หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (กองทัพเรือสหรัฐ)
หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด กองทัพเรือ (อีโอดี) | |
---|---|
![]() เครื่องหมายเจ้าหน้าที่อีโอดี กองทัพเรือสหรัฐ | |
ประจำการ | มิถุนายน ค.ศ. 1941–ปัจจุบัน |
ประเทศ | ![]() |
เหล่า | ![]() |
รูปแบบ | หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดทางเรือนอกประเทศ |
บทบาท |
|
กำลังรบ | กำลังพลประจำการ 2,290 นาย กำลังพลสำรอง 143 นาย รวม 2,333 นาย[1] |
ขึ้นกับ | ![]() ![]() |
ปฏิบัติการสำคัญ |
หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด กองทัพเรือสหรัฐ (อังกฤษ: United States Navy Explosive Ordnance Disposal) เป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคที่ทำให้วัตถุระเบิดทุกประเภทมีความปลอดภัย รวมถึงระเบิดแสวงเครื่อง, สารเคมี, ชีวภาพ และนิวเคลียร์ พวกเขาปฏิบัติการ ณ ที่ตั้งทางบกและใต้น้ำ, ทำการวินิจฉัย, ทำให้ปลอดภัย และเก็บกู้ (หรือทำลายล้าง) ของสรรพาวุธนอกประเทศและในประเทศ พวกเขาทำการรื้อถอนอาวุธอันตราย, ดอกไม้เพลิง และปลดระเบิดโดยใช้เทคนิคการทำลายล้างและการเผาไหม้ พวกเขากรีธาพลส่วนหน้าและบูรณาการอย่างเต็มที่ต่อผู้บังคับบัญชาพลรบต่าง ๆ, หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SOF) และหน่วยสงครามต่าง ๆ ภายในกองทัพเรือ, เหล่านาวิกโยธิน, กองทัพอากาศ และกองทัพบก พวกเขายังได้รับการเรียกร้องให้สนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทหารและพลเรือน รวมถึงหน่วยตำรวจลับ
ภารกิจของเจ้าหน้าที่เทคนิคอีโอดี คือนำพวกเขาไปยังทุกสภาพแวดล้อม และทุกสภาพภูมิอากาศในทุกส่วนของโลก พวกเขามีทรัพยากรจำนวนมากที่จะไปให้ถึงภารกิจของพวกเขา ตั้งแต่การดำน้ำสกูบาแบบวงจรเปิดและวงจรปิด รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์การดำน้ำโดยใช้ต่อท่ออากาศจากผิวน้ำ ถึงการส่งกำลังกระโดดร่มจากอากาศยานปีกคงที่ รวมทั้งฟาสต์โรป, โรยตัว ตลอดจนระบบสเปเชียลพาโทรลอินเซอร์ชัน/เอกซ์แทรกชัน (SPIE) จากอากาศยานปีกหมุน สู่เรือขนาดเล็กและยานพาหนะสายพาน
ประวัติ
[แก้]ทีมทำลายล้างวัตถุระเบิดกองทัพเรือเจริญรอยประวัติของพวกเขากลับไปยังกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มแรกที่เลือกทำงานกับทีมวัตถุระเบิดที่ยังไม่มีการระเบิดของสหราชอาณาจักรที่มีชื่อเสียง หลังจากการโจมตีของบลิทซ์ครีคเยอรมันเริ่มต้นในต้นปี ค.ศ. 1940 ซึ่งในเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 1941 ทหารผ่านศึกเหล่านี้ได้กลับมาเพื่อก่อตัวรุ่นแรกในสิ่งที่เป็นชื่อเดิมของโรงเรียนเก็บกู้ทุ่นระเบิด เจ้าหน้าที่และกำลังพลที่เกณฑ์เข้าโรงเรียนสิบเอ็ดสัปดาห์ ที่ทำให้มีคุณสมบัติเป็นกำลังพลเก็บกู้ทุ่นระเบิด/นักดำน้ำระดับสอง ระหว่างเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1941 ถึงตุลาคม ค.ศ. 1945 มีการจบการศึกษาสิบเก้ารุ่นและได้กรีธาพลตลอดแปซิฟิกและเขตสงครามเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งแบ่งออกเป็นหน่วยสืบสวนวัตถุระเบิดเคลื่อนที่ (MEIU) พวกเขามีส่วนช่วยในการกวาดล้างอันตรายจากวัตถุะเบิดทั้งบนบกและในทะเล ครั้นสงครามเกาหลีก็ได้มีการกลับคืนสู่การปฏิบัติบนเรือกวาดทุ่นระเบิดต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่ามีการกวาดล้างอันตรายจากการขนส่งทางเรืออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในช่วงดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD) โดยมีส่วนร่วมในปฏิบัติการข่าวกรองภายในท้องถิ่น และมีการสื่อสารระหว่างกันกับหน่วยภาคพื้นดินในอินช็อน, ว็อนซ็อน และตลอดปฏิบัติการเขตสงครามสหประชาชาติ
สงครามเวียดนามมีการเพิ่มการมีส่วนร่วมโดยรวมของหน่วยอีโอดี หน่วยจากกองอีโอดีแปซิฟิก เพิร์ลฮาร์เบอร์ รัฐฮาวายได้กรีธาพลทั่วทั้งภูมิภาค กองอีโอดีแปซิฟิกประกอบด้วยหน่วยเคลื่อนที่เร็ว, หน่วยบนเรือ และกำลังพลหน่วยฝึกและประเมินผล ทีมที่นำไปใช้งานบนเรือในทะเลประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หนึ่งนายและทหารเกณฑ์สองคน ทีมในประเทศนั้นใหญ่กว่าและตั้งฐานจากดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (RIVFLOT 1) ถึงดานัง ด้วยความสำคัญโดยรวมในการปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดในทะเลและแม่น้ำ ทีมงานเหล่านี้รับประกันความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องสำหรับการขนส่งทางเรือและปฏิบัติการทางทะเล
นับตั้งแต่สงครามเวียดนามใกล้เข้ามา สถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปและการปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้นได้กระตุ้นให้มีการขยายหน่วยอีโอดี ทั้งในด้านจำนวนขนาดและความสามารถ บันทึกของพวกเขาในประวัติศาสตร์ล่าสุดรวมถึงสงครามอ่าวที่ซึ่งช่างเทคนิคอีโอดีได้กวาดล้างทุ่นระเบิดทางเรือมากกว่า 500 แห่ง อีโอดีเป็นหน่วยสำคัญในการกำจัดวัตถุระเบิดที่ยังไม่มีการระเบิดออกจากยูเอสเอส สตาร์ก (FFG-31) หลังจากมีขีปนาวุธต่อต้านเรือเอ็กโซเซต์สองลูกที่ยิงจากเครื่องบินอิรักโจมตีเรือ หน่วยอีโอดีได้พัฒนาการทำให้ลูกระเบิดปลอดภัย ณ สถานที่นั้นเพื่อป้องกันความหายนะ ในระหว่างปฏิบัติการร่วมในโซมาเลีย, เฮติ, บอสเนีย และคอซอวอ หน่วยอีโอดีให้ความปลอดภัยและความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานโดยการกำจัดกับดักระเบิด, ที่ซ่อนของอาวุธ และปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิด ปัจจุบันหน่วยอีโอดีเข้าประจำการในอัฟกานิสถานและอิรัก ซึ่งพวกเขากำลังสนับสนุนการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายระดับโลก, ทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์หลังสงครามจำนวนมาก และลดภัยคุกคามที่บังคับโดยระเบิดแสวงเครื่อง (IED) ซึ่งทำให้เกิดภัยพิบัติทั้งสองประเทศ จากการกรีธาพลส่วนหน้าและบูรณาการเต็มรูปแบบภายในหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่าง ๆ ของกองทัพเรือและกองทัพบกสหรัฐ ช่างเทคนิคอีโอดีในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปอย่างมากจากชั้นเรียนเก็บกู้ทุ่นระเบิดแรกของปี ค.ศ. 1941 แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือระดับความเป็นมืออาชีพ และความทุ่มเทที่เป็นรากฐานสำคัญของโครงการ
การฝึก
[แก้]วิถีทางการฝึกอีโอดีเริ่มต้นด้วยการฝึกเตรียมความพร้อมสามสัปดาห์ที่สถานีกองทัพเรือเกรตเลกส์ รัฐอิลลินอย ผู้สมัครจะทำต่อเนื่องเกี่ยวกับการพัฒนาจังหวะการว่ายน้ำ, การว่ายน้ำระยะไกล และการปรับสภาพร่างกาย จากนั้นผู้สมัครอีโอดีจะเข้าร่วมการฝึกอย่างเข้มงวดเพิ่มเติมอีก 51 สัปดาห์ การฝึกของพวกเขาเริ่มต้นด้วยโรงเรียนสอนดำน้ำเก้าสัปดาห์ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์ฝึกดำน้ำและกู้เรือนาวี (NDSTC) ในปานามาซิตี รัฐฟลอริดา นอกเหนือจากการเรียนรู้วิธีดำน้ำแล้ว ผู้สมัครจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และฟิสิกส์ของการดำน้ำประเภทต่าง ๆ หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสอนดำน้ำแล้ว ผู้สมัครจะย้ายไปเรียนที่โรงเรียนหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดกองทัพเรือ ณ ฐานทัพอากาศเอ็กลิน ในค่ายวอลตันบีช รัฐฟลอริดา การฝึกนี้แบ่งออกเป็นประเภทเฉพาะของวัตถุระเบิด:[2]
- กองทำลาย
- รวมถึงวิธีการจัดตั้งการฝึกยิงระเบิดต่าง ๆ
- กองเครื่องมือและวิธีการ
- สอนเครื่องมือและวิธีการทำงานของอีโอดีต่าง ๆ
- กองหลัก
- สอนพื้นฐานเบื้องต้นของงานอีโอดี
- กองสรรพาวุธภาคพื้นดิน
- มุ่งเน้นไปที่อมภัณฑ์และระเบิดมือที่คาดการณ์ไว้
- กองสรรพาวุธอากาศ
- มุ่งเน้นไปที่ระเบิดและขีปนาวุธ
- ระเบิดแสวงเครื่อง
- รวมทั้ง "ระเบิดทำเอง"
- กองชีวะ/เคมี
- รวมบทเรียนเกี่ยวกับตัวกระทำทางชีวภาพและเคมีต่าง ๆ
- กองสรรพาวุธนิวเคลียร์
- ครอบคลุมฟิสิกส์นิวเคลียร์ขั้นพื้นฐาน รวมถึงการตรวจวัดรังสี และขั้นตอนการปนเปื้อน
- กองสรรพาวุธใต้น้ำ
- เน้นตอร์ปิโดและวัตถุระเบิดใต้น้ำอื่น ๆ รวมถึงเทคนิคการค้นหาใต้น้ำ
ทุกส่วนสอนวิธีการทำให้ปลอดภัยหรือปลดชนวนระเบิด

เมื่อเสร็จสิ้นการฝึกอีโอดีขั้นพิ้นฐาน ผู้สำเร็จการศึกษาบางคนจะเข้าร่วมหลักสูตรการส่งกำลังทางอากาศขั้นพื้นฐานสามสัปดาห์ที่ค่ายเบนนิง รัฐจอร์เจีย ซึ่งผู้สมัครมีคุณสมบัติเป็นนักกระโดดร่มขั้นพื้นฐาน
หลังจากจัมป์สกูล การฝึกยังคงดำเนินต่อไปที่กัลฟ์พอร์ต รัฐมิสซิสซิปปี ต่อไปอีกสี่สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอาวุธในการใช้ปืนพกขนาด 9 มม. และเอ็ม 4 คาร์บิน รวมทั้งการปฐมพยาบาลทหาร
ขั้นตอนสุดท้ายของการฝึกอีโอดี คือการฝึกยุทธวิธีอีโอดีสามสัปดาห์ที่ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกในแซนดีเอโก ซึ่งจะประกอบด้วยการสอดเฮลิคอปเตอร์ (ฟาสต์โรป, การโรยตัว, การขว้าง และการสอดแทรก/การสกัดการลาดตระเวนพิเศษ), การฝึกอาวุธ/อาวุธขนาดเล็ก, ยุทธวิธีของหน่วยขนาดเล็ก (อาวุธ, การป้องกันตัว, การนำทางบก และการลาดตระเวน) และการสื่อสารทางยุทธวิธี (ดาวเทียม และย่านความถี่สูง) เมื่อเสร็จสิ้นการฝึกอีโอดี ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมหน่วยอีโอดีเคลื่อนที่ ซึ่งพวกเขาจะได้รับการฝึกและประสบการณ์ขั้นสูงในการปฏิบัติงานในฐานะสมาชิกของหมวด/กองร้อยสนับสนุนการช่วยรบนอกประเทศ (CES) หมวดกองลำเลียงและจู่โจมนอกประเทศ, การสงครามพิเศษทางเรือและกองร้อยกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ รวมถึงกองร้อยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเล
การฝึกเจ้าหน้าที่
[แก้]การฝึกเจ้าหน้าที่สำหรับแผนกอีโอดี (119x / 114x) แตกต่างกันเล็กน้อย วิถีทางของพวกเขามีดังนี้:[3]
- หลักสูตรเจ้าหน้าที่อีโอดีอ่อนอาวุโส (7 วัน ณ ศูนย์ฝึกดำน้ำและกู้ภัย) – หลักสูตรนี้ฝึกเจ้าหน้าที่ระดับต้นในกองอีโอดี, หน่วยเคลื่อนที่ และหน่วยแยก/หน่วยขนาดเล็กเพื่อรวมความสัมพันธ์ขององค์กรกับกองทหาร/หน่วยงานขนาดเล็ก, พลวัตกลุ่มย่อย, ความสัมพันธ์ซีพีโอ/โอไอซี, จรรยาบรรณ และกรณีศึกษาอีโอดี[4]
- การฝึกนักดำน้ำ (60 วัน ณ ศูนย์ฝึกดำน้ำและกู้ภัย) – ออกแบบมาเพื่อให้บุคลากรที่ไม่ดำน้ำที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานที่จำเป็นในการปฏิบัติงานในฐานะสมาชิกทีมดำน้ำ/นักดำน้ำในอุปกรณ์สกูบา และเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำเอ็มเค-16 อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพตามคู่มือการดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐ[5]
- โรงเรียนอีโอดี (320 วัน ณ โรงเรียนนายเรือหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด) (ดูการฝึกตามเกณฑ์)
- พื้นฐานส่งทางอากาศ (23 วัน ณ ค่ายเบนนิง) (ดูการฝึกตามเกณฑ์)
- ทักษะรบนอกประเทศ (27 วัน ณ ศูนย์กองกำลังความมั่นคง)[6]
- การฝึกยุทธวิธีอีโอดี (21 วัน ณ หน่วยฝึกและประเมินผลอีโอดีที่หนึ่ง แซนดีเอโก)[7] (ดูการฝึกตามเกณฑ์)
- หลักสูตรผู้นำหมวดอีโอดี (12 วัน)
โอกาสในการฝึกขั้นสูง รวมถึงภาษาต่างประเทศ, การทำลายล้างระเบิดแสวงเครื่องขั้นสูง และการฝึกอบรมของกระทรวงพลังงาน
อุปกรณ์ขั้นสูง
[แก้]เจ้าหน้าที่อีโอดีใช้เครื่องมือ, เทคนิค และขั้นตอนต่างๆ (TTP) เพื่อบรรลุภารกิจ หุ่นยนต์ถูกใช้เพื่อดำเนินการขั้นตอนระยะไกลกับระเบิดที่ยังไม่ระเบิดและระเบิดแสวงเครื่อง ความพยายามในการบำรุงรักษาเทคโนโลยีล่าสุดสามารถทำได้ด้วยความช่วยเหลือและกระทรวงพลังงานสหรัฐ รวมถึงองค์กรพลเรือนต่าง ๆ ส่วนมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ดูแลโปรแกรมระบบหุ่นยนต์หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดขั้นสูง (AEODRS) เป้าหมายหลักของระบบหุ่นยนต์หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดขั้นสูงคือการพัฒนาสถาปัตยกรรมทั่วไปสำหรับระบบยานพาหนะภาคพื้นดินไร้คนขับ (UGV) เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน[8] ระบบหุ่นยนต์หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดขั้นสูงเป็นโครงการหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดประจำการร่วม (JSEOD) ซึ่งดำเนินการผ่านหมวดเทคโนโลยีหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดทางเรือ (NAVEODTECHDIV) ผ่านสำนักงานบริหารโครงการกองทัพเรือสำหรับหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด/การสงครามอิเล็กทรอนิกส์ต่อต้านระเบิดแสวงเครื่องควบคุมระยะไกล (PMS-408)[8]
หน่วย
[แก้]หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD) กองที่หนึ่ง
[แก้]ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกโคโรนาโด รัฐแคลิฟอร์เนีย
- หน่วยเคลื่อนที่อีโอดี หนึ่ง ฐานทัพเรือพอยต์โลมา รัฐแคลิฟอร์เนีย
- หน่วยเคลื่อนที่อีโอดี สาม ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกโคโรนาโด รัฐแคลิฟอร์เนีย
- หน่วยเคลื่อนที่อีโอดี ห้า ฐานทัพเรือกวม
- หน่วยเคลื่อนที่อีโอดี สิบหนึ่ง หาดอิมพีเรียล รัฐแคลิฟอร์เนีย
- หน่วยฝึกและประเมินผลอัโอดี (TEU) หนึ่ง ฐานทัพเรือพอยต์โลมา รัฐแคลิฟอร์เนีย
- หน่วยดำน้ำและกู้ภัยเคลื่อนที่ (MDSU) หนึ่ง เพิร์ลฮาร์เบอร์ รัฐฮาวาย
- หน่วยสนับสนุนอีโอดีนอกประเทศ หนึ่ง ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกโคโรนาโด รัฐแคลิฟอร์เนีย
- หน่วยสนับสนุนปฏิบัติการอีโอดี เจ็ด ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกโคโรนาโด รัฐแคลิฟอร์เนีย (ปลดประจำการแล้ว)
หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD) กองที่สอง
[แก้]ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลิตเติลครีก รัฐเวอร์จิเนีย
- หน่วยเคลื่อนที่อีโอดี สอง ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลิตเติลครีก รัฐเวอร์จิเนีย
- หน่วยเคลื่อนที่อีโอดี หก ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลิตเติลครีก รัฐเวอร์จิเนีย
- หน่วยเคลื่อนที่อีโอดี แปด สถานีทหารเรือโรตาสเปน ประเทศสเปน
- หน่วยเคลื่อนที่อีโอดี สิบสอง ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลิตเติลครีก รัฐเวอร์จิเนีย
- หน่วยสนับสนุนอีโอดีนอกประเทศ สอง ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลิตเติลครีก รัฐเวอร์จิเนีย
- หน่วยฝึกและประเมินผลอัโอดี (TEU) สอง ฐานนอกประเทศร่วมภาคตะวันออก รัฐเวอร์จิเนีย[9]
- หน่วยดำน้ำและกู้ภัยเคลื่อนที่ (MDSU) สอง ฐานทัพเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลิตเติลครีก รัฐเวอร์จิเนีย (ปลดประจำการแล้ว)[10]
ดูเพิ่ม
[แก้]- มนุษย์กบ – นักประดาน้ำทางยุทธวิธี
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Edison, Capt. Edward (2015). "Explosive Ordnance Disposal: Clearing the Way" (PDF). U.S. Navy Expeditionary Combat Command. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 25 กรกฎาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2015.
- ↑ "Explosive Ordnance Disposal" (fact sheet). United States Navy. สืบค้นเมื่อ 27 February 2012.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "EOD Officer Career Path" (PDF). United States Navy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-07-13. สืบค้นเมื่อ 21 April 2014.
- ↑ "EOD Junior Officer Course". United States Navy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 เมษายน 2014. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน 2014.
- ↑ "EOD "A" School Phase One". United States Navy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 เมษายน 2014. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน 2014.
- ↑ "Expeditionary Warefare". United States Navy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-09. สืบค้นเมื่อ 21 April 2014.
- ↑ "NAVY EXPLOSIVE ORDNANCE". United States Navy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2013. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน 2014.
- ↑ 8.0 8.1 Hinton, Mark A.; Burck, James M.; Collins, Kristine R.; Johannes, Matthew S.; Tunstel Jr, Edward W.; Zeher, Michael J. (2013). "Integration of Advanced Explosive Ordnance Disposal Robotic Systems Within a Modular Open Systems Architecture" (PDF). Volume 32, Number 3. JOHNS HOPKINS APL TECHNICAL DIGEST. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-10-09. สืบค้นเมื่อ 2021-03-13.
- ↑ Barber, Barrie (12 June 2006). "Expeditionary Sailors Defuse Mock IEDs, Prep for Upcoming Deployments". United States Navy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-29. สืบค้นเมื่อ 2021-03-21.
- ↑ "EOD Operational Support Unit 10 Holds Disestablishment Ceremony". Explosive Ordnance Disposal Group 2 Public Affairs. 9 May 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-24. สืบค้นเมื่อ 19 February 2015.