มาร์กุส ลิกินิอุส กรัสซุส
มาร์กุส ลิกินิอุส กรัสซุส | |
---|---|
รูปปั้นหินอ่อนของกรัสซุส, ใน Ny Carlsberg Glyptotek, โคเปนเฮเกน | |
เกิด | ปี 115 ก่อนคริสตกาล[1] |
เสียชีวิต | 53 ก่อนคริสตกาล (อายุ 61–62 ปี) ใกล้กับกาเรห์ (ฮาร์รัน, ตุรกี) |
สาเหตุเสียชีวิต | เสียชีวิตในการรบ |
สัญชาติ | ชาวโรมัน |
อาชีพ | ผู้บัญชาการทหารและนักการเมือง |
องค์การ | คณะสามผู้นำที่หนึ่ง |
สำนักงาน | Consul of Rome (70, 55 BC) |
คู่สมรส | Tertulla[2] |
บุตร | Marcus & Publius Licinius Crassus |
บิดามารดา | Publius Licinius Crassus & Venuleia |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | |
ปี | ปี 86–53 ก่อนคริสตกาล |
การยุทธ์ | สงครามกลางเมืองของซูลลา สงครามทาสครั้งที่สาม ยุทธการที่กาเรห์ |
มาร์กุส ลิกินิอุส กรัสซุส (ละติน: Marcus Licinius Crassus; 115 – 53 ปีก่อน ค.ศ.) เป็นแม่ทัพและนักการเมืองชาวโรมันที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงจากสาธารณรัฐโรมันมาเป็นจักรวรรดิโรมัน เขายังถูกเรียกว่า "คนรวยที่สุดในกรุงโรม"[3][4]
กรัสซุสได้เริ่มต้นอาชีพสาธารณะในฐานะผู้บัญชาการทหารภายใต้บัญชาการของลูซิอุส คอร์นิลีอุส ซูลลา ในช่วงสงครามกลางเมืองของเขา ตามมาด้วยการถือสิทธิ์ในการเป็นเผด็จการของซูลลา กรัสซุสได้รวบรวมทรัพย์สินมหาศาลจากการเก็งกำไรที่ดิน กรัสซุลได้ก้าวขึ้นสู่การมีชื่อเสียงทางการเมือง ภายหลังจากที่เขาได้ปราบปรามกบฏทาสภายใต้การนำของสปาร์ตากุสจนได้รับชัยชนะ ได้ทำการแบ่งปันกันในการเป็นกงสุลกับปอมปีย์มหาบุรุษ คู่แข่งของเขา
ด้วยการที่เป็นผู้อุปถัมภ์ทางการเมืองและการเงินของจูเลียส ซีซาร์ ซีซาร์ได้ร่วมมือกับกรัสซุสและปอมปีย์ในการเป็นพันธมิตรทางเมืองอย่างไม่เป็นทางการซึ่งเป็นที่รู้จักกันคือ คณะสามผู้นำที่หนึ่ง ทั้งสามคนต่างมีอำนาจครอบงำในระบบการเมืองของโรมัน แต่การเป็นพันธมิตรก็ดำรงอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากความมักใหญ่ใฝ่สูง อัตตา และความอิจฉาของทั้งสามคน ในขณะที่ซีซาร์และกรัสซุสเป็นพันธมิตรกันมาตลอดทั้งชีวิต กรัสซุสและปอมปีย์ต่างไม่ชอบหน้ากันและกัน และปอมปีย์เริ่มอิจฉาถึงความสำเร็จอันงดงามของซีซาร์ในสงครามกอลมากขึ้นเรื่อย ๆ พันธมิตรได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งที่การประชุมลุกกา ในปี 56 ก่อนคริสตกาล ภายหลังจากกรัสซุสและปอมปีย์ได้ร่วมมือกันอีกครั้งในการดำรงตำแหน่งกงสุส ภายหลังการดำรงตำแหน่งกงสุสครั้งที่สอง กรัสซุสได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการทหารในโรมันซีเรีย กรัสซุสได้ใช้ซีเรียเป็นฐานที่มั่นสำหรับการทัพทางทหารในการทำศึกกับจักรวรรดิพาร์เธีย ศัตรูจากตะวันออกที่มีมายาวนานของโรมัน การทัพของกรัสซุสได้ประสบความล้มเหลวอย่างรุนแรง ซึ่งจบลงด้วยความปราชัยและความตายในยุทธการที่กาเรห์
การตายของกรัสซุสทำให้ความเป็นพันธมิตรระหว่างซีซาร์และปอมปีย์ต้องขาดสะบั้นลงอย่างถาวร เนื่องจากอิทธิพลทางการเมืองและความมั่นคั่งของเขาเป็นตัวถ่วงดุลอำนาจของกลุ่มทหารที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองฝ่าย ภายในเวลาสี่ปีหลังการตายของกรัสซุส ซีซาร์ได้ข้ามแม่น้ำรูบิคอนและเริ่มทำสงครามกลางเมืองกับปอมปีย์และฝ่ายออปติเมตส์[5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Marshall, p. 5.
- ↑ Smith, William (1870). Dictionary of Greek and Roman Biography and Mythology. Vol. 2., p. 831
- ↑ 3.0 3.1 Wallechinsky, David & Wallace, Irving. "Richest People in History Ancient Roman Crassus เก็บถาวร 2020-02-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน". Trivia-Library. The People's Almanac. 1975–1981. Web. 23 December 2009.
- ↑ "Often named as the richest man ever, a more accurate conversion of sesterce would put his modern figure between $200 million and $20 billion." Peter L. Bernstein, The 20 Richest People Of All Time
- ↑ Plutarch, Parallel Lives, Life of Crassus, 2.3–4
- Infobox person using certain parameters when dead
- Pages using infobox person with deprecated net worth parameter
- บุคคลที่เกิด 115 ปีก่อนคริสตกาล
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 390
- บุคคลที่เสียชีวิต 53 ปีก่อนคริสตกาล
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 488
- กงสุลสาธารณรัฐโรมัน
- สมาชิกวุฒิสภาสาธารณรัฐโรมัน
- แม่ทัพโรมันโบราณ
- เสียชีวิตในสงคราม
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์
- บทความเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์