หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล
หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล | |
---|---|
เกิด | 12 กันยายน พ.ศ. 2464 |
เสียชีวิต | 22 ธันวาคม พ.ศ. 2545 |
มีชื่อเสียงจาก | ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ วังวรดิศ และเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรางวัลวังวรดิศอาคารอนุรักษ์ดีเด่น สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ |
คู่สมรส | มัณฑนา ดิศกุล ณ อยุธยา |
บุตร | หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล |
บิดามารดา |
|
พลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล (12 กันยายน พ.ศ. 2464 - 22 ธันวาคม พ.ศ. 2545) อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศมาเลเซีย สมาพันธรัฐสวิส และนครรัฐวาติกัน เป็นโอรสของหม่อมเจ้าจุลดิศ ดิศกุล และเป็นพระนัดดาสืบตระกูลในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สมรสกับนางมัณฑนา ดิศกุล ณ อยุธยา (ราชสกุลเดิม กุญชร ณ อยุธยา) มีบุตรชายคนเดียว คือ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล
หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล เป็นทายาทสายตรงผู้สืบทอดดำรงรักษาวังวรดิศ ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านได้ทุ่มเทเวลากว่า 20 ปีภายหลังเกษียณอายุราชการในตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศมาเลเซีย สมาพันธรัฐสวิส และนครรัฐวาติกัน ในความทุ่มเท เสียสละ ไม่เคยมีความคิดโลภโมโทสันที่จะขายพื้นที่วังวรดิศหรือให้เช่าตามสิทธิแห่งความเป็นเจ้าของ ทั้งที่มีผู้มาติดต่อขอซื้อขอเช่าด้วยการเสนอราคาค่างวดเป็นจำนวนมาก เป็นที่กล่าวขานกันโดยทั่วว่าคุณชายสังขดิศจะปฏิเสธด้วยความสุภาพเรียบร้อยเสมอมา หากแต่ได้ดำริก่อตั้ง 'วังวรดิศ' เป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชจักรีวงศ์ และเสด็จปู่ของหม่อมราชวงศ์สังขดิศ คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตามที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานแนวพระราชดำริแก่เอกอัครราชทูต หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล เมื่อครั้งที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เยี่ยมทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น ประเทศสมาพันธรัฐสวิส รวมทั้งการให้เป็นโรงเรียนดำรงราชานุภาพ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่ลูกหลานเยาวชน ครูอาจารย์ อีกทั้งหลักสูตร 'การเป็นคนไทยที่ดี ตามรอยพระยุคลบาท' ให้กับข้าราชการจากหลายส่วนราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ตราบจนปัจจุบัน ที่บุตรชายคนเดียว คือ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นผู้บริหารราชการพลเรือนดีเด่นครุฑทองคำ ประจำปี 2553-2554 สมรสกับนางอัมพร ดิศกุล ณ อยุธยา มีบุตรชายคนเดียว คือ นายวรดิศ ดิศกุล ณ อยุธยา ได้สืบสานปณิธานของบิดาด้วยวิริยภาพ และยึดมั่นพระราชปรัชญาความพอเพียงในการครองตน ครองคน และครองงาน ความเพียร ความเจียมเนื้อเจียมตัว ความอ่อนน้อมถ่อมตน ตามคำสอนของบิดา และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพตลอดมา [1]
พลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล ได้ถึงแก่อนิจกรรมที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ด้วยโรคเกี่ยวกับโลหิตในสมอง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2545 สิริรวมอายุได้ 81 ปี[2] พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร อันนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อมครอบครัวทายาทพลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล และสมาชิกในราชสกุลดิศกุล หาที่สุดมิได้
- พิพิธภัณฑ์วังวรดิศและหอสมุดสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]ไทย
[แก้]- พ.ศ. 2514 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2511 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2491 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 3 ตติยจุลจอมเกล้า (ต.จ.) (ฝ่ายหน้า)[3]
- พ.ศ. 2484 – เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามอินโดจีน (ช.ส.)[4]
- พ.ศ. 2513 – เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 2 (ส.ช.)
- พ.ศ. 2486 – เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ร.)[5]
- พ.ศ. 2510 – เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)
ต่างประเทศ
[แก้]- สหรัฐอเมริกา :
- พ.ศ. 2505 - ลีเจียนออฟเมอริต ชั้นนายทหาร[6]
- สันตะสำนัก :
- เอธิโอเปีย :
- มาเลเซีย :
- เกาหลีใต้ :
- ไต้หวัน :
- รัฐกลันตัน, มาเลเซีย :
ลำดับสาแหรก
[แก้]ลำดับสาแหรกของหม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2009-12-14.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-05-09. สืบค้นเมื่อ 2009-12-14.
- ↑ แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตอนที่ 71 เล่ม 65 ราชกิจจานุเบกษา 7 ธันวาคม 2491
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๕๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๔๕๘๙, ๙ ธันวาคม ๒๔๘๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญช่วยราชการเขตภายใน, เล่ม ๖๐ ตอนที่ ๔๔ ง หน้า ๒๖๙๖, ๒๔ สิงหาคม ๒๔๘๖
- ↑ AGO 1962-16 — HQDA GENERAL ORDER: AWARDS