ยุทธการไซ่ง่อน (พ.ศ. 2511)
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ยุทธการไซ่ง่อนครั้งที่หนึ่ง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ การรุกตรุษญวนแห่งสงครามเวียดนาม | |||||||
ควันดำเหนือพื้นที่เมืองหลวง และมีรถดับเพลิงไปดับไฟในช่วงที่ เวียดกง โจมตีในช่วงตรุษญวน ไซ่ง่อน ค.ศ. 1968 | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
เวียดนามใต้ สนับสุนนโดย สหรัฐ ออสเตรเลีย |
เวียดกง เวียดนามเหนือ | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
เหงียน วัน เถี่ยว วิลเลียม เวสต์มอร์แลนด์ โรเบิร์ต แม็กนามารา |
Trần Độ Trần Văn Trà | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
ไม่ทราบ | ถูกฆ่า 1,100 นาย |
ยุทธการไซ่ง่อนครั้งที่หนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของการรุกตรุษญวน ระหว่างสงครามเวียดนาม ยุทธการนี้เป็นการโจมตีจากหลายด้านของกองกำลังคอมมิวนิสต์ ซึ่งรวมไปถึงกองทัพเวียดนามเหนือและเวียดกง เพื่อโจมตีกรุงไซ่ง่อน เมืองหลวงของเวียดนามใต้
ภูมิหลัง
[แก้]ในปี พ.ศ. 2511 ฝ่ายคอมมิวนิสต์เริ่มการรุกตรุษญวน ด้วยการโจมตีเวียดนามใต้จากทุกทาง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ดำเนินการหลักคือกองโจรเวียดกงที่แทรกซึมเข้ามา
ไซง่อนเป็นเป้าหมายหลักของการรุก แต่การยึดกรุงโดยใช้กำลังทหารนั้นยังเป็นไปไม่ได้และไม่ใช่จุดประสงค์ของการรุกอยู่แล้ว ฝ่ายคอมมิวนิสต์มีเป้าหมายอยู่ด้วยกันหกเป้าหมายภายในเมืองหลวง โดยมอบหมายให้กองพันเวียดกงทำการโจมตีและยึดมา เป้าหมายประกอบไปด้วยกองบัญชาการกองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม (ARVN), ทำเนียบอิสรภาพ (ทำเนียบประธานาธิบดีแห่งเวียดนามใต้), สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงไซ่ง่อน และฐานทัพอากาศเติ่นเซินเญิ้ต
การรบ
[แก้]กองทัพเวียดนามเหนือ (NVA) และเวียดกงปล่อยทหาร 35 กองพันเข้าโจมตีกรุงไซ่ง่อนจากทุกด้าน ในขณะที่กองพันทหารช่างและกองกำลังท้องถิ่นทำหน้าที่โจมตีทำเนียบประธานาธิบดี, สถานีวิทยุแห่งชาติ, สถานทูตสหรัฐฯ และเป้าหมายสำคัญอื่นๆ
กองพลเวียดกงที่ห้าเข้าโจมตีฐานทัพทหารลองบินห์และเบียนฮัว กองพลเวียดนามเหนือที่เจ็ดเข้าโจมตีกองพลทหารราบที่หนึ่งของสหรัฐฯ และกองพลเวียดนามใต้ที่ห้าที่ไลแค กองพลเวียดกงที่เก้าโจมตีกองพลทหารราบที่ 25 ของสหรัฐฯ ที่ขูจี
ผลที่ตามมา
[แก้]ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ กองบัญชาการฝ่ายคอมมิวนิสต์ตระหนักดีว่าเป้าหมายทางทหารของตนไม่สำเร็จลุล่วงแม้แต่เป้าหมายเดียว พวกเขาจึงสั่งหยุดโจมตีฐานที่มั่นทุกแห่ง แต่การสู้รบยังมีอยู่ประปรายจนวันที่ 8 มีนาคม บางส่วนของเมืองได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการสู้รบ โดยเฉพาะจากการโจมตีด้วยปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เขตโชลองที่มีชาวจีนอาศัยอยู่มากได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ เมื่อพลเรือนเป็นร้อยคนถูกสังหารจากการโจมตีตอบโต้ของฝ่ายอเมริกัน
การโจมตีไซ่ง่อนถูกถือว่าเป็นการรุกตรุษญวนที่ย่อขนาดลงมา เนื่องจากมียอดผู้เสียชีวิตสูงและฝ่ายคอมมิวนิสต์รุกเข้าโจมตีจากทุกทิศทาง นอกจากนี้ฐานทัพอเมริกันยังถูกโจมตีโดยตรงทั้งที่เบียนฮัว, ลองบินห์และเติ่นเซินเญิ้ต อาวุธหลักที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ใช้ในการโจมตีคือจรวดโซเวียตขนาด 122 มม. ที่มีระยะยิงประมาณ 11,000 เมตร
กองกำลังคอมมิวนิสต์สามารถยึดท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิ้ตมาได้บางส่วน และทำการปิดสนามบินเป็นระยะเวลาหนึ่งในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ทำให้ทหารอเมริกันที่กำลังเดินมาทางเครื่องบิน ต้องลงจอดล่าช้าไปอย่างน้อยสองวัน เครื่องบินเหล่านั้นต้องรออยู่ที่โอคแลนด์, ฮาวาย, เกาะเวกและเกาะกวม
ฐานที่มั่นทหารที่เบียนฮัวเป็นสถานที่ถ่ายเททหารอเมริกันไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศ รวมไปถึงการส่งกำลังเข้าและออกนอกประเทศ เมื่อฐานที่มั่นถูกโจมตีด้วยจรวด ทหารสหรัฐฯ ที่เพิ่งเดินทางเข้ามาในประเทศเป็นเที่ยวแรกได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อาคาร 2-3 หลังได้รับความเสียหายโดยตรงจากจรวด
อ้างอิง
[แก้]บรรณานุกรม
[แก้]- James R. Arnold (1990). The Tet Offensive 1968. Praeger Publishers. ISBN 0-275-98452-4.
- Ronald H. Spector (1993). After Tet. Free Press. ISBN 0-02-930380-X
- CBS news coverage (1968)