ข้ามไปเนื้อหา

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายี)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
(จวน อุฏฐายี)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ดำรงพระยศ26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 - 18 ธันวาคม พ.ศ. 2514 (6 ปี 22 วัน)
สถาปนา26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508
พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง
ก่อนหน้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทโย)
ถัดไปสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปุ่น ปุณฺณสิริ)
พรรษา54
สถิตวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
นิกายธรรมยุติกนิกาย
ประสูติ16 มกราคม พ.ศ. 2440
จังหวัดราชบุรี
จวน
สิ้นพระชนม์18 ธันวาคม พ.ศ. 2514 (74 ปี)
จังหวัดสมุทรปราการ
พระชนกหงศ์ ศิริสม
พระชนนีจีน ศิริสม
ลายพระนาม

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ พระนามเดิม จวน ศิริสม ฉายา อุฎฺฐายี เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ที่ 16 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. 2508 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงดำรงตำแหน่งอยู่ 7 ปี สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2514 สิริพระชันษา 74 ปี 336 วัน

พระประวัติ

[แก้]

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ มีพระนามเดิมว่า ลำจวน ศิริสม ภายหลังเปลี่ยนพระนามเป็น จวน[1] ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2440 ที่ตำบลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อพระชันษาได้ 9 ปี ได้เข้ามาศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดคฤหบดี จังหวัดธนบุรี จนจบชั้น ป. 3 แล้วกลับภูมิลำเนา

ถึงปี พ.ศ. 2452 ทรงจบชั้นมัธยมศึกษา แล้วเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้ไม่นานต้องลาออกเพราะประชวรโรคเหน็บชา ถึงปี พ.ศ. 2453 ทรงไปศึกษาอยู่กับพระมหาสมณวงศ์ (แท่น โสมทดฺโต) เจ้าอาวาสวัดมหาสมณารามราชวรวิหาร (วัดเขาวัง) จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพี่ชายของพระอัยกา (ตา) จนพระองค์มีพระชันษา 16 ปี จึงได้มาศึกษาพระปริยัติธรรมกับพระอริยมุนี (แจ่ม จตฺตสลฺโล) ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม

วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2457 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยมีพระธรรมปาโมกข์ (ถม วราสโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอริยมุนี (แจ่ม จตฺตสลฺโล) เป็นพระสรณคมนาจารย์ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2460 โดยมีพระธรรมปาโมกข์ (ถม วราสโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระราชกวี (แจ่ม จตฺตสลฺโล) เป็นพระกรรมวาจาจารย์[2]

ระหว่างดำรงสมณเพศได้ทรงแสดงพระปรีชาสามารถในทางวิชาการ โดยเป็นบรรณาธิการหนังสือวารสารรายปักษ์สยามวัด ทำให้พระองค์มีความสามารถในการประพันธ์ต่าง ๆ มีโคลง ฉันท์ เป็นต้น

การศึกษา

[แก้]

พระสมณศักดิ์

[แก้]
ธรรมเนียมพระยศของ
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ตราประจำพระองค์
การทูลฝ่าพระบาท
การแทนตนเกล้ากระหม่อม/เกล้ากระหม่อมฉัน
การขานรับเกล้ากระหม่อม
พะย่ะค่ะ/เพคะ
  • พ.ศ. 2476 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระกิตติสารมุนี[3]
  • พ.ศ. 2478 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชเวที ตรีปิฎกภูษิต ธรรมบัณฑิต ยติคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี[4]
  • พ.ศ. 2482 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเวที ตรีปิฎกคุณ สุนทรธรรมภูษิต ยติคณิศร บวรสังฆาราม คามวาสี[5]
  • พ.ศ. 2488 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมปาโมกข์ ยุตโยคญาณดิลก ไตรปิฎกธารี ธรรมวาที ยติคณิศร บวรสังฆาราม คามวาสี[6]
  • พ.ศ. 2490 เป็นรองสมเด็จพระราชาคณะที่ พระศาสนโศภน วิมลญาณอดุลย์สุนทรนายก ตรีปิฎกธรรมาลังการภูสิต ธรรมนิตยสาทร อุดมคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[7]
  • พ.ศ. 2499 เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ จาตุรงคประธานวิสสุต พุทธพจนมธุรสธรรมวาที คัมภีรญาณปริยัติกุสโลภาส ภูมิพลมหาราชหิโตปสัมปทาจารย์ วิสารศีลาจารวัตร เวไนยบริษัทประสาทกร ธรรมยุติกคณิสสรมหาสังฆนายก[8]
  • พ.ศ. 2508 เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สุขุมธรรมวิธานธำรง สกลมหาสงฆปรินายก ตรีปิฎกกลากุสโลภาส ภูมิพลมหาราชหิโตปสัมปทาจารย์ อุฏฐายีภิธานสังฆวิสุต ปาวจนุตตมสาสนโสภณ วิมลศีลขันธสมาจารวัตร พุทธศาสนิกบริษัทคารวสถาน วิจิตรปฏิภาณพัฒนคุณ อดุลคัมภีรญาณสุนทร บวรธรรมบพิตร สมเด็จพระสังฆราช[9]

พระกรณียกิจ

[แก้]

พระองค์ได้ประกอบพระกรณียกิจด้านการพระศาสนาเป็นอันมาก พอประมวลได้ดังนี้

ด้านการศึกษา

[แก้]

ทรงชำนาญในอักษรขอม อักษรพม่า อักษรมอญ และอักษรโรมัน จากการที่ได้ตรวจชำระพระไตรปิฎกบางปกรณ์ ตามที่ได้รับมอบ ซึ่งจะต้องสอบทานอักษรไทยกับต้นฉบับอักษรขอม เกี่ยวกับอักษรพม่า และอักษรโรมัน

  • พ.ศ. 2470 เป็นกรรมการตรวจบาลีไวยากรณ์ในสนามหลวง
  • พ.ศ. 2471 เป็นกรรมการตรวจนักธรรมชั้นโท-เอกในสนามหลวง เป็นกรรมการตรวจบาลี ประโยค 4-5-6
  • พ.ศ. 2476 เป็นปีที่เริ่มฟื้นฟูกิจการของมหามกุฏราชวิทยาลัยในยุคใหม่ ทรงรับหน้าที่เป็นกรรมการและอนุกรรมการหลายคณะ คือ อนุกรรมการตรวจชำระแบบเรียน เช่น นวโกวาท และ พุทธศาสนสุภาษิต กรรมการอำนวยการหนังสือธรรมจักษุ กรรมการ อุปนายกและนายกกรรมการมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตลอดมาจนสิ้นพระชนม์

ด้านการปกครองคณะสงฆ์

[แก้]
  • พ.ศ. 2477 เป็นกรรมการคณะธรรมยุต
  • พ.ศ. 2485 เป็นสมาชิกสังฆสภา
  • พ.ศ. 2486 เป็นผู้รักษาการ ในตำแหน่งสังฆนายก แทนสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) วัดบรมนิวาส
  • พ.ศ. 2489 เป็นผู้สั่งการในตำแหน่งสังฆนายก แทนสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) วัดเทพศิรินทราวาส
  • พ.ศ. 2493 เป็นสังฆมนตรีว่าการองค์การเผยแผ่ ซึ่งมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) เป็นสังฆนายกสมัยที่ 2[10]
  • พ.ศ. 2494 เป็นสังฆนายก สมัยที่ 1[11] และสังฆมนตรีว่าการองค์การเผยแผ่[12]
  • พ.ศ. 2506 เป็นกรรมการเถรสมาคมโดยตำแหน่ง ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505
  • พ.ศ. 2479 กรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ลักษณะปกครองสงฆ์ ฉบับใหม่
  • พ.ศ. 2503 เป็นสังฆนายก ครั้งที่ 2[13]
  • พ.ศ. 2505 เป็นผู้บัญชาการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระสังฆราช

ด้านการต่างประเทศ

[แก้]

เสด็จไปดูการพระศาสนาในประเทศลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย เนปาล ศรีลังกา ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม ตามคำเชิญของพุทธบริษัทของประเทศนั้น ๆ ทรงไปร่วมงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้แทนสมเด็จพระสังฆราช (วัดเบญจมบพิตร) ไปร่วมประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกที่ ย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2504

งานเผยแผ่พระศาสนา

[แก้]

ได้ทรงดำเนินการมาโดยตลอดไปรูปแบบต่าง ๆ พอประมวลได้ดังนี้

  • พ.ศ. 2476 ทรงร่วมกับคณะมิตรสหาย ตั้งสมาคมพุทธศาสนาขึ้นเป็นครั้งแรก คือ พุทธสมาคม เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา และส่งเสริมการศึกษา
  • พ.ศ. 2477 เป็นพระคณาจารย์เอกทางเทศนา (ธรรมกถึก)
  • พ.ศ. 2479 เป็นกรรมการควบคุมการแปลพระไตรปิฎกภาษาบาลี และ
  • พ.ศ. 2497 เป็นประธานกรรมการจัดรายการแสดงธรรมทางวิทยุในวันธรรมสวนะ

งานพระนิพนธ์

[แก้]
  • พ.ศ. 2469 ทรงแปลตติยสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย เพื่อใช้เป็นตำรา
  • พ.ศ. 2482 ทรงแต่ง รตนตฺตยปฺปภาวสิทฺธิคาถาแทน รตนตฺตยปฺปภาวาภิยาจนคาถา และได้ใช้สวดในพระราชพิธีต่อมา

ยังมีพระนิพนธ์อีกมากกว่า 100 เรื่อง เช่น มงคลในพุทธศาสนา สาระในตัวคน วิธีต่ออายุให้ยืน การทำใจให้สดชื่นผ่องใส และฉันไม่โกรธเป็นต้น และมีพระธรรมเทศนาอีกหลายร้อยเรื่อง ที่สำคัญคือ มงคลวิเศษคาถา ที่แสดงในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา

สิ้นพระชนม์

[แก้]
เส้นทางรถที่เกี่ยวข้องในเหตุสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายี)
อนุสาวรีย์สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายี) ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายี) สมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์โดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในท้องที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2514 เวลา 10:05 น. สิริพระชันษา 74 ปี 336 วัน คณะปฏิวัติประกาศให้สถานที่ราชการลดธงลงครึ่งเสา 3 วัน และข้าราชการไว้ทุกข์ 15 วัน เพื่อแสดงความอาลัย[14] และได้รับพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2515[15]

อ้างอิง

[แก้]
เชิงอรรถ
  1. ตำนานพระสาสนโสภณ, 60
  2. จดหมายเหตุวัดมกุฏกษัตริยาราม, หน้า 85-93
  3. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความพระราชทานสมณศักดิ์, เล่ม 50, ตอนที่ 0 ง, วันที่ 26 พฤศจิกายน 2476, หน้า 2400
  4. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความพระราชทานสมณศักดิ์, เล่ม 52, ตอนที่ 0 ง, วันที่ 22 กันยายน 2478, หน้า 1893
  5. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 56, ตอนที่ 0 ง, วันที่ 4 มีนาคม 2482, หน้า 3533
  6. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 62, ตอนที่ 82, วันที่ 25 ธันวาคม 2488, หน้า 2113
  7. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, เล่ม 64, ตอนที่ 27, วันที่ 17 มิถุนายน 2490, หน้า 441
  8. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, ตอนที่ 6, เล่ม 74, วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2500, หน้า 1-9
  9. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช, เล่ม 82, ตอนที่ 102, 26 พฤศจิกายน 2558, หน้า 5
  10. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งและแต่งตั้งสังฆมนตรี, เล่ม 68, ตอนที่ 43, 8 สิงหาคม 2493, หน้า 3374-6
  11. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งสังฆนายก, เล่ม 68, ตอนที่ 38, 19 มิถุนายน 2494, หน้า 2592-3
  12. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งและแต่งตั้งสังฆมนตรี, เล่ม 68, ตอนที่ 38, 16 มิถุนายน 2494, หน้า 2593-5
  13. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งสังฆนายก, เล่ม 77, ตอนที่ 41, 17 พฤษภาคม 2503, หน้า 1436-7
  14. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๑, เล่ม 88, ตอนที่ 142 ฉบับพิเศษ, 18 ธันวาคม 2514, หน้า 1
  15. พระประวัติ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร), ปกหน้า
บรรณานุกรม
  • กรมศิลปากร. เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๒. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 450 หน้า. หน้า 61-70. ISBN 974-417-530-3
  • วัดมกุฏกษัตริยาราม. จดหมายเหตุวัดมกุฏกษัตริยาราม. กรุงเทพฯ : วัดมกุฏกษัตริยาราม, 2553. 400 หน้า. ISBN 978-974-225-185-7
  • วัดมกุฏกษัตริยาราม. พระประวัติ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก. กรุงเทพฯ : หน่วยพิมพ์และจำหน่ายศาสนภัณฑ์ (โรงพิมพ์การศาสนา), 2515. 116 หน้า. [พิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในงานพระราชทานเพลิงพระศพวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2515]
  • สุเชาวน์ พลอยชุม. ตำนานพระสาสนโสภณ. กรุงเทพฯ : มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2553. 159 หน้า.
ก่อนหน้า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายี) ถัดไป
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
(อยู่ ญาโณทโย)

สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
(พ.ศ. 2508 - พ.ศ. 2514)
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
(ปุ่น ปุณฺณสิริ)
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ไฟล์:ธรรมยุตินิกาย.gif
เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต
(พ.ศ. 2501 - พ.ศ. 2514)
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน)
พระศาสนโศภน (แจ่ม จตฺตสลฺโล)
เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
(พ.ศ. 2488 - พ.ศ. 2514)
พระเทพกิตติเมธี (หิ้น คนฺธาโร)