วัดสร้อยทอง
วัดสร้อยทอง | |
---|---|
พระเจดีย์ วัดสร้อยทอง | |
ที่ตั้ง | ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800 |
ประเภท | พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ |
นิกาย | มหานิกาย |
พระพุทธรูปสำคัญ | หลวงพ่อเหลือ |
เจ้าอาวาส | พระราชปริยัติวัชรสุธี (ปรีชา จิตตปริสุทโธ) |
สถานีย่อยพระพุทธศาสนา |
วัดสร้อยทอง หรือ วัดสร้อยทองพระอารามหลวง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ ตั้งอยู่ริมถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อ "วัดซ่อนทอง" เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2394 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดสร้อยทอง ไม่ปรากฏนามและประวัติของผู้สร้าง แต่มีข้อสันนิษฐานว่าคงเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจาก เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) ภายในวัดมีปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลือง นามว่า หลวงพ่อเหลือ สร้างจากโลหะที่เหลือจากการหล่อพระประธาน ในปี พ.ศ. 2445 ภายในเกศบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ของพระอรหันต์ 5 พระองค์[1]
ในปี พ.ศ. 2445–2447 วัดซึ่งในขณะนั้นมี หลวงปู่เบี้ยว เป็นเจ้าอาวาสวัดได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ มีประชาชนชาวไทยและชาวญวน เป็นกำลังสำคัญในการบูรณะช่วงเวลาดังกล่าว โดยใช้งบประมาณ 10,000 บาท, ในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2488 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานพระราม 6 ได้ถูกทิ้งระเบิดลงโดยฝ่ายสัมพันธมิตร โดยมีระเบิดจำนวน 14 ลูก ตกใส่บริเวณวัดสร้อยทองได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล มีสิ่งที่เหลือรอดพ้นจากระเบิดเพียงแค่ พระพุทธรูปหลวงพ่อเหลือ หอระฆังและเจดีย์ริมคลองบางซ่อน เท่านั้น[1]
ในวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2545 วัดสร้อยทอง ได้รับการยกฐานะจากวัดราษฎรเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 18 กรกฎาคม ปีเดียวกัน[2] ปัจจุบันวัดมีพื้นที่รวม 15 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 ประวัติวัดสร้อยทอง สำนักเรียนวัดสร้อยทอง บางซื่อ กรุงเทพฯ ผ่านทาง web.archive.com สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
- ↑ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องยกวัดราษฎร์เป็นพระอารามหลวง เก็บถาวร 2020-07-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนราชกิจนานุเบกษา 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ประวัติวัดสร้อยทอง ที่เว็บไซต์ วัดสร้อยทอง