ภาษาญี่ปุ่นกลางตอนต้น
ภาษาญี่ปุ่นกลางตอนต้น | |
---|---|
中古日本語 | |
ประเทศที่มีการพูด | ![]() |
ตระกูลภาษา | จาโปนิก
|
รูปแบบก่อนหน้า | ภาษาญี่ปุ่นเก่า
|
ระบบการเขียน | ฮิรางานะ คาตากานะ คันจิ |
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | – |
ภาษาญี่ปุ่นกลางตอนต้น[a] (ญี่ปุ่น: 中古日本語; โรมาจิ: chūko nihongo; อังกฤษ: Early Middle Japanese) เป็นภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 9 ถึง คริสต์ศตวรรษที่ 12 ตรงกับยุคเฮอัง[2] ภาษาญี่ปุ่นกลางตอนต้นเป็นภาษาที่สืบเนื่องต่อจากภาษาญี่ปุ่นเก่าและพัฒนาเป็นภาษาญี่ปุ่นกลางตอนปลายในเวลาถัดมา บางครั้งอาจเรียกว่า ภาษาญี่ปุ่นเก่าตอนปลาย (Late Old Japanese)
ประวัติ
[แก้]ในยุคนี้อักษรมันโยงานะซึ่งเป็นการใช้อักษรจีนแสดงเสียงได้พัฒนารูปร่างให้ง่ายขึ้นกลายเป็นอักษรคานะ (เช่น 安 → あ, 阿 → ア) และยังคงถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน เอกสารและวรรณกรรมจำนวนมากเกิดขึ้นในยุคนี้ มีทั้งแบบที่เขียนด้วยอักษรคานะเพียงอย่างเดียว เช่น ตำนานเก็นจิ (源氏物語) มากูระโนะโซชิ (枕草子) และแบบที่เขียนด้วยอักษรคานะและอักษรคันจิปนกัน เช่น ตำนานเฮเกะ (平家物語) คนจากุโมโนงาตาริชู (今昔物語集)[3]
หน่วยเสียง
[แก้]รูปแบบพยางค์ในช่วงต้นของยุคภาษาญี่ปุ่นกลางตอนต้นมีดังต่อไปนี้
-a | -i | -u | -e | -o | |
---|---|---|---|---|---|
a | i | u | e | o | |
k- | ka | ki | ku | ke | ko, kwo |
g- | ga | gi | gu | ge | go, gwo |
s- | sa | si | su | se | so |
z- | za | zi | zu | ze | zo |
t- | ta | ti | tu | te | to |
d- | da | di | du | de | do |
n- | na | ni | nu | ne | no |
p- | pa | pi | pu | pe | po |
b- | ba | bi | bu | be | bo |
m- | ma | mi | mu | me | mo |
y- | ya | yu | ye | yo | |
r- | ra | ri | ru | re | ro |
w- | wa | wi | we | wo |
อักขรวิธีอักษรคานะแบบพิเศษ (ญี่ปุ่น: 上代特殊仮名遣; โรมาจิ: jōdai tokushu kana-zukai; ทับศัพท์: โจได โทกูชุ คานาซูไก) ที่ใช้ในยุคภาษาญี่ปุ่นเก่าได้แสดงให้เห็นว่าภาษาญี่ปุ่นเก่ามีเสียงรูปแบบพยางค์มากกว่าในปัจจุบัน และเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นยุคภาษาญี่ปุ่นกลาง หน่วยเสียงและรูปแบบพยางค์ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เช่น
(อ้างอิง Frellesvig, 2018)[3]
- ในช่วงต้นยุคภาษาญี่ปุ่นกลางตอนต้น ได้เกิดการสูญเสียง (sound loss) ในโครงสร้างพยางค์แบบ /Cw-/ กับ /Cy-/ โดยเสียง /w/ และ /y/ ได้หายไป ยกเว้น /kwo/ กับ /gwo/ ซึ่งสูญเสียงตามไปในภายหลัง หลังจากนั้นเสียง /w/ และ /y/ ตำแหน่งต้นพยางค์ก็เกิดการสูญเสียงไปเช่นกัน เช่น 恋: /kwopwi/ > /kwopi/ > /kopi/ > /kowi/ > /koi/
- /p/ เปลี่ยนเป็นเสียง /-w-/ เมื่อปรากฏระหว่างเสียงสระ (intervocalic) เช่น 顔: /kapo/ > /kawo/ ก่อนที่เปลี่ยนเป็น /kao/ ตามปรากฏการณ์ในข้อ 1
- เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "เสียงสะดวก" (ญี่ปุ่น: 音便; โรมาจิ: onbin; ทับศัพท์: อมบิง) เช่น รูป テ ของ 読む: /yomite/ > /yoNde/ หรือ /youde/
ไวยากรณ์
[แก้]![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ เทียบเคียงกับ "อังกฤษกลาง" ซึ่งเป็นคำแปลของ "Middle English" ปรากฏอยู่ใน "พจนานุกรมศัพท์ภาษาศาสตร์ (ภาษาศาสตร์ทั่วไป) ฉบับราชบัณฑิตยสภา"[1]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ พจนานุกรมศัพท์ภาษาศาสตร์ (ภาษาศาสตร์ทั่วไป) ฉบับราชบัณฑิตยสภา. กรุงเทพฯ: สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. 2017. p. 206. ISBN 978-616-389-060-3. OCLC 1201694777.
- ↑ Hasegawa, Yoko (2015). Japanese : a linguistic introduction. Cambridge: Cambridge University Press. ISBN 978-1-107-61147-4. OCLC 873763304.
- ↑ 3.0 3.1 Frellesvig, Bjarke (2018). Hasegawa, Yoko (บ.ก.). The Cambridge handbook of Japanese linguistics. Cambridge: Cambridge University Press. p. 15. ISBN 978-1-316-88446-1. OCLC 1030822696.