจคที่ได้ขึ้นมาเป็นผู้ดำเนินเรื่องแทนพ่อของตน โดยภาคนี้จะนำเสนอตัวละครของฝั่งมนุษย์อย่าง ปาร์คเกอร์ เซลฟริดจ์ ตัวละครสมทบหลักของภาคแรกที๋โผล่มารับเชิญเพียงสั้น ๆ ในภาคสอง เช่นเดียวกับ นอร์ม สเปลแมน ที่จะมีการผจญภัยครั้งใหม่รอพวกเขาอยู่ หลังมีบทบาทไม่มากนักในภาคสอง และการปรากฏตัวของ "วารัง" ผู้นำแห่ง "แมงควาน" เผ่าธุลีที่เป็นตัวร้ายหลักประจำภาพยนตร์
ภาพยนตร์มีกำหนดฉายใหม่ในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อวตาร: ผู้ควบโทลคูน (2029)
[แก้]ภาพยนตร์เรื่องที่สี่ จอน แลนเดา โปรดิวเซอร์ได้กล่าวว่ากล่าวว่า เนื่องจากการแสดงภาคแรกเว้นเวลาไป 6 ปี ทำให้หนึ่งในสามองค์ของ อวตาร 4 ถ่ายทำไปแล้วเนื่องจากอายุของนักแสดงเด็ก มีการประกาศที่งาน D23 Expo เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2022 ว่าการถ่ายทำฉากหลักองค์แรกสำหรับ อวตาร 4 ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเรื่องราวจะมีระยะห่างของเรื่องราว 6 ปีหลังจากเหตุการณ์ในองค์แรกเพื่อให้นักแสดงที่มีฝีมือสามารถดำเนินเรื่องได้อย่างลงตัว แต่เจมส์ แคเมรอนอาจจะแบ่งเวลาไปกำกับภาพยนตร์เรื่องอื่นก่อน โดย มิเชล โหย่ว จะปรากฏตัวในบทของดร. แคริน่า โม้ค นักวิทยาศาสตร์ของ RDA เป็นผู้ช่วยของปาร์คเกอร์ เซลฟริดจ์ หลังเชื่อว่าเธอจะปรากฏตัวใน อวตาร: อัคนีและธุลีดิน[1]
ภาพยนตร์มีกำหนดฉายใหม่ในวันที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2572
อวตาร: ภารกิจแห่งเอวา (2031)
[แก้]ภาพยนตร์เรื่องที่ห้าได้รับการประกาศแล้ว จอน แลนเดา ระบุว่า อวตาร 5 จะนำเสนอแก่นหลักอยู่ที่โลก หลังจากถูกตัดออกในภาคแรก โดยที่ เนย์ทิรีและครอบครัวจะได้เห็นโลกและค้นพบความจริงของซัลลี่ และชีวิตของมวลมนุษย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ในพลังงานและความเป็นอยู่ แต่เจมส์ แคเมรอนออกมาอธิบายว่า ภาพยนตร์ภาคดังกล่าวไม่ได้มีเดินเรื่องอยู่บนโลก เขาอยากจะนำเสนอวิธีช่วยโลก ไม่ใช่การทำลายมัน และตัวละครมนุษย์คือส่วนสำคัญที่จะพลิกชะตากรรมโลกทั้งใบ และแม้ว่าภาค 5 จบลง มันอาจจะเป็นการจบแบบปลายเปิด เปิดทางให้ภาพยนตร์ภาคต่อไปในอนาคต หากมีคนสานต่อที่คู่ควร เขาก็พร้อมจะส่งหน้าที่ให้
ภาพยนตร์มีกำหนดฉายใหม่ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2574
อนาคต
[แก้]ในปี 2022 คาเมรอนระบุว่าเขามีแผนสำหรับภาพยนตร์เรื่องที่หกและเจ็ด และจะสร้างขึ้นหากมีความต้องการจากผู้ชม ต่อมาในปี 2023 บ็อบ ไอเกอร์ ผู้บริหารของดิสนีย์ได้เผยว่ากำลังจะลงทุนกับแฟรนไชส์อย่างเต็มสูบ โดยแผนการดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มยอดผู้สมัครสมาชิกของ ดิสนีย์+ โดยวางแผนจะสร้างสื่อต่าง ๆ ออกมานอกเหนือจากภาพยนตร์
นักแสดงและตัวละคร
[แก้]รายการตัวบ่งชี้
ส่วนนี้แสดงถึงตัวละครที่จะปรากฏตัวหรือปรากฏตัวแล้วในแฟรนไชน์
- ส่วนที่ว่างเป็นสีเทาเข้ม หมายถึง ตัวละครไม่ได้อยู่ในภาพยนตร์หรือการปรากฏของตัวละครไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ
- U หมายถึง ปรากฏตัวแต่ไม่มีชื่อในเครดิต
- Y หมายถึง วัยเด็กของตัวละคร
ตัวละครปาร์คเกอร์ เซลฟริดจ์ ของริบิชี่ เป็นเพียงตัวละครเดียวที่ปรากฏตัวในทุกสื่อเคลื่อนไหวในแฟรนไชน์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องภาพยนตร์ ได้แก่ ภาพยนตร์ห้าภาค และ วิดีโอเกมของยูบิซอฟต์ทั้งสอง
ตัวละคร | ภาพยนตร์ | วิดีโอเกม | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
อวตาร | อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ | อวตาร 3 | อวตาร 4 ผู้ควบโทลคูน | อวตาร 5 ภารกิจแห่งเอวา | อวตาร: เดอะเกม | อวตาร: พรมแดนแห่งแพนดอร่า | |
2009 | 2022 | 2025 | 2029 | 2031 | 2009 | 2023 | |
เจค ซัลลี | แซม เวิร์ธธิงตัน | ถูกกล่าวถึง | |||||
เนย์ทิริ | โซอี ซัลดานา | ||||||
พันเอก ไมลส์ ควอริทช์ | สตีเฟ่น แลง | ||||||
ปาร์คเกอร์ เซลฟริดจ์ | โจวานนี รีบีซี | ถูกกล่าวถึง | |||||
ดร. นอร์ม สเปลแมน | โจเอล เดวิด มัวร์ | ||||||
ดร. แมกซ์ พาเทล | ไดลีป เรา | ||||||
จ่าสิบโท ไลล์ เวนฟลีท | แมตต์ เจอรัลด์ | ||||||
โมแอต | ซีซีเอช เพาเดอร์ | ||||||
ดร. เกรซ ออกัสติน | ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ | ||||||
ทรูดี ชาร์คอน | มิเชลล์ ราดรีเกซ | มิเชลล์ ราดรีเกซ | |||||
ยูทูแคน | เวส สตูดี้ | ||||||
ทซูเทย์ | ลาซ อาลอนโซ่ | ||||||
คิรี | ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ | ||||||
โรนัล | เคต วินสเล็ต | ||||||
โตโนวารี | คลิฟฟ์ เคอร์ติส | ||||||
นายพล ฟรานเซส อาร์ดมอร์ | อีดี ฟัลโก | ถูกกล่าวถึง | |||||
กัปตันมิก สกอร์สบี้ | เบรนแดน คาเวลล์ | ||||||
ดร. เอียน การ์วิน | เจเมน เคลเมนต์ | ||||||
ไมลส์ "สไปเดอร์" โซคอร์โร | แจ็ก แชมเปียน, อเล็กซ์ ลูคัส (ทารก) และ ครูซ มัวร์Y | ||||||
เนเทยัม | เจมี่ แฟลตเตอร์ส | ||||||
โอลิเวอร์ เดวิด มัวร์ (ทารก) และ เจเรมี เออร์วินY | |||||||
โล'อัค | ไบรอัน ดอลตัน | บริเตน ดัลตัน | |||||
ดีแลน ดอร์แมน (ทารก) และ โคลอี้ โคลแมนY | |||||||
ทู้คทิรี "ทู้ค" | ทรินิตี้ บลิส | ||||||
ศีเรยา "เรยา" | เบลีย์ แบส | ||||||
อาวนุง | ฟิลิป เกลโจ | ||||||
ร็อตโซ่ | ดูแอน วิชแมน-อีวานส์ | ||||||
ล่ามของเม็ตคายีน่า | ซี เจ โจนส์U | ||||||
ดร. แคริน่า โมค | มิเชล โหย่ว | ||||||
วารัง | อูน่า แชปลิน | ||||||
เปย์ลักษณ์ | เดวิด ธิวลิส | ||||||
โซ'เล็ก | ดูซาน ดูคิก | ||||||
อีทูวา | คาร่า ริคเก็ตส์ | ||||||
เทย์ลาน | อีวาน สเทิร์น | ||||||
นอร์ | แพทริก คว็อก-ชุน | ||||||
ดร อัลม่า คอร์เทซ | แคเรน เกรฟ | ||||||
ชาร์ลส์ สตริงเกอร์ | ฟีล บราวน์ | ||||||
จอห์น เมอร์เซอร์ | แอนเดรียส อะเปอร์จิส | ||||||
ปรียา เฉิน | ไมลีน ดินห์-โรบิก | ||||||
อนูฟี | เมฟ บิวตี้ | ||||||
เนฟิกา | ทามาร่า บราวน์ | ||||||
โมคาซ่า | สเตอร์ลิ่ง จาร์วิส | ||||||
โอกุล | เชส โล | ||||||
เอนตู | เดวิด แมคแนลลี่ | ||||||
คา'นัท | ชิมเวมเว มิลเลอร์ | ||||||
คิน | มาร์ติน โร้ช | ||||||
นุสยา | ซาจิน เซมาจัสต์ | ||||||
ผู้พัน แองเจล่า ฮาร์ดิง | วโรน่า เศรษฐวาโล | ||||||
มีนัง | นาตาลี ชาร์ฟ | ||||||
รี'เนลา | ฮานเนเก้ ทัลบอต | ||||||
เอตู | อารายา เมนเกซา |
ผลตอบรับ
[แก้]การทำรายได้
[แก้]ภาพยนตร์ภาคแรก อวตาร ทำเงินไป 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดทั่วโลก ภาพยนตร์ภาคที่สอง วิถีแห่งสายน้ำ ทำเงินไป 2.131 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
ภาพยนตร์ | วันออกฉาย | รายได้รวม | อันดับบ็อกซ์ออฟฟิศ | ทุนสร้าง | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|
อเมริกาเหนือ | นอกอเมริกา | ทั่วโลก | อเมริกาเหนือ | ทั่วโลก | |||
อวตาร | 18 ธันวาคม 2009 | $785,221,649 | $2,137,696,265 | $2,922,917,914 | 4 | 1 | 237 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ | 16 ธันวาคม 2022 | $620,580,771 | $1,496,000,000 | $2,174,000,000 | 23 | 10 | 350-460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
รายได้รวม | $1,405,802,420 | $3,633,696,265 | $5,039,498,685 | 21 | 13 | $1.337–1.447 billion |
คำวิจารณ์
[แก้]Film | Critical | Public | ||
---|---|---|---|---|
Rotten Tomatoes | Metacritic | CinemaScore | PostTrak | |
อวตาร | 82% (337 บทวิจารณ์)[3] | 83 (35 บทวิจารณ์)[4] | A[5] | — |
อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ | 77% (395 บทวิจารณ์)[6] | 67 (68 บทวิจารณ์)[7] | A[8] | 91%[8] |
รางวัลที่ได้รับ
[แก้]- ภาพยนตร์ภาคแรก อวตาร ชนะรางวัล Academy Awards ในสาขา Art Direction, Cinematography, และ Visual Effects, ขณะมีสาขาที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ได้แก่ Picture, Director, Film Editing, Original Score, Sound Editing, และ Sound Mixing.[9]
- ภาพยนตร์อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ชนะรางวัล Academy Awards ในสาขา Visual Effects ขณะมีสาขาที่ได้รับการเสนอเข้าชิงใน Academy Awards สาขา Art Direction, และ Visual Effects, Picture, Director
Category | ||
---|---|---|
82nd Academy Awards | 95th Academy Awards | |
อวตาร | อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ | |
Picture | เสนอชื่อเข้าชิง | เสนอชื่อเข้าชิง |
Director | เสนอชื่อเข้าชิง | |
Art Direction | ชนะ | เสนอชื่อเข้าชิง |
Cinematography | ชนะ | |
Editing | เสนอชื่อเข้าชิง | |
Score | เสนอชื่อเข้าชิง | |
Sound | เสนอชื่อเข้าชิง | เสนอชื่อเข้าชิง |
Sound Editing | เสนอชื่อเข้าชิง | ตัดสิทธิ์ |
Visual Effects | ชนะ | ชนะ |
เพลงประกอบ
[แก้]- อวตาร: เพลงประกอบภาพยนตร์ ประพันธ์โดย เจมส์ ฮอร์เนอร์ และวางจำหน่าย วันที่ 15 ธันวาคม 2009 โดย Atlantic Records และ Fox Music.
- อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ (เพลงประกอบ) ประพันธ์โดย ไซมอน แฟรงเลน และวางจำหน่าย วันที่ 15 ธันวาคม 2022 โดย Hollywood Records.
ซิงเกิลโปรโมท
[แก้]- "ไอซียู (ธีมฟรอมอวตาร) - ฉันเห็นเธอ (เพลงประกอบอวตาร) ขับร้องโดย เลโอนา ลูวิส
- "นอตติงอิสลอสต์ (ยูกิฟมีสเตรนจ์) - ไม่จางหาย (เธอมอบพลัง)" ขับร้องโดย เดอะวีกเอนด์
สื่ออื่น ๆ
[แก้]วิดีโอเกม
[แก้]ชื่อ | รายละเอียด |
---|---|
วันที่เปิดตัวครั้งแรก:[10][11]
|
ปีที่เปิดตัวโดยเครื่องเล่นเกม: 2009 – ไมโครซอฟท์ วินโดวส์, นินเท็นโด ดีเอส, เพลย์สเตชัน 3, เพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล, วี (เครื่องเล่นเกม), เอกซ์บอกซ์ 360 , ไอโฟน 2010 – ไอแพด, แอนดรอยด์
|
หมายเหตุ:
| |
วันที่เปิดตัวครั้งแรก:[12][13]
|
ปีที่เปิดตัวโดยเครื่องเล่นเกม: 2020 – ไอโอเอส, แอนดรอยด์ |
หมายเหตุ:
| |
วันที่เปิดตัวครั้งแรก:[15]
|
ปีที่เปิดตัวโดยเครื่องเล่นเกม: 2023 – ไอโอเอส, แอนดรอยด์ |
หมายเหตุ:
| |
วันที่เปิดตัวครั้งแรก:[16][17]
|
ปีที่เปิดตัวโดยเครื่องเล่นเกม: 2023 – ไมโครซอฟท์ วินโดวส์, เพลย์สเตชัน 5, Xbox Series X/S, สตาเดีย, และ Amazon Luna. |
หมายเหตุ:
|
นิยาย
[แก้]หลังจากการฉายของอวตาร เจมส์ แคเมรอน ตั้งใจจะเขียนนิยายภาพที่สร้างจากภาพยนตร์ "ผมอยากบอกเล่าเรื่องราวของหนัง" แต่ มีหลายอย่างที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องราวมากมายที่เราไม่มีเวลาจะอธิบาย"[18]
ในปี 2013,แผนนี้ถูกแทนที่ด้วยการประกาศนวนิยายใหม่สี่เล่มที่ตั้งขึ้นใน "จักรวาลขยายอวตาร" ซึ่งเขียนโดยสตีเวน โกลด์ หนังสือมีกำหนดจัดพิมพ์โดย Penguin Random House แม้ว่าตั้งแต่ปี 2017 จะไม่มีการอัปเดตชุดหนังสือที่วางแผนไว้ แต่ใน กรกฎาคม 2022 นิยายภาพเรื่องแรกจากแฟรนไชน์ก็ได้รับการประกาศ อวตาร: เหนือนภา (Avatar: The High Ground)
ชื่อ | วันจำหน่าย | เหมาะสำหรับ | ประเภทงาน | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|
อวตาร: เหนือนภา (Avatar: The High Ground) | 6 ธันวาคม, 2022 – 10 มกราคม 2023 | ผู้อ่านทุกวัย | นวนิยายภาพ | [19][20][21][22][23][24] |
|
หนังสือ
[แก้]งานศิลป์แห่งอวตาร หนังสือเกี่ยวกับงานสร้างภาพยนตร์ วางจำหน่าย วันที่ 30 พฤศจิกายน 2009 โดย Abrams Books.
The World of Avatar: การสำรวจด้วยภาพ เป็นหนังสือที่เฉลิมฉลอง สำรวจ และอธิบายถึงโลกอันน่าอัศจรรย์ของแพนดอรา วางจำหน่าย วันที่ 31 พฤษภาคม 2022, โดย DK Books ลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายในประเทศไทยโดย สำนักพิมพ์: วารา
งานศิลป์แห่งอวตาร วิถีแห่งสายน้ำ พาสำรวจเบื้องหลังสุดพิเศษในการสร้างและกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ในภาพยนตร์ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ วางจำหน่าย วันที่ 16 ธันวาคม 2022 โดย DK Books
อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ พจนานุกรมภาพถ่าย คือ หนังสือภาพที่แสดงตัวละคร ยานพาหนะ อาวุธ สถานที่ และอื่น ๆ จากในภาพยนตร์ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ พร้อมทั้งรายละเอียดสุดพิเศษที่น่าตื่นตา วางจำหน่าย วันที่ 16 ธันวาคม โดย DK Books
หนังสือการ์ตูน
[แก้]ตุลาคม 2015 Dark Horse Comics ได้เซ็นสัญญา 10 ปี เพื่อเป็นหุ้นส่วนร่วมผลิตหนังสือการ์ตูน อวตาร[26]
6 พฤษภาคม 2017 Dark Horse Comics ได้ตีพิมพ์ เรื่องสั้น วันหนังสือการ์ตูนฟรี ชื่อว่า FCBD 2017 เจมส์ แคเมรอน อวตาร/ Briggs Land, ที่รวมเรื้องสั้นที่อยู่ในโลกของภาพยนตร์อวตารที่มีชื่อว่า "ภราดา" (Avatar: Brothers).[27][28] จากนั้น เดือนมกราคมจนถึงสิงหาคม ปี 2019 Dark Horse ได้ตีพิมพ์หนังสือมินิซีรีส์ 6 ฉบับ "อวตาร: วิถีทซูเทย์ (Avatar: Tsu'tey's Path).[29][30][31][32][33][34][28] วิถีทซูเทย์ ได้ถูกรวมเล่มในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2019 พร้อมเรื่องสั้น "ภราดา" ทั้งสองเรื่องนี้บอกเล่าเหตุการณ์ในภาพยนตร์ แต่เป็นมุมมองของตัวละครนอกเหนือจากเจค ซัลลี่ เช่น ทซูเทย์ คู่หมั้นของเนทิรีที่พยายามหาหนทางรับมือกับความสูญเสียหลังการปรากฏตัวของเจค ซัลลี่ [28]
6 มกราคม 2017 Dark Horse Comics ได้ตีพิมพ์ มินิซีรีส์ 4 ฉบับ อวตาร: มหันตภัยครั้งใหม่ (Avatar: The Next Shadow) ที่บอกเล่าเรื่องราวต่อจากภาพยนตร์อวตารภาคแรก เล่าเหตุการณ์สองอาทิตย์หลังจากภาพยนตร์ และต่อมา 11 พฤษภาคม 2022 อวตาร: ยักเยื้องหรือมรณา (Avatar: Adapt or Die) มินิซีรีส์ 6 ฉบับที่ถูกตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เดียวกันได้ตีพิมพ์ บอกเล่าเรื่องราวที่นำไปสู่ภาพยนตร์อวตาร ผ่านตัวละคร ดร.เกรซ ออกัสตินที่พยายามาสร้างสะพานแห่งสันติกับเผ่าโอมาติคาย่า
21 ตุลาคม 2023 Dark Horse Comics ได้ประกาศ มินิซีรีส์ 6 ฉบับที่เชื่อมโยงกับวิดีโอเกม อวตาร:พรมแดนแห่งแพนดอร่า - ระยะวิถีของโซ'เล็ก (Avatar: Frontiers of Pandora: So'lek's Journey) เล่าเหตุการณ์ในช่วงก่อนภาพยนตร์ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ผ่านตัวละคร โซ'เล็ก นาวีนักรบที่พยายามเดินทางเพื่อค้นหาความหวังที่จะรับมือกับคนบนฟ้า ก่อนการปรากฎตัวของตัวละครหลักของผู้เล่นในวิดีโอเกม กำหนดวางจำหน่าย กุมภาพันธ์ 2024
ฉบับ | บทเรื่อง | วันจำหน่าย | เรื่อง | ภาพ | ลงสี | หน้าปก | รวมเล่ม |
---|---|---|---|---|---|---|---|
FCBD 2017 | "ภราดา" (Brothers) | 6 พฤษภาคม 2017 | Sherri L. Smith | Doug Wheatley | Wes Dzioba | Dave Wilkins | อวตาร: วิถีทซูเทย์ (Avatar: Tsu'tey's Path) RELEASED: 27 พฤศจิกายน 2019ISBN 9781506706702 |
#1 | "วิถีทซูเทย์" (Tsu'tey's Path) | 16 มกราคม 2019 | Sherri L. Smith | Jan Duursema (pencils)
Dan Parson (inks) |
Wes Dzioba | Doug Wheatley
Shea Standefer (หน้าปกอื่น ๆ) | |
#2 | 13 กุมภาพันธ์ 2019 | ||||||
#3 | 20 มีนาคม 2019 | ||||||
#4 | 1 พฤษภาคม 2019 | ||||||
#5 | 26 มิถุนายน 2019 | ||||||
#6 | 21สิงหาคม 2019 | ||||||
#1 | "มหันตภัยครั้งใหม่" (The Next Shadow) | 6 มกราคม 2021 | Jeremy Barlow | Josh Hood | Wes Dzioba | Guilherme Balbi
ร่วมกับ Wes Dzioba |
อวตาร: มหันตภัยครั้งใหม่ (Avatar: The Next Shadow) RELEASED: 11 สิงหาคม 2021
ISBN 9781506722429 |
#2 | 3 กุมภาพันธ์ 2021 | ||||||
#3 | 3 มีนาคม 2021 | ||||||
#4 | 7 เมษายน 2021 | ||||||
#1 | "ยักเยื้องหรือมรณา" (Adapt or Die) | 4 พฤษภาคม 2022 | Corinna Bechko | Beni Lobel | Mark Molchan | Wes Dzioba | อวตาร: ยักเยื้องหรือมรณา (Avatar: Adapt or Die) RELEASED: 23 กุมภาพันธ์ 2023ISBN 9781506730714 |
#2 | 1 มิถุนายน 2022 | ||||||
#3 | 6 กรกฎาคม 2022 | ||||||
#4 | 1 สิงหาคม 2022 | ||||||
#5 | 9 กันยายน 2022 | ||||||
#6 | 5 ตุลาคม 2022 |
โชว์สด
[แก้]โทรุก เดอะ เฟิสต์ ไฟลท์ เป็นการแสดงโชว์ที่สร้างจาก คณะโชว์เซิร์ค ดู โซเลย์ของมอนทรีอัลที่เปิดแสดงระหว่าง ธันวาคม 2015 และ มิถุนายน 2019 สร้างจาก ภาพยนตร์อวตาร ทำหน้าที่เป็นปฐมบทของจักรวาล โดยตั้งเรื่องราวที่อดีตของแพนดอราที่มีคำทำนายเกี่ยวกับมหันตภัยร้ายที่หวังคุกคามต้นไม้แห่งจิตวิญญาณและภารกิจของเอ็นตู โทรุคมัคโตตนแรก เพื่อโทเท็มในเผ่าที่ต่างกันมากมาย และสร้างเป็นสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ผู้ชมสามารถดาวน์โหลดแอพเพื่อที่จะได้มีส่วนรวมในการแสดงโชว์ ในวันที่ 18 มกราคม มันถูกประกาศในเฟซบุ๊คว่า การถ่ายทำสำหรับดีวีดีได้เสร็จสิ้นและกำลังอยู่ในขั้นของการตัดต่อ
นิทรรศการ
[แก้]อวตาร: นิทรรศการคือนิทรรศการท่องเที่ยวที่สร้างจากภาพยนตร์ เปิดให้เข้าชมในเมือง เฉิงตู ประเทศจีน ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2021 และปิดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2021.[35][36] นิทรรศการกำลังจะมีทัวร์รอบเอเชียในอนาคตแต่ถูกหยุดลง[37]
เครื่องเล่นในสวนสนุก
[แก้]ในปี 2011 แคเมรอน, ไลต์สตอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ และ ทเวนตีเฟิสต์เซนจูรีฟอกซ์ได้เข้าร่วมข้อตกลงพิเศษกับวอลท์ ดิสนีย์ คอมพานี่ ให้จัดเครื่องเล่นใน ดิสนีย์พาร์ก, เอ็กซ์พีเรียนซ์แอนด์โปรดักส์ ทั่วทุกมุมโลก, รวมไปถึงตีมหลักสำหรับ ดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม ใน Lake Buena Vista, Florida. พื้นที่ดังกล่าวรู้จักกันในชื่อ แพนดอรา – เดอะเวิลด์ออฟอวตาร, เริ่มเปิดให้เข้าชม 27 พฤษภาคม 2017.[38][39]
ตีมหลักถูกตั้งให้อยู่ในช่วงอนาคตหลายรุ่นหลังภาพยนตร์และประกอบไปด้วยสองเครื่องเล่น Avatar Flight of Passage และ Na'vi River Journey.
ปี 2023 บ็อบ ไอเกอร์ ประกาศว่าจะมีการเปิดเครื่องเล่นใหม่ในดิสนีย์แลนด์ โดยจะมีจุดเชื่อมโยงกับภาพยนตร์ในอนาคตของแฟรนไชน์ เช่นเดียวกับเครื่องเล่นก่อนหน้า ชื่อว่า อวตาร ดิ เอ็กซ์เพเรนท์
ข้อพิจารณาด้านวัฒนธรรม
[แก้]กลุ่มชนพื้นเมืองบางกลุ่มทั่วโลกรวมถึงชนพื้นเมืองอเมริกันบางคนเรียกร้องให้คว่ำบาตรแฟรนไชส์เนื่องจากการจัดการวัฒนธรรมพื้นเมืองและการจัดสรรวัฒนธรรมแบบ "ไม่เข้าใจ" ภาพยนตร์อวตาร ทั้งสองเรื่องได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการคัดเลือกนักแสดงผิวขาวและไม่ใช่ชนพื้นเมืองหลายคนในบทบาทของคนพื้นเมืองต่างดาว แคเมรอนกล่าวว่าเขาพยายามหลีกหนีจากเรื่องเล่าของผู้กอบกู้ผิวขาว[40][41][42] ภาพยนตร์ชุดนี้ถูกวิจารณ์ว่า "ทำให้การล่าอาณานิคมเป็นไปอย่างโรแมนติก" และนำเสนอภาพคนพื้นเมืองที่เป็นแบบเหมารวมตามมุมมองเดี่ยว.[43]
แคเมรอนยังเผชิญกับคำวิจารณ์สำหรับความคิดเห็นที่เกิดขึ้นหลังจากภาพยนตร์เรื่องแรกออกฉาย[44][45][46] ในปี 2010 แคเมรอนและนักแสดง Avatar สนับสนุนชาว Xingu ในการต่อต้านการสร้างเขื่อนเบโลมอนเต ประเทศบราซิล[47] ในปี 2012 คาเมรอนกล่าวว่า อวตาร เป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของอเมริกาเหนือและใต้ในยุคอาณานิคมตอนต้น “ด้วยความขัดแย้งและการนองเลือดระหว่างผู้รุกรานทางทหารจากยุโรปและชนพื้นเมือง”[48][49]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "Avatar producer teases the four sequels: "The connected story arc creates an even larger epic saga"". 8 December 2021.
- ↑ B. Vary, Adam (December 22, 2022). "'Avatar: The Way of Water' Screenwriters Talk Splitting Their Script Into Two Films, Sigourney Weaver's Mysterious Role and the Upcoming Movies (EXCLUSIVE)". Variety. สืบค้นเมื่อ December 28, 2022.
- ↑ "Avatar". Rotten Tomatoes. Fandango Media. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ "Avatar". Metacritic. Red Ventures. สืบค้นเมื่อ June 18, 2018.
- ↑ D'Alessandro, Anthony (December 18, 2022). "Avatar: The Way Of Water Opens To $134M; Why Pic's Box Office Fate Will Be Determined Through The Holidays – Sunday AM Update". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 18, 2022. สืบค้นเมื่อ December 18, 2022.
- ↑ "Avatar: The Way of Water (2022)". Rotten Tomatoes. Fandango Media. สืบค้นเมื่อ December 30, 2022.
- ↑ "Avatar: The Way of Water Reviews". Metacritic. Red Ventures. สืบค้นเมื่อ December 22, 2022.
- ↑ 8.0 8.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCinemaScore
- ↑ "Oscar winners 2010: full list". the Guardian. March 8, 2010. สืบค้นเมื่อ December 27, 2022.
- ↑ ยูบิซอฟต์ (July 24, 2007). "ยูบิซอฟต์ และ ฟ็อกซ์ทีม ฟอร์ อวตาร เกม". Comingsoon.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 22, 2007. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- ↑ Miller, Ross (July 24, 2007). "Miller, Ross; "James Cameron selects Ubisoft to adapt Avatar"; joystiq.com; July 24, 2007". Joystiq.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 29, 2011. สืบค้นเมื่อ June 4, 2009.
- ↑ "Scopely acquires Disney's FoxNext Games, maker of Marvel Strike Force". VentureBeat. January 22, 2020.
- ↑ "Avatar: Pandora Rising". Scopely. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 5, 2022. สืบค้นเมื่อ September 24, 2022.
- ↑ "AVATAR Pandora Rising Shutting Down". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-06-09. สืบค้นเมื่อ 2023-01-05.
- ↑ "Avatar Reckoning". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 14, 2022. สืบค้นเมื่อ September 24, 2022.
- ↑ A New 'Avatar' Video Game Was Announced and People Have Mean Jokes
- ↑ "Avatar Frontiers of Pandora". Ubisoft. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 11, 2022. สืบค้นเมื่อ September 24, 2022.
- ↑ Flood, Alison (February 18, 2010). "James Cameron to write novel based on Avatar". The Guardian. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 8, 2014. สืบค้นเมื่อ March 8, 2021.
- ↑ "Avatar: The High Ground Volume 1". Barnes & Noble. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2022. สืบค้นเมื่อ September 24, 2022.
- ↑ "Avatar: The High Ground Volume 2". Barnes & Noble. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 10, 2022. สืบค้นเมื่อ September 24, 2022.
- ↑ "Avatar: The High Ground Volume 3 (Avatar, 3)". Amazon. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2022. สืบค้นเมื่อ September 24, 2022.
- ↑ "Avatar: The High Ground Volume 1". Penguin Random House. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 10, 2022. สืบค้นเมื่อ September 24, 2022.
- ↑ "Avatar: The High Ground Volume 2". Penguin Random House. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 26, 2022. สืบค้นเมื่อ December 26, 2022.
- ↑ "Avatar: The High Ground Volume 3". Penguin Random House. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 26, 2022. สืบค้นเมื่อ December 26, 2022.
- ↑ "AVATAR: THE HIGH GROUND VOLUME 1 HC".
- ↑ "NYCC 2015: James Cameron's Avatar Comes to Dark Horse Comics". October 9, 2015.
- ↑ "FREE COMIC BOOK DAY 2017: JAMES CAMERON'S AVATAR/ BRIGGS LAND". Dark Horse Comics. Dark Horse Comics. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ 28.0 28.1 28.2 "AVATAR: TSU'TEY'S PATH TPB". Dark Horse Comics. Dark Horse Comics. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "AVATAR: TSU'TEY'S PATH #1". Dark Horse Comics. Dark Horse Comics. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "AVATAR: TSU'TEY'S PATH #2". Dark Horse Comics. Dark Horse Comics. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "AVATAR: TSU'TEY'S PATH #3". Dark Horse Comics. Dark Horse Comics. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "AVATAR: TSU'TEY'S PATH #4". Dark Horse Comics. Dark Horse Comics. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "AVATAR: TSU'TEY'S PATH #5". Dark Horse Comics. Dark Horse Comics. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "AVATAR: TSU'TEY'S PATH #6". Dark Horse Comics. Dark Horse Comics. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
- ↑ "AVATAR: EXPLORE PANDORA Welcomes Guests In Chengdu". April 30, 2021. สืบค้นเมื่อ February 2, 2022.
- ↑ "Avatar the Exhibition". 20th Century Studios. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-04-08. สืบค้นเมื่อ October 11, 2022.
- ↑ "Exclusive: The Walt Disney Company and Lightstorm Entertainment on 'Avatar 2' Collaborations and Consumer Products". March 22, 2022. สืบค้นเมื่อ March 28, 2022.
- ↑ Cody, Anthony (September 22, 2011). "Disney to build Avatar attractions at its theme parks". The Daily Telegraph. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 10, 2022. สืบค้นเมื่อ September 23, 2011.
- ↑ Levy, Dani (February 7, 2017). "Disney's 'Avatar'-Themed Land Opening Date Revealed, Star Wars Land Coming in 2019". Variety. สืบค้นเมื่อ February 8, 2017.
- ↑ "James Cameron's old comments prompt Native American boycott of new 'Avatar' sequel". Los Angeles Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2022-12-19. สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ ""Avatar" faces calls for boycott over accusations of racism". Newsweek (ภาษาอังกฤษ). 2022-12-19. สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ "People are boycotting Avatar: The Way of Water over 'cultural appropriation'". The Independent (ภาษาอังกฤษ). 2022-12-23. สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ Magazine, Smithsonian; Feldman, Ella. "Indigenous Activists Criticize 'Avatar' Sequel". Smithsonian Magazine (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ "James Cameron's old comments prompt Native American boycott of new 'Avatar' sequel". Los Angeles Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2022-12-19. สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ ""Avatar" faces calls for boycott over accusations of racism". Newsweek (ภาษาอังกฤษ). 2022-12-19. สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ "People are boycotting Avatar: The Way of Water over 'cultural appropriation'". The Independent (ภาษาอังกฤษ). 2022-12-23. สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ "Avatar director James Cameron joins Amazon tribe's fight to halt giant dam". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2010-04-17. สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ Acuna, Kirsten. "James Cameron Swears He Didn't Rip Off The Idea For 'Avatar'". Business Insider (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
- ↑ "Wayback Machine" (PDF). web.archive.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-20. สืบค้นเมื่อ 2022-12-26.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2565
- ภาพยนตร์ที่กำกับโดย เจมส์ คาเมรอน
- ภาพยนตร์โดยทเวนตีธ์เซนจูรีฟอกซ์
- ภาพยนตร์อเมริกัน 3 มิติ
- ภาพยนตร์ไซไฟ
- ภาพยนตร์แฟนตาซี
- ภาพยนตร์อเมริกัน
- ภาพยนตร์ผจญภัยในอวกาศ
- ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในรัฐฮาวาย
- ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในรัฐแคลิฟอร์เนีย
- ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศนิวซีแลนด์
- ภาพยนตร์ไอแมกซ์
- บทความเกี่ยวกับ ภาพยนตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์