วัดถ้ำผาน้ำทิพย์
วัดถ้ำผาน้ำทิพย์ | |
---|---|
ชื่อสามัญ | วัดถ้ำผาน้ำทิพย์, วัดผาน้ำทิพย์, วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม |
ที่ตั้ง | ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | ธรรมยุติกนิกาย |
สถานีย่อยพระพุทธศาสนา |
วัดถ้ำผาน้ำทิพย์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ในตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพุทธอุทยานมีเนื้อที่ 2,500 ไร่
วัดถ้ำผาน้ำทิพย์ หรือ วัดผาน้ำทิพย์ หรือ วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม มูลเหตุในการสร้างวัด เมื่อปี พ.ศ. 2493–2494 ท่านพระอาจารย์ศรี มหาวีโร ได้ธุดงค์มาเจริญสมถกัมมัฎฐานบริเวณนี้ ต่อมา พ.ศ. 2493–2500 ท่านพระอาจารย์ได้พาพระภิกษุซึ่งเป็นศิษย์มาปฏิบัติธรรม บริเวณนี้แต่เดิมเป็น ป่าดงดิบสภาพป่า สวยงามตามธรรมชาติ มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ ได้ชื่อว่า ผาน้ำย้อย เพราะมีลักษณะเป็นนหน้าผาสูงชัน มีน้ำตกไหลหยดย้อยตลอดเวลาทั้งปี เมื่อชาวบ้านเจ็บป่วยก็จะได้น้ำ ณ จุดนี้ไปดื่มกิน เพื่อรักษาโรคตามความเชื่อจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ได้ชื่อว่า "วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม" ต่อมาสภาพป่าถูกทำลายเนื่องจากประชาชนได้ลักลอบตัดไม้บางกลุ่มก็เข้าไปทำไม้แปรรูปขาย ทางราชการจึงได้พิจารณาเห็นความสำคัญของพุทธศาสนา[1]
ดังนั้นในปี พ.ศ. 2517 ประสิทธิ์ ทองใบใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ในสมัยนั้น จึงได้กราบนิมนต์ท่าน พระอาจารย์ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้ท่านพิจารณาตั้งวัดเป็นการถาวรขึ้น ท่านได้ส่งพระมาจำพรรษา จำนวน 5 รูป ซึ่งมี หลวงปู่ บุญศรี ญาณธมฺโม รวมอยู่ด้วย จนตั้งวัดเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2535 ผู้ขออนุญาตสร้างวัดคือ นายทองหล่อ วรเชษฐ[2] ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
พระมหาเจดีย์ชัยมงคล
[แก้]วัดเป็นที่ประดิษฐาน "พระมหาเจดีย์ชัยมงคล" ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างใน พ.ศ. 2528 โดยมีพระเทพวิสุทธิมงคล หรือหลวงปู่ศรีมหาวีโร ซึ่งเป็นศิษย์ของพระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมในด้านการบำเพ็ญปฏิบัติสมถวิปัสสนากรรมฐานแก่พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชน
พระมหาเจดีย์ชัยมงคลภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะเป็นรูประฆังคว่ำ ศิลปะผสมผสานระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ภายนอกพระมหาเจดีย์ชัยมงคล มีวิหารคด หอระฆัง และเจดีย์บริวารทั้ง 8 องค์[3] มีความกว้าง 101 เมตร ความยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ และยอดทองคำใช้ทองคำมี่มีน้ำหนักถึง 60 กิโลกรัม ภายในนอกจากประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุซึ่งอยู่ชั้นบนสุด แล้วยังเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนของพระเกจิอาจารย์ในอดีตทั้ง 101 องค์ มีพิพิธภัณฑ์วิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่ศรี[4]
พระมหาเจดีย์ชัยมงคลออกแบบโดยกรมศิลปากร เป็นสีขาวตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีทองเหลืองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศสร้าง ในเนื้อที่ 101 ไร่ กว้าง 101 เมตร ยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร รวมยอดทองคำเป็น 109 เมตร ใช้ทอง คำหนัก 4,750 บาท หรือประมาณ 60 กิโลกรัม ภายในองค์พระมหาเจดีย์เหมือน อยู่บนวิมานแดนสวรรค์
- ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่ โอ่อ่า ผนังจารึกนามทานาธิบดีต่าง ๆ ใช้เป็นห้องประชุม บำเพ็ญบุญ
- ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงโอ่อ่าเช่นกัน ผนังติดตั้งรูปพระพุทธประวัติ ลวดลายไทยวิจิตรพิสดาร
- ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปพระณาจารย์ ปราชญ์ อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลักหินอ่อน และหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์
- ชั้นที่ 4 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัดวาอาราม สถานปฏิบัติสม ถะวิปัสสนา กรรมฐานที่หลวงปู่ศรี เคยบำเพ็ญธรรมมา
- ชั้นที่ 5 บันไดเวียน 119 ชั้น เป็นห้องโถงรูประฆัง 8 เหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์นาราม (ผาน้ำย้อย)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-28. สืบค้นเมื่อ 2021-12-28.
- ↑ "ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ตั้งวัดในพระพุทธศาสนา [วัดถ้ำผาน้ำทิพย์]" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา.
- ↑ "วิเคราะห์สุนทรียศาสตร์ของประติมากรรม ที่ปรากฏในพระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด". วารสารปรัชญาปริทรรศน์.
- ↑ "วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม". การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).