มาดาม เดอ ปงปาดูร์
มาดาม เดอ ปงปาดูร์ | |
---|---|
'มาดามแห่งปงปาดูร์' | |
![]() ภาพเหมือนโดย Charles-André van Loo, ป. ค.ศ. 1755 | |
ตราอาร์ม | ![]() |
ชื่อเต็ม | ฌานน์ อ็องตัวแน็ต ปัวซง |
เกิด | 29 ธันวาคม ค.ศ. 1721 ปารีส ราชอาณาจักรฝรั่งเศส |
ถึงแก่กรรม | 15 เมษายน ค.ศ. 1764 ปารีส ราชอาณาจักรฝรั่งเศส | (42 ปี)
ฝังศพ | Couvent des Capucines |
คู่สมรส | Charles Guillaume le Normant d'Étiolles (สมรส 1741) |
บุตร |
|
บิดา | ฟร็องซัว ปัวซง |
มารดา | Madeleine de La Motte |
ลายมือชื่อ | |
อาชีพ | พระสนมเอกของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส |
ฌานน์ อ็องตัวแน็ต ปัวซง มาร์กีซ เดอ ปงปาดูร์ (ฝรั่งเศส: Jeanne Antoinette Poisson, Marquise de Pompadour) หรือรู้จักกันในชื่อ มาดาม เดอ ปงปาดูร์ (ฝรั่งเศส: Madame de Pompadour; 29 ธันวาคม ค.ศ. 1721 – 15 เมษายน ค.ศ. 1764) เป็นสมาชิกในราชสำนักฝรั่งเศส โดยดำรงตำแหน่งพระสนมเอกของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศสตั้งแต่ ค.ศ. 1745 ถึง 1751 และยังคงมีอิทธิพลในฐานะคนโปรดในราชสำนักจนกระทั่งเสียชีวิต[1]
ปงปาดูร์รับผิดชอบในด้านพระราชกรณียกิจและเป็นผู้ช่วยและที่ปรึกษาที่มีคุณค่า แม้ว่าเธอจะมีสุขภาพไม่ดีและมีศัตรูทางการเมืองมากมาย เธอรักษาตำแหน่งขุนนางของตัวเธอและญาติ และสร้างเครือข่ายของผู้จ้างและผู้สนับสนุน เธอระมัดระวังเป็นพิเศษที่จะไม่สร้างความบาดหมางแก่มารี เลชชินสกา พระราชินีผู้มีชื่อเสียง ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1756 มาร์กีซ เดอ ปงปาดูร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นนางสนองพระโอษฐ์คนที่ 13 หลังจากพระราชินี ซึ่งถือว่ามีเกียรติที่สุดในราชสำนัก ซึ่งทำให้เธอได้รับเกียรติ[2]
ปงปาดูร์เป็นผู้อุปถัมภ์คนหลักในด้านสถาปัตยกรรมและมัณฑนศิลป์ โดยเฉพาะเครื่องถ้วยเปลือกไข่ เธอเป็นผู้อุปถัมภ์นักปรัชญาในยุคเรืองปัญญา รวมถึงวอลแตร์
นักวิจารณ์ที่เป็นปฏิปักษ์ในเวลานั้นส่วนใหญ่มักจะโจมตีเธอว่าเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองที่ชั่วร้าย แต่บรรดานักประวัติศาสตร์กลับสนับสนุนเธอมากกว่า โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จของเธอในฐานะผู้อุปถัมภ์ศิลปะและผู้สนับสนุนความภาคภูมิใจของชาวฝรั่งเศส[3] นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ระบุว่า นักวิจารณ์ปงปาดูร์นั้นได้รับแรงขับเคลื่อนจากความกลัวต่อการล้มล้างลำดับชั้นที่มีอยู่ ซึ่งปงปาดูร์เป็นตัวแทนของอำนาจและอิทธิพลในฐานะสตรีที่ไม่ได้เกิดในระบอบขุนนาง[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Eleanor Herman, Sex with Kings: 500 Years of Adultery, Power, Rivalry, and Revenge (New York: Barnes and Noble, 2011), 9 and Gere Charlotte and Marina Vaizey, Great Women Collectors (London: Philip Wilson, 1999), 45.
- ↑ Algrant, Christine Pevitt (2002). Madame de Pompadour Mistree of France. New York: Grove Press. pp. 9, 13, 115, 187.
- ↑ James A. Moncure, ed. Research Guide to European Historical Biography: 1450–present (4 vol 1992); 4:1646–53
- ↑ Hyde, Melissa (2000). "The "Makeup" of the Marquise: Boucher's Portrait of Pompadour at Her Toilette". The Art Bulletin. 82 (3): 453–475. doi:10.2307/3051397. JSTOR 3051397.
อ่านเพิ่ม
[แก้]- Algrant, Christine Pevitt. Madame de Pompadour: Mistress of France (2003) excerpt and text search
- Crosland, Margaret. Madame de Pompadour: Sex, Culture and Power (2000)
- Jones, Colin. Madame de Pompadour: Images of a Mistress (2002), by a leading scholar
- Mitford, Nancy. Madame De Pompadour (1954) excerpt and text search
ประวัติศาสตร์นิพนธ์
[แก้]- Moncure, James A. ed. Research Guide to European Historical Biography: 1450–Present (4 volumes, 1992); 4:1646–53
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4a/Commons-logo.svg/30px-Commons-logo.svg.png)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/fa/Wikiquote-logo.svg/34px-Wikiquote-logo.svg.png)
- ผลงานของ มาดาม เดอ ปงปาดูร์ ที่โครงการกูเทินแบร์ค
- Madame de Pompadour site
- "Madame de Pompadour" at Encyclopædia Britannica
- "The real Madame de Pompadour" at the National Gallery
- "The Life of the Marquise de Pompadour in 3 minutes [Mini Biography]" ที่ยูทูบ
- "Sketch for a Portrait of Madame de Pompadour (1721 - 1764)" at Waddesdon Manor