วัสดุทนไฟ
หน้าตา
วัสดุทนไฟ หรือวัตถุทนไฟ (Refractory) เป็นคำมาจาก ภาษาละตินว่า Refractarius ซึ่งมีความหมายว่า ดื้อ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นสารประกอบประเภท Inorganic ที่มีคุณสมบัติทนต่อการใช้งานที่อุณหภูมิสูง
คำจำกัดความ
[แก้]สารประกอบประเภท Oxide ที่ไม่เปลี่ยนแปลงคุณลักษณะ เมื่ออยู่ในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง
คุณสมบัติ
[แก้]วัสดุทนไฟ จะมีคุณสมบัติพื้นฐานดังนี้
- ไม่เปลียนแปลงสภาพ หรือรูปร่าง ที่อุณหภูมิสูง
- ทนต่อการขัดสี ที่อุณหภูมิสูง
- ทนต่อการทำปฏิกิริยาเคมี ที่อุณหภูมิสูง
- ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ในช่วงการใช้งาน
ประเภท
[แก้]วัสดุทนไฟ สามารถแบ่งประเภท ออกได้ใน 2 ลักษณะ
- การแบ่งประเภท ตามองค์ประกอบ
- การแบ่งประเภท ตามลักษณะ
- วัสดุทนไฟ ที่มีรูปร่างแน่นอน (Shaped Refractory)
- วัสดุทนไฟ ที่ไม่มีรูปร่างแน่นอน (Unshaped Refractory หรือ Monolithic) ได้แก่
- คอนกรีตทนไฟ (Refractory Concrete)
- ปูนทนไฟ (Refractory Mortar)
- ผงตำ (Ramming Mixes)
- ผงยิง (Gunning Mixes)
- ผงฉาบ (Patching Material)
กระบวนการผลิต
[แก้]การใช้งานวัสดุทนไฟ โดยเบื้องต้น จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะในการติดตั้ง จากนั้นจึงเลือกวัสดุทนไฟ ที่มีองค์ประกอบที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน
สำหรับวิธีการผลิต มีแตกต่างหลายแบบ ส่วนใหญ่จะขึ้นกับลักษณะของวัสดุทนไฟ ได้แก่
- Shaped Refractory หลังจากผ่านกระบวนการเตรียมวัตถุดิบ และผสมแล้ว จะนำมาขึ้นรูป โดยใช้วิธีต่างๆ กัน เช่น
- การอัดขึ้นรูป (Pressing) อาจจะใช้เครื่องอัดขึ้นรูป (Machine Pressing) หรือใช้ การขึ้นรูปด้วยมือ (Handmould)
- การรีด (Extruded)
- การหล่อเทแบบ (Casting)
- การหลอมเทแบบ (Fused Cast)
- การขึ้นรูปโดยการปั้นแบบ (Plastic Hand Forming)
- Unshaped Refractory หรือ Monolithic หลังผ่านกระบวนการเตรียมวัตถุดิบ และผสมแล้ว จะบรรจุในภาชนะบรรจุตามลักษณะของการใช้งาน เช่น ปูนทนไฟ , คอนกรีตทนไฟ เป็นต้น
- Fibrous Refractory ลักษณะการผลิตโดยเบื้องต้นจะคล้ายกับการผลิตใยแก้ว หลังจากได้เส้นใย (Bulk) มา จะทำให้เป็นแผ่นหนา (Blanket) หรือนำ Blanket มาทับซ้อน (Folding) กันเป็น Block เพื่อนำไปใช้งานตามความเหมาะสมต่อไป
ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการขึ้นรูปแล้ว จะถูกทำให้รูปร่างคงตัว และมีความแข็งแรงสูงขึ้น ซึ่งอาจจะใช้ปฏิกิริยาเคมี หรือการเผาที่อุณหภูมิแตกต่างๆ กันตามชนิดของวัสดุทนไฟดังกล่าว